สิ้นสุดตำนานหัถต์มรณะ
คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (๒๖ ธันวาคม) ไอติมไปอยู่เวร ER เรื่องก็มีอยู่ว่า คืนนั้นเป็นคืนที่ยับเยินใช้ได้คืนหนึ่ง ไอติมได้สำเหนียกว่าการตัดสินใจของตัวเองนั้นช้าลงและความสามารถลดลงอย่างมากจนรู้สึกว่าตัวเองประสิทธิภาพตกต่ำกว่า Extern เสียอีก อย่างไรก็ตาม ไอติมก็ยังคงต้องอยู่เวรต่อไปอย่างเดียวดาย เมื่อถึงเวลาที่พี่ที่อยู่เวรคู่กันนั้นผลัดไปนอนตอนกะแรก จริงๆแล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำๆสามสี่ทุ่ม ก็มีคุณยายคนหนึ่งญาติพามาด้วยอาการหายใจลำบาก หยุดหายใจในรถนานถึงสิบห้านาที ซึ่งถือว่านานมากจนโอกาสที่จะช่วยกลับมาได้นั้นริบหรี่เต็มทน อย่าว่าแต่คนที่มีโรคประจำตัวเยอะๆเลย ถึงไอติมเองก็เถอะลองหยุดหายใจนานขนาดนั้นก็คงรอดยาก และก็เป็นที่แน่นอนว่าเมื่อถึงมือหมอไอติมแล้ว ก็สุดความสามารถที่จะช่วยไว้ได้
หลังจากไอติมงึมงัมหงุดหงิดที่ตัวเองไม่ประสบความสำเร็จกับการปั๊มหัวใจสักทีนั้น ก่อนจะลงเวรไม่นานนัก ก็มีคุณป้าโรคไตมาด้วยอาการหอบเหนื่อย ตอนแรกก็คิดว่าฉี่ไม่ออกน้ำท่วมปอดหรือเปล่าหนอ ฟังปอดดูก็ไม่เห็นมีอะไร ป้าก็ก็หอบเฮือกๆ ไอติมก็เหล่ๆไปดูค่าความเข้มข้นออกซิเจนเห็นป้าแกได้ร้อยเต็มก็เลยนิ่งๆไว้ รอเจาะเลือดก่อนค่อยว่ากัน ปรากฏว่ารอผลเลือดอยู่ดีๆ ป้าแกก็เกิดไม่อยากหายใจขึ้นมาดื้อๆ
เท่านั้นยังไม่พอ ชีพจรป้าแก็หายไปด้วย พอปั๊มหัวใจได้สามนาที วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจออกมาก็เป็นเส้นหงิกๆ ไอติมเป็นแล้วใจไปอยู่ตาตุ่ม แวบแรกหัวขาวโพลนไปหมด ไอ้ที่เคยเรียนมาไม่รู้ไปอยู่ไหน สั่งบ้าอะไรก็ไม่รู้ ให้เปิดเส้น แล้วไปเร่งผลแล็บมาไวๆ พอคิดไปคิดมา เอ๊ะ โรคไต เอ๊ะ น้ำไม่เกิน เอ๊ะๆ หรือว่าจะเป็นภาวะเลือดเป็นกรดแล้วมีโพแทสเซียมในเลือดสูง ดูคลื่นหัวใจแล้วมันก็คุ้นๆอยู่เหมือนกัน ตัวหน้าเตี้ย ตัวหลังสูง แถมมีเล่นเวฟเป็นพักๆด้วย
แต่ว่าคุณป้าไม่ไหวแล้ว ความดันวัดไม่ได้ ไอติมจนใจไม่กล้าสั่งการใดๆยาแก้พิษโพแตสเซียมก็เป็นพิษพอๆกับตัวโพแทสเซียมเอง หันรีหันขวางนพี่พยาบาลบอกเรียก med ลงมาช่วยก็ได้นะ พอโทรไปคุยกับหมอ med ยังไม่ทันรายงานเคส ผลเกลือแร่ในเลือดก็กลับมา เป็นจริงดังคาด เลือดเป็นกรดเปรี้ยวยิ่งกว่ามะนาว(ว่าไปนั่น ใครเค้าชิมกันฟะ) โพแทสเซียมสูงปรี๊ด เออ มิน่าหัวใจจะหยุดมิหยุดแหล่
