สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
15 โรคไลฟ์สไตล์ ป้องกันได้

ยิ่ง“โลก”พัฒนาไปมากเท่าไร ก็ดูเหมือนว่า“โรคใหม่ๆ”ก็ยิ่งพัฒนามากขึ้นไปเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ แต่ข่าวดีก็คือคุณสามารถป้องกันได้ หากรู้เท่าทัน

เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าคนรุ่นนี้จะมีอายุยืนยาวกว่าคนรุ่นปู่ย่าตายาย หรือพ่อแม่ ซึ่งมักจะเจ็บป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อ แต่ข่าวร้ายก็คือ คนยุคปัจจุบันกลับกำลังเผชิญกับโรคใหม่ๆ ซึ่งเป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากไลฟ์สไตล์ อันหมายถึงวิถีชีวิตที่มีความสะดวก รวดเร็ว ไฮเทค แต่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม แต่ข่าวดีก็คือ เราสามารถป้องกันและควบคุมการเกิดโรคจากไลฟ์สไตล์ได้ หากหันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร และสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 15 โรคอันเกิดจากไลฟ์สไตล์เหล่านี้

1.โรคอ้วน
โรคจากไลฟ์สไตล์ที่สามารถป้องกันได้ง่ายที่สุดของยุคนี้ก็คือ โรคอ้วน ซึ่งมีสาเหตุมากจากการใช้ชีวิตตามอย่างชาวตะวันตกกันทุกฝีก้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานอาหารจานด่วนสารพัดรูปแบบเพื่อความสะดวกและรวดเร็วแทนการทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน หรือการนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์และท่องโลกอินเตอร์เน็ตเป็นชั่วโมงๆ แทนการเล่นกีฬากลางแจ้ง หรือการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งไลฟ์สไตล์แบบนั่งๆ นอนๆ และการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพนี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนยุคนี้มีน้ำหนักมากกว่าส่วนสูงและความแข็งแรง
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ คนอ้วนมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปเป็นเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะกระดูกพรุน และโรคจากไลฟ์สไตล์ชนิดอื่นๆ ด้วยเหตุนี้คุณหมอทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมอเด็กจึงพากันกังวลใจเมื่อพบว่ามีจำนวนเด็กอ้วนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะทำให้เด็กๆ และพ่อแม่รับรู้ถึงความสำคัญของการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่เหมาะสม ด้วยการปฏิบัติตามประโยคที่ทุกคนควรจดจำให้ได้ว่า “กินให้น้อยลง เคลื่อนไหวให้มากขึ้น”
วิธีง่ายๆ ที่จะดูว่าคุณอ้วนหรือเปล่าก็คือ การดูค่าดัชนีมวลกาย (body mass index: BMI) ด้วยสูตรต่อไปนี้ น้ำหนัก(กิโลกรัม)หารด้วยส่วนสูงยกกำลังสอง (กก/ม2) ถ้า BMI ของคุณอยู่ระหว่าง 25-29.9 แสดงว่าคุณมีน้ำหนักตัวมากเกิน แต่ถ้า BMI ของคุณเกิน 30 แสดงว่าคุณเป็นโรคอ้วน BMI ปกติควรอยู่ระหว่าง 18.5-24.9

2. เบาหวาน
คำกล่าวอ้างทางอินเตอร์เน็ตที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์บอกว่า หลังจากมีอุตสาหกรรมน้ำอัดลมเกิดขึ้น จำนวนคนที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ไม่ว่าเราจะเชื่อคำกล่าวอ้างนี้หรือไม่ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าอาหารที่เรารับประทานมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดเบาหวาน นอกเหนือจากสาเหตุของพันธุกรรม และหากผู้ป่วยไม่สามารถคุมเบาหวานได้ก็จะนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างที่เราเรียกว่า เบาหวานขึ้นตา หรืออาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนที่ส่งผลเสียต่อไต เกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท และอาจจะเกิดผื่นที่ผิวหนังด้วย
วิธีการอันดับแรกในการรับมือกับเบาหวานก็คงเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนในเรื่องโภชนาการ โดยหันไปรับประทานอาหารที่ทำให้ค่าดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำ และออกกำลังมากขึ้น เพื่อจะได้เพิ่มการนำน้ำตาลเข้าไปในเซลล์

3. โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ
คุณเคยสงสัยไหมว่า ไขมันในอาหารที่เรารับประทานเข้าไปจะไปอยู่ที่ไหนถ้าไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นพลังงาน คำตอบก็คือไขมันจะไปเกาะอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยบางส่วนก็ไปพอกอยู่ที่พุง ซึ่งทำให้รูปร่างไม่สวย ส่วนที่เหลือ เช่น คอเลสเตอรอลจะไปเกาะอยู่ตามหลอดเลือด และทำให้หลอดเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความดันโลหิตสูง และทำให้ออกซิเจนเข้าเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้น้อย จึงมีโอกาสที่จะเกิดอาการหัวใจวาย หรือทำให้หัวใจขาดเลือด ถ้าคราบพลักที่เกาะอยู่เกิดหลุดออก และไปอุดกั้นทางเดินหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
เช่นเดียวกับโรคจากไลฟ์สไตล์อื่นๆ โรคหลอดเลือดเสื่อมจะเกิดขึ้นจากการที่ไขมันที่บริโภคเข้าไปจับตัวเป็นแผ่นอยู่ที่ด้านในของผนังหลอดเลือด โดยค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ก่อนที่จะแสดงอาการของโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจออกมาในที่สุด

4. ความดันโลหิตสูง
ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุหลักหรือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง แต่ปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่มีต้นเหตุจากการใช้ชีวิตไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น ความอ้วน วิถีชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ ความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์จนเป็นนิสัย ล้วนแล้วแต่เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีอายุมากขึ้น ความดันโลหิตที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้หัวใจเกิดความเครียด อันนำไปสู่อาการกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง และถ้าเป็นที่ไตก็จะทำให้ไตถูกทำลาย

5. ภาวะอ้วนลงพุง
ภาวะอ้วนลงพุงครอบคลุมถึงกลุ่มความผิดปกติหลายๆ อย่าง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือด ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุงก็คือ ความอ้วน ภาวะต้านอินซูลิน ไขมันในเลือดผิดปกติ วิถีชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ ความเครียด และความสูงวัย
องค์การอนามัยโลกให้ข้อมูลว่า การวินิจฉัยความผิดปกติของภาวะอ้วนลงพุงให้ดูที่การปรากฏตัวของโรคเบาหวาน หรือภาวะเสี่ยงก่อนการเป็นเบาหวาน อย่างภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ รวมถึงอาการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 อาการดังต่อไปนี้

- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดผิดปกติ
- มีไขมันพอกรอบๆ เอว
- มีโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะ

6. โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคทางสมองที่เกี่ยวข้องกับการลดลงของออกซิเจนและปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เนื่องจากเส้นเลือดอาจจะถูกขวางกั้น เช่นเดียวกับอาการหัวใจวาย หรือการฉีกขาดของเส้นเลือด ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองก็คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง และการสูบบุหรี่ โดยมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุมากสูงกว่าคนที่มีอายุน้อย

7.โรคไตวายเรื้อรัง
การบาดเจ็บเรื้อรังของไตซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลงมักมีสาเหตุมาจากเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งหากว่าไตทำงานไม่ดีก็จะเป็นเหตุสารพิษที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญอาหารตกค้างสะสมอยู่ภายในร่างกาย โดยอาจจะต้องมีการล้างไตหรือเปลี่ยนไตหากว่าเกิดไตวายระยะสุดท้าย คนที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไตวายเรื้อรัง จึงควรรักษาอาการเจ็บป่วยไม่ให้แย่ลง

8. โรคตับอักเสบเรื้อรัง
การดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานานๆ เป็นสาเหตุให้ตับถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่การเป็นโรคตับแข็ง ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายมากสำหรับตับ และอาจจะทำให้เกิดอาการตับวายในที่สุด

9. โรคมะเร็ง
มีการพิสูจน์แล้วว่าการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เรื้อรังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งประเภทต่างๆ ตั้งแต่กล่องเสียง ทางเดินหายใจ ไปจนถึงหลอดอาหารและกระเพาะปัสสาวะ ขณะที่โรคอ้วนจะเพิ่มปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ในผู้หญิง ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะลดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หากคุณต้องการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และควรหันไปรับประทานอาหารหรืออาหารเสริมที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน และกูลตาไทโอน จะดีกว่า

10. ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
บ่อยครั้งที่การลุกลามของภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง ซึ่งรวมถึงโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและโรคถุงลมโป่งพอง เกิดจากการตีบตันของทางเดินอากาศที่เข้าสู่ปอด ส่งผลให้การหายใจเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยการตีบตันนี้มักจะมาจากการอักเสบเพราะได้รับควันที่มีสารอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งควันบุหรี่ ฉะนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการหยุดสูบบุหรี่ รวมถึงเข้ารับการบำบัดเพื่อให้เลิกสูบบุหรี่ได้อย่างถาวร

11. โรคหอบหืด
แม้ว่าจะไม่ใช่โรคที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์เสียทีเดียว แต่ปัจจัยจากสภาวะแวดล้อมก็ทำให้โรคหอบหืดมีอาการแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว การติดเชื้อ ความเครียด การสูบบุหรี่และมลพิษทางอากาศ วิธีการรับมือกับโรคหอบหืดก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการหอบหืดและการเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่นั่นเอง

12. ภูมิแพ้และโรคผิวหนัง
ในยุคที่ผู้คนหมกมุ่นอยู่กับเรื่องความสวยความงามทางร่างกายมากขึ้น ทำให้คนชอบทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามประเภทต่างๆ อยู่เสมอ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเดินเข้าออกเพื่อรับการรักษาอาการแพ้ที่เกิดขึ้นกับผิวหนังแบบต่างๆ ฉะนั้นเราจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามกันอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ หากไม่มั่นใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่เห็นตามสื่อโฆษณา
นอกจากนี้ความเครียด และนิสัยเสียอื่นๆ เช่น การนอนดึก ก็อาจจะทำให้เกิดสิวอย่างรุนแรง หรือทำให้ผิวหนังเกิดปัญหาอื่นๆ ได้ ขณะที่การปล่อยให้ผิวหนังถูกแสงแดดโดยไม่ปกป้องก็อาจจะทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง

13. ภาวะโภชนาการต่ำ
สิ่งที่ตรงข้ามกับโรคอ้วนก็คือ ภาวะโภชนาการต่ำ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ความยากจนไปจนถึงการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง ภาวะโภชนาการที่ไม่ดีโดยเฉพาะในวัยเด็ก จะนำไปสู่ปัญหาการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดสภาวะเซื่องซึม หรือมีอาการแสดงออกทางผิวหนังและเส้นผม รวมถึงทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุน นอกจากนี้การดื่มสุราเรื้อรังยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ เนื่องจากทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดความบกพร่องในการดูดซึมอาหารและการนำเอาสารอาหารออกมาใช้

14. โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์
โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของสมอง แสดงออกด้วยอาการหลงลืม หรือการสูญเสียความทรงจำ ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคนี้ แต่เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสภาวะแวดล้อม รวมถึงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมองเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การเล่นเกมต่างๆ การเล่นเกมครอสเวิร์ด จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ อีกกิจกรรมที่จะช่วยให้สมองแหลมคมและลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ก็คือ การมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น

