วันปีใหม่
ก่อนเที่ยงคืนของวันที่ ๓๑ ธันวาคม : ไอติมนั่งอ่าน Journal อยู่ที่บ้าน อ่านเสร็จ ก็สรุปเคส Autopsy ไปด้วย หลังจากปีนี้ได้เรียนรู้ว่าการนับถอยหลังใน msn นั้นมันทำไม่ได้เพราะมันพิมพ์ไม่ทัน ปีหน้าเราจะลองทางอื่นๆดูบ้าง การใช้โทรศัทพ์ดูเหมือนจะธรรมดาเกินไป อาจจะต้องลองใช้โทรจิต หรือโทรโข่งแทน (ว่าแต่ใครจะมานับกะตูล่ะเนี่ย)
เช้าวันที่ ๑ มกราคม : พี่นัส(Resident หนึ่งอีกคน)โทรมาปลุกแต่เช้า บอกว่าให้เอาเนื้อแช่กรดลงให้ด้วย แช่กรดนานเดี๋ยวเนื้อเปื่อยยุ่ยหมดคือพวกเนื้อแข็งๆ เช่นกระดูกต้องแช่กรดไนตริก (หรือน้ำกรดที่เขาเอามาสาดหน้ากันนั่นแหละ) สักคืนหนึ่งก่อนเพื่อให้มันนิ่มลง ไอติมงัวเงียๆ มาตื่นเอาตอนที่บอกว่ามีรกแฝดรอฉีดสีดูเส้นเลือดรออยู่ โอยๆ บ้าชะมัด วันปีใหม่นะ ทำไมต้องมาฉีดสีรกด้วยฟะ
สายวันที่ ๑ มกราคม : งุ่นง่านไม่รู้จะทำอะไรดีกับรก ก้มหน้าก้มตาตัดเนื้ออื่นจนหมดไป รกก็ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละทำอะไรไม่ได้ อาจารย์ไปเที่ยวปีใหม่อยู่ที่ไหนสักแห่ง แช่ตู้เย้นรอวันจันทร์ก็ได้ฟะ หลังจากตัดเนื้อเสร็จ ก็มารายงานต่อ อ่าน Journal ที่ผลการทดลองล้มเหลวต่อด้วยทำ Present case เด็กที่หาสาเหตุการตายไม่ได้ ตกลงปีใหม่นี่เค้าเริ่มต้นด้วยอะไรแบบนี้เหรอเนี่ย
บ่ายแก่ๆวันที่ ๑ มกราคม : พอกันที ไม่ทำมันแล้ว งานบ้าบอ ไปเป่าฟลุตดีกว่า วันนี้ที่คลองบางกอกน้อยมีคนเอาสวิงมาช้อนปลาช่อนกันใหญ่ ตัวโตๆทั้งนั้น ถามคนแถวนั้นบอกว่าคลื่นซัดมา พอดูดีๆ นี่มันปลาบาดเจ็บทั้งนั้น หน้าตาก็โง่ๆเหมือนปลาที่เลี้ยงในกระชัง เลยเข้าใจเอาเองว่าคงมีเรือขนปลาทำกระชังหรือลังปลาช่อนแตกแถวนั้นเสียมากกว่า หลังจากยืนดูก็มีฝรั่งมาถามหาเรือหางยาว พอรู้ว่าต้องไปท่าช้างแกก็ถามหาแท็กซี่ต่อ คนแถวนั้นก็ภาษาไม่กระดิกหู ไอติมก็เลยต้องบุ้ยใบ้ชี้โบ๊ชี้เบ๊ให้แกไปขึ้นแทกซี่ที่ถนน เพราะตอนแรกแกจะไปเรียกแท็กซี่บนสะพานอรุณอัมรินทร์เพราะเข้าใจว่าแท็กซี่ไทยนั้นจอดได้ทุกที่ (ฝรั่งบ้าไปแล้ว ส่วนเราก็แอบอับอายในชื่อเสียงของประเทศ)
หลังจากฝรั่งไป ไอติมก็นั่งเป่าฟลุตอยู่ริมทาง ชาวญี่ปุ่นที่ถ่ายรูปทางรถไฟอยู่แถวๆนั้นเกิดสนใจไอติมขึ้นมา และหันมาถ่ายรูปไอติมแทนทางรถไฟ ทำท่าตกใจว่าคนไทนนี่เขาทำอะไรแบบนี้กันเหรอ ก็อยากจะบอกเขาเหมือนกันว่าไม่ใช่แต่เขาหรอกที่แปลกใจ ลองดูดีๆจะพบว่าชาวบ้านแถวนั้นก็มองผมแปลกๆเหมือนกันแหละน่า โอย..คุณซายน์หรือคุณหมีน่าจะอยู่ด้วย พี่แกพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยนอกจากคำว่า "I saxophone" คือทำนองว่าฉํนเป่าแซคได้นะอะไรทำนองนั้น กลุ่มญี่ปุ่นนั้นมีสามสี่คน อยากถามเขาเหมือนกันว่ามาทำอะไรแถวนี้ (สงสัยมาเยี่ยมคารวะหลุมศพโกโบริ) ดูเหมือนทุกๆครั้งที่แวะมาเป่าฟลุตริมคลองแห่งนี้ จะต้องได้เรื่องอะไรแปลกติดไม้ติดมือกลับมาเสมอๆ
ค่ำๆ วันที่ ๑ มกราคม : กลับมาทำงานด้วยความเบื่อหน่ายมาก จึงดูสไลด์ไป ออน msn ไป เล่นเกมไป อ่านหนังสือของคุณประภาสไปด้วย (เอาให้เหมาะ) รู้สึกว่าสับสนในชีวิตดี
ก่อนเที่ยงคืนวันที่ ๑ มกราคม : วันนี้เจอเรื่องพิลึกๆเยอะดี ลงมือเขียนบล็อกดีกว่า
Create Date : 02 มกราคม 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 2 มกราคม 2553 0:41:36 น. |
Counter : 605 Pageviews. |
|
|
|