โมกซ้อน : ไม้ต้นแรกของบ้านริมคลองกับไอ้โรคจิต : 12 ก.ย. 54
|
ไม้ต้นแรกของบ้านริมคลองกับไอ้โรคจิต
|
12 กันยายน 2554 |
|

โมกซ้อนเป็นต้นไม้ต้นแรกในชีวิตที่ผมซื้อมาปลูกในวันเกิดตอนอายุ 15 ปี และเป็นไม้ต้นแรกที่ผมปลูกลงดินในบ้านที่คุณป้าปลูกไว้อยู่กับทุกคนในครอบครัวของเรา พอถึงวันนี้ผมปลูกบ้านของตัวเอง ผมก็อยากปลูกต้นโมกซ้อนเป็นไม้ต้นแรกของบ้านของผมเอง
ใจจริง ผมอยากขุดล้อมต้นโมกซ้อนกอใหญ่ยักษ์ที่บ้านในเมืองมาลงดินที่บ้านใหม่ริมคลองที่ผมปลูกใหม่ในที่ชานเมืองที่คุณป้ายกให้ เพราะว่าโมกซ้อนต้นนั้นที่ผมรัก มันถูกต้นปีบและจำปีโตขึ้นมาบังแสงแดด ทำให้ให้ดอกน้อยลงไปมาก แต่เพราะคุณป้าผมท่านก็เป็นคนรักต้นไม้มากๆเหมือนกัน ตอนขนต้นไม้ในกระถางบางส่วนไปลงดินที่บ้านริมคลอง คุณป้าก็ค้อนแล้วค้อนอีก ถ้าถึงขุดต้นไม้ใหญ่ๆออกไป สงสัยมีงอนกันแน่ๆ ผมเลยต้องเก็บต้นไม้แห่งความทรงจำเอาไว้ในบ้านของครอบครัว

ตอนเริ่มปลูกบ้านใหม่ๆ ผมสั่งโมกซ้อนต้นใหญ่จากพี่นาตลาดอินโดจีนการ์เด้นเอาไว้ กะว่าบ้านเสร็จเมื่อไรก็จะปลูกโมกซ้อนเป็นปฐมฤกษ์เลย รองจากกล้วยกับอ้อยที่ปลูกเสี่ยงทายเอาไว้ตอนทำพิธีลงเสาเอก แต่บ้านใช้เวลาสร้างนานเกือบเจ็ดเดือน และพี่นาก็ดันขนโมกซ้อนต้นใหญ่บึ้มมาจากปราจีนตั้งแต่เดือนแรกของการปลูกบ้าน ซึ่งตอนนั้นบ้านมีแต่วัสดุก่อสร้าง จึงเอาต้นไม้ไปปลูกไม่ได้จริงๆ ก็เลยต้องฝากต้นไม้ไว้ที่ร้านพี่นาไปก่อน
ผมบอกพี่นาว่าจะฝากเอาไว้สักสามเดือน แต่เวลาก็ล่วงเลยไปนานถึงห้าเดือน ผมก็ไม่ไปเอาต้นไม้เสียที จนวันหนึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว พี่นาก็โทรมาถามเรื่องต้นโมก พี่เค้าก็แค่ถามว่าบ้านพร้อมเอาโมกลงดินรึยัง แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกเกรงใจขึ้นมา เพราะพี่เค้าก็หาโมกให้แบบต้นสวยมากๆเท่าที่เคยเห็นมา แถมขายให้ในราคาถูกแสนถูก ยังต้องมาลดน้ำคอยดูแลให้ตั้งนานขนาดนั้นอีก และบ้านตอนนั้นก็พร้อมจะปลูกต้นไม้ได้บางส่วนแล้ว ที่สำคัญอีกเพียงสามวันก็จะถึงวันเกิดของผม วันที่เมื่อหลายปีมาแล้วผมซื้อต้นไม้ต้นแรกมาปลูกที่บ้าน และผมอยากจะให้มันเป็นวันที่ผมจะเอาต้นไม้ที่ผมรักปลูกลงดินในบ้านหลังแรกของผมเอง เย็นวันนั้นผมเลยไปรับต้นไม้ที่ร้านพี่นาทันที

และตามประสาคนรักต้นไม้ พอเข้าไปตลาดต้นไม้ ก็เลยชมนั่นชมนี่ถ่ายภาพต้นไม้สวยๆ เข้าร้านนั้นออกร้านนี้เพลินไปหน่อยจนพระอาทิตย์จะตกดิน แถมเมฆฝนลอยมาจากไหนไม่รู้ มืดคลึ้มน่ากลัวฝนจะตกหนัก พอนึกขึ้นได้ก็รีบขับรถเอาต้นไม้ไปไว้ที่บ้านริมคลองทันที แต่กว่าจะถึงฟ้าก็มืดซะแล้ว และแถวนั้นก็มืดมากๆ ไฟก็ยังไม่ได้ติด ไฟเสาก็ไม่มี เพื่อนบ้านก็อยู่ห่างไปตั้งร้อยกว่าเมตร บรรยากกาศน่ากลัวมากๆ ที่สำคัญฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ลมก็แรงเหมือนพายุเข้า ฝนนั้นหนักขนาดเปิดที่ปัดน้ำฝนแรงสุดยังมองแทบไม่เห็นทาง

