The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart.
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
13 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Destiny..17

Destiny17.

ก้องตื่นขึ้นมากลางดึก ตาโตกระพริบถี่พยายามปรับภาพ เขามองไปรอบๆ....ที่นี่..โรงพยาบาล..

รู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้น้ำเกลือและยาปฏิชีวนะ ตอนนี้อาการไข้ก็ห่างออกไปแล้ว กระชับผ้าห่มให้แนบกายมากขึ้น อากาศในห้องพักกำลังสบายไม่เย็นมากนักแต่เขาอยากให้ร่างกายอบอุ่นไว้ กลัวไข้จะกลับอีกครั้ง

รู้สึกระคายคอ ก้องไอออกมาเบาๆ คนที่เตียงเล็กขยับตัวเปลี่ยนท่านอนแต่ยังคงไม่ตื่น หยิบแก้วน้ำที่โต๊ะหัวเตียงจิบนิดแล้วค่อยเอนตัวนอนต่อ

ตะแคงตัวนอนมองหน้าคนที่หลับสนิท โคมไฟดวงน้อยหน้าห้องน้ำที่ตั้งใจเปิดทิ้งไว้ก่อนนอนส่องแสงนวลตาทำให้พอจะมองเห็นสีหน้าของพี...ที่ดูอิดโรย นึกสงสารคนตรงหน้าขึ้นมาจับใจ

คนเราจะรู้ซึ้งถึงความรัก ความจริงใจที่มีต่อกัน ก็ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความลำบากหรือเมื่อเจ็บป่วยนี่แหล่ะ เขาโชคดีจริงๆที่มีพีอยู่ใกล้ๆ ไม่เคยแม้สักนาทีเดียวที่คนๆนี้จะปล่อยให้เขาต้องเผชิญกับปัญหาตามลำพัง รับรู้ว่ามีสายตาอบอุ่นที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและเอื้ออาทรทอดมองมายังเขาอยู่เสมอ

ระหว่างป่วยอยู่ที่กระบี่ พีคอยดูแลเอาใจใส่เขาตลอดเวลา ถึงแม้ต้องอดหลับอดนอนเพื่อดูแลเขา แต่ก็ไม่เคยแสดงอาการว่าเบื่อหน่ายกับการที่ต้องตื่นขึ้นมาเช็ดตัวลดไข้ให้แม้ในยามดึกดื่นเลย

และนี่ ...ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาเชื่อมั่นว่า พีรักเขามากจริงๆ

“ถ้าคุณไม่ทิ้งผม...ผมก็จะไม่มีวันทิ้งคุณ...

...เราจะมีกันและกันตลอดไป...ผมสัญญา”

จุมพิตหวานใต้แสงจันทร์พร้อมคำมั่นสัญญาในวันนั้นแวบผ่านเข้ามาในหัวใจของเขา

...ผมเชื่อคุณ...พี..และผมก็มั่นใจว่าคุณจะไม่มีวันทิ้งผม... ผมเชื่ออย่างนั้น...และเชื่อมาตลอด...

สายตาที่จับจ้องไปยังคนที่กำลังหลับอยู่นั้น...อ่านได้ว่ารักมากเหลือเกิน ใบหน้าหวานยิ้มละมุนอย่างมีความสุข

คนตาโตหันกลับมาเหม่อมองที่เพดาน หวนนึกถึงความฝันก่อนหน้านี้...ช่างเป็นฝันที่น่ากลัวเหลือเกิน อยากจะเล่าให้พีฟังแต่ก็เกรงจะถูกว่า...เหลวไหล ..อีกอย่าง...เขาก็อยู่ในแวดวงวิทยาศาสตร์...ไม่อยากเชื่อเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้ เขาอาจจะฝันและเพ้อไปเพราะพิษไข้ก็ได้…

...คิดถึงแม่...อยากเห็นหน้า...อยากได้ยินเสียง... น้ำตารื้นที่ปลายตาสวย...แม่จ๋า...ก้องคิดถึงแม่...

เอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู แต่แล้วก็ต้องตัดใจ..เพราะขณะนี้นาฬิกาบอกเวลาตีสอง ... แม่คงหลับไปนานแล้ว...ไว้ค่อยโทรหาแม่พรุ่งนี้ก็แล้วกัน... มือเรียวปาดน้ำตาออก ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง จากอาการป่วยที่เป็นอยู่และการเดินทางไกลในสภาพร่างกายที่ไม่ปกติ ก้องเข้าสู่ภวังค์และหลับสนิทในเวลาไม่นานนัก
+++
++
+

เพราะสัมผัส...นุ่ม...อุ่น...ที่แก้ม ทำให้รู้สึกตัวตื่นขึ้น แพขนตาหนางอนกระพริบน้อยๆก่อนตาโตจะเปิดออก เมื่อปรับสายตาได้... ภาพคนของหัวใจก็แจ่มชัดอยู่ตรงหน้า... พีรวิชญ์... คนที่ไม่เคยถอยห่างจากเขาได้เลยจริงๆ...

ใบหน้าคมสันที่มักจะมีรอยยิ้มพิมพ์ใจ และสายตาที่พร้อมจะละลายหัวใจเขาได้เสมอ...คนที่สามารถพูดได้เต็มปากว่า..คนของเขา...อบอุ่นในใจเหลือเกิน ...พี...ขอบคุณนะครับที่คุณยังอยู่ตรงนี้...ขอบคุณจริงๆ

พียืนยิ้มกริ่มอยู่ที่ข้างเตียง มือเรียวถูกมืออุ่นกุมไว้แน่น เช้านี้พีดูแจ่มใสแม้ว่าใบหน้าคมคายจะยังมีแววอิดโรย แต่ประกายตาที่วิบวาวนั้นทำให้เขารู้ว่า...พีมีความสุข ปากอิ่มคลี่ยิ้มส่งไปให้

“มีอะไรหรือพี...ปลุกผมแต่เช้าเลย”

“ผมอยากให้คุณตื่นมาใส่บาตรไง เห็นพี่พยาบาลบอกว่า มีพระท่านออกมารับบาตรที่หน้าตึกทุกวันศุกร์.. ”

