The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart.
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
Destiny 20

ก้องนั่งจมจ่อมกับความคิดของตัวเองอยู่ที่เก้าอี้สนามตามลำพังนานแล้ว พี่ตุ่มเดินเอาของว่างมาให้แต่ก้องไม่นึกอยากทานอะไรเลย ตอนนี้เขาสับสนไม่รู้จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรดี นับต่อจากนี้ไป...โลกของเขาจะถูกปิดลง…

เขากำลังจะมองไม่เห็น ดวงตากำลังจะมืดมิด เขาจะกลายเป็นคนตาบอด เป็นภาระให้กับทุกคน

พี..ผมจะทำอย่างไร...ผม...ผมรักคุณนะพี..ผมรักคุณ…

ตาโตสวยปิดลงพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลริน...ไม่มีเสียงสะอื้น..ไม่มีการฟูมฟาย..มีแต่ความเงียบเท่านั้น

ก้องเงียบงันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคนเป็นแม่มาพาขึ้นนอน ก้องจึงยอมเดินตามการจูงมือของแม่..รับรู้ได้ว่าทุกคนในบ้านเป็นทุกข์...เพราะเขา.. ..บ้านทั้งบ้านเงียบ..มีแต่เสียงสะอื้นเศร้าเบาๆ...

“นอนหลับซะนะก้อง...พรุ่งนี้จะได้สดชื่น”

แม่ฟองลูบผมนิ่มของลูกชายคนเดียวอย่างเบามือ จูบที่แก้มซ้ายขวาอย่างแสนรัก

พยายามฝืนยิ้มด้วยความยากเย็น กอดแม่ไว้แน่น หน้าสวยซุกอยู่กับอกอุ่นของแม่ฟอง

“แม่จ๋า...ก้องไม่เป็นอะไร...แม่ไม่ต้องห่วง...ก้องรู้แล้วว่าก้องจะทำอย่างไรต่อไป...ก้องรักแม่นะจ๊ะ”

ดึกมากแล้วหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาอีกครั้ง..ตี 4 เข็มนาฬิกาเดินอย่างมั่นคงรักษาหน้าที่ได้ดี..เวลาเป็นสิ่งมีค่า...ทุกคนต่างต้องการเวลา..แต่สำหรับเขา...เวลาอาจไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว...

คนไม่มีอนาคตอย่างเขา..จะต้องการเวลาไปทำไม...ต่อไปนี้จะต้องใช้ชีวิตอย่างไรยังไม่รู้เลย..ใช่...เขาไม่มีอะไรเหลือแล้ว..หมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง ...ชีวิตคงอับเฉาสิ้นดี..


“หลับซะก้อง..พรุ่งนี้...พรุ่งนี้จะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น..มั่นคงกับการตัดสินใจซะสิ...นี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว”
กว่าก้องจะข่มตาให้หลับลงได้ก็ใกล้รุ่งเต็มทน…เขาตื่นสาย...ทำให้เช้านี้เขาพลาดการไปทำบุญกับแม่..แต่ก็ดีแล้ว..วันนี้...เวลานี้...ปลอดคนแบบนี้...ดีที่สุดแล้ว

เสียงรถยนต์ที่แสนคุ้นหูดังอยู่ที่หน้าบ้าน ก้องรีบเดินออกมาดู ใช่คนที่เขารอจริงๆ..พี..

เจ้าของรถดับเครื่องแล้วเดินฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดี กำลังคิดแผนการร้ายอยู่ในใจ ..อยากจะแกล้งคนหน้าสวยเล่นสักหน่อย...


“หึๆ!อยากรู้นักว่าก้องจะแก้ตัวอย่างไรเรื่องที่ไม่ยอมไปดูหนังเมื่อวาน...จะงอนสักนิดให้ก้องง้อดีไหมน้า..หุ ๆ”

เมื่อผ่านประตูรั้วเข้ามาก็ต้องยิ้มกว้างเพราะคนที่เขาอยากพบมากที่สุด ยืนรออยู่ที่หน้าบ้านนั่นแล้ว พียิ้มร่า รีบเข้ามาหา แววตาขี้เล่นฉายแววกรุ้มกริ่มตามแบบฉบับพีรวิชญ์

“ไงครับ..คุณก้อง..เมื่อวานนี้คุณเบี้ยวนัดผมนะ ไม่ยอมไปดูหนังแถมโทรมาก็ไม่รับสายอีก..มีอะไรจะแก้ตัวไหม”

พีแกล้งทำเป็นงอน ปากบางยื่นน้อยๆ กอดอกรอฟังคำแก้ตัว..แต่...คนหน้าหวานไม่รับมุข..สีหน้าก้องเป็นกังวลอย่างปิดไม่มิด แถมยังหลบสายตาเขาอีกด้วย คนอยากแกล้งก็ต้องรีบเปลี่ยนใจ เสียงใสเบาลงพยายามหาสาเหตุการหมองหม่นจากใบหน้านั้น

“ก้อง...คุณเป็นอะไร”

มือใหญ่เอื้อมมาหวังเชยคางคนรัก ก้องปัดมือนั้นออกแทบจะทันที เบี่ยงตัวหลบจากการชิดใกล้ ตากลมโตไหวระริก ปากอิ่มเม้มนิ่งเหมือนช่างใจอะไรอยู่ครู่หนึ่ง...ก่อนตัดสินใจพูดบางประโยคออกมา

“พี...ต่อไปคุณไม่ต้องมาที่นี่อีก…”

พูดออกไปแล้วใจก็กระตุก..สีหน้าคนฟังตกใจกับคำพูดของเขามาก..พี..ผมขอโทษ..รีบหันหน้าเดินหนี เพราะกลัวจะปล่อยสะอื้นแต่ถูกมือใหญ่ของพีรั้งข้อมือเรียวไว้

“เดี๋ยว ก้องนี่มันอะไร...หมายความว่าไง”

ผมไม่เข้าใจ.......นี่ก้องเป็นอะไรไปแล้ว...หรือก้องบดินทร์ที่รักของผมจะไม่สบาย


สะบัดหลุดจากการเกาะกุมของพี ฝืนใจกล่าวประโยคที่ทำร้ายทั้งหัวใจคนพูดและคนฟังออกไปอีก..ในใจเจ็บช้ำเหลือเกิน..เข้มแข็งไว้ก้อง..เข้มแข็งไว้..อย่าร้องไห้

“ก็หมายความว่า... เราเลิกกันเถอะพี...เรื่องของเราที่ผ่านมาให้มันจบลงแค่นี้..พี่แก้วพูดถูกทุกอย่าง..เราไม่ควรคบกัน”

“ว่าไงนะก้อง...นี่..นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือไง”

ความโกรธแล่นขึ้นมาอย่างหยุดไว้ไม่ได้....เล่นแรงไปแล้วก้อง..อยู่ๆมาบอกว่าให้เลิกกัน.. คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ..ไม่ยอม..ผมไม่ยอม!!!..

