สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
เมตะบอลิค ซินโดรม กับอาการอ้วนลงพุง

เมตะบอลิค ซินโดรม (Metabolic syndrome) หรืออาจเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า “โรคอ้วนลงพุง” มีสาเหตุเริ่มต้นจากการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม กินอาหารมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันสูง ร่วมกับการไม่ออกกำลังกาย ทำให้น้ำหนักมากเกินไป พุงยื่น

สำหรับคนไทย

- ผู้ชาย ไม่ควรมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร
- ผู้หญิง ไม่ควรมีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร

ผู้ที่มีปัญหาอ้วนลงพุง มักจะมีความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่

- ความดันโลหิตสูง ตั้งแต่ 130/80 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป (ความดันโลหิตตัวใดตัวหนึ่งสูงก็ถือว่าผิดปกติ)
- น้ำตาลในเลือดสูง ตั้งแต่ 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป
- ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป
- โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL cholesterol) ต่ำกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรสำหรับผู้ชาย หรือต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรสำหรับผู้หญิง

การมีความผิดปกติต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อัมพาตที่เกิดจากหลอดเลือดสมองอุดตัน ทำให้สมองขาดเลือด นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน และยังอาจก่อให้เกิดโรคตับเรื้อรังจากการที่มีไขมันสะสมอยู่ในเนื้อตับ ซึ่งนำไปสู่โรคตับแข็งได้

สัญญาณบอกเหตุ

ผู้ป่วยเมตะบอลิค ซินโดรม อาจจะไม่มีอาการผิดปกติอะไร ยกเว้น”อ้วนลงพุง” ดังนั้น หากไม่ได้รับการตรวจสุขภาพก็จะไม่ทราบว่ามีความดันโลหิตสูง น้ำตาลสูง หรือมีไขมันผิดปกติ บางรายที่ความดันโลหิตสูง อาจจะมีอาการปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะ ส่วนรายที่น้ำตาลในเลือดสูงเข้าขั้นเบาหวาน อาจมีอาการปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำบ่อย หรือมีอาการอื่น ๆ ของโรคเบาหวาน

สำหรับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้มานาน และไม่ได้เอาใจใส่ดูแลรักษาหรือละเลย อาจจะมีอาการของโรคแทรกซ้อน เช่น เจ็บหน้าอก หัวใจวาย หรือเป็นอัมพาตในที่สุด

ใคร ๆ ก็มีสิทธิเสี่ยงจริงหรือ?

ใช่แล้วค่ะ ทุกคนมีโอกาสเป็นเมตะบอลิค ซินโดรม โดยเฉพาะผู้ที่น้ำหนักเกิน ลงพุง ผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นมากกว่าเด็กหรือหนุ่มสาว

แต่ส่วนใหญ่ กลุ่มอาการนี้เป็นผลจากการใช้ชีวิตอย่างไม่เหมาะสม บริโภคอาหารที่มีพลังงานสูง กินล้นกินเกิน และใช้ชีวิตแบบนั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ค่อยออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากสารอาหารมาก และใช้พลังงานในชีวิตประจำวันน้อยลง พลังงานส่วนเกิดก็จะถูกสะสมอยู่ในรูปของเนื้อเยื่อไขมันที่พอกพูนอยู่ในช่องท้อง รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดความผิดปกติอื่น ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง

ไขมันในช่องท้องสามารถหลั่งสารต่าง ๆ ที่มีผลเสียต่อการทำงานของร่างกาย เช่น ทำให้เนื้อเยื่อของร่างกายตอบสนองต่อการทำงานของอินสุลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้น้อยลง ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงขึ้น สารบางชนิดทำให้มีระดับความดันโลหิตสูงขึ้น และยังก่อให้เกิดความผิดปกติอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลให้หลอดเลือดแดงมีโอกาสเกิดการอุดตันจากคราบไขมันที่ไปสะสมอยู่ในหลอดเลือดได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เป็นเมตะบอลิค ซินโดรม คือ ต้องรู้จักการบริโภคอาหารอย่างเหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

กินอย่างฉลาดช่วยได้จ๊ะ

รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม โดยสัดส่วนของอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อควรประกอบด้วย
- ผักครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งหมด
- อีก ¼ เป็นข้าวหรือแป้ง และ ¼ เป็นเนื้อสัตว์หรือโปรตีน ส่วนไขมันนั้นมีอยู่ในอาหารส่วนใหญ่อยู่แล้วจากการประกอบอาหาร