“ไปกันเลยดีไหมก้อง”พีรีบคะยั้นคะยอให้ก้องลุก

“ขอผมล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะพี”

คนป่วยงัวเงียลุกนั่ง พีรีบเข้ามาประคองพาไปส่งที่ห้องน้ำ แล้วคนหน้าคมก็ทำเป็นเฉไฉไม่ยอมออกมา ได้แต่ยืนอมยิ้มอยู่ใกล้ๆ

“นี่คุณ..ออกไป้ ผมจะทำธุระส่วนตัวนะ”

ปากบางยิ้มน้อยๆ ตาเรียวหรี่ลงแบบคนเจ้าเล่ห์ หน้าใสแดงระเรื่อขึ้นเพราะประกายตากรุ้มกริ่มจากสายตาที่มองต่ำนั้น

“อืมมม ธุระคุณ..ก็เหมือนธุระผม..น่า..ให้ผมช่วยเถอะมือคุณติดน้ำเกลือ..จะไม่ถนัดนะ”

พีขยับเข้าใกล้จนอกเขาเบียดอยู่กับอกของก้อง แล้วมือซุกซนก็คว้าหมับที่สะโพกคนป่วย ก้องร้องเสียงหลงผลักพีออกแล้วรีบปิดประตูห้องน้ำ ทำปากยื่นๆส่งให้ประตู แต่แล้วคนป่วยก็อดยิ้มให้ตัวเองในกระจกไม่ได้

“พีบ้า เฮี้ยวจริงเชียว”

หลังใส่บาตรแล้วพีก็เข็นรถนั่งพาก้องไปชมสวนดอกไม้ที่ข้างๆตึก อากาศวันนี้เย็นสบายคาดว่าคงไม่มีฝนตกลงมาเหมือนทุกวัน

จัดให้เก้าอี้รถเข็นจอดนิ่ง ล็อคล้อแล้วพีก็นั่งลงที่ม้าหินตรงข้ามกัน ภายใต้ซุ้มสร้อยอินทนิลสีม่วงที่ออกดอกสวยแข่งกับแสงแดดอ่อน วันนี้อากาศสดชื่นดีจริงๆ

“ก้อง...คุณรู้ไหมว่าผมอธิฐานอะไรตอนที่พระท่านให้พร”พีเอ่ยขึ้นเบาๆ

ก้องสั่นหน้า ปากอิ่มคลี่ยิ้ม แม้ใบหน้างามจะยังดูซีดเซียว แต่ยังมีแววขี้เล่นอยู่ในดวงตาคู่นั้น

“อืมม..ขอให้โลกสงบสุขเหรอ”

คนป่วยปล่อยหัวเราะเสียงใส

“ฮื่อยย..ก้องอ่ะ”

คนหน้าคมขมวดคิ้วมุ่นทำหน้าตึงส่งตาดุมาให้ …แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร...ปากบางๆนั้นดูจะยิ้มซะมากกว่า

“อื้อ..ไม่แซวแล้วพี...ว่าไงล่ะ..คุณอธิฐานว่าอะไรคร๊าบ”

พียิ้มกว้าง พูดช้าและชัด เสียงทุ้มกังวานน่าฟัง

“ผมขอให้เราสองคน...ผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดี...อย่าให้มีอะไรมาพรากเราจากกัน”

“และขอให้รักของเราคงอยู่ตลอดไป”

...รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่กรุ่นขึ้นในใจอย่างประหลาด แค่เพียงสายตาที่ส่งความปรารถนาดีมาให้ก็สุขใจมากแล้ว..ยิ่งได้ยินคำหวานจากปากคนรัก คำที่ตอกย้ำคำมั่นสัญญา ก้องก็ถึงกับน้ำตารื้น มือเรียวยกขึ้นกุมมือใหญ่ของคนที่อยู่ตรงหน้า บีบเบาๆ ตาโตหวานจ้องมองลึกเข้าไปในตาของพี...

ในดวงตาสีนิลคู่นั้น

...เขาเห็นภาพของตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตานั้น

ยิ้มกว้างก่อนปากอิ่มจะเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงหวานใส ที่ทำให้หัวใจคนฟังแช่มชื่นอย่างเหลือเกิน

“พี...ผมเห็นเงาของตัวเองในดวงตาของคุณ...คุณล่ะ...คุณเห็นอะไรในดวงตาผม”

“เราต่างก็มีกันและกันเสมอนะพี...เราจะไม่มีวันทิ้งกัน...ผมจะไม่ทิ้งคุณ…ได้ยินไหมครับ.”

“แล้วคุณล่ะ...คิดเหมือนผมหรือเปล่า”

พีรวิชญ์ยิ้มทั้งปากและตา รู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมหัวใจเขาไว้ ก้องคนที่เขารักสุดหัวใจอยู่ตรงนี้กำลังบอกความในใจที่แสนจะไพเราะและน่าฟังที่สุดสำหรับเขา คนที่เขาก็เชื่อเสมอว่ารักเขาอย่างสุดหัวใจเหมือนกัน

“....ครับก้อง...เราจะมีกันและกันเสมอ...ขอบคุณมากนะครับ..ขอบคุณเหลือเกิน”

...อยากโอบกอดคนของหัวใจที่กำลังยิ้มหวานอยู่ตรงหน้านัก... หากไม่ติดว่าอยู่ในสวนของโรงพยาบาลนะ แก้มใสๆนั้นไม่รอดจากจมูกโด่งของเขาเป็นแน่

“พี...กลับห้องเถอะ...เดี๋ยวพี่หมอจะมาตรวจแล้ว...ผมจะขอเอาน้ำเกลือออกด้วย”

คนเข็นรถกลับ...อยากเย้าแฟนตัวเองบ้างและเหมือนพีจะนึกอะไรได้ ...ยิ้มโชว์เขี้ยวสวย..อย่างเจ้าเล่ห์นิดๆ

“ก็ดีนะก้อง ไม่รู้ว่าน้ำเกลือ 2 ขวดที่ได้ไปเนี่ย มันทำให้คุณหนักเพิ่มขึ้นหรือเปล่านะ...อืมมทำไมผมเข็นรถไม่ค่อยไหวเลยอ่ะ”

หน้าสวยบึ้งขึ้นนิด ปากอิ่มเม้มนิ่ง ดูเหมือนคนป่วยจะโกรธขึ้นมาจริงๆแล้วนะ

.. ชิ!...พีว่าเขาอ้วนหรือ..