“ถ้าผมจะบ้า ก็คงเพราะจากสมองของผมกระทบกระเทือน จากการโดนรถชนนั่นแหละ วันนี้ผมรอดมาได้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ผมจะถูกทำร้ายอีก..พี่ชายคุณน่ากลัวจริงๆ...พี..ผมทนคบกับคุณต่อไปไม่ได้แล้ว..ผมไม่อยากตาย”

เจ็บเหลือเกินก้อง..ทำไมคุณพูดแบบนี้..คำที่ว่า...เราจะไม่แยกจากกัน...สัญญาใต้แสงจันทร์ในคืนนั้นคุณลืมแล้วหรือ..พยายามข่มอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนั้นไว้...ก้องอาจจะยังสับสนเพราะเพิ่งหายป่วย..ใจเย็นๆพี..

“ก้อง.. ก้องฟังผม...ถ้าเป็นเรื่องพี่พัฒน์ผมรับรองว่าจะไม่ให้เขามาทำร้ายคุณได้อีก..เชื่อผม...ใจเย็นก่อนนะ...”

พูดไปก็พยายามรั้งร่างบางให้ชิดใกล้..หากได้กอดให้ก้องสงบสติอารมณ์..ได้ปลอบประโลมให้สบายใจ เรื่องร้ายที่กำลังเกิดนี้ก็คงดีขึ้น..แต่...ก้องพยายามถอยหนีเขาตลอด...ไม่ยอมให้พีถูกเนื้อต้องตัวได้เลย..ทำไม..ทำไมก้องแสดงอาการรังเกียจเขาอย่างนี้..ไม่นะก้อง..คุณอย่าเปลี่ยนไป

“ครั้งที่แล้วคุณก็พูดแบบนี้...พีผมไม่เห็นคุณทำอะไรได้เลย....ดูสิ!คุณปล่อยให้ผมนอนจมกองเลือด อยู่กลางถนน..ตาผม...ตะ..ตาผมเกือบจะบอด...ชีวิตผมคงฝากไว้กับคุณไม่ได้แล้วล่ะพี..คุณกลับไปเถอะ”

คว้าไหล่บางไว้ได้..รั้งให้ก้องแนบชิด..กอดก้องไว้กับอก..ความอบอุ่นที่ส่งมอบไปทำให้ใจก้องบดินทร์สั่นไหว..อย่าทำอย่างนี้นะพี...อย่า...

“ก้อง...ผมขอโทษ..ผมสัญญาว่าครั้งต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก..ก้องเชื่อผม”

มือใหญ่ลูบผมนิ่มคนในอ้อมกอดอย่างสุดรัก เสียงแหบพร่าที่พร่ำบอกว่าขอโทษทำให้ใจก้องอ่อนยวบ…แขนเรียวเกือบจะยกกอดตอบคนของหัวใจ..แต่..ก้องพยายามดึงสตินั้นไว้..ไม่นะก้อง..ไม่.... อย่าฉุดรั้งพีไว้อีกเลย...พีต้องเจอคนที่ดีกว่านี้...ไม่ใช่คนตาบอดอย่างเรา..ผมรักคุณนะพี..รักคุณมาก...มากซะจนทำให้ผมต้องทำแบบนี้

“ไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้วพี...โอกาสของคุณหมดแล้ว..”

ผลักใสคนที่กอดเขาไว้ออกไปอย่างสุดแรง..รีบหันหลังจะกลับเข้าบ้าน.. แต่..ก้องเซถลาล้มลง..จากการที่จอประสาทตาดับมืดลงทันที...โธ่..ทำไมต้องมาเกิดอาการตอนนี้ด้วย...ไม่อยากให้พีรู้ว่าเขาเป็นอะไร

“ก้อง..นี่คุณไม่สบายใช่ไหม..ไปโรงพยาบาลเถอะนะ”

พียังตามมาอีก...ก้องหันกลับมาตอนนี้ภาพตรงหน้าชัดขึ้นแล้ว..สีหน้าห่วงใยและแววตาอาทรนั้น...ไม่..จะยอมให้พี..ดึงดันอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้...ขอโทษด้วยพี..ที่ผมต้องทำอย่างนี้..

“ไม่ต้องมายุ่ง...น่ารำคาญจริง..นี่คุณจะไม่ยอมไปดีๆใช่ไหม..อ่ะได้”

ก้องวิ่งไปคว้าสายฉีดน้ำออกมาฉีดไล่พี ผลักดันขับไล่ไสส่ง ยื้อแย่งสายฉีดน้ำจนเปียกปอนด้วยกันทั้งคู่..

“ไป๊ออกไป...ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ”

กระชากสายยางจากมือเรียวได้พีก็ขว้างออกไปอย่างโมโหสุดขีด..ตาเรียวตวัดวาบจ้องหน้าคนไม่มีเหตุผลอย่างไม่วางตา..

“ก้อง! หยุดก่อนได้ไหม...นี่มันอะไรกัน..ห๊า!..ผมงงไปหมดแล้ว”

ระเบิดอารมณ์อย่างสุดจะกลั้น พีหันไปทุบรั้วดังปัง..มือใหญ่ถูกเหล็กแหลมจากประตู้รั้วครูด...เลือดออกซิบ...เจ็บ...แต่ที่ใจมันเจ็บกว่าหลายเท่านัก…

ก้องคุณเป็นอะไรไป..ความรักความห่วงใยที่เคยมีต่อกัน..มันจางหายไปไหน...ไม่สามารถเกาะเกี่ยวเราสองคนไว้ได้อีกแล้วหรือ..ทำไม..ทำไมเป็นแบบนี้...ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

“เอาเถอะ..ถึงพูดกันวันนี้ก็คงไม่รู้เรื่อง รอให้คุณอารมณ์ดีกว่านี้แล้วเราค่อยคุยกัน...”

หันหลังจะเดินออกไปแต่ไม่วายกลับมาเอ่ยบอกคนที่ยืนเปียกปอนอยู่ตรงหน้า แวบหนึ่งเหมือนพีจะเห็นหยาดน้ำใสไหลรินจากตาโตคู่นั้น..ก้อง…

“ตัวคุณเปียกหมดแล้ว...รีบเข้าบ้านไปเช็ดตัวเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย”

ร่างบางสั่นอย่างควบคุมไว้ไม่ได้...ปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง พี..ผมขอโทษ..ผมขอโทษ…แทบทรงตัวไม่อยู่เมื่อเห็นพีหันหลังเดินจากไป...

...เขาไปแล้ว...พีไปแล้ว...ก้องพีเขาไปแล้ว..ก็ดีแล้วนี่..นายทำถูกแล้วก้อง...แบบนี้แหล่ะดีที่สุดแล้ว...

