ให้ปากกามันพาไป ให้หัวใจมันขีดเขียน
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

เมื่อพยาธิแพทย์ได้ "ขา"

หากท่านเคยได้ยินได้ฟังได้อ่าน ว่าพยาธิแพทย์เกลียดและกลัว "ขา" กันอย่างมาก บอกเหตุผลไปก็เปล่าประโยชน์เพราะคนธรรมดาคงนึกภาพไม่ออก อย่าว่าแต่คนธรรมดาเลยหมอด้วยกัน ต่อให้เป็นหมอกระดูก หรือหมอออร์โธเองก็ไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับว่าเราทำอะไรกับ "ขา" หรือแขนที่เขาตัดส่งมาให้ เรามาลองดูบันทึกความรู้สึกระหว่างการทำงานของไอติมกันดีกว่าไหมครับ

ศุกร์เย็น : รับทราบข่าวร้ายว่าได้ "ขา" ที่เป็นมะเร็งกระดูก โอ๊ย นี่มันอะไรกัน ซวยหาที่เปรียบไม่ได้ เย็นขนาดนี้แล้วอาจารย์ก็ไม่อยู่ ช่างมันเถอะ ลองลงไปดูที่ตู้เย็นห้องศพก่อนแล้วกัน (ขาอันใหญ่มาก ไม่สามารถดองฟอร์มาลินได้ต้องแช่เอาไว้ที่ตู้เย็นที่ใช้เก็บศพเพื่อไม่ให้เน่า)

ศุกร์เย็น ที่ห้องศพ : โอ้แม่เจ้า! ห่อเบ้อเริ่มเลยวุ้ย ไหนๆดูใบฟ้าซิ (ใบฟ้าคือใบที่หมอคนท่ผ่าตัดเขียนข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งส่งตรวจและผู้ป่วย ใบ Request นั่นเอง) อื้อหือ ตัดมาตั้งแต่ต้นขา อายุเพิ่งจะสิบแปดสิบเก้า น่าเสียดายๆ

ขณะแกะห่อ : โอ๊ย มันจะห่ออะไรกันนักกันหนาวะ ห่อกระดาษน้ำตาล ห่อถุงดำ ห่อกระดาษน้ำตาล ห่อถุงแดง ห่อกระดาษขาว ห่อถุงแดง มันจะห่อกี่ชั้นกี่รอบฟะเนี่ย หงุดหงิดเฟ้ย นี่มันวันศุกร์แห่งชาตินะ

เมื่อเห็นขา : อืม...เอาไงดี ใหญ่ก็ใหญ่ หนักก็หนัก เลือดท่วมเลย (ว่าแล้วก็จับตรงข้อเท้า ลากไปที่อ่างล้างมือ เลือดหยดแหมะๆเป็นทาง) ล้างก่อนก็แล้วกัน (เลือดกระเซ็นไปทั่วอ่าง) โอ๊ย ตกลงนี่เราเป็นหมอหรือเขียงหมูกันแน่ อ้าวๆเสื้อกาวน์ช้าน เปื้อนเลือดซะแล้ว นี่ขนาดใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วนะ ไม่ไหวๆ ไปใส่ชุดผ่าศพเต็มยศดีกว่า

ตอนเลาะเนื้อ : เส้นเลือดอยู่ไหนเนี่ย พอไม่มีชีพจรนี่มันหายากจัง โอย เท้านี่เกะกะชะมัด ตัดทิ้งก็แล้วกันนะ (เลื่อยเท้าทิ้ง) อี๋..ทำไมเนื้องอกมันยุ่ยๆเละๆแบบนี้ล่ะ เอาไงดี อ้าวๆกระดูกต้นขา (Femur) มันหลุดติดมือมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ซวยแล้ววว เก็บๆๆ รออาจารย์ก่อนดีกว่า ดองฟอร์มาลินในตู้เย็นก็แล้วกัน