“พอเลยพี...ถ้าคุณเข็นไม่ไหวนะ.. อย่างนั้น..เดี๋ยวตามพี่คนเปลมาเข็น..หรือให้ผมเดินเองก็ได้”

คนที่งอนทำท่าจะลุกขึ้น พีรีบกดไหล่บางไว้ ก้มหน้ามาใกล้ จมูกโด่งลากผ่านแก้มใสแผ่วๆ คนได้กำไรแอบอมยิ้ม แต่คนป่วยที่กำลังโกรธอยู่ยังจับปฏิกิริยานั้นไม่ได้


“โหย...ก้องครับ...อย่าโกรธนะ..ผมล้อเล่น”

พีเข็นรถต่อไปพร้อมปล่อยหัวเราะคิกคักมาตลอดทาง แต่คนบนรถหน้าบูดบอกบุญไม่รับไปแล้ว

เมื่อถึงห้องพัก ก้องรีบลงจากรถเข็นพาตัวเองไปที่เตียงทันที แขวนน้ำเกลือกับเสาได้ก็ยืนกอดอกหันหลังให้คนที่กำลังตามเข้ามา พีอมยิ้มกรุ้มกริ่มเดินเข้ามาใกล้แล้วถือโอกาสโอบเอวบางไว้หลวมๆ ใบหน้าคมซบลงกับบ่าบางกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับและเล็มใบหูนิ่มนั้นก่อนวางจุมพิตที่ซอกคอขาว

ก้องสะดุ้งเล็กน้อย คนตาโตรีบหันกลับมาจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่อง

“พีอ๊ะ!”

“ยังไม่หายโกรธอีกหรือครับ...ที่รัก… ผมล้อเล่นหรอกน่า ...ดูสิ!..เอวออกจะคอดขนาดนี้ “

พูดไม่พูดเปล่ามือซุกซนก็ลูบไล้ตั้งแต่เอวบางเลื่อนไปที่แผ่นหลัง มือของพีส่งผ่านไออุ่นไปยังผิวกายนุ่ม แม้จะมีเนื้อผ้ากั้นไว้ แต่ก้องกลับรู้สึกว่าตัวเขาร้อนผ่าวจากสัมผัสนี้

ดึงก้องให้เข้ามาใกล้อีก คนหน้าคมลูบแก้มใสเบาๆ ก้มหน้าลงมอบจุมพิตให้แด่คนรัก...แผ่วหวาน ก้องหลับตาพริ้ม อดเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของพีไม่ได้ ...เมื่อรู้สึกว่าลิ้นร้อนเริ่มเว้าวอนขอสัมผัสที่มากขึ้นอีก...ก้องรีบดึงสติกลับไม่คิดว่าพีจะกล้า... ใจเต้นโครมคราม หน้าแดงจัด

“อื้อพี...คุณนี่...จริงๆเลย เดี๋ยวพี่พยาบาลเข้ามาเห็นหรอก ปล่อยผมก่อน”

มือเรียวดันอกพีออก ไม่ทันไรก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทิ้งจังหวะเพียงครู่ก่อนที่พยาบาลสาวใหญ่จะเดินเข้ามา เธอยิ้มกว้างให้หนุ่มน้อยหน้าหวานที่ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงแล้ว ขออนุญาตวัดไข้และความดันโลหิต

“ความดันโลหิตปกติค่ะ อื่มรู้สึกว่าชีพจรจะเต้นเร็วไปนิดนึง ไข้ก็ไม่มีแล้ว...ไม่ต้องกังวลนะคะ แต่..เอ..ทำไมดูหน้าแดงๆ”ประโยคหลังเธอพึมพำกับตัวเอง

ตาโตสบสายตากรุ้มกริ่มของคนที่อยู่ปลายเตียงทำให้ก้องหน้าแดงมากขึ้น พีกำลังจะปล่อยหัวเราะ แต่ก้องแอบขึงตาส่งมาให้ พยาบาลสาวยิ้มหวานให้อีกครั้ง แจ้งเวลาที่แพทย์จะเข้ามาตรวจ ก่อนเก็บเครื่องมือแล้วเดินออกไป โดยไม่ลืมที่จะยิ้มทักทายหนุ่มหน้าตาดีอีกคนที่ตอนนี้พยายามกลั้นหัวเราะจนหน้าแดงไปหมดแล้ว

เมื่อประตูปิดลงเสียงหัวเราะก็ออกมาจากปากบางๆนั้นทันที พีหัวเราะจนตัวงอ


“ฮ่า ๆๆ ถ้าพี่เขาเข้ามาช้ากว่านี้อีกนิดนะ ผมว่าความดันโลหิตคุณคงสูงปรี๊ดทีเดียวแหล่ะก้อง ฮ่าๆๆ”

“พีอ่ะ ...พี้! ..หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

คนบนเตียงออกอาการเขินมากกว่าโกรธ แต่ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่มุดหน้าอยู่ในโปง

ฮื่ยยย...พีนี่กวนประสาทจริงๆเชียว

ก้องหลับไปหลังจากทานยาหลังอาหารกลางวันแล้ว พียืนมองคนรักที่นอนหลับตาพริ้มบนเตียง อาการครั่นเนื้อครั่นตัวของก้องค่อยๆลดลงแม้จะดูเหนื่อยอยู่บ้างจากการไอที่ยังมีอยู่เล็กน้อย แต่โดยรวมๆแล้ววันนี้เขารู้สึกว่าก้องสบายตัวมากขึ้นกว่าทุกวัน

