Jojo @ St. Regis Bangkok
ชื่อร้าน : Jojo รายการอาหาร : อาหารอิตาเลี่ยน เวลาเปิดบริการ : 6:00 AM - 10:30 AM; 12:00 PM - 3:30 PM; 5:30 PM - 12:00 AM ที่ตั้งร้าน : St. Regis Bangkok, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand พิกัด GPS : 13° 44' 23.06" N 100° 32' 23.76" E
Jojo @ St. Regis
St. Regis โรงแรมเปิดใหม่สุดหรูย่านราชประสงค์ ซึ่งอยู่ติดกับโรงแรม Four seasons พอดีมีโอกาสได้มาดูห้องที่นี่เพื่อเก็บเป็นข้อมูลสำหรับงานใหญ่ที่คาดว่าจะมีในปีหน้า
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีห้องอาหารเปิดใหม่สไตล์อิตาเลี่ยน ที่ชื่อ "Jojo" ก็เลยลองขอแวะลิ้มลองรสชาติที่เค้าว่าเป็นอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ ไม่ได้ดัดแปลงใดๆ ทั้งสิ้นครับ
อย่างที่บอกครับ ว่าอาหารที่นี่เป็นสไตล์อิตาเลี่ยน ฉะนั้นการตกแต่งห้องก็จะออกแนว อิตาเลียนทั้งนั้น
การตกแต่งของที่นี่หรูหรา แต่ก็ไม่ได้ฉูดฉาดจนเกินไป ดูแล้วสบายตามากๆ
การจัดวางอุปกรณ์ต่างทำได้ดี มีครบถ้วน
พาชมบรