สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

โรคผิวหนังที่มากับน้ำท่วม

lozocatlozocat


ในขณะนี้เรื่องที่กำลังอยู่ในความสนใจ ทันสมัยและส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของชาวกทม.รวมทั้งอีกหลายๆ จังหวัดคงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำท่วม ปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยในผู้ที่ต้องผจญกับภาวะน้ำท่วมเรื้อรังและส่งผลกระทบถึงสุขภาพได้แก่ โรคผิวหนัง เนื่องจากเมื่อเกิดอุทกภัย กระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก สารเคมี รวมถึงเชื้อโรคต่างๆ ให้แพร่กระจายและปะปนอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง นอกจากนี้สภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปทำให้สัตว์ต่างๆโดยเฉพาะสัตว์จำพวกแมลงต้องหนีน้ำออกจากถิ่นที่อยู่เดิมมาอาศัยในที่แห้งร่วมกับมนุษย์มากขึ้น จากสาเหตุดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงก่อให้เกิดโรคผิวหนังที่พบร่วมกับภาวะน้ำท่วมได้ดังนี้

1. น้ำกัดเท้า

เป็นโรคผิวหนังชนิดแรกที่จะเกิดหลังการสัมผัสน้ำสกปรกต่อเนื่องซ้ำๆ กันในสัปดาห์แรก โดยทั่วไปเรามักเข้าใจกันว่า โรคน้ำกัดเท้านี้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อราที่เท้า ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงเสมอไปเนื่องจากจริงๆ แล้วเชื้อราต้องอาศัยระยะเวลาในการเจริญเติบโตระยะหนึ่งก่อนจะก่อโรคที่ผิวหนังได้ สาเหตุที่แท้จริงของน้ำกัดเท้าเกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังเนื่องจากความเปียกชื้นและการสัมผัสสิ่งสกปรก สารเคมีต่างๆ ในน้ำท่วมขังทำให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบขึ้น ผิวหนังจะมีลักษณะเปื่อยลอกโดยเฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วเท้า อาจมีอาการผื่นแดง แสบคันร่วมด้วย

การป้องกันการเกิดน้ำกัดเท้านั้น ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำท่วมขัง หากเลี่ยงไม่ได้ต้องล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันทีหลังการสัมผัสน้ำสกปรกแล้วเช็ดเท้าโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วให้แห้งอยู่เสมอ หากมีแผลถลอกบริเวณเท้าอาจต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น povidone iodine ชะล้างด้วย

หากเกิดผื่นน้ำกัดเท้าแล้ว การรักษาเบื้องต้นคือการใช้ยาแก้คันทาบริเวณผื่น ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใช้ยาแก้คันที่มีส่วนผสมของยาต้านเชื้อราหากยังไม่แน่ใจการวินิจฉัยเนื่องจากอาจบดบังอาการของการติดเชื้อราระยะต้นได้ นอกจากนี้ยาจำพวกขี้ผึ้งรักษาเชื้อราจะมีฤทธิ์กัดให้ผิวหนังชั้นบนลอกออก ซึ่งจะเพิ่มการระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้อาการแดง ลอก แสบคันเป็นมากขึ้นได้อีกด้วย

2. การติดเชื้อที่ผิวหนัง

การติดเชื้อแบคทีเรีย หลังมีผื่นน้ำกัดเท้าเกิดขึ้น บริเวณที่ผิวเปื่อยลอกจะเป็นจุดที่เชื้อแบคทีเรียในน้ำสกปรกเข้าสู่ผิวหนังแล้วก่อโรคได้ง่ายขึ้น การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังอาจเป็นการติดเชื้อในผิวหนังชั้นตื้นซึ่งจะทำให้ผิวหนังฝ่าเท้ามีลักษณะเปื่อยยุ่ยเป็นหลุมเล็กๆ มีกลิ่นเหม็น หรืออาจเกิดเป็นตุ่มหนอง รูขุมขนอักเสบ หากการติดเชื้อลุกลามลงในผิวหนังชั้นลึกเกิดเป็นกลุ่มโรคจำพวกไฟลามทุ่ง ผิวหนังจะบวมแดงร้อน กดเจ็บ และลามเร็วไปยังบริเวณใกล้เคียง ต่อมาอาจมีไข้สูงและต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตร่วมด้วย โดยเฉพาะในกรณีผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่ทำให้ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง เช่น เบาหวาน ตับแข็ง โลหิตจางธาลัสซีเมีย เป็นต้น ในกรณีนี้การติดเชื้อมักรุนแรง ลามเร็ว และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นหากมีอาการของการติดเชื้อในผิวหนังชั้นลึกหรือเป็นผู้มีภาวะพร่องภูมิต้านทานดังที่กล่าวมาข้างต้น ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงทีเนื่องจากอาจจำเป็นต้องให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด

ในกรณีที่มีบาดแผลจากการถูกของมีคมใต้น้ำทิ่มตำ นอกจากจะติดเชื้อแบคทีเรียแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อบาดทะยักได้ จึงต้องฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักด้วย

การติดเชื้อรา หากมีอาการของภาวะน้ำกัดเท้าต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานๆ ผิวที่เปื่อยลอกโดยเฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วจะติดเชื้อราได้ ซึ่งจะมีอาการผื่นแดงแฉะ มีขุยขาวลอกบริเวณซอกนิ้ว หรือเป็นชนิดผื่นหนา เปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุยทั้งที่ฝ่าเท้าและซอกนิ้ว มีกลิ่นเหม็น หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า ฮ่องกงฟุต ซึ่งก็เกิดจากเชื้อกลากชนิดหนึ่งนั่นเอง หากปล่อยให้การติดเชื้อราที่เท้าเป็นเรื้อรังผื่นจะหนาขึ้นเรื่อยๆและยากต่อการรักษาให้หายขาด นอกจากนี้การติดเชื้อราที่บริเวณง่ามนิ้วเท้าจะเป็นทางที่เชื้อแบคทีเรียเข้าก่อโรคที่ผิวหนังได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