ก้มจูบที่หน้าผากคนป่วยก่อนเดินออกจากห้องมา พีแจ้งกับพยาบาลประจำวอร์ดว่าฝากดูแลก้องสัก 2 ชั่วโมงเพราะเขาจะต้องกลับไปเอาเสื้อผ้าที่คอนโดแล้วจะรีบกลับมาทันที

เมื่อถึงคอนโด ฟร้อนท์รีบแจ้งให้พีทราบว่าระหว่างที่พีไม่อยู่พิพัฒน์แวะเวียนมาบ่อยๆและคอยมาถามเรื่องพีว่าไปไหนและจะกลับเมื่อไหร่

“แต่ดิฉันไม่ได้บอกอะไรไปนะคะ บอกเพียงว่าไม่ทราบ คุณพิพัฒน์เธอก็หัวเสียกลับไปค่ะ”

พีพยักหน้าและขอบคุณเบาๆ เขาไม่รู้เลยว่าระหว่างที่ยืนคุยอยู่นั้นมีสายตาภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิทจ้องมองอยู่จากมุมหนึ่งของล๊อปบี้ และถ้าสังเกตให้ดีที่บนอกเสื้อของชายคนนั้นปักสัญลักษณ์บริษัท PAT

ระหว่างอยู่ในลิฟต์ใจเขาร้อนรน ความวิตกกังวลเริ่มกลับมาอีกครั้ง..สิ่งที่เขากลัว...กำลังคืบคลานมาก่อกวนจิตใจอีกแล้ว นี่เขาจะทำอย่างไรดี ..พี่พัฒน์คงไม่ปล่อยเขาไว้แน่...หากรู้ความจริง!

พีจัดกระเป๋าด้วยความรีบร้อนเพราะไม่อยากเจอใครบางคนที่อาจจะมาหาเขาได้ทุกเมื่อ

ติ้งหน่อง!...ติ้งหน่อง!...เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น

พีสะดุ้งสุดตัว ทำอะไรไม่ถูก วางมือจากการเก็บเสื้อผ้าวิ่งจากห้องนอนลงมาส่องที่ช่องตาแมว...

...ก่อนถอนหายใจ...เฮือก..

....ไมค์…

เปิดประตูให้คนตัวโตเข้ามา...ไมค์เดินหมดอาลัยตายอยากไปทิ้งตัวอย่างอ่อนล้าที่โซฟา

“.............”

พีขมวดคิ้วน้อยๆ..เขามัวแต่กังวลกับการป่วยของก้อง จนลืมสังเกตอาการของเพื่อนสนิทไปเหมือนกัน

ใบหน้าคมสันของหนุ่มลูกครึ่งดูหมองคล้ำ คาดว่าขณะนี้ไมค์คงกำลังมีเรื่องยุ่งยากใจบางอย่าง แต่คนปากหนักยังไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา...ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไมค์หมดหนทางและต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ก็จะเอ่ยออกมาเอง เขารู้จักคนตัวโตคนนี้ดี

คนที่เข้มแข็งและเป็นที่ปรึกษาให้แก่เพื่อนๆได้ทุกเรื่องเสมอมา..แต่ตอนนี้ปัญหาที่ไมค์ต้องแก้ให้ตกคงสำคัญอยู่ไม่น้อยถึงทำให้คนที่ยิ้มแย้มและขี้เล่นได้เสมอออกอาการซึมได้ถึงขนาดนี้

“ไมค์..ไปเยี่ยมก้องพร้อมกับผมเลยนะ จัดกระเป๋าอีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

พียิ้ม ตบบ่าแข็งแรงนั้นเบาๆก่อนขึ้นไปเอากระเป๋าบนห้องและทั้งคู่ก็ตรงไปที่โรงพยาบาล
+++
++
+

เสียงหัวเราะหวานใสดังแว่วๆออกมาจากห้องพักหมายเลข 494 ที่หน้าห้องติดป้ายชื่อคุณก้องบดินทร์ บุญรักษา

พีเคาะประตูเบาๆก่อนผลักเข้าไป เห็นก้องกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่เตียงมีจานผลไม้วางอยู่ที่โอเวอร์เบด คนป่วยใช้ส้อมจิ้มชิ้นแอปเปิ้ลเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ตอนนี้ก้องเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น

พยาบาลปลดน้ำเกลือออกแล้ว แต่ยังคงใส่ปลั๊กไว้สำหรับฉีดยาปฏิชีวนะต่อให้ครบตามแผนการรักษาของแพทย์

“หัวเราะอะไรครับ เสียงดังไปถึงข้างนอกเชียว”

พีเดินมาลูบแก้มใสของคนบนเตียงเล่น แล้วถือโอกาสหยิบชิ้นแอปเปิ้ลส่งเข้าปากตัวเองบ้าง ก้องยิ้มน้อยๆยังไม่ทันตอบว่าอะไร คนที่ล้างมือในห้องน้ำก็ออกมาพอดี

“อ้าวนะโม หวัดดีครับ”

พียิ้มกว้าง นะโมยิ้มตอบ ก้มหัวทักทายพีนิดหนึ่ง ก่อนที่หน้าขาวใสจะเจื่อนไป เมื่อตารีเรียวสบกับตาสีฟ้าของคนที่เพิ่งตามมาถึง คนตัวโตออกอาการตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะเจอนะโมในเวลานี้ ได้แต่ยืนเก้กังอยู่หน้าประตูห้องนั่นเอง

ก้องหันไปตามทิศที่นะโมมองอยู่

“ไมค์เหรอครับ...หวัดดีครับ”

ก้องเอ่ยทัก ไมค์เองก็ยิ้มเจื่อนไปเหมือนกัน ก่อนจะเข้ามา ส่งช่อกุหลาบสีส้มสดให้กับคนป่วยที่นอนยิ้มอยู่บนเตียง

“หายป่วยไวๆนะครับ”

“ขอบคุณมากครับไมค์ ไม่น่าต้องลำบากเลย”

ก้องยิ้มดีใจ ไมค์นี่โรแมนติคดีจัง นึกอยากจะงอนคนที่นั่งไม่รู้ไม่ชี้กินแอปเปิ้ลอยู่บนเตียงข้างๆเขาตอนนี้ไม่ได้

ตั้งแต่คบกันมา พีไม่เห็นซื้อดอกไม้ให้ผมบ้างเลย ฮื่อย!