15. การใช้ยาเสพติด
การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุความตายที่สามารถป้องกันได้ ด้วยเหตุนี้คนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจึงพยายามต่อต้านการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดโดยพยายามให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ถึงผลเสียต่อสุขภาพของการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ทุกวิถีทาง แต่อย่างที่ทราบว่าเด็กๆ มักจะทำอะไรตามต้นแบบ โดยเฉพาะพ่อแม่ ฉะนั้นถ้าเด็กๆ เติบโตในครอบครัวที่มีสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงมีพ่อแม่ที่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ เด็กๆ ก็จะได้รับอิทธิพลเหล่านั้นไปด้วย พ่อแม่จึงควรปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเสียใหม่ให้เป็นมิตรกับสุขภาพ เพื่อตัวคุณเองและลูกหลาน

6 นิสัยที่ต้องสร้างตั้งแต่เดี๋ยวนี้

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์กำลังเร่งรีบหาวิธีการรักษาโรคจากไลฟ์สไตล์ที่เป็นโรคเรื้อรังหรือเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต เราก็สามารถป้องกันตัวเองจากโรคยุคใหม่เหล่านี้ได้ด้วยวิธีการง่ายๆ 6 อย่างดังต่อไปนี้

รับประทานอาหารอย่างสมดุล เลือกรับประทานอาหารอย่างหลากหลาย และอาหารทุกมื้อควรมีส่วนผสมของทั้งไขมันชนิดดี โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ต่างๆ และใยอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักและผลไม้ซึ่งเป็นแหล่งของสารอาหารที่ดี ควรหลีกเลี่ยงอาหารขยะ อย่างเช่น มันฝรั่งทอด ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ทำจากเนื้อ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดและปอดทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นด้วย และร่างกายที่แข็งแรงยังหมายถึงระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ฉะนั้นหากไม่อยากจ่ายเงินค่าฟิตเนสแพงๆ ก็อาจจะใช้วิธีการเดินเร็วหรือเล่นกับลูกๆ ก็ได้

นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับได้ดีในช่วงกลางคืนทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และได้ชาร์จพลังหลังจากการตรากตรำทำงานมาตลอดทั้งวัน ฉะนั้นควรนอนอย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

เลิกดื่มแอลกอฮอล์และหยุดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น มะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ ขณะที่การดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะหากดื่มมากเกินไปจะส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในอย่างตับและไต

ดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากร้อยละ 70 ของร่างกายคือน้ำ ฉะนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญ และทำให้ร่างกายทำงานได้ตามหน้าที่

ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ บางครั้งร่างกายของเราก็ไม่ได้ส่งสัญญาณว่ากำลังมีอะไรบางอย่างผิดปกติ แม้ว่าเราจะเริ่มมีอาการแล้วก็ตาม ฉะนั้นจึงควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ให้เป็นนิสัย





ข้อมูลจาก
//www.healthtodaythailand.com/



Create Date : 16 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2554 10:34:43 น. 6 comments
Counter : 716 Pageviews.

 
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา
ธรรมทั้งหลาย มีใจนำหน้า

มีความสุขกับใจที่น้อมนำแต่ความดี ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:15:14 น.  

 

ตอนนี้อุ้มก็มาดูแลคุณแม่
ที่กำลังฟอกไตจากโรคเบาหวานค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:05:37 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณกบ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:01:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ

น่าจะเป็นโรคที่มากับความสะดวกสบายไหมคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:13:38 น.  

 
สุทุทฺทสํ สุนิปุณํ ยตฺถ กามนิปาตินํ
วิหญฺญติ จิตฺตวสานุวตฺตี

จิตนั้นเห็นได้แสนยาก ละเอียดอ่อนยิ่งนัก มักตกไปหาอารมณ์ใคร่
ผู้ประพฤติตามอำนาจจิต ย่อมเดือดร้อน

มีความสุขกับจิตที่ไม่กวัดแกว่าง ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:38:14 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะน้องกบ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:29:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.