ช่วยด้วย..เลือดออกจากหู
เลือดออกจากหู เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อย ส่วนใหญ่มักพบร่วมกับเลือดออกผิดปกติในอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
สาเหตุของเลือดออกจากหู เกิดจาก
1. สาเหตุเฉพาะที่ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่
- การบาดเจ็บ (trauma) จากการแคะหู เขี่ยหู แกะเกาบริเวณหู การกระทบกระแทกบริเวณใบหู โครงสร้างรอบๆใบหู ช่องหูชั้นนอก เยื่อบุแก้วหู ศีรษะ (เช่น กระดูก Temporal หัก) - การบาดเจ็บของหูชั้นกลาง จากการเปลี่ยนแปลงของความดันบรรยากาศ (อาจมีเลือดออกในหูชั้นกลาง และมีเยื่อบุแก้วหูฉีกขาด) - การบาดเจ็บของหูชั้นนอก ขณะมีการเปลี่ยนแปลงของความดันบรรยากาศ (เช่น ใส่ที่อุดหู หรือมีขี้หูอุดตันจะทำให้เกิดความดันเป็นลบในช่องหูชั้นนอก เกิดการฉีกขาดของเส้นเลือดในหูชั้นนอกได้) - โรคติดเชื้อของช่องหูชั้นนอก หรือหูชั้นกลางอักเสบ บางครั้งการอักเสบทำให้เกิดเนื้อเยื่อจากการอักเสบ (granulation tissue หรือ inflammatory aural polyp) ซึ่งมีสีแดง เนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงมาก, โรคติดเชื้อของเยื่อบุแก้วหู (เยื่อบุแก้วหูอักเสบ) - สิ่งแปลกปลอมในช่องหู - เนื้องอกของใบหู, ช่องหูชั้นนอก หรือหูชั้นกลาง - อาจมีพยาธิสภาพที่อวัยวะอื่น ๆ ทำให้เลือดออก แล้วเลือดอาจไหลเข้ามาในบริเวณหู หรือช่องหูทำให้เข้าใจผิดว่าเลือดออกจากหูได้
2. สาเหตุเกิดจากโรคบางชนิดที่ทำให้กลไกในการห้ามเลือดผิดปกติ ได้แก่
2.1) ความผิดปกติของเกร็ดเลือด (platelet disorder) สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด คือมีจำนวนเกร็ดเลือดต่ำ (thrombocytopenia) ส่วนการที่เกร็ดเลือดทำหน้าที่ผิดปกติ (platelet dysfunction) นั้นพบได้น้อย สาเหตุของจำนวนเกร็ดเลือดต่ำ - โรคเกร็ดเลือดต่ำโดยไม่มีสาเหตุ ( idiopathic thrombocytopenic purpura หรือ ITP) - โรคไขกระดูกฝ่อ (aplastic anemia) - โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว - โรค Histiocytosis-X 2.2) ความผิดปกติของหลอดเลือด ความผิดปกตินี้พบได้ไม่บ่อยนัก ได้แก่ โรค Henöch Schönlein purpura 2.3) ความผิดปกติของปัจจัยการกลายเป็นลิ่มของเลือด ส่วนใหญ่เป็นมาแต่กำเนิด และมักมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อย ได้แก่ โรคฮีโมฟีเลีย
การวินิจฉัย
1. แพทย์จะซักประวัติเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เลือดออก (เช่น การบาดเจ็บต่อหูหรือศีรษะ) มีเลือดออกจากบริเวณส่วนอื่นของร่างกายหรือไม่, มีประวัติเลือดออกง่ายแต่หยุดยากหรือไม่, ในอดีตหรือในครอบครัวผู้ป่วยมีการใช้ยาที่ทำให้กลไกในการห้ามเลือดผิดปกติไปหรือไม่, มีอาการทางหูอื่นหรือไม่ (เช่น ปวดหู มีหนองไหล มีหูอื้อ เสียงดังในหู เวียนศีรษะบ้านหมุนร่วมด้วยหรือไม่)