ก้มดมดอกไม้หอมในมือยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพอใจ พีอดหมั่นไส้ท่าทางยินดีจนออกนอกหน้ากับแค่ดอกไม้ช่อเดียวนั้น ไม่ได้ รีบดึงออกจากมือเรียวแล้วเอาไปวางที่โต๊ะข้างเตียง คนหน้าคมส่งสายตามีแววตัดพ้อมาให้

อ้าว!...พี..งอนอีกแล้ว..เฮ้อ!ผมเป็นคนป่วยนะ...คนที่สมควรจะงอนและงอแงน่าจะเป็นผมมากกว่าสิ ก้องปล่อยหัวเราะเบาๆ…ส่ายหน้าน้อยๆกับอาการของพี..

“อื่ม..ก้อง...หมดเวลาพักผมแล้ว ไปก่อนนะ อ้อ..ผมลางานกับพี่แอ้ให้แล้ว ค่ำๆจะเอาใบลามาให้กรอกนะ”

นะโมยิ้มให้ก้องและพีก่อนจะเดินออกไป ขณะผ่านโซฟาตัวยาว สัมผัสได้ว่าคนที่นั่งอยู่กำลังส่งสารอะไรบางอย่างมาให้...ใจเขากระตุก ...เดินตรง...พยายามไม่หันไปมองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น

ปิดประตูแผ่วเบา นะโมเดินช้าๆไปที่ลิฟต์ความจริงยังไม่หมดเวลาพักหรอก... แต่...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ..เพราะก้องกับพีหรือ...เขาเองก็ตอบไม่ได้ ..อาจเป็นเพราะสายตาของใครอีกคน...เขาก็ไม่แน่ใจ...

แต่..เขาอยู่ในห้องนั้นต่อไปไม่ได้อีกแม้เพียงชั่วครู่…รู้สึกราวกับจะหายใจไม่ออก...นะโมถอนหายใจเฮือก

ก่อนจะเอื้อมมือไปกดลิฟต์ มือใหญ่ของใครคนหนึ่งก็ชิงกดซะก่อน นะโมเหลือบมอง

อ่ะไมค์! ...หน้าขาวซีดลงไปเล็กน้อย ใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ....

คนตัวโตเข้าไปในลิฟต์พร้อมกดลิฟต์ค้างไว้ให้ นะโมลังเลนิดก่อนตามเข้าไป ลงลิฟต์มาพร้อมกัน ไมค์กอดอกยืนพิงที่ด้านในสุดของตัวลิฟต์ นะโมหันหลังให้ ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ... รู้ว่าสายตาสีฟ้าคู่นั้น จับจ้องมาที่แผ่นหลังของเขา สายตาคู่นั้น...คู่ที่มองเขาอยู่ตลอดเวลา . ..ทำไมใจเต้นแรงอย่างนี้...

รู้สึกว่าร้อนผ่าวขึ้นมาเฉยๆ เหงื่อเริ่มซึมที่หน้าผาก ระยะเวลาในลิฟต์จากชั้น4ลงมาด้านล่าง...เพียงแค่อึดใจเดียว แต่ทำไมทำให้เขารู้สึกอึดอัดได้มากขนาดนี้

เมื่อออกจากลิฟต์มาได้ รีบเดินตรงไปยังตึกกายภาพบำบัด นะโมใจกระตุกเสียงฝีเท้าใครบางคนกำลังเดินตามเขามา ใกล้เข้ามา...ทุกที...ทุกที

ฮึ! นี่ยังไม่เลิกก่อกวนกันใช่ไหม…ดีล่ะ...เม้มปากจนเป็นเส้นตรงก่อนหันกลับไปเพื่อเอาเรื่องคนชอบตื้อ

“นี่คุณจะตามผมมาอีกทำไม”

เสียงดังเกือบเป็นตวาด...แต่..คนที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ใช่หนุ่มลูกครึ่ง

หมอโอภาส อายุรแพทย์รุ่นพ่อชะงักกับเสียงอันดังนี้ ขยับแว่นหนามองรอดออกมาอย่างพิเคราะห์หนุ่มน้อยนักกายภาพบำบัด

“มีอะไรหรือเปล่าคุณ นภัสกร”

นะโมรีบยกมือไหว้ขอโทษทันที

“เอ้อ..ปะเปล่าครับ ผมต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับ”

อายุรแพทย์พยักหน้ารับไหว้แล้วเดินเลี่ยงออกไป นะโมชะเง้อมอง ที่เห็นอยู่ริบๆนั่น...คนตัวโตกำลังจะเดินไปทางลานจอดรถโน่นแล้ว

บ้าจริง!...ตอนแรกเขาคิดว่าไมค์..จะ ...ชิ!... ก็ดีแล้วนี่นา..

...แต่...รู้สึกใจหายอย่างไรไม่รู้..เอ๊ะ!นะโม..นี่นายเป็นอะไร...

ไมค์เดินมาที่ลานจอดรถ เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตคันงามแล้ว..แต่.. ยังไม่ได้สตาร์ทรถออกไป...เขายังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น..

ในใจของเขาอ่อนล้า...แค่เห็นใบหน้าขาวใสใจเขาก็สั่น ยิ่งนะโมทำสีหน้าเรียบเฉยใส่เขา...นั่นก็แทบจะทำให้เขาหยุดหายใจไปตรงนั้นซะทีเดียว... .นะโม...