วันจันทร์เช้า : อาจารย์ครับ มี"ขา"ของผู้ป่วย ชื่อนั้นชื่อนี้ มาด้วยอย่างนั้นอย่างนี้ครับ

วันจันทร์สายๆ : อาจารย์บอกว่า ต้องเลาะเอาเส้นเลือดออกมาให้ได้ กรูกให้แล่เป็นแผ่นบางๆตามสูตร แช่กรดทิ้งไว้ ส่วนเนื้อยุ่ยๆเลือกๆตัดออกมาสักสิบชิ้นก็พอ

วันจันทร์ใกล้เที่ยง : หลังจากหั่นกล้ามเนื้อเป็นท่อนๆ เราก็ได้ปลายล่างของเส้นเลือด (Distal) แต่อาจารย์อยากได้ปลายที่อยู่ข้างบน (Proximal) เส้นเลือดจ๋า ออกมาซะดีๆ (ฉัวะๆฉึกๆ แก๊กๆๆ) เย้...ได้แล้ว เอาล่ะ ทีนี้แค่แล่เนื้อออกจากกระดูกแข้งกระกระดูกน่อง (Tibia and Fibular) ก็เป็นอันใช้ได้

วันจันทร์ ตอนเที่ยง : ไอติมนั่งเหม่อมองกระดูกต้นขา กระดูกแข้ง และกระดูกน่อง (Femur, Tibia and Fibular) เอาไงดี ขี้เกียจเลื่อยอะ คนงานที่ช่วยเลื่อยได้ไปกินข้าวแล้วอะ ช่างแม่ง เลื่อยเองก็ได้วะ มันจะเท่าไหร่กันเชียวกะอีแค่ขา

เมื่อเริ่มต้นเลื่อยกระดูกต้นขา : ลั้นลา...เลื่อยไปร้องเพลงไป กร๊อบๆๆ แหม เลื่อยง่ายเหลือเกินตรงที่มะเร็งกินนี่มันนิ่มดีแท้ๆ

เมื่อเลื่อยกระดูกต้นขาเป็นสองซีก : อึ๊ดๆ อีกหนึ่งซีก เมื่อยๆ ตรงที่มะเร็งไม่กินนี่มันแข็งบรรลัยเลยฟะ

เหลือกระดูกต้อนขาที่ต้องเลื่อยอีกสามเซ็นติเมตร : กูเมื่อยมือ... อีกสามเซ็นเท่านั้น โอ๊ยทำไมมันถึงได้มันๆลื่นๆแบบนี้เนี่ย จับก็ไม่ค่อยจะอยู่ ที่ยึดก็หลวมโครก เดี๋ยวเถอะ มันต้องมีเลื่อยนิ้วตัวเองเข้าสักวัน

เมื่อได้กระดูกต้นขาเป็นแผ่นๆ : แฮ่กๆ โอย เหนื่อยๆ เราต้องเอาผ้าห่อไว้อย่างดี เดี๋ยวมันจะแตกหักเสียหาย แช่ทิ้งไว้อีกคืน ว่าแล้วก็ยิ้มให้ตัวเองหนึ่งที ถอนหายใจดังๆหนึ่งเฮือก พร้อมมองกองกระดูกที่ต้องเลื่อยด้วยสายตาละห้อย

เมื่อเริ่มเลื่อยกระดูกแข้ง : แม้จะเมื่อยมือ แต่เราก็ยังไหว... (หลอกตัวเองไปเรื่อยๆ ที่จริงมือน่ะปวดหนึบๆแล้ว)

เมื่อเลื่อยกระดูกแข้งออกป็นสองซีกได้ : แหะๆๆ มือสั่นซะแล้ว หิวก็หิว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย นี่เรามานั่งประดิษฐ์ประดอยทำอะไรเนี่ย แล้วนั่น มันเศษเลือดเศษกระดูกเศษไขมันเละเทะเต็มโต๊ะเต็มตัวไปหมดแล้ว นี่ดีนะว่าใส่ผ้ากันเปื้อน ไม่รู้มันกระเด็นเข้าปากไปบ้างหรือเปล่า