ก้องทรุดตัวลงอย่างหมดแรงเมื่อเล็คซัสคันงามแล่นลับสายตา ปล่อยสะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้น..พี่ตุ่มที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นรีบวิ่งเข้ามาคว้าร่างบางของน้องชายคนเล็กกอดไว้แนบอก

“พี่ตุ่ม...ที่ก้องทำอย่างนี้มันถูกแล้วใช่ไหม...ก้องทำถูกแล้วใช่ไหม”

ปล่อยสะอื้นออกมาอย่างหนัก..หัวใจของก้องบดินทร์แตกสลาย...ไม่มีเสียงตอบจากปากของพี่ตุ่มมีเพียงหยาดน้ำตาและเสียงสะอื้นกับการกอดรัดและลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจเขา...เท่านั้น...

ก้องบดินทร์..นายทำถูกแล้วใช่ไหม?..การตัดสินใจครั้งนี้ถูกต้องแล้วหรือ?...คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของก้อง.....พี..อย่าไป..ไม่อย่ารั้งเขาไว้...ก้องนายมันคนไม่มีอนาคต..ปล่อยเขาไป...ไม่..พีอย่าไป...พีอย่าปล่อยมือผม...

อ๊ะ!! เจ็บเหลือเกิน...เจ็บที่ใจนี้

โอ๊ย!!..ปวดเหลือเกิน...ที่ดวงตา... เหมือนร่างของก้องบดินทร์ขาดการควบคุมไว้ได้อีกต่อไป....สติดับวูบ...ก้องหมดสติในอ้อมกอดของพี่ตุ่ม

“น้องก้อง..น้องก้อง!!!เป็นอะไรคะ…ว๊าย!!เลือด”
.
.
“คุณหมอครับ ผมมีเรื่องปรึกษา เรื่องคนไข้ที่ชื่อก้องบดินทร์”
.
ขอบคุณเพลงประกอบฟิค(ความรู้สึกของก้อง) ความรักบังตา โรสศิรินทิพย์





ที่คอนโดหรูกลางใจเมือง...พีรวิชญ์ยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง...ตึกสูงทำให้มองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล สุดลูกหูลูกตา ลมเย็นยามบ่ายพัดมาปะทะใบหน้าคมสันที่ตอนนี้ดูหมองเศร้า...ปล่อยใจลอยนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา

หลังจากที่ถูกก้องตัดสัมพันธ์เขาก็แทบไม่เป็นผู้เป็นคน ทำอะไรไม่ได้เลย แต่เพราะพี่พัฒน์กับพี่ปัทม์เกิดเรื่อง...ก็จากความไม่มั่นคงในรักเดียวของพี่พัฒน์...ความเจ้าชู้หลายใจ..ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่นี้ขึ้น...เศร้าใจเหลือเกิน..

เสร็จจากงานศพพี่ปัทม์และหนูนิ่มแล้วเขาก็ต้องแวะเวียนไปเป็นธุระเรื่องหาพยาบาลพิเศษมาดูแลพี่พัฒน์ที่เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงอกลงไป..พี่พัฒน์คงต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แต่ในโรงพยาบาลเท่านั้น....เวรกรรมจริงๆ...

แต่เรื่องยุ่งๆก็ทำให้เขาลืมใบหน้าหวานซึ้งของบางคนไปได้ชั่วขณะ

จิบน้ำสีอำพันในแก้วทรงเตี้ยลงคอไป หวังจะให้นำพาอารมณ์ของเขาให้ครึกครื้นขึ้น...อยากลืมเรื่องที่ทะเลาะกับก้อง..เฮ้อ..ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วนะไม่มีโทรศัพท์จากก้องเข้ามาเลย..

ชิ!!นี่เขาเป็นคนผิดหรือไงนะ..จะต้องให้เป็นคนง้อก่อนทุกทีหรือ....เฮ้อ..แต่ครั้งนี้มันร้ายแรงกว่าทุกครั้ง..เพราะหัวข้อเรื่อง...คือการขอเลิกจากก้องบดินทร์

ถอนใจบ่อยๆโลกจะร้อนนะไอ้พี..ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเถอะ..แต่ใจหนึ่งก็อยากไปหาก้อง...อยากเห็นคนหน้าสวยเหลือเกิน..ตอนนี้ก้องจะเป็นอย่างไร..จะสบายดีไหม...จะคิดถึงผมไหม..


เสียงริงค์โทนดังขึ้นขัดจังหวะการคิดเรื่อยเปื่อยของพี ใจเต้นแรงอย่างระงับไว้ไม่อยู่..ก้อง..คุณใช่ไหม..รีบเดินคว้ามือถือขึ้นมาดู เมื่อรู้ว่าเป็นใคร ก็ทำหน้าเจื่อนก่อนจะกรอกเสียงไปตามสายแบบเซ็งๆ

“ว่าไงไมค์”

“แหม..ทำเสียงเหมือนคนเบื่อโลกซะงั้น..ว่างไหมคืนนี้ไปดินเนอร์กันนะผมเลี้ยงเอง”

ไมค์บอกเวลาและสถานที่ให้พีรู้..ไม่ต้องรอการตัดสินใจอะไรมากนัก พีตอบตกลงทันที..ก็ดีเหมือนกัน..ดีกว่าอยู่คนเดียวแบบนี้..

วางแก้วในมือบนเคาว์เตอร์บาร์ มือใหญ่ลูบหน้าตัวเองช้าๆเลยไปตบเบาๆที่ท้ายทอย เดินเซื่องซึมเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเพื่อเรียกความสดชื่นคืนมา..แต่มันก็คงได้เพียงแค่ร่างกายเท่านั้น..

ในใจหาความสดชื่นแจ่มใสไม่ได้อีกเลย..หลังจากวันนั้น..วันที่คนเสมือนเป็นแสงสว่างในชีวิตเดินจากไป...ในใจเหมือนมืดบอดเสมอมา..ก้องครับ..ผมลืมคุณไม่ได้...

“เฮ้ยพี..ตื่นๆ..เดินไหวไหมนี่”

ไมค์ตบเบาๆที่ใบหน้าคมคายเพื่อเรียกสติของพี แต่ดูเหมือนพีจะไม่สามารถครองสติตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว คนตัวโตต้องหิ้วปีกเพื่อนรักเข้าลิฟต์ขึ้นมาส่งที่ห้อง...ส่ายหัวกับอาการของคนในอ้อมแขน..คนที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่ถูกปราบซะราบคาบไปแล้ว..

