วันนี้ได้มีโอกาสฟังเลคเชอร์เรื่อง Osteoblastic tumor จาก Professor ผู้อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากที่อเมริกาโน่น แต่ท่าน Professor มาพูดให้ชาวหมอออร์โธฟัง (หมอออร์โธ คือหมอกระดูก หมอพาโธ คือหมอชิ้นเนื้อ ออกเสียงคล้ายกันแต่ทำงานต่างกันมาก) การจัดปะชุมของภาควิชาอื่นมักจะมีอาหารและเอกสารวิชาการจากบริษัทยาวางอยู่หน้าห้องเสมอๆ แต่ภาควิชาพยาธิวิทยานั้นมีแต่ใบเซ็นชื่อ (เพราะจะเอาฟอร์มาลินมาวางแก้ขัดก็คงไม่เหมาะนัก)
สำเนียงของ Professor ชัดมาก ฟังง่ายและที่สำคัญ พูดไทยได้ด้วย เลคเชอร์ในวันนี้ทำให้เราเข้าใจโรคต่างๆในกลุ่ม Osteoblastic tumor และ Professor ยังเน้นย้ำเสมอว่า Its your duty to provided a important clinical to radiologist and pathologist แปลไทยว่า เป็นหน้าที่ของพวกคุณ (หมอกระดูกทั้งหลาย) ที่จะให้ข้อมูลที่สำคัญของคนไข้แก่หมอพาโธและหมอรังสี ซึ่งจริงๆประโยคนี้ Resident ไอติมอยากจับยัดใส่กระโหลกหมอทุกคนจากทุกภาควิชาจริงๆ สาบานได้ว่าหมอพาโธต้องใช้ประวัติและข้อมูลของคนไข้ในการวินิจฉัยโรค เพราะ คำตอบมันไม่ได้เขียนอยู่บนนิวเคลียสของเซลล์เวลาเราส่องกล้องจุลทรรศน์ ไอ้ประเภท ก้อนที่นั่น ก้อนที่นี่ แล้วก้คิดเอาเองว่าหมอพาโธเราจะรู้ไปเสียหมดเนี่ย มันใช้ไม่ได้
อย่างไรก็ดี ก่อนที่ Resident ไอติมจะของขึ้นไปมากกว่านี้ จะขอพูดถึงความเป็นสุดยอดหมอพาโธของ Professor คนนี้กันสักหน่อย คือ Professor เล่าว่ามีเคสยากอยู่เคสหนึ่ง เปHนก้อนที่นิ้วและแกถูกปลุกขึ้นมาทำ Frozen section ตอนเที่ยงคืน (การส่งชิ้นเนื้อขอผลด่วนจากห้องผ่าตัด เพื่อทำการผ่าตัดที่เหมาะสม เน้นและย้ำว่า ไม่ใช่ การทำให้ได้ผลวินิจฉัย เร็วขึ้น) ที่จริงการที่หมอพาโธสักคนจะลุกขึ้นมาทำ Frozen ตอนเที่ยงคืนนี่ก็นับว่าเป็นสุดยอดแห่งจิตวิญญาณพยาธิวิทยาแล้ว แต่ท่าน Professor สุดยอดยิ่งกว่านั้น คือ หลังจากทำ Frozen เสร็จแล้วยังไม่ได้คำตอบ คุณหมอทั้งหลายก็แยกย้ายกันเข้านอน (ก็ไม่ได้ผลพาโธ เลยไม่รู้จะทำประการใดดี) Professor อุตส่าห์เก็บเอาเคสไปฝัน ในฝันนั้นแกให้วินิจฉัยผิดผลาด และค้านกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นหมอรังสี เมื่อตื่นขึ้นมาก็ทำให้เกิดความระมัดระวังในการดูสไลดืชิ้นเนื้อที่ตามมามากขึ้น และสามารถให้คำวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องว่าเนื้องอกนั้นไม่ใช่เนื้อร้าย