แล้วไอติมก็สั่งการลงไปเอานั่นเอานี่เอาโน่น หมอทุกคนถึงโ.แค่ไหนก็ต้องจำการแก้โพแทสเซียมได้สักสองสามอย่าง อยู่แล้ว แต่ไอติมลืมนึกไปว่า สาเหตุมันก็มาจากเลือดเป็นกรดและคุณป้าก็ยังคงมีกรดอยู่ในเลือดมากมาย พอดีพี่ med ลงมาถึงก็ทักเลยให้ HCO3 หรือยัง (HCO3 นอกจากจะแก้กรดแล้ว ยังช่วยพอโพแทสเซียมออกจากเลือดได้ชั่วคราวจ้ะ) ไอติมก็เลยจัดไปหนึ่งบ้อง (คือเข็มมันใหญ่ซะจนเรียกบ้องถนัดปากกว่า) แล้วหัวใจป้าแกก็กลับมาเต้นเกือบปกติ คลื่นหัวใจเป็นหน้าตาที่คุ้นเคย ไอติมโล่งอก ความดันเริ่มวัดได้ แม้จะยังต่ำเรี่ยๆแต่ก็ดีกว่าวัดไม่ได้ ตอนนั้นมันเลยเวลานอนไอติมไปโขแล้ว ก็เลยส่งต่อให้พี่ med ดูต่อ นับว่าเป็นเคสแรกที่ไอติมประสบความสำเร็จในการช่วยชีวิต เป็นเคสแรกที่นอกจากจะไม่ตายคามือแล้ว สภาพยังพอมีหวังอยู่ถึงแม้จะริบหรี่ก็ตาม
สำหรับผู้ที่อ่านไม่รู้เรื่องนะครับ สามสี่ย่อหน้าข้างบนแปลว่า "ไอติมเจอเคสป้าเป็นโรคไตที่มีภาวะแทรกซ้อนจนต้องปั๊มหัวใจ แต่ในที่สุดไอติมก็ปั๊มป้าขึ้นมาได้ แม้ว่าจะตัดสินใจช้าและงงงวยอยู่มากเนื่องจากขาดประสบการณ์ก็ตาม"
เป็นอันปิดฉากตำนานหัตถ์มรณะปั๊มกี่รายก็ตายเรียบของนายแพทย์เทอดเกียรติแต่เพียงเท่านี้ เฮ้อ....ดวงเยิน แบบนี้ เห็นทีต้องทำบุญ
Create Date : 27 ธันวาคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 23:17:19 น. |
Counter : 657 Pageviews. |
|
|
|
น่าตื่นเต้นแต่ก็เป็นงานที่ยิ่งใหญ่และน่าภูมิใจนะคะ
พยายามเข้านะคะ เอาใจช่วยด้วยคน^ ^
แอบเข้าใจความรู้สึกของคุณไอติมนะคะ
สมัยเรียนมหาลัยเคยอยู่ฝ่ายพยาบาลดูแลน้องๆ ปี1เข้า ว้ากค่ะ แต่ด้วยความเป็นเด็กภาษาไม่ใช่เด็กพยาบาลเลยดูน้องๆ ได้แค่เป็นไข้ หกล้ม ทำนองนั้น
แต่มีอยู่ครั้งนึงเคยมีน้องชัก หอบใหญ่เลย เหมือนหายใจไม่ออก ตอนนั้นเป็นตัวเองพี่แท้ๆ แต่กลับทำอะไรไม่ถูก ยืนหน้าซีดแทบจะอาการหนักตามน้องไปด้วย โชคดีที่มีรุ่นพี่มาพาน้องไปส่งรพ.หน้ามอได้ทัน ตอนนั้นพอรู้ว่าน้องปลอดภัยก็ร้องไห้โฮเลย รู้สึกผิดในหัวใจมากๆ ว่าทำไมได้แต่ยืนอึ้งแบบนั้น แต่สำหรับคุณไอติม คุณไอติมเป็นคนเก่ง จากที่ตามอ่านบล็อกของคุณไอติมมา รู้สึกชื่นชมไปด้วย ต่อไปเดี๋ยวประสบการณ์ก็ตามมาเอง อย่างน้อยครั้งนี้ก็ได้รวมเข้าไปเป็นประสบการณ์ของคุณไอติมด้วยแล้ว ขอให้เป็นคุณหมอที่ดี ช่วยคนอื่นต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้นะคะ