BlogGang.com : : น้าโหด : อยากลองเป็นสับปะรดดูสักที (ตอนที่ 3)

อยากลองเป็นสับปะรดดูสักที (ตอนที่ 3)

ไนเทรตกับสับปะรดไทย
ย่อหน้านี้ขอโทษด้วยนะครับ ผมเคยอ่านผลวิจัยการศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกสับปะรดในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน ข้อมูลคงคลาดเคลื่อนไปบ้างและผมก็จำหน่วยงานและชื่อคนที่วิเคราะห์ไม่ได้ด้วย จำได้แต่เพียงว่าเขาใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมในการสำรวจพื้นที่ปลูก และพบว่าในจำนวนพื้นที่ปลูก 600,000 กว่าไร่นั้น ประจวบคีรีขันธ์เป็นแชมป์ปลูก เพราะจังหวัดนี้จังหวัดเดียวมีพื้นที่ปลูกไป 300,000 ไร่ หรือตีเสียว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ การศึกษาในครั้งนั้นยังพบว่าในจำนวน 600,000 กว่าไร่นั้นเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปลูกสับปะรดอยู่จริงๆ แค่เพียง 1 ใน 4 หรือ 25% นั่นแหละครับ และจัดเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมปานกลางเสีย 1 ใน 4 นั่นหมายถึงบ้านเรามีพื้นที่ปลูกสับปะรดที่จริงๆ แล้วไม่เหมาะสมต่อการปลูกอยู่ถึงครึ่งหนึ่ง อ่านแล้วก็อย่าตกใจหรือคิดมากกระทั่งกินข้าวไม่ลงครับ เพราะผมอยากบอกว่าบ้านเรามีความอุดมสมบูรณ์ดินที่ไม่เหมาะสมต่อการทำการเกษตรอยู่ถึง 3 ใน 4 (ประเทศไทยมีพื้นที่ถือครองเพื่อการเกษตร 131 ล้านไร่ แต่เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงอยู่เพียง 30 ล้านไร่)

ปัญหาด้านคุณภาพเป็นขวากหนามชิ้นโตของการปลูกสับปะรดโรงงาน โดยเฉพาะปัญหาการสะสมไนเทรต ซึ่งหากโรงงานรับสับปะรดที่มีไนเทรตสูงเข้าไปในกระบวนการบรรจุกระป๋อง ไม่ช้าไม่นานสับปะรดเหล่านี้จะค่อยๆ ปลดปล่อยไนเทรตเหล่านี้ออกมา ไนเทรตจะทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) และจะส่งผลโดยตรงที่ทำให้กระป๋องดำ (De-tinning) ผมขออนุญาตกลับไปเท้าความว่าสับปะรดสะสมไนเทรตได้อย่างไร

การขยายพันธุ์สับปะรดนิยมใช้ท่อนพันธุ์ 2 แบบคือ ใช้จุกกับใช้ต้นตอ โดยเกษตรกรนิยมใช้ต้นตอ (Ratoon) มากกว่า โดยหลังจากเกษตรกรเก็บเกี่ยวหัวสับปะรดไปแล้วจะตัดต้นให้เหลือสูงประมาณ 1 ฟุต จากนั้นก็โด้ปด้วยปุ๋ยไนโตรเจน หลังจากนั้นจะคัดเอาหน่อที่ผลิขึ้นมาให้เจริญเติบโตต่อไป การปลูกด้วยวิธีนี้มีข้อดีกว่าการใช้จุกเพราะไม่ต้องเสียค่าต้นพันธุ์ และค่าเตรียมพื้นที่ดิน ตลอดช่วงชีวิตของสับปะรดมีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนหลายครั้ง โดยสามารถให้ตรงลงไปที่ดินและยังให้ตามซอกใบก็ได้ ปัญหาการสะสมไนเทรตของสับปะรดนั้นเป็นผลมาจากการให้ปุ๋ยเคมีนี่เอง เทคนิคการควบคุมระดับไนเทรตในผลสับปะรดคือต้องงดปุ๋ยไนโตรเจนเด็ดขาดหลังจากบังคับการออกดอก, งดน้ำอย่างน้อย 3 สัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว (ทำยาก ในฤดูฝนตก) และถ้าเป็นไปได้ควรเก็บเกี่ยวสับปะรดหลังจากวันที่มีแดดจัดๆ สักระยะ เพราะความเข้มแสงมีผลต่อปฏิกิริยาการลดลงของปริมาณไนเทรตที่ทำได้ช้าลง

มาตรฐานการรับซื้อสับปะรดโรงงานคือจะต้องมีปริมาณไนเทรตไม่เกิน 25 มิลลิกรัมต่อลิตรจ้า

Create Date : 05 กรกฎาคม 2549

Last Update : 15 กันยายน 2549 9:17:22 น.

6 comments

Counter : 1797 Pageviews.

---เข้ามาหาความรู้ค่ะ---

โดย: d__d (มัชชาร

) วันที่: 5 กรกฎาคม 2549 เวลา:20:19:27 น.

สับปะรดน่ากินจัง

โดย: แวนด้าใบกลม

วันที่: 6 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:59:56 น.

ขอบคุณครับ

โดย: สำเภางาม (สำเภางาม

) วันที่: 7 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:50:31 น.

แล้วกินสับปะรดบ่อยๆจะมีอันตรายไหมครับ

โดย: d-k

วันที่: 7 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:53:01 น.

^
^
กินเยอะๆ จะแสบลิ้นครับ เวลาแปรงฟันจะทรมานมาก

โดย: น้าโหด

วันที่: 8 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:26:59 น.

ลุง หนูเคืองมากเลย ที่ต้องทนเห็นคนไทยได้กินของที่คุณภาพเกรดรองๆ แต่ของเกรดเอจะถูกคัดส่งนอกใส่พานให้ชาวต่างชาติกินกัน

จะมีใครคิดตั้งร้านค้าที่เอาสินค้าเกรดเอ คุณภาพส่งนอกออกมารวมขายเป็นซุปเปอร์มาเกตไหมเนี่ย แล้วราคาก็ให้มันพอสมควรๆหน่อย

พืชผักที่คนไทยต้องไปจ่ายตลาดซื้อมากินนี่ มีไม่น้อยนะที่สารเคมีตกค้างเยอะมากๆ อันตรายมากด้วย แต่..ใครจะลุกขึ้นมาสู้ให้เรา

เรียนเกษตรมาเนี่ย รู้มากก็ต้องกินๆไป เลือกมากจะอด ไอ้โน่นก็อันตราย ไอ้นี่ก็ฉีดยาเยอะ วุ้ย...เคืองๆๆๆ

โดย: podduang-pk

วันที่: 30 กันยายน 2549 เวลา:11:45:45 น.