การรักษาเชื้อราที่ผิวหนังให้ได้ผลต้องทายาฆ่าเชื้อราอย่างสม่ำเสมอและแม้ว่าอาการผื่นคันจะดีขึ้นก็ไม่ควรหยุดยาทาทันทีแต่ควรทายาต่อเนื่องไปอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงยาทาฆ่าเชื้อโรคอื่นๆที่มีฤทธิ์ระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น alcohol เพราะจะทำให้ผิวแห้งคันมากขึ้น ที่สำคัญควรรักษาความสะอาดโดยพยายามให้เท้าแห้งอยู่เสมอจะช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคได้

3. โรคผิวหนังจากแมลงและสัตว์มีพิษ

การถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย การถูกสัตว์มีพิษได้แก่ ตะขาบและแมงป่อง กัดต่อย ทำให้มีอาการแดงอักเสบ ปวด และบวมบริเวณรอบๆรอยเขี้ยวที่ถูกกัดต่อยได้อย่างมาก ปัญหาที่ต้องระมัดระวังคือบางครั้งต้องแยกจากการถูกงูพิษกัดโดยเฉพาะหากถูกกัดต่อยในเวลากลางคืนซึ่งมองไม่เห็นชนิดของสัตว์ที่กัด

หากถูกสัตว์เหล่านี้กัดต่อย ควรไปพบแพทย์ แพทย์จะให้รับประทานยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน ยาลดอาการปวดและบวม ที่สำคัญนอกจากการอักเสบของแผลแล้ว พิษจากสัตว์เหล่านี้อาจมีผลต่ออวัยวะภายในบางอย่าง เช่น ไต ดังนั้นหากยังไม่สามารถไปพบแพทย์ได้ ผู้ถูกกัดต้องสังเกตสีและปริมาณของปัสสาวะอย่างน้อย 24 ชม. หากปัสสาวะลดลงหรือเป็นสีแดงต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

ผื่นแมลงกัด มักเกิดในผู้อพยพที่ต้องอาศัยนอนรวมกันที่ศูนย์โดยไม่มีมุ้งหรือเครื่องป้องกันแมลง มักเกิดจากยุงหรือหมัดกัด ลักษณะผื่นพบเป็นตุ่มนูนแดงคัน อาจพบรอยที่แมลงกัดเป็นจุดแดงเล็กๆ ที่กลางตุ่ม และอาจมีวงขาวรอบๆ พบรอยโรคเด่นที่ผิวหนังบริเวณนอกร่มผ้า การรักษาได้แก่การใช้ยาทาแก้คันร่วมกันรับประทานยาแก้แพ้แก้คัน
ผื่นแพ้สัมผัสจากด้วงก้นกระดก ด้วงก้นกระดกเป็นแมลงขนาดเล็กลำตัวสีส้มสลับดำ มักอาศัยอยู่ตามสวนหรือในบริเวณที่มีต้นไม้มาก ที่ลำตัวของแมลงชนิดนี้จะมีสารซึ่งสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้หากไปสัมผัส มักพบผื่นชนิดนี้ในคนที่ต้องขนรื้อซากต้นไม้ พุ่มไม้ หรือพักอาศัยอยู่ในสวน ลักษณะผื่นจะเป็นปื้นแดง แสบ คัน อาจมีรอยไหม้หรือตุ่มหนองเล็กๆอยู่กลางรอยโรค รอยโรคอาจมีลักษณะเป็นทางยาวตามแนวที่แมลงบินผ่าน หรือตามรอยที่ผู้ป่วยเกา และอาจพบผื่นรูปร่างสมมาตรที่บริเวณข้อพับ ได้บ่อย การรักษาได้แก่การใช้ยาทาแก้คันร่วมกับการรับประทานยาแก้แพ้แก้คัน

ในศูนย์พักพิงที่มีคนอยู่อาศัยหนาแน่น สุขอนามัยไม่ดี อาจมีการติดเชื้อหิด เหา ที่สามารถแพร่กระจายได้เร็ว

ภาวะอุทกภัยและน้ำท่วมขัง อาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังหลายชนิดติดตามมา การทำความสะอาดผิวหนังที่สัมผัสน้ำท่วมขังด้วยน้ำสะอาดและสบู่หลังลุยย่ำน้ำ หลีกเลี่ยงการลุยย่ำน้ำหากมีรอยถลอกหรือบาดแผล การระวังรักษาผิวหนังให้แห้งอยู่เสมอ และการป้องกันการกัดต่อยจากแมลงต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถลดการเกิดโรคผิวหนังต่างๆ ได้ อย่างไรก็ดีด้วยสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขภาวะในช่วงอุทกภัยจึงหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวได้ยาก การมีความรู้เกี่ยวกับโรคทางผิวหนังที่พบได้บ่อยจากน้ำท่วมและการดูแลตนเองในเบื้องต้นอย่างถูกวิธีจะช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่างๆ ได้






กรอบสวยๆ จาก คุณ lozocat
ข้อมูลจาก
พญ.สุเพ็ญญา วโรทัย
นพ.สุมนัส บุณยะรัตเวช
ภาควิชาตจวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล


lozocatlozocat




 

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2554
2 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2554 15:10:21 น.
Counter : 945 Pageviews.

 

อรุณสวัสดิ์ครับคุณกบ







 

โดย: กะว่าก๋า 19 พฤศจิกายน 2554 5:58:03 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับคุณกบ






 

โดย: กะว่าก๋า 20 พฤศจิกายน 2554 5:51:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
18 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.