...เจ็บปวดกับความผิดที่ไม่อาจลบเลือน...ที่ตัวเขาได้ก่อขึ้น...เขาคือนักโทษประหาร...ไม่มีสิทธิ์อุทรใดๆได้อีกแล้ว...เขาได้หายไปจากความคิดคำนึงของใครบางคนไปแล้ว...ตอนนี้เขาเป็นเพียงอากาศธาตุ...ไม่มีตัวตน…
.
“...หากเธอยังยืนยัน จบกันเพียงแค่นี้
หากมันยังคง ไม่มีวิธี หากเธอนั้นลำบากใจ
หากทนเธอรำคาญ หากถามคงไม่ไหว
หากเธอต้องการจะจากฉันไป จากใจยังรักเธอ

ว่าแล้ว วันนั้นไม่ควรบอกไป
เรื่องความในใจ ที่เธอนั้นคงไม่อยากรู้
ว่าแล้ว ความคุ้นเคยที่มีอยู่
กลับกลายเหมือนคนไม่รู้จักกัน

อยากลืมเธอให้ลง ยังคงอดทนไว้
แต่ความเป็นจริงฉันยังเสียดาย
สิ่งที่แล้วยังจดจำ
อยากลืมเพียงสิ่งเดียว
สิ่งที่ฉันได้บอกเธอวันนั้น
บอกว่าฉันรักเธอ

ว่าแล้ว วันนั้นไม่ควรบอกไป
เรื่องความในใจ ที่เธอนั้นคงไม่อยากรู้
ว่าแล้ว ความคุ้นเคยที่มีอยู่
กลับกลายเหมือนคนไม่รู้จักกัน

ว่าแล้ว วันนั้นไม่ควรบอกไป
เรื่องความในใจ ที่เธอนั้นคงไม่อยากรู้
ว่าแล้ว ความคุ้นเคยที่มีอยู่
กลับกลายเหมือนคนไม่รู้จักกัน

กลับกลายเหมือนคนที่ไม่ไว้ใจกัน
ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนั้น คงไม่บอก…”

คนตัวโตซบหน้าลงกับพวงมาลัยรถอย่างอ่อนแรง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น หยิบขึ้นมาเปิดรับสายอย่างอ่อนล้า

น้ำตากำลังจะไหล..ไม่นะ..เขาไม่เคยอ่อนแอแบบนี้มาก่อน...แต่...แต่ตอนนี้..เขาอยากกลับไปเป็นมิกค์กี้ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆของคุณยายเหลือเกิน

“ครับคุณยาย...ผมกำลังจะไปนะครับ...อยากกอดคุณยายจัง”


++
ขอบคุณเพลงประกอบฟิค...ชื่อเพลง"ว่าแล้ว" โดย ว่าน รัชชุ สุระจรัส
อัลบั้ม: เพลงประกอบภาพยนตร์ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น


+++

ก้องจับพิรุตของไมค์กับนะโมได้ รู้สึกว่าทั้งสองคนมีปฏิกิริยาแปลกๆต่อกัน... ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ..อืม..น่าจะตั้งแต่วันที่เขาป่วย...ที่กระบี่...

ไมค์ถ้าผมดูไม่ผิด คุณคงเทใจให้นะโมไปแล้ว ... แต่ช่วงนี้...นะโมกำลังอยู่ในระยะทำใจ...


เขาเองก็เสียใจมากเหมือนกัน...ที่เป็นต้นเหตุในหลายๆเรื่อง...

การที่เขาไม่เอ่ยอะไรออกไปให้เด็ดขาด...ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมานานแสนนาน...มันทำให้นะโมเสียโอกาสเปิดรับคนดีๆเข้ามาในหัวใจ

แต่เพราะความรักในฐานะเพื่อน มันมากเกินกว่าที่เขาจะทำลายลงไปได้...

..หากเพียงเอ่ยอะไรบางอย่างออกไป…เขากลัว..กลัวจะเสียความรู้สึกดีดีที่มีต่อกัน...

...ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...


แล้วนี่เขาจะช่วยอะไรได้ไหม... เอ...ถ้าก้องบดินทร์จะเป็นพ่อสื่อบ้างก็น่าจะดีนะ..แต่จะต้องทำอย่างไรล่ะ...เพื่อจะให้เพื่อนทั้งสองคนได้สมหวังกัน..

ค่ำแล้วก้องเพิ่งวางหูจากการคุยกับแม่ที่แสนจะคิดถึงเหลือเกิน ระหว่างคุยกัน..แม่ถามว่าเมื่อไหร่ก้องจะกลับบ้าน ในใจเขากระตุกวูบ…

นั่นนะสิ..เมื่อไหร่..เมื่อไหร่ที่เขาจะกล้าพอ..กล้าที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้...

“เอ้อ..แม่จ๋า..พอดีว่าพี่ที่แผนกลาพักร้อนกันหลายคน..ไม่มีคนทำงาน..ก็..ก้องก็เลยต้องอยู่ช่วยต่อน่ะจ้ะ”

แต่เขาตัดสินใจแล้ว สูดหายใจเข้าลึกยาวแล้วค่อยปล่อยหายใจออกแผ่วเบา เอ่ยด้วยเสียงที่พยายามไม่ให้สั่นไปตามสาย

“อีกสัปดาห์เดียวจ้ะแม่...ก้องจะกลับไปอยู่ที่บ้านเรา...แล้วก้องจะไม่ไปไหนอีกเลย...ก้องสัญญานะจ้ะ”

ก้องกำลังยืนใจลอยอยู่ที่ระเบียงห้องพัก พีเดินย่องเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังแล้วถือโอกาสหอมแก้มคนในอ้อมกอดเบาๆ

“ชื่นใจจังครับ”

กระซิบเบาที่ข้างหู ก้องหันกลับมายิ้มน้อยๆให้ ก่อนเดินเลี่ยงเข้าห้องมา

“พี...อีก2วันผมก็คงออกจากโรงพยาบาลได้แล้วแหล่ะ..”