“ก้อง... ผมคิดถึงคุณ...ก้อง..อย่า...ทิ้ง..ผม..ไป”

คนบนเตียงรำพึงรำพัน ตั้งแต่ถูกก้องบอกเลิกพีก็เมาหัวราน้ำแบบนี้บ่อยๆ..เฮ้อ..ก้องแบบนี้ดีจริงหรือ..ผมไม่เข้าใจ..ไมค์ขยับผ้าห่มให้เพื่อนรัก ช่างใจอยู่ว่าจะกลับไปหรือค้างที่นี่ดี

แต่เสียงริงค์โทนดังขึ้นซะก่อน ใครกันนะโทรมาดึกป่านนี้...แต่แล้วหนุ่มลูกครึ่งก็ยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อรู้ว่าคนโทรเข้าคือ

“ครับนะโม..หือผมอยู่ที่คอนโดนายพี..อืมมว่ามาได้เลย..เอ๋...อ๊ะ!อะไรนะ..ใครบอกคุณ...บ้าน่า..เดี๋ยวสินะโม..อย่าเพิ่งวาง...เฮ้ย!นะโม”

คนโทรเข้าพูดเองเออเองเสร็จสรรพแล้วรีบวางหูไป เพราะท้ายประโยคที่สั่นเครือนั้นทำให้เขาต้องรีบกดโทรกลับไปทันที...แต่..ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก... เสยผมที่ปรกหน้าขึ้นลวกๆอย่างหงุดหงิด

“บ้าชิ!”

ไมค์ลังเลนิดก่อนจะปิดไฟและรีบออกจากห้องของพี ปล่อยให้คนเมารักรำพึงรำพันเรียก...ก้อง..ก้อง..อยู่อย่างนั้น

พีตื่นขึ้นกลางดึก...ใจกระตุกวูบ..กลัว..เขาเกิดอาการกลัวความมืดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ มือใหญ่เอื้อมเปิดโคมหัวเตียง แสงนวลๆทำให้ห้องไม่มืดเกินไป...พยายามดันตัวเองลุกนั่ง ...เฮ้อ.. ปวดหัวจัง..

ลุกเดินไป ล้างหน้าล้างตาแล้วก็กลับมาที่เตียงอีกครั้ง...ยืนมองทางด้านซ้ายมือของเตียง ที่ ๆ ครั้งหนึ่งคนตัวนิ่มเคยนอนอยู่...ภาพของก้องที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนผุดขึ้นมาในความคิด พียิ้มน้อยๆ ช่วงเวลานั้นช่างอบอุ่นและมีความสุขเหลือเกิน จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะกลับมารักกันอีกครั้ง..ก้องครับผมรักคุณ..ผมลืมคุณไม่ได้..แล้วคุณล่ะ..คุณลืมผมไปแล้วหรือยัง

เดินออกไปที่ระเบียง ความมืดที่มีเพียงแสงวับแวมจากไฟฟ้าตามถนนและตึกสูงบางตึก ทำให้ใจเขาไม่เหงาเกินไป ดีกว่าอยู่ในห้องที่เงียบเย็นและว้าเหว่เหลือเกินนั้น

“เพิ่งรู้กลางคืนเงียบงัน และทำให้ใจคนทั้งคนสั่นได้สักเท่าไร

ฉันเห็นเรื่องราวทุกตอน ภาพเธอวันนั้น มันเฝ้าคอยหลอนย้อนมาทำร้าย

เปิดไฟทุกดวงไว้ แต่ข่มหัวใจไม่ได้ ความเข้มแข็งอยู่ไหนไม่ชอบที่เป็นแบบนี้

กลัวความมืดทุกครั้งไม่กล้าหลับตา นับตั้งแต่เธอเลิกรา อ่อนแอทุกนาที

ไม่รู้อีกกี่คืนต้องเป็นอย่างนี้ อยากรู้สึกดี ช่วยฉันสักทีกลับมาได้ไหม

ทุกนาทีที่เดินรู้ไหมว่าใครอ้างว้างเหลือเกินนอนหลับไม่ไหว

ทุกครั้งก็ยังไม่ชินลึกๆยังหวังให้เธอได้ยินเสียงคนใจสลาย”


ขอบคุณเพลงประกอบฟิค..(ความรู้สึกของพี)กลัวความมืด..ดิว เดอะสตาร์


+++
++
+
เช้าวันนี้นะโมลาพักผ่อนกะทันหัน เขายอมโดนพี่แอ้บ่นเพราะรู้ว่าถึงจะมาทำงานแต่เขาก็คงไม่มีสมาธิทำอะไรได้... อีกอย่าง...ตาเขาบวม... เพราะเผลอปล่อยสะอื้นเมื่อคืนนี้ จะให้ไปทำงานทั้งๆที่ตาบวมแบบนี้คงต้องตอบคำถามเพื่อนร่วมงานกันวุ่นวายแน่ๆ

เฮ้อ..ตอนนี้ในใจของเขาสับสน เมื่อรู้ข่าวว่า คุณมิ้นท์นักจิตวิทยาคนสวยคนนั้น...กำลังจะหมั้น...ก็จะกับใครได้อีกล่ะถ้าไม่ใช่...ไมค์.ชิ!

เห็นพี่แอ้คุยอยู่เมื่อวานว่าต้องรีบเตรียมหาชุดไปงานแต่งด้วย...มันเจ็บแปลบในใจอย่างบอกไม่ถูก ฮึ!จะเจ็บทำไมนะโม..ก็นายเองไม่ใช่หรือที่ตัดเยื่อใยกับเขาก่อนนี่นา

ช่างเถอะ..คนใจง่าย พูดคำว่ารักออกมาง่ายๆแบบนั้นได้ เขาก็คงไม่ได้สนใจอะไรเรามากมายนักหรอก..ลืมซะเถอะนะโม คนของนายไม่มีหรอก ไม่มีจริงๆ

นึกถึงเรื่องที่โทรไปหาไมค์เมื่อคืนขึ้นมา... ช่างน่าอายจริงๆนะโมเอ๋ย...

“ไมค์..คุณอยู่ที่ไหน อ้อ ...ว่างพอจะคุยสักหน่อยไหม อืมมได้ข่าวว่าคุณจะหมั้นแล้ว ดีใจด้วยนะ ....อย่าลืมเชิญผมด้วยล่ะ ช่วงนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ ถ้ามีเรื่องดีๆ เข้ามาบ้างก็ดีนะ แค่นี้แหละ... เอ้อ... ขอบคุณมากนะสำหรับสิ่งดีดีที่เคยมอบให้แก่กัน ลาก่อน”

“...เพราะฉันโง่เองใช่ไหม...ที่เสียเธอวันนั้น

เธอเป็นดังเพชรในมือที่ฉันนั้นได้ทำหล่นหาย

หากย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้อย่างใจ ...

ก็คงไม่ต้องมีใคร เข้ามาแทนที่กัน

จะเสียดายซักเท่าไหร่ ก็รู้ว่ามันสายไป

เมื่อไหร่ที่มองเห็นเธอกับเขา ก็ยังปวดร้าว

เป็นแค่เพียง วูบหนึ่งในใจ ที่คิดจะไปแย่งเธอคืนมา

ฉันคงทำได้แค่เพียงแต่ในความคิด

เพียงแค่คิดก็ผิดเกินไป ฉันจะทำได้ลงยังไง มันจบแล้ว

บอกตัวเองหันหลัง แล้วเดินจากเขาซะที

เพราะฉันโง่เองที่พูดคำนั้น...ว่าจบกัน

ทั้งๆที่ฉันพูดไปไม่ได้หมายความอย่างนั้น

คอยย้ำตัวเองว่ามันจบแล้วระหว่างเรา

ก็อย่าเหนี่ยวรั้งอะไร เพราะฉันนั้นมันผิดเอง...”

