พันธมิตร สมควรได้รับความสมเพช เวทนา...

คือไม่ใช่ว่า ผู้เขียนเองไม่มีประสบการณ์ในเรื่องการทำความดี แต่เคยทำจนทะลุเพดานไปแล้ว คือจนเกือบบ้า อย่างที่ท่านพุทธทาสเรียกว่า "บ้าดี" นั่นแหละ ดังนั้น จึงต้องการจะเตือนอะไรบางอย่าง แก่พันธมิตร ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมชาติ และร่วมโลกเดียวกัน

พูดอย่างนี้ ผู้เขียนไม่ได้บอกว่า ผู้เขียนเป็นคน ที่ดี "เสร็จแล้ว" หรือ เป็นคนเลว แต่พยายามอย่างยิ่ง ที่จะหาสิ่งที่อยู่ตรงกลาง ระหว่างสองสิ่งนี้
และไม่ใช่ว่า ผู้เขียนจะไม่พยายามทำ ความดี และละเว้นความชั่ว

อันที่จริง อาการ"บ้าดี" นั้นเป็นแรงขับจากภายใน จากความรู้สึกและภาพจินตนาการบางอย่าง (Idealism)

เหตุที่เรียกว่า "บ้าดี" นั้น เพราะเป็นการทำความดี ที่ สุดท้าย กลายไปสู่การเบียดเบียนคนอื่น คนต่างชาตินับแสนคน ที่จะต้องเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับความเดือดร้อน สายการบิน 80 สายการบินต้องหยุดการให้บริการ.

มองอย่างเปิดใจ และเป็นกลาง.. นอกจากวาระซ่อนเร้นของ กลุ่มคน หรือใครบางคน ที่ต้องการขับเคลื่อนอะไรบางอย่างแล้ว ผู้เขียนเชื่อว่า แกนนำพันธมิตรหลายคนนั้น ตั้งใจจะทำความดี แต่สุดท้าย กลายเป็น "บ้าดี" ไป..

ซึ่งอาการบ้าดี นี้สุดท้ายมักจะนำไปสู่"ความเลว"ในบั้นปลาย เสมอ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในระหว่างนั้น (เป็นสัจจะธรรม)เพราะผู้เขียนเองก็เคยทำมาแล้ว มีประสบการณ์มาแล้ว นี่คือ"เรื่องรูทีน"ของคนดี ซึ่งบางคน ถ้าเกิดมาไม่เคย"ด่าตัวเอง" ก็จะไม่เข้าใจ เพราะขั้นตอนของ"งานทางใจ"ขั้นนี้ ทางพระเขาเรียกว่า"วิปัสสนา" หรือการดูใจของตัวเอง ไม่ใช่ "สมถะ" หรือ"สมาธิ" พอออกจากสมาธิ ก็โมโห ได้เหมือนเดิม

อาการ"บ้าดี"นี้ ถ้าทำให้ดี ก็สามารถพัฒนาไปสู่สิ่งที่เรียกว่า"ฟาสซิสต์" หรือ"เผด็จการ"ได้ ในที่สุด (เน้นว่า ถ้าไม่มีอะไรมาคั่น) ซึ่ง สุดท้ายพันธมิตร ก็ได้แสดงให้เห็นเช่นนั้นไปตามขั้นตอนของมัน

ไม่ว่าจะเป็น การยึดสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ยึดทำเนียบ การก่อการร้ายยึดสนามบินสุวรรณภูมิ การใช้อาวุธปืน-ระเบิดปิงปอง ในการขับเคลื่อนขบวนการของตัวเอง.

พันธมิตรมีความสามารถสูงในการทำความดี แต่อ่อนหัดในเรื่องความเลว ไม่เข้าใจความเลว. สุดท้ายจึงทำความเลว ในท้ายที่สุด

น่าเสียดายที่บุคคลากรของพันธมิตร มีแต่นักวิชาการ แต่ขาดนักปราชญ์ ไม่มีใครบอกพันธมิตรเลยหรือว่า ความดี นั้นเป็นอนิจจัง และไม่เที่ยง

การทำร้ายประเทศไทยจนทำให้ประเทศพินาศ เสียหายในทางเศรษฐกิจไปเกือบ 300,000 ล้านบาท (ไม่รวมความเสียหายในด้านชื่อเสียง เกียรติภูมิ) นี่จึงน่าจะเป็นอนุสาวรีย์ในใจที่จะเป็นตราบาป รอยด่าง อยู่ในใจของพันธมิตรไปชั่วชีวิต

นอกจากนั้นแล้ว เชื่อว่าเหตุการณ์ที่จะตามมา ตามหลักของปฏิจจสมุปบาท ก็คือ การเข้าสู่อำนาจเสียเอง ของพันธมิตร (เพราะพันธมิตรต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจด้วยตัวเอง เพื่อตัวเองหรือเปล่า เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นเครื่องพิสูจน์) และการฟอกตัวเองให้พ้นผิดด้วยขบวนการ "ตุลาการภิวัฒน์" อีกตามระเบียบ และนั่นจะเป็นการทำผิดซ้ำ สอง และจะเป็นครั้งใหญ่ที่สุด ของพันธมิตร ซึ่งจะทำให้เกิด วิกฤติศรัทธาขึ้นในหมู่ประชาชนฟากของตัวเอง และอาจจะกลายเป็นชนวน นำประเทศไปสู่วิกฤติการณ์ ครั้งใหญ่ ได้ ในท้ายที่สุด.

เพราะอะไรพันธมิตร ที่เรียนจบสูงในเรื่องความดี. แต่ทำไมถึงปฏิบัติได้เลว..

นั่นก็เพราะ"ความดี" นั้นเป็น"อนิจจัง" หรือ "ไม่เที่ยง" นั่นเอง.

เวลานี้.. พันธมิตร จึงควรได้รับความสมเพช เวทนา..

Create Date : 21 มกราคม 2552 Last Update : 21 มกราคม 2552 10:36:18 น. Counter : 1803 Pageviews.		47 comments
Share Tweet