“เพราะพรุ่งนี้ยาฉีดก็ครบโดสแล้วด้วย... ขอให้พี่หมอจัดยาไปทานต่อที่บ้านดีกว่านะพี...ไม่อยากนอนนานๆ”

พีตามเข้ามา ปิดประตูบานเลื่อน ล็อคกลอน รูดม่านสีขาวสะอาดตาแล้วตามคนที่เริ่มหายป่วยมาที่เตียง ก้องกำลังจะนอน ตาสวยเริ่มปรือเพราะความง่วงจากยาที่เพิ่งรับประทานเข้าไป

“เหรอ...คุณหมออนุญาตให้กลับได้แล้วจริงๆนะ...ผมดีใจจัง”

“อยู่ที่โรงพยาบาลนี่...ทำอะไรไม่ค่อยสะดวกเลย”

คนพูดยิ้มกริ่มแต่คิ้วเรียวของคนฟังขมวดมุ่น..คำที่พีพูดออกมามันชวนให้นึกถึงอะไรไปไหนต่อไหน..บ้าจริงๆเลยพี

หน้าสวยแดงระเรื่อ ก้องนิ่งไป เพราะไม่อยากต่อปากอะไรกับพีอีก..มีแต่จะเสียเปรียบกับคนเจ้าเล่ห์คนนี้อยู่เรื่อยไปสิ

“ก้อง ง่วงนอนแล้วเหรอครับ ทำไมนิ่งไปล่ะ”

คนหน้าหวานขึ้นนอน...หลับตาลง...เขากำลังหลบสายตาคมของพีรวิชญ์

..พีก้มลงมาใกล้...ประทับจูบแผ่วเบาที่แก้มใส...อื้ออ.. อย่ามาอยู่ใกล้แบบนี้นะพี..อืมมม

ตาสวยที่ปิดสนิทตอนนี้กลับเกิดอาการที่เรียกว่าหลับตาปี๋ซะแล้ว..หึๆ

พีหัวเราะเบาๆ ปล่อยให้คนบนเตียงได้พักดึงผ้าห่มคลุมร่างบาง ปิดไฟกลางห้อง เดินไปที่โซฟาเบดเอนตัวลงพิงพนักเตียง สีหน้าครุ่นคิด

กลับไปตอนนี้ เขาจะหาทางหลบพี่พัฒน์อย่างไรดีนะ แต่การจะพาก้องตะลอนๆหลบไปอีกนั้นก็คงทำไม่ได้แล้ว เมื่อถึงเวลาต้องเผชิญหน้าเขาก็พร้อมที่จะสู้..เพื่อความรักของเขา…ถึงแม้ว่าหลายๆคนอาจจะมองว่ามันไร้สาระก็ตาม

เขาตัดสินใจแล้ว...อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด ไม่อยากคิดมาก..ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ..หวังว่าพี่พัฒน์คงจะเข้าใจ...นี่เขาจะหวังสูงเกินไปหรือเปล่านะ

หันกลับไปมองคนหน้าหวานที่หลับตาพริ้มอย่างมีความสุขบนเตียง

“ก้องครับ.. .เราจะก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน...

และมันจะผ่านไปด้วยดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ผมจะไม่ทิ้งคุณ...ผมสัญญา..”

คนหน้าสวยเหมือนจะรับรู้ความคิดของเขาได้ ใบหน้านั้นอมยิ้มน้อยๆ คิ้วเรียวที่ขมวดอยู่เมื่อครู่คลายลง พียิ้มมองดูคนรักอย่างไม่อยากละสายตา ...ไม่นานก็หลับสนิทไปด้วยกัน
............tbc..............

ขอบคุณเพลง..รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง..อ๊อฟ ปองศักดิ์



Create Date : 13 กันยายน 2553
Last Update : 10 เมษายน 2554 8:46:18 น. 11 comments
Counter : 670 Pageviews.

 
ชอบจังเลยค่ะ หวานมากอ่ะ ชอบให้พีหอมแก้มก้องบ่อย ๆ คิดว่าแก้มก้องคงทั้งนุ่มทั้งหอมเลย..

ดอดไม้ก็ต้องเป็นสีส้มนะคะเนี่ย....

เห็นลาง ๆ ตอนต่อไปคงเศร้าแน่ ๆ น้องก้องบอกแม่เป็นลางซะขนาดนั้น

ก้องจะกลับไปอยู่ที่บ้านเรา...แล้วก้องจะไม่ไปไหนอีกเลย...ก้องสัญญานะจ้ะ

แต่ขอบคุณนะคะ อุตสาห์ยืดเวลาความสุขออกมาให้คนอ่าน...ตอนต่อไปจะเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้นะคะ


โดย: polla IP: 203.157.152.1 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:11:42:13 น.  

 
ซาบซึ้งจริงๆค่า พี่ดา ชอบตอนนี้มากๆ มันไม่มีอะไรวี้ดวิ้วเเต่ไม่รู้ทำไมมันชอบมากเลยค่า รู้สึกได้ว่าคู่นี้รักเเละห่วงใยกันจริงๆ

ขอบคุณพี่ดามากค่า


โดย: แป้งค่า IP: 61.90.94.176 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:12:18:51 น.  

 
อย่างที่คุณพีบอกก้องค่ะพี่ดา ." เราจะก้าวผ่านช่วงเวลาลำบากไปด้วยกัน " อ่านตอนนี้จบ บอกไม่ถูกนะ รู้สึกว่าพร้อมแล้วที่จะเจอทุกเหตุการณ์ อาจจะเป็นเพราะรู้สึกได้ว่าทั้งสองคนรักกันมากพอแล้วมั้ง คงเหมือนกับคนเราที่ว่าถ้ารักกันแล้วก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว อีกอย่างก็คือถ้าไม่ผ่านตอนนั้น(ตอนที่ไม่อยากให้มี) ก็ไม่ถึงตอนตายายซักที


โดย: aumaum IP: 61.47.31.49 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:14:48:51 น.  

 
อยากบอกคุณน้องดาว่า หวาน จังค่ะ ถึงไม่โฮกกก
ไม่แอร๊ยยยยย แต่ก็รู้สึกถึงความรักและความห่วงใย
ที่ทั้งพีและก้องมีให้แก่กัน แต่ตอนหน้าคงจะดราม่า
แล้วใช่ไหมคะ ต้องเตรียมฝ้าเช็ดหน้าแล้วสิเนี่ย ฮือฮือส่วนคู่ของนะโมกับไมค์ ก็ลุ้นเหมือนกันนะคะ
อย่าให้นะโมงอนไมค์นานนะ สงสารไมค์อ่ะ ออกจะ
รักนะโมเหลือเกิน ให้สมหวังกันอีกคู่ไวไวนะคะ
จะรอตอนต่อไปค่ะ



โดย: keadean1@smile IP: 61.90.103.127 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:16:24:47 น.  