+++ขอบคุณเพลงประกอบฟิค..เพียงวูบหนึ่ง..มิ้น อรรถวดี


น้ำตาปริ่มที่ปลายตาเรียวอีกครั้ง ...นะโมนายเป็นอะไรไป…นี่นายกำลังหึงคนตัวโตคนนั้นหรือ บ้าน่า...เขาไม่ใช่คนของนาย จำไว้..นายไม่มีสิทธิอะไรในตัวเขาเลย..แม้แต่ในความคิด

...ว้าวุ่นใจเหลือเกิน คว้าลูกบาสเกตบอลติดมือมา เดินมาที่ร้านอาหารเล็กๆของครอบครัวที่แม่ดูแลอยู่

“แม่ครับ โมไปโรงยิมนะ ไม่ต้องรอทานกลางวันนะครับ”

ในโรงยิม..เงียบและว่างเปล่า คงเพราะวันนี้เป็นวันพุธ วันที่ทุกคนกำลังคร่ำเคร่งกับการสะสางงานกลางสัปดาห์ ไม่มีใครอยู่เลย ดีเหมือนกัน...เงียบดี...อยากออกกำลังให้เหนื่อยเพื่อจะได้ลืมเรื่องไม่เป็นเรื่องนี่เสียที

นะโมอยู่ที่เส้น3 คะแนน ยืนหลับตาตั้งสมาธิสักครู่ก่อนตาเรียวจะลืมขึ้น จ้องห่วงตรงหน้าเขม็ง ปล่อยลูกบาสในมือออกไป ลูกกลมๆลอยขึ้นสูงแล้วโค้งลงห่วงอย่างสวยงาม

“เยส! 3 คะแนน ฮ่าๆๆ”

นะโมอุทานออกมาหน้าใสมีรอยยิ้ม อารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว วิ่งชู๊ตบาสอยู่คนเดียว สร้างมโนภาพถึงคู่ต่อสู้หลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว แล้วปล่อยลูกกลมๆออกไป ไม่เคยพลาดเลยสักครั้งเดียว เหงื่อเม็ดโตผุดพราย

เฮ้อ..สบายจัง เหงื่อออกแบบนี้ดีจริงๆ ดีกว่าเสียน้ำตาเป็นไหนๆ บ้าจริง!!คิดเรื่องนั้นอีกแล้ว นะโมเอ๋ย หยุดคิด..ปล่อยลูกกลมในมือออกไปที่เส้นสามคะแนน แล้วก็ไม่พลาดอีกตามเคย ไม่เสียแรงที่เป็นนักบาสฯทีมเยาวชนนะ อมยิ้มน้อยๆ กับผลงานของตัวเอง

“Nice shoot”

อ๊ะ!ใครกันรีบหันหลังกลับมา หน้าใสเผือดสีลงไปทันที

“ไมค์”

เสียงเบาแทบไม่ได้ยินออกจากปากบางนั้นเลย หนุ่มลูกครึ่งเดินยิ้มเข้ามาใกล้ ก้าวยาวๆไม่กี่ก้าวก็มายืนตรงหน้าเขาแล้ว มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงไว้

“ไง ..โดดงานมาเล่นบาสซะอย่างนั้น...หึ”

ตั้งใจก้มหน้ามาใกล้ นะโมรีบหันหน้าหนี ใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับไมค์ตอนนี้เลย ก็ยังไม่ได้เตรียมใจจะแก้ตัวเรื่องเมื่อคืนเลยนี่ บ้าจริงอยู่ๆไมค์ก็มายืนตรงนี้ซะแล้ว

“ให้ผมเล่นด้วยคนสิ ไม่ได้เล่นบาสฯมานานแล้วนะ ผมนี่ก็ฝีมือไม่เป็นรองใครนะครับ”

ตอนนี้ไมค์ถอดเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่ออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวเพียงตัวเดียว ส่วนกางเกงคาร์โก้สีน้ำเงินเข้มตัวหลวมกับรองเท้าผ้าใบคู่นั้นก็ดูจะไม่เป็นอุปสรรคในการเล่นมากนัก

“ว่าไง...กล้ารับคำท้าผมไหม..หรือว่ากลัว..”

หรี่ตามองแบบประเมินคนหน้าใสตรงหน้า..ปากบางสีชมพูจางนั้นเม้มจนเป็นเส้นตรง เพราะความโกรธที่แล่นขึ้นจากการถูกสบประมาท

“ก็ลองดูสิ อยากรู้เหมือนกัน...ว่าคุณจะแน่แค่ไหน”

ตกลงกติกากันแล้วไมค์ก็ยื่นมือออกไปให้นะโมสัมผัส..แต่คนหน้าใสกลับตบมือนั้นแทน..ชิ!

หึๆๆ ไมค์อมยิ้มน้อยๆ นะโมไม่ทันสังเกตหรอกว่าตาสีฟ้ามีประกายวูบวาบอย่างประหลาด

บอลจากมือนะโมลอยโด่งก่อนลงไปในห่วงอย่างสวยงาม

“เยส! 3 คะแนนเห็นๆ”

คนหน้าใสดีใจ หันไปยักคิ้วเชิดหน้าใส่คนตัวโต ที่ตอนนี้เหงื่อเม็ดเป้งผุดอยู่เต็มหน้า หึๆ กล้าท้าดีนักไม่รู้จักตัวเยาวชนทีมชาติซะแล้ว

นะโมพาลูกบอลเข้าตรงหัวกะโหลกคราวนี้เขากะจะเล่นลูกใต้แป้นที่แสนถนัด แต่ไม่ได้ จุดนี้ไมค์การ์ดอย่างหนาแน่น เขาตัวใหญ่กว่าเรามาก...ถ้าบุกคงไม่ไหว ต้องใช้ลูกยิงไกลน่าจะปลอดภัยที่สุด

นะโม พาลูกบอลออกห่างจากใต้แป้นมาแล้ว บ้าจริงเหลือเวลาไม่กี่วินาทีต้องปล่อยลูกแล้ว ไม่รู้ตัวเลยว่าเชือกที่ผูกรองเท้าหลุดลุ่ย โดดลอยตัวขึ้นปล่อยลูกบอลในมือออกไปอย่างสวยงาม...แต่ไมค์กระโดดปัดลูกนี้ไว้ได้...บ้าจริงเชียว!!!.. นะโมรีบพุ่งตัวออกไปหวังคว้าลูกบอลไว้ให้ได้ แต่เขาเหยียบเชือกผูกรองเท้าตัวเองซะแล้ว

“เฮ้ย!!นะโมระวัง”

ใจหายวูบ เขากำลังจะล้มคว่ำหน้าลงแล้ว ทำอะไรไม่ได้..ได้แต่หลับตาปี๋ยกมือปิดหน้าไว้ เตรียมใจรับการกระแทกอย่างแรง

“อ๊ะ!”

