Bloggang.com : marzo : กรูแยร์ เมืองเล็กๆ ที่มีบรรยากาศแบบยุคกลาง

กรูแยร์ เมืองเล็กๆ ที่มีบรรยากาศแบบยุคกลาง - Gruyères , Switzerland

ได้ยินชื่อเมืองนี้หลายรอบแล้ว ไม่มีโอกาสได้ไปเลยสักครั้ง จากบ้านขับรถไปประมาณสามชั่วโมงครึ่ง ทั้งอาทิตย์เรารู้สึกเบื่อๆกับวันทำงานเลยชวนคุณสามีและคุณเพื่อนไปเดินเล่นเมืองเก่าเล็กๆนี้กัน

พวกเราออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าครึ่ง กะจะไปถึงเช้า เราก็มาถึงเช้าจริงๆได้จอดรถที่ P1 เดินมานิดเดียวก็ถึง ตอนขากลับออกไปที่จอดรถเต็มหมด ทัวร์เค้าจะไปเมืองอื่นก่อนแล้วแวะมาที่นี่ (คิดว่านะคะ) ภาพนี้จากที่จอดรถเดินมาหน่อย เป็นระเบียงติดกับ information center มีเก้าอี้ให้นั่งพัก วิวสวย

ผ่าน information center มาก็เป็นวิวนี้ เมืองเล็กมาก เดินตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอ Museum Bar HR Giger บาร์แปลกที่ตกแต่งแนวโครงกระดูกเอเลี่ยน (คลิกดู) เดินเลยไปอีกก็ถึงปราสาทกรูแยร์ (คลิกดู)

ตรงนี้มีโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก มีไม่เยอะหรอกคะ เมืองเล็กๆแค่นี้เอง

ตรงนี้เป็นห้องน้ําสาธารณะ มีชายหญิงอย่างละห้อง

เดินเลยจะเจอโบสถ์เล็กๆ และทางขึ้นเนินไปยังปราสาทกรูแยร์ การถึงจะเจอร้านอาหารเล็กๆตรงนั้น ชื่อว่า Le Chalet cafè เหมือนอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ ตรงข้ามจะเป็นร้านขายของที่ระลึก มีระเบียงสำหรับนั่งทานอาหาร

พวกเราแวะหาอะไรนั่งดื่มที่ HR Giger Bar แล้วตัดสินใจไปเดินดูปราสาทต่อ ณ.วันที่ไปปราสาทปิดถึงบ่ายสอง เค้าเหมาจัดงานแต่งกัน เราก็ไม่ได้สังเกตป้าย เดินเข้าไปจะซื้อตั๋ว คนจัดงานพูดว่า "close close close close " เสียงดัง คุณสามีเลยแอบฉุนนิดๆ ว่าไม่เห็นมีความจำเป็นต้องเสียงดังขนาดนี้เลย อยู่ใกล้แค่เอื้มมือ ฮะนะ.. เค้าคงมีเหตุผลของเค้า

วิวทางขึ้น มองลงไปเห็นโบสถ์และสุสาน สุสานเล็กและสะอาดได้อีก

เลยไปเดินดูเมืองถ่ายรูปเล่น ดูของที่ระลึก ชิลๆ บ้านเก่านี่สวยจริงอะไรจริง ตอนแรกอยากนั่งทานอาหารกลางวันที่นี่ แต่โต๊ะที่ระเบียงอีกฝั่งถูกจองหมดแล้ว คุณสามีและเพื่อนอยากนั่งด้านนอก ไม่อยากนั่งในร้าน เลยต้องหาร้านอื่น

ร้านนี้ขายอะไรไม่แน่ใจ คนหยุดถ่ายรูปเยอะเหมือนกัน

คนเริ่มมาแล้ว นักท่องเที่ยวเอเชียเยอะ จีน เกาหลี..เจอคนไทยแค่ 3 คน เดินเผินๆก็ไม่รู้ว่าเป็นคนไทย ไม่ทันได้ทักหันกลับไปหายไปไหนแล้ว คุณเพื่อนแซวว่า ญาติเธอเยอะจริงนะวันนี้ คุณสามีชีให้ดูว่าคนอยู่เมืองฝารั่งจะไม่กางร่ม คนอยู่เอเชียจะกลางร่ม เหมือนตอนไปเที่ยวทะเลเมืองไทย เค้าเคยถามว่ากางร่มทำไม (ตอนไม่ถูกเลย แต่ก่อนเราก็กาง แบบมีป้องกันยูวีด้วยนะเออ..) 55

มีร้องเพลงประสานเสีย แต่ละกลุ่มแต่งตัวต่างกัน มีเล่นดนตรี สลับกันไปมา นั่งอยู่ในร้านตรงนี้ ฟังเพลงเพลิน ดูคนเพลินคะ อาหารตา อาหารหู