ปริมาณอาหารที่รับประทานขึ้นกับน้ำหนักตัว หากน้ำหนักมากเกินไปก็ต้องลดปริมาณอาหารลง หากน้ำหนักเหมาะสมอยู่แล้ว ก็ต้องรับประทานอาหารให้พอดี เพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงขนมหวาน เครื่องดื่มหวานๆ ลูกอม ช็อคโกแลต ไอศกรีม เค้ก คุกกี้ ขนมอบ ของทอด หรือบริโภคแต่น้อย เนื่องจากเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ทำให้อ้วนได้ง่าย

การออกกำลังกายมีประโยชน์มากในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดน้ำตาล ลดไขมันร้าย ทั้งโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ เพิ่ม HDL ซึ่งเป็นไขมันดี และช่วยลดความดันโลหิต ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง โดยอาจเลือกเล่นกีฬาที่ชอบ เช่น แบดมินตัน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก เดินเร็วหรือวิ่งจ๊อกกิ้ง เป็นต้น

* ผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน อาจเริ่มออกกำลังกาย 5-10 นาทีก่อน แต่เมื่อทำสม่ำเสมอแล้ว จะทำได้นานและหนักขึ้น นอกจากนี้ควรเพิ่มกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยเผาผลาญพลังงาน เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ ทำงานบ้าน ทำสวน เป็นต้น

การรักษา

สำหรับผู้ที่เป็นเมตะบอลิค ซินโดรม การบริโภคอาหารอย่างเหมาะสม และการออกกำลังกาย สามารถช่วยให้ความผิดปกติต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และมีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้ ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องรับการรักษาด้วยยา เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือไขมันในเลือดผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาจะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตามความผิดปกติต่างๆ ที่กล่าวมา เป็นผลมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นการบริโภคอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ตลอดจนลดโอกาสเกิดความพิการและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เมื่ออายุมากขึ้น





ขอบคุณข้อมูลจาก
ผศ.ดร.พญ.มยุรี หอมสนิท
สาขาวิชาคาร์ดิโอเมตะบอลิค ภ.เวชศาสตร์ป้องกันและสังคม
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล




Create Date : 04 เมษายน 2554
Last Update : 4 เมษายน 2554 11:05:20 น. 12 comments
Counter : 801 Pageviews.

 
ไม่อยากอ้วนลงพุง
แต่มันเริ่มกลมๆๆ
แบบไม่ยอมลง อิอิ

แวะมาทักทายสบายดีนะคะ


โดย: Megeroo วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:14:28:06 น.  

 
เพื่อนเิพิ่งทักว่า เราทำ new high ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:20:55:37 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายหลังฝนตกค่ะ ค่อยคลายร้อนขึ้นมานิด มีความสุขและหลับฝันดีนะคะคุณกบ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:21:55:53 น.  

 

อิอิอิ
อุ้มกำลังฮูลาฮุปลงพุงเลยค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:22:39:11 น.  

 
ต้องกลับไปอ่านอีกที
รู้สึกเรากับคนที่บ้านจะเป็นโรคนี้ค่า


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:1:46:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณกบ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:6:07:28 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะคุณกบ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:6:45:49 น.  

 
ต้องปรับปรุงการรับประทานด่วนเลยค่ะ
ผัก 1/2
แป้ง 1/4
เนื้อสัตว์ 1/4
ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: vanilla_ole วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:11:27:36 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ

โหวตให้คุณกบสาขาความรู้ด้วยครับ
อ่านจบ
ผมต้องเตรียมลดพุงโดยด่วนเลยครับ แหะๆๆๆ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 เมษายน 2554 เวลา:6:11:58 น.  

 
..อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่กบ..อ่านแย้วหวาดเสียวจัง..ช่วงนี้รับทานเพียบบ..5555..ฉงฉัยต้องออกกำลังกายมากก่าเดิม อิ อิ ..

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 6 เมษายน 2554 เวลา:7:14:06 น.  

 
หมิงหมิงก็ยังป่วยอยู่นิดนห่อย
มาดามก็แย่ครับ
อากาศเปลี่ยนแบบนี้
ป่วยกันหมดเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 เมษายน 2554 เวลา:7:43:51 น.  

 


โดย: bbandp วันที่: 22 เมษายน 2554 เวลา:2:32:15 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
4 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.