“โครมมม!!”

เสียงกระแทกกับพื้นดังสนั่น แต่ ...ทำไมไม่เจ็บเลย ... ทำไม... นะโมรู้สึกว่าเขาล้มทับใครคนหนึ่งอยู่ พอลืมตาขึ้น นะโมก็เห็นเสื้อกล้ามสีขาวที่ชุ่มเหงื่อลอยอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง

“ไมค์”

ดันตัวขึ้นเท้าแขนคร่อมร่างที่เขาทับอยู่ มองหน้าคนที่นอนนิ่ง ..บ้าน่า! ทำไมเงียบไปอย่างนี้ มือเรียวตบหน้าคนที่อยู่ข้างใต้เบาๆ

“ไมค์ เฮ้!ไมค์... อย่าเงียบอย่างนี้สิ ตื่นสิ..ไมค์..ไมค์!!!”

แต่..ใบหน้าหนุ่มลูกครึ่งยังคงสงบนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายใดๆเลย... หรือว่า...ศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรงได้รับความกระทบกระเทือน!..มือเรียวลูบคลำไปทั่วเพื่อหาจุดบาดเจ็บ.....ไม่มีอะไรบาดเจ็บ ... แต่...ทำไม.. .ไม่นะไม่

สุดท้ายนะโมก้มเอาหูแนบกับอกของไมค์ นี่ไง!เสียงหัวใจยังเต้นอยู่เลย ...ตะ..แต่...แต่ทำไมรู้สึกว่าจังหวะการเต้นมันถี่ขึ้นนะ

“อ๊ะ!...หรือว่า..จะ”

กว่านะโมจะรู้ตัวว่าตกหลุมพรางก็สายไปเสียแล้ววงแขนของไมค์กอดรัดร่างเขาให้แนบชิดกับอกกว้าง นะโมหน้าเสีย ตกใจไม่คิดว่าไมค์จะกล้าใช้แผนนี้กับเขา

“ฮื่ออ..ปล่อย ... ปล่อยสิ”

พยายามขืนร่างไว้แต่สู้แรงกอดรัดจากคนตัวโตไม่ไหว นะโมก็เสียหลักล้มลงอีก ใบหน้าซบกับอกอุ่นนั้นอีกครั้ง แต่ยังไม่วายจะดิ้น..

“นะโม..นิ่งก่อนสิ...ขอผมอยู่แบบนี้สักครู่ได้ไหม นะครับ รับรองว่าไม่มีอะไรมากกว่านี้แน่นอน”

นะโมช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง ถึงแม้จะไม่อยากอ่อนข้อแต่ดูเหมือนเขาไม่มีทางเลี่ยงได้เลยต่างหากล่ะ ชิ!คนฉวยโอกาส

แต่การได้นอนซบอกอุ่นๆอยู่แบบนี้ ก็รู้สึกดีเหมือนกัน บ้าน่า ทำไมเหมือนได้ยินเสียงหัวใจไมค์เต้นเป็นจังหวะเดียวกันกับเขานะ

คนที่นอนซบบนตัวเขาหยุดดิ้นแล้ว ไมค์หลับตาลงรู้สึกอุ่นในใจอย่างประหลาด แค่ได้กอดนะโมไว้แบบนี้เขาก็สุขใจมากแล้ว เพราะรู้ว่านะโมเองก็ยังสับสนอยู่มาก..แถมยังจะเรื่องที่เข้าใจผิดเมื่อคืนนี้อีกล่ะ..การที่สงบลงได้แบบนี้ก็น่าจะมีเค้ารางที่ดีจะได้อธิบายอะไรให้เข้าใจมากขึ้น

“ฮ่าๆๆพี่มิ้นท์น่ะลูกพี่ลูกน้องผมต่างหากล่ะแล้วคนที่พี่มิ้นท์จะหมั้นก็ไม่ใช่ผมด้วย...พี่มิ้นท์เขามีแฟนที่คบกันมาตั้ง 5 ปีแล้วคร๊าบบบคุณนะโม”

ไมค์ส่งเสียงหัวเราะดังพร้อมกับอธิบายให้นะโมฟัง ตอนนี้คนหน้าใสแก้มแดงระเรื่อ ไม่ใช่จากการออกแรงเล่นบาสเกตบอลจนเหนื่อยอย่างเดียวหรอก...แต่ที่แน่ๆเขาอายมากที่เข้าใจไมค์ผิดและทึกทักเอาเองอีกแล้ว...ดูสิตาสีฟ้านั่นก็จะวิบวาวอะไรกันนักหนา

ปากบางเม้มแน่น...มันน่าขำนักหรือไงกัน ดูเถอะ หัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลซะงั้น

“ผมกลับล่ะ”

นะโมลุกขึ้นหยิบลูกบาสฯมาถือไว้ กำลังจะก้าวขาออกเดินแต่ข้อมือของเขาก็ถูกไมค์รั้งไว้

“นะโมเดี๋ยวก่อน”

“นี่จะขำอะไรผมอีกล่ะ”

หันมาตามเสียงเรียกด้วยสีหน้าที่ระอาเต็มทน ตารีเรียวสบตาสีฟ้าที่เว้าวอนนั้นอย่างจัง บ้านะโม ใจสั่นทำไมกัน

ไมค์รั้งข้อมือดึงให้นะโมเข้ามาใกล้ จังหวะนั้นเองเขาเคลื่อนริมฝีปากประทับจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากชมพูจางนั้นอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณครับนะโม ผมรักคุณนะ ”

ไมค์กระซิบเบาที่ข้างหู เหมือนต้องมนต์สะกดนะโมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ปล่อยลูกบาสกลิ้งออกไปเมื่อไหร่ไม่รู้..รู้แต่ว่าตอนนี้มือเรียวนั้นอยู่ที่อกคนตัวโตแล้ว เมื่อได้สติดันฝ่ามือผลักไมค์ออกห่าง

“ไหนว่าไม่มีอะไรเกินเลยไง คนฉวยโอกาสเชื่อไม่ได้สักครั้ง”

“นี่คุณยังไม่เชื่อว่าผมรักคุณอีกหรือ”

นะโมหน้าแดง ตาแดง ขอบตาร้อนผ่าว เห็นเราเป็นอะไร ชอบแกล้งแบบนี้เรื่อยเลย หึ..นะโมวิ่งออกจากโรงยิมไปอย่างรวดเร็ว ไม่อยากให้ไมค์เห็นน้ำตาของเขา

อ๊ะ! เมื่อกี้ไมค์พูดว่าอะไรนะ ..รักหรือ? ..คนบ้า!...พูดพร่ำเพรื่อ..หาจริงสักครั้งได้ไหมเนี่ย

“อ้าว นะโม..นะโม..เดี๋ยว..ฮื้อออ”