สั่งอะไรไปมั่งก็ไม่รู้ ตอนแรกจะสั่งย่างรวมมิตร สื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ฝั่งนั้นพูดแต่ฝรั่งเศษ ฝั่งเราพูดแต่อังกฤษ อิตาเลี่ยน เยอรมันฯ สุดท้ายรูปช่วยแก่ปัญหาทุกอย่าง เธอเข้าไปเอารูปมาให้ดู เห็นรูปปั๊บ อ๊ายหลา...เมนูที่อยากกินมันเป็นเนื้อเสียบไม้แค่สองไม้เล็กๆ ย่างๆปิ้งๆหมุนเองอีกต่างหาก เคยกินแล้วที่ Chamonix เมื่อหลายปีก่อน แพงเวอร์สุดๆ เลยเปลี่ยนใจมาได้แบบในรูป

จานนี้ของคุณสามี เค้าปลื่มเหลือเกิน เนื้อสเต็กอร่อยเลิศประมาณนั้น เราไม่กินเนื้อวัวเลยไม่ได้ลองชิมฮะนะว่าอร่อยขนาดไหน

ส่วนของเรากับคุณเพื่อนสั่งเหมมือนกัน เมนูเค็มๆ เนื้อหมูที่อยู่บนจานเค็มทุกอย่าง ต้องกินกับผักที่โป๋มาด้านล่าง ไม่งั้นไม่ไหว ราคาไม่ถูก จานนี้ 23 ฟรังก์สวิสแนะ

เหลือบมองอ๊ายที่เราอยากหม่ำ แต่ไม่มีแนวร่วม ดมกลิ่นโต๊ะข้างๆไปก่อน ไว้ไปซื้อหม้อเล็กๆเอาไว้ทำกินที่บ้านคนเดียวก็ได้ ชิชิ

กาแฟที่นี่ไม่อร่อยงะ น้ำเยอะเชียว มีนมอะไรมาให้ด้วยไม่รู้ แต่เห็นมีทุกร้าน เห็นรูปเอาไว้ราดไอติมมั่ง ราดผลไม้มั่งอะไรพวกนี้ สั่งกาแฟไปก็ไม่คิดจะได้ แต่เค้าเอามาให้ก็เลยลองซะหน่อย รสชาติมันๆคล้ายวิปครีมแบบน้ำที่ยังไม่ได้ตี แต่จะข้นกว่า น้องๆนมข้นหวานแต่ไม่มีรสหวาน กาแฟแพงเวอร์ 3.8 ฟรังก์สวิส รสชาติไม่ได้อร่อยขนาดนั้นซะหน่อย จิตตกมาก

ไม่รู้จะไปไหนแล้ว เดินรอบแล้ว ดูแล้ว อิ่มแล้ว รอเวลาเปิดปราสาท เลยมาเอนหลังตรงลานหญ้าข้างปราสาท เค้าไม่ได้เปิดให้เข้าไปหรอก พวกเราปีนรั้วเข้าไป มีคนนั่งเล่นนอนเล่นก่อนหน้าเราแล้วแหละ คุณเพื่อนเค้าปีนก่อน เออเนอะ..คุณเพื่อนคนสวิสฯยังปีนนำ เจ๊กอย่างฉันก็ตามฮะดิ นอนเล่นไปมา ฟังเสียงนกร้อง เสียงลม เสียงคน ดันเผลอหลับทั้งสามคน (แต่เราตื่นก่อน เพราะเหนื่อยน้อยสุด คริกๆ)

ตื่นมาอีกที เลยเวลาเปิดปราสาทมาเยอะแล้ว เลยลุกๆๆๆ ปราสาทกรูแยร์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติเชียวนะ มาแล้วก็ต้องดู คลิกดูด้านในปราสาท

มาดูกรูแยร์ ก็ได้เห็นแล้ว มาดูปราสาทก็ได้เห็นแล้ว มาดูบาร์เอเลี่ยนก็ได้เห็นแล้ว พวกเรากลับกันดีกว่า ต้องขับรถอีกไกล วิวตอนบ่ายแก่ๆ

เห็นอย่างนี้จะห้าโมงเย็นแล้วนะ พวกทัวร์หายกันไปเยอะแล้ว หันกลับไปมอง ก่อนจะลาเมืองนี้ เมืองน่ารัก แต่เหมาะกับเป็นทางผ่านมากกว่าตั้งใจมา (เมืองเล็กจริงๆ)

ตรงลานจอดรถเจอรถคันนี้ น่ารักดี ไม่รู้มีจุดประสงค์อะไร ใช่รถของคู่แต่งงานที่ปราสาทหรือเปล่าหรอ ตอนแรกเราจะแวะโรงงานชีส แต่อีกสองคนเค้าไม่สนใจ ท้องเค้าเริ่มหิวเค้าอยากจะแวะร้านไก่ Pouletburg ในเมือง Attinghausen ที่สุดแสนอร่อย... เค้าว่าอย่างนั้น (คลิกดู) ต้องขับรถไปจากเมืองนี้อีกสองชั่วโมง หนุ่มๆเลยบอกว่าไม่ต้องดีหร๊อกชีสเชส เซ็งเป็ด

ขอบคุณทุกๆอย่างที่ทำให้เรามีวันดีๆที่ได้อยู่ร่วมกัน
วันเดินทาง : 08/09/2012

TOP

Create Date : 13 กันยายน 2555

Last Update : 13 กันยายน 2555 16:53:05 น.

0 comments

Counter : 5925 Pageviews.