เมื่อเหลือระยะทางที่ต้องเลื่อยอีกห้าเซ็นติเมตร : (เลื่อยโดนนิ้วตัวเองฉัวะเข้าให้) กูว่าแล้ว โดนจนได้ไหมล่ะ นี่ขนาดเอาผ้ามาช่วยจับแล้วนะเนี่ย บอกให้ใช้เลื่อยไฟฟ้าๆ คนเลื่อยไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้เลื่อย เฮ้อ โอ๊ย! เจ็บฉิบหายเลยเฟ้ย ไหนดูซิ อืม... เลื่อยไม่เข้า ไม่มีแผล แต่ไหงถุงมือขาดฟะเนี่ย เฮ้อๆ เปลี่ยนถุงมือบ้างก็ได้

เหลือระยะทางที่ต้องเลื่อยอีกสามเซ็นติเมตร : ทำไมมือมันไม่ยอมขยับอย่างใจเลยฟะ ดูๆ สั่นอีกแล้ว แรงจะเลื่อยก็ไม่มี แล้วทำไมมันเบี้ยวงี้ฟะ เสียชื่อหมด ไหนว่าเลื่อยไม้เป็นไงแล้วทำไมมันหนางี้เนี่ย

เหลือระยะทางที่ต้องเลื่อยอีกหนึ่งเซ็นติเมตร : มือช้าน ปวดจนทนไม่ไหว น้ำตาจะไหล หิวก็หิว อยากกินข้าวโว้ย (ยังจะหิวไปได้) เหนื่อยก็เหนื่อย มือก็สั่น ท้อแล้วท้ออีก

วันจันทร์บ่ายๆ : (เมื่อห่อกระดูกเป็นแผ่นๆแช่ฟอร์มาลินและเอาเศษเนื้อที่เหลือชิ้นสุดท้ายทิ้งลงถัง) พอกันที ไม่ไหวแล้ว ขาบ้าบออะไรเนี่ย แล้วนี่ตูโยนอะไรลงไปในถังบ้างวะเนี่ย เฮ้ย เศษเนื้อ เลือด กระดูก มีแถมมีเท้าโผล่ออกมาจากถัง (ลองหิ้วดู) หนักแฮะ แต่ว่าสภาพเราตอนนี้นี่มันเหมือนฆาตกรฆ่าหั่นศพชะมัด (เพิ่งรู้สึกตัวเรอะพ่อคู้ณ)

เรื่องเราชักจะยาวและโรคจิตเกินไปแล้ว นี่ยังไม่รวมแช่กรด ล้างน้ำ ดูสไลด์ เอาสไลด์มาประกอบกลับเป็นขาเหมือนเดิมและขั้นตอนปลีกย่อยอีกมากมาย ก็แล้วขนาดนี้ จะไม่ให้พวกเราเกลียดแขนขากันได้อย่างไร




 

Create Date : 31 มกราคม 2553
2 comments
Last Update : 31 มกราคม 2553 22:47:58 น.
Counter : 901 Pageviews.

 

นึกถึงภาพฆาตกรโรคจิตกำลังถือเลื่อยและจัดการกับศพตรงหน้าอย่างเมามัน....

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ฮ่าๆๆ ล้อเล่นค่ะ พักผ่อนเยอะๆนะคะพี่หมอ

 

โดย: Little* IP: 203.144.144.165 2 กุมภาพันธ์ 2553 20:42:06 น.  

 

สยองและลำบากดีแท้ สู้ต่อไปนะคุณไอติม - -v

 

โดย: june IP: 203.144.144.164 8 กุมภาพันธ์ 2553 22:10:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ดูเผินเผินเหมือนบ้าปัญญาอ่อน
ดูนานนานแล้วหลอนคล้ายคล้ายผี
ดูดูไปเหมือนว่าไม่มีดี
ดูอีกทีดู"................"

เติมเองตามใจชอบเลยครับ
Friends' blogs
[Add คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.