ไมค์ยืนงง เกาหัวแกรก..นี่เขาทำอะไรผิดอีกแล้วหรือ ส่ายหัวเบากับอาการต่อต้านของนะโมที่กลับมาอีกแล้ว ..เมื่อไหร่นะโมจะรู้ใจตัวเองสักทีนะ..เดินไปหยิบลูกบาสที่กลิ้งไปหยุดอยู่ที่ใต้แป้น หยิบขึ้นมาตบลงพื้นช้าๆ..ก่อนจะโดดหมุนตัวขึ้นดั้งค์ลูกลงห่วงไป เพื่อปลดปล่อยความกลัดกลุ้ม

เฮ้อ..ต้องทำอย่างไรคุณถึงจะเชื่อใจผมนะ…นะโม..
+++
ขอบคุณเพลง ถ้าหากไม่รัก -โรส ศิรินทิพย์



กลับจากโรงพยาบาลหลังการผ่าตัดครั้งที่สอง ก้องยังคงซึมเซา การที่เขาตัดสัมพันธ์กับพีไปมันทำให้เขาทรมานใจมาก และพีเองก็คงโกรธเขามากด้วย

นึกถึงครั้งที่พีมาที่บ้าน ...พีคาดคั้นจะรู้ให้ได้ว่าเขาไปที่สนามแข่งรถทำไม..โธ่พี..อยากจะรู้เหลือเกินหรือไงว่าผม...จะตาบอด...ผมไปเพราะอยากจะเห็นหน้าคุณเป็นครั้งสุดท้าย...ก่อนที่ผมจะมองอะไรไม่เห็นอีก...อยากรู้แบบนี้หรือพี…

แค่นี้ผมก็ทุกข์ทรมานมากพอแล้ว...หากคุณรู้ความจริง..คุณคงเสียใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผมแน่...เพราะผมรู้ไงว่าคุณจะไม่มีวันทิ้งผมไป ผมถึงต้องทำแบบนี้...ให้คุณเข้าใจว่าผมเกลียดคุณน่ะดีแล้ว

นี่ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วนะหลังจากเรื่องร้ายๆในครอบครัวผ่านไป ทุกอย่างกำลังจะเข้ารูปเข้ารอย พี่แก้วกับพี่ปอก็ใกล้จะสมหวังในรักแล้ว..ก้องดีใจกับพี่แก้วนะครับ..

มือเรียวปาดน้ำตาออกไป..บ้าจริงอยู่ๆตาก็แสบตาขึ้นมาอีกแล้ว....อา...แสบตาจัง..มือเรียวควานไปที่โต๊ะตรงหน้า หวังหยิบหลอดยาหยอดตา...แต่พลาด...เขาปัดหลอดยากลิ้งตกลงไปแล้ว

อ๊ะ!บ้าจริง..อยู่ไหนนะ ก้องลุกนั่งลงช้าๆพยายามควานมือไปบนพื้น...ไม่เจอ..ทำไงดีตอนนี้ไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย..แย่จัง..น่าสมเพสที่สุด ปล่อยหัวเราะเบาเยาะเย้ยตัวเอง

“ก้อง..หาอะไรอยู่เหรอ”

ปอจับแขนพยุงก้องให้ลุกนั่งที่เก้าอี้สนามตามเดิม ยิ้มน้อยๆกับใบหน้าหวานที่ตอนนี้ดูซูบไปมาก

“พี่ปอ..ก้องทำหลอดยาหยอดตาตกพื้น..แล้วก็หาไม่เจอ..คนตาบอดนี่ช่างน่าสมเพสจริงนะครับ”

ตาสวยมองเหม่อไปอีกด้าน ปอส่ายหัวไม่อยากให้ก้องพูดทำร้ายจิตใจตัวเองแบบนี้เลย เอื้อมมือมาจับมือก้องวางหลอดยาหยอดตาลงในมือ

“เข้มแข็งไว้นะก้อง...พี่เชื่อว่าสักวันก้องจะต้องมองเห็น...ความรักที่ก้องมอบให้กับทุกคนจะส่งผลให้ก้องพบแต่สิ่งที่ดี…เชื่อพี่นะ”

คิ้วเรียวขมวดมุ่น ก้องไม่เข้าใจที่พี่ปอพูดนัก..ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้วหลังจากที่เขาสลบไปเพราะเลือดออกที่กระจกตาและคุณหมอต้องผ่าตัดซ่อมกระจกตาใหม่อีกครั้ง…เขาสัมผัสได้ว่าคนทั้งบ้านต่างดีอกดีใจกับการผ่าตัดครั้งนี้เหลือเกิน..แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น..ตาเขายังมองไม่เห็นเหมือนเดิม

“.ฮึ!..คงไม่สามารถมองเห็นได้อีกหรอกครับพี่ปอ..ปาฏิหาริย์ ไม่มีจริงหรอก...แต่ก้องก็ต้องขอบคุณนะครับ...ที่ทุกคนหวังดีกับก้อง..

ขอโทษด้วยที่ครั้งหนึ่งก้องเคยโกรธพี่มาก...ทั้งเรื่องพี่กิ่งและเรื่องที่พี่ทำให้พี่แก้วเสียใจ..ก้องขอโทษ”

ปากอิ่มเม้มแน่นกลั้นสะอื้น..พยายามลุกขึ้นยืน ตอนนี้เขาอยากพักผ่อนแล้ว..ก้องเซไปนิด แต่แล้วก็รู้สึกได้ว่าตัวเองถูกโอบจากทางด้านหลัง...ใครกัน..ทำไมให้ความรู้สึกเหมือนใครสักคนหนึ่งเหลือเกิน..คนที่ใจโหยหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...คนนั้น..พีรวิชญ์

“ใครน่ะ..ใคร”

พยายามเบี่ยงตัวออกจากการถูกโอบ ปากอิ่มเม้มอย่างถูกขัดใจที่ใครคนนั้นไม่ตอบคำถาม ตั้งแต่ก้องมองไม่เห็น อารมณ์ก้องก็ขึ้นๆลงๆมาตลอด

“ผมถามว่าใคร..พี่ปอ..ใครครับ”

ก้องหงุดหงิดคิ้วเรียวผูกเป็นปม ตาโตกวาดมองไปทั่ว...แต่..เขามองไม่เห็น...

“ก้อง..นี่คือนายศักดิ์คนที่แม่จ้างมาดูแลก้องนะลูก...ต่อไปนี้ศักดิ์จะเป็นคนมาดูแลก้องนะ”

“ไม่เห็นต้องจ้างใครเลยจ๊ะแม่..ก้องดูแลตัวเองได้...ก้องจะเข้าบ้านแล้ว”

แค่เพียงเดินออกไปก้าวเดียวเขาก็สะดุดแล้ว ดีที่นายศักดิ์อะไรที่แม่ว่า เข้าถึงตัวเขาได้เร็วมือใหญ่คว้าเอวเขาไว้ได้ก่อนที่จะล้มลงไป

“ขอบคุณครับ..เอ่อ..ศักดิ์”

ก้องยิ้มเจื่อนที่ตัวเองเสียฟอร์ม ก้องไม่รู้หรอกว่า ทั้งแม่ พี่แก้วและพี่ปอ กำลังส่งกำลังแรงใจให้กับคนที่ประครองเขาอยู่...คนที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าคือใคร

++++tbc+++




Create Date : 04 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 30 ธันวาคม 2553 8:33:33 น. 11 comments
Counter : 606 Pageviews.