2. แพทย์จะตรวจหูโดยละเอียด (เช่น ใบหู,โครงสร้างโดยรอบหู, ช่องหูชั้นนอก, เยื่อบุแก้วหู) อาจใช้เครื่องมือดูด (suction) ทำความสะอาดหูและช่องหู ว่ามีรอยถลอก ฉีดขาดของช่องหูชั้นนอกหรือเยื่อบุแก้วหูหรือไม่, และตรวจว่ามีจุดเลือดออก (petechiae) หรือรอยจ้ำเขียว (ecchymosis) ที่อวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกายหรือไม่, มีตับ ม้าม ต่อมน้ำเหลืองโตหรือไม่, มีลักษณะของโรคตับแข็ง (เช่น ตาเหลือง ท้องโต น้ำในช่องท้อง เส้นเลือดบริเวณผนังหน้าท้องโป่งพองหรือไม่
3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจการได้ยินว่ามีการสูญเสียการได้ยินร่วมด้วยหรือไม่, ตรวจหาว่ามีความผิดปกติของกลไกห้ามเลือดหรือไม่, การตรวจหาระดับฮีโมโกลบิน ฮีมาโตคริต:ว่าซีดหรือไม่, จำนวนและลักษณะของเม็ดเลือดขาว:มีมะเร็งของเม็ดเลือดขาวหรือไม่, จำนวนของเกล็ดเลือด:มีเกล็ดเลือดต่ำผิดปกติหรือไม่, หน้าที่ของเกล็ดเลือด:เกล็ดเลือดทำหน้าที่ผิดปกติหรือไม่, การแข็งตัวของเลือด:มีการแข็งตัวช้าและผิดปกติหรือไม่, การตรวจไขกระดูก:มีโรคเลือดที่ผิดปกติหรือไม่
การรักษา
1. ห้ามเลือดให้หยุด ใช้ผ้าก๊อซกดบริเวณที่เลือดออกภายนอก เช่นใบหู (ถ้ามี) หรือทำการเย็บแผล ถ้าเลือดออกจากช่องหูชั้นนอกอาจใส่ผ้าก๊อซที่ทำเป็นเส้นชุบยาห้ามเลือด (เช่น adrenalin) เข้าไปในช่องหูชั้นนอกเพื่อห้ามเลือด ถ้าเกิดจากเนื้องอก หรือเนื้อเยื่อจากการอักเสบ (granulation tissue) อาจใช้ silver nitrate จี้ให้เลือดหยุดได้ นอกจากนั้นควรนอนพัก ยกศีรษะสูง นำน้ำแข็งหรือ cold pack มาประคบบริเวณหน้าผากหรือคอ อมน้ำแข็งเพื่อให้เลือดหยุด การประคบหรืออมน้ำแข็งควรประคบหรืออมประมาณ 10 นาที แล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาที แล้วค่อยประคบหรืออมใหม่เป็นเวลา 10 นาที ทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณหู การออกแรงมาก การเล่นกีฬาที่หักโหม หรือยกของหนัก ภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก เพราะอาจทำให้มีเลือดออกจากหูได้
2. รักษาตามสาเหตุ ที่ทำให้เลือดออกจากหูนั้น
ดังนั้นเมื่อมีเลือดออกจากหู ควรปรึกษาแพทย์ หู คอ จมูก เพื่อหาสาเหตุของเลือดออกจากหูให้แน่นอน.
ขอบคุณข้อมูลจาก //www.si.mahidol.ac.th/ sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=765
Create Date : 05 มกราคม 2554 |
Last Update : 5 มกราคม 2554 9:39:51 น. |
|
16 comments
|
Counter : 5668 Pageviews. |
|
|
|
บัณฑิตมีความไม่เพ่งโทษของผู้อื่นเป็นกำลัง
ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขด้วยเมตตาธรรมตลอดไป..นะคะ
เรื่องเลือดออกไม่ว่าจากอวัยวะส่วนใด
ปอป้าว่า เป็นเรื่องที่น่ากลัว น่าเสียวไส้มาก..ค่ะ