 
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกดีอ่ะ ชอบไปกับความหวาน ความน่ารักของพี-ก้อง รักแท้ต้องช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรค
ตอนหน้าจะ drama แล้วใช่ม้าย

เอาใจช่วยไมค์ให้นะโมใจอ่อนเร็วๆ แต่สงสัยงานนี้จะมี คิวปิดหลายคนมาช่วยให้ ทั้งคู่สมหวังเร็วๆ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ


โดย: tipjang วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:18:39:20 น.  

 
พีขยับเข้าใกล้จนอกเขาเบียดอยู่กับอกของก้อง แล้วมือซุกซนก็คว้าหมับที่สะโพกคนป่วย ก้องร้องเสียงหลงผลักพีออกแล้วรีบปิดประตูห้องน้ำ ทำปากยื่นๆส่งให้ประตู แต่แล้วคนป่วยก็อดยิ้มให้ตัวเองในกระจกไม่ได้ /// แอร๊ยยย นี่ขนาดป่วยน๊า พี่พียังไม่อยากละเว้น กร๊ากกก


พีเดินมาลูบแก้มใสของคนบนเตียงเล่น /// ชอบจังเล่นตลอดเวลาอ่า อยากมีแฟนแบบเน้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คู่นะโมก็ทำรวดร้าวรานใจ งื้ดดดดดดดดดดด สงสารไมค์กี้จังคร่า

======================

พี่ดาแต่งเก่งขึ้นทุกวันเลยนะคะ แบบว่าอ่านไหลลื่น กริยาของก้องพี เป็นเหมือนคู่รักที่น่าอิจฉาจริง

ส่วนของนะโมกับไมค์ อ่านไปหนูก็ปวดใจไป

ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆค่า ^^


โดย: แจ๊ค (หมูน้อยแก้มใส) IP: 124.157.211.45 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:21:23:14 น.  

 
ชอบความรักของพีก้องจังเลยพี่ดา ตอนนี้หวาน ห่วงใยซึ่งกันและกัน ความรักความผูกพัน ทำให้ทั้งสองต้องฝ่าฟันไปได้แน่ๆเลยเนาะ ตอนนี้หน้าหนูจะเตรียมน้ำตาไว้เยอะๆ แต่ถึงไม่ได้เตรียม
หนูก็รู้ว่า หนูเสียน้ำตาให้ทุกตอนเลยอะ ทั้งดีใจ เสียใจ ซาบซึ้งใจ ขอบคุณแม่ดา ที่เขียนฟิคดีๆให้ได้อ่านทุกตอนเลย

ปล. ตอนหน้าจะส่งแรงใจแรงเชียร์ไปช่วยไมค์ง้อนะโมอีกแรงหนึ่งนะค่ะ


โดย: ว่าที่ IP: 113.53.106.129 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:21:23:17 น.  

 
อิ่มใจจังเลยเหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยง
หัวใจที่เหี่ยวเฉาให้มีความสุข
ถึงในชีวิตนี้ยังหาความรักแท้ไม่เจอ
แต่ว่าเจอแล้วใน fic นี้
ถึงตอนหน้าจะเจอเรื่องราวร้าย ๆ แต่ขอ
ให้แทรกเรื่องราวกุ๊กกิ๊กให้นิดหน่อยก็ยังดีน๊ะคะ


โดย: เสือน้อย IP: 58.9.142.126 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:21:51:32 น.  

 
โฮะๆๆๆๆๆๆ คุณพีรวิชญ์หวานไม่แคร์สื่อ หื่นไม่แคร์สถานที่ ...กี๊สสสสสสสสสสสสสส ถูกใจๆๆๆๆๆ
เป็นความเมตตาโดยแท้ที่น้องดาจัดซีนหวานๆมาให้ก่อน การรับประทานมาม่าชามโต ... ขอบใจจ้า

ส่วนไมค์นั้น .... สู้ต่อไป ... ดาเคชิ 55555 มันจะขำอารายยยก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน เอิ้กกกกกกกก รู้แต่ว่า ... ไมค์ของอิชั้นจิตตก หงอยรับประทาน ความเหงาเข้าครอบครอง ... ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ .. คงต้องรอคอยกามเทพก้องน้อยปราณียิงศรรักให้ซะแล้วววว

นะโม ... ตอนเค้าอยู่ก็ไม่อยากเห็นหน้า พอเค้าหายไปก็ ..."ใจหาย" ... ความรักไม่มีคำจำกัดความตายตัว แปรผันไปเรื่อยๆ สัมผัสได้ด้วยหัวใจเท่านั้น
กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก เน่าตัวเองชมัดเลย

ขอบใจน้องดานะจ๊ะ จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ


โดย: อดีตนักเดินทาง วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:14:35:26 น.  

 
พี่ดาขาาาาา ตอนนี้หวานจังเลยค่า หนูชอบบบบ อิ อิ

เย้ๆๆ ในที่สุด นะโมก็เริ่มหวั่นไหวแล้ว แต่สงสารไมค์จังอ่ะ

อยากเห็นน้องก้องเป็นพ่อสื่อให้คู่ของนะโมกะไมค์จังเรยค่ะ

มาต่อเร็วๆนะคะ


โดย: hunny IP: 27.55.106.226 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:19:08:15 น.  

 
แอบเข้าอ่านนานแล้ว ขอชมจากใจ คุณดา สุดยอดมาก ซึ้งกับคำทุกคำ ที่ถ่ายทอดออกมา ความรักคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตจริงๆ ไม่ว่าจะรักในรูบแบบไหนก็ตาม ขอเป็นแฟนคลับคุณดา ติดตามอ่านไปเรื่อยๆ นะคะ รัก ก้อง พี มากมาย


โดย: someone IP: 110.49.193.13 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:20:06:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

womam in love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




...อยากให้รัก...หมุนรอบตัวฉันและเธอ...ตลอดไป..
http://i485.photobucket.com/albums/rr213/yamiejung16/ui20.gif
New Comments
Friends' blogs
[Add womam in love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.