วันนั้นผมใส่ขุดข้าราชการที่มีเครื่องหมายหลายชิ้นที่ไม่ถูกกับน้ำ ร่มก็ไม่มี เสื้อฝนก็ไม่มี รองเท้าก็ถูกน้ำไม่ได้ พื้นก็มีน้ำเจิ่งนองไปหมด และการขนต้นไม้ลงมันก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในขณะที่ฝนหนักขนาดลงจากรถไปไม่เกิน 30 วินาทีก็จะต้องเปียกโชกแน่นอน เสื้อผ้าก็ไม่อยากให้เปียก เพราะผ้าจะเหม็นอับหากไม่รีบซัก จะอยู่ในรถรอฝนซาก็ไม่ไหว บรรยากาศน่ากลัว(ผี)จริงๆ จะขนต้นไม้ไปไว้บ้านในเมืองก็ไม่ได้ ต้นมันใหญ่มากจะเอารถเข้าบ้านไม่ได้ ก็เลยตัดใจถอดเสื้อผ้ารองเท้าวิ่งออกจากรถไปจัดจากกับโมกต้นนี้ซะให้เรียบร้อย เพราะไงคงไม่มีใครผ่านมาเห็นหรอกครับ

พอขนต้นไม้ลงจากรถเสร็จ ก็รีบขึ้นรถขับออกมาเลย เพราะความมืดมันน่ากลัวจริงๆ และก็อยากให้ตัวแห้งสักนิดก่อนจะใส่เสื้อผ้า ผมขับรถเรื่อยๆจนเข้ามาในเมือง ฝนหนักเมื่อครู่ใหญ่ตอนนี้เป็นแค่ฝนปอยๆเท่านั้น ท้องก็ชักจะหิวเพราะได้เวลากินพอดี ปกติถ้าผมขับรถผ่านเส้นทางนี้ผมจะแวะซื้อโรตีใส่ไข่ร้าน ส.สมาน กลับบ้านแทบทุกวัน แต่เพราะฝนตกและร้านลุงสมานอยู่ขวามือทำให้ลำบากจะจอดรถลงไปซื้อ พอดีเห็นร้านโรตีอีกร้านที่ไม่เคยทานมาก่อนอยู่ทางซ้ายมือลูกค้าก็ไม่มี มือไวกว่าสมองครับจอดรถหน้าร้านเปิดกระจก "พี่ โลตีใส่ไข่ใส่กล้วยสับใส่กล่อง ครับ" บังขายโลตีมองเข้ามาในรถก็หัวเราะร่วนเลย สีหน้าขำๆ ถามกลับมา"จะเอาจริงๆรึเปล่าครับ" ผมหันมามองตัวเองเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย รีบคว้าเสื้อมาคลุมไว้ แล้วตอบบังไป "ไม่เอาละครับพี่" แล้วก็รีบปิดกระจกขับรถกลับบ้านแบบหน้าชาๆยังไงไม่รู้

ขับรถมาถึงหน้าบ้าน น้ำท่วมทั้งซอยกำลังจอดรถจะใส่เสื้อผ้า พี่ชายก็เดินมาเปิดประตูลั้วให้ ผมก็รีบใส่เสื้อผ้าเป็นพัลวัน ตัวเปียกๆใส่กางเกงขายาวคับๆเข้าไปก็ฝืดไใส่ยากซะจริง พี่เห็นเราไม่ขับรถเข้าบ้านสักทีเลยเดินมาเคาะๆที่กระจกรถ ผมก็ไม่ยอมเปิด มันเลยเอาไฟฉายส่องเข้ามาในรถ แล้วก็ยิ้มๆเดินออกไป พอผมขับรถเข้าไปจอดในบ้านออกมาจากรถ พี่ชายมันก็แซว "โรคจิตรึไงแก้ผ้าขับรถนะ" !!!

พอวันเกิด ผมก็แวะมาปลูกต้นโมกซ้อนแต่เช้า จะได้จดจำเค้าไม่มีวันลืม (ก็ท่าว่าจะลืมยากสักหน่อยล่ะ) จริงๆผมว่าจะถ่ายภาพเป็นบันทึกเก็บเอาไว้แบบดีๆหน่อย เพื่อให้ต้นไม้ของผมมีเรื่องเล่าของเค้าเอง แต่ดูเหมือนมันจะผิดแผนไปสักหน่อยที่ฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาแบบนี้ และกลายเป็นวันที่น่าอายไปเสียได้ แต่หลังปลูกต้นไม้ตอนเช้า กลับมาอีกครั้งตอนเย็นก็มีนกน้อยมาทำลังบนโมกซ้อนของผมซะแล้ว ส่งเสียจิ๊บๆกันน่ารักเชียว ใจก็หวังจะได้ชมลูกนกน่ารักในอีกไม่ช้านาน แต่แล้ว...อีกเพียงวันเดียวช่างก่อสร้างบ้านผมก็แกะรังนกทิ้งจากต้นไม้ บอกว่ารำคาญเสียงนก.... ผมจะพูดว่าอย่างไรดี ก็คงพูดไม่ออก อะไรๆมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดคิดง่ายๆหรอกครับ เป็นธรรมดาโลก
|
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 17 มีนาคม 2557 15:39:52 น. |
|
11 comments
|
Counter : 5721 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: พี่นุ๋อ้อ (pinuaoo2006 ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:25:02 น. |
|
|
|
โดย: เจ้าเอ๋ย IP: 58.8.210.26 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:48:09 น. |
|
|
|
โดย: Patteera วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:49:05 น. |
|
|
|
โดย: พี่ดา IP: 223.205.184.156 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:56:11 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:51:00 น. |
|
|
|
โดย: Ann IP: 223.204.238.6 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:43:24 น. |
|
|
|
โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 171.4.126.27 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:13:31 น. |
|
|
|
โดย: deco_mom วันที่: 19 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:10:38 น. |
|
|
|
โดย: ooy (ooybangyom ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:34:45 น. |
|
|
|
โดย: ดอกแก้ว (tanH2O ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:19:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| | |
ถ้าเป็นอีแมะละก้อ เขาคงร้องกรี๊ดดดดด พร้อมตะโกนว่า ไอ้โรคจิตตต