 
เเงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จบเดสทินีเเล้วใช่ไหมคะ เนื้อเรื่องตอนต่อ คือ series 5 ใช่เปล่าคะ เเต่เนาะ คู่นะโม ยังไม่จบนี่หน่า
ฃฮ่าๆๆ แป้งคาดว่ายังไงต้องมี destiny 21 .ใช่ไหมคะ


นะโมน่ารัก ก้องน่าสงสาร พีน่าปล้ำ เอ้ยย ผิดโหมด พีหน้าเห็นใจ มิคกี้ น่าดีใจแทน จะสมหวังเเล้ววว

ขอบคุณพี่ดามากๆค่า


โดย: แป้ง โยคีหลังหัก IP: 61.90.124.41 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:08:46 น.  

 
ฉลองครบรอบก้องพีได้เยี่ยมมากๆ ค่ะ
เนื้อเรื่องถูกเรียบเรียงใหม่ได้ลงตัวจริง ๆ
อย่าเพิ่งรีบจบน๊ะเชื่อว่าคุณดามีพลังอีกเยอะ
ในตัว


โดย: เสือน้อย IP: 58.9.192.59 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:54:41 น.  

 
สุดยอด ของความรัก อ่านแล้ว ซึมลึก จริงๆ
ทั้งสุข และเศร้า รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
อยากรู้ เมื่อไหร่ มะโน จะยอมรับเสียที ^__^


โดย: lek^lek. IP: 223.205.233.252 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:14:53 น.  

 
เศร้าจังค่ะน้องดาอ่านแล้วน้ำตาจิไหลให้ได้เลยง่ะ
ตอนหน้าคงต้องเศร้ากว่านี้แน่เลยใช่มั๊ยคะ ฮือ ฮือ
แต่ขอฉากหวาน ๆ ของนะโมกับไมค์ด้วยได้มั๊ยคะ
อยากให้คู่นี้เค้าลงตัวกันซะทีสงสารทั้งไมค์ทั้งนะโม
ง่ะ เป็นกำลังใจให้ในตอนต่อไปนะคะจะคอยตามอ่าน
ตลอดค่ะ น้องดาสู้ สู้


โดย: keamdean1@smile IP: 58.11.14.141 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:06:59 น.  

 
เศร้าค่ะเศร้า

ซาบซึ้งในความรู้สึกของพีร์และก้องที่มีให้ต่อกันค่ะ

เมื่อไหร่นโมจะรู้ใจตัวเองสักทีน่ะ ไมค์สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท้อได้แต่ยอมแพ้น่ะ

เป็นกำลังใจให้เพื่อนดาน่ะ




โดย: ภัทร IP: 124.120.40.174 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:22:15 น.  

 
คนอื่นเศร้า แต่ น้องฮันชอบบบบบบ ค่ะ พี่ดา

กรี๊ดดดดด ๆๆๆๆๆ นะโมกะไมค์ของน้องฮัน เค้ามีแอบหวานกันล่วยยยย หุ หุ

ลุ้นมานานคู่นี้ อยากให้ลงเอยกันเร็วๆ

พ่อไมค์ก็เนียนซะ แกลังทำให้นะโมตายใจ แล้วก็แอบแตะอั๋งเค้าซะงั้น ฮ่าๆๆ

ส่วนพี่พีกะน้องก้อง ฮึกๆๆ แอบเศร้า....T_T

มาต่อเร็วๆนะคะ พี่ดา น้องฮันรออยู่ ^_^


โดย: hunny (hunnylovelaruku ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:11:29 น.  

 
เศร้าจริงเศร้าจัง สงสารน้องก้อง กะคุณพี

แต่...แต่ คุณศักดิ์มาแล้ว เพราะฉะนั้น ตอนหน้ามันจะมีฉากๆๆๆ ฉากน้านในห้องนอน ใช่ไหม 555
---------------

แอร๊ยยย ชอบไมค์ กะ นะโมอ่ะ sweet มั๊กๆ อืม ว่าแต่เมื่อไร นะโมจะรู้ใจตัวเองจริงๆ ซะที มัวแต่เดินหนีไมค์ตลอดเลย เดี๋ยวให้ไมค์ให้เล่นตัวบ้างซะเลยนิ แต่ไมค์อย่ายอมแพ้นะ ตื้อเท่านั้นที่จิครองนะโมได้ สู้ๆ \\\\(^0^)//

ว่าแต่ฉากนี้ที่นะโมเดินหนีเพราะเขินใช่ไหมค่ะ ^___^



ไร้ท์เตอร์ ดาค่ะ ที่เขียนก้องพีตอนนี้ได้ใจมั๊กๆ

Take Care ดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ


โดย: tipjang วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:37:49 น.  

 
วันนี้ซุ่มอ่านในคลับ แต่บัตรผ่านโพสต์ความเห็นไม่ได้แล้วค่ะ

สนุก เศร้า แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย ครบรสเลยค่ะพี่ดา!!!

เชียร์ไมค์+นะโมนะคะ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ช่วยเบรกอารมณ์เศร้าๆ ของคู่หลัก...T^T คิดแล้วก็เศร้าอี๊กก


โดย: บัตรผ่านนี้เพื่อพีกับก้อง^^(แอ้) IP: 223.207.188.32 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:57:24 น.  

 
อ้อ.....ลืมไปค่ะน้องดาขรา
ตอนหน้านี่จะมีฉากติดกระดุมที่เซะซี่.....
บันลือโลกอ๊ะเปล่าคะ...แอบมีลุ้น
เอาให้แจ่ม..ให้แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย
ไปเลยนะคะพี่จะรออ่านค่ะ...................
สู้ สู้ค่าาาา
โอมมมมมมต่อมจิ้นของน้องดาจงมาไวไว
น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา....


โดย: keamdeang1@smile IP: 58.11.14.141 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:40:36 น.  

 
หวังว่าเราคงได้ฉลองครบรอบหนึ่งปีพีก้องพร้อมก้องตาหายบอดนะค่ะ รออ่านตอนต่อไปอย่างจดจ่อ อย่างอ่านตอนที่คุณพีไปดูแลก้อง


โดย: aumaum IP: 58.9.16.225 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:28:18 น.  

 
TT___TT


โดย: หนูมา IP: 210.246.85.228 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:20:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

womam in love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




...อยากให้รัก...หมุนรอบตัวฉันและเธอ...ตลอดไป..
http://i485.photobucket.com/albums/rr213/yamiejung16/ui20.gif
New Comments
Friends' blogs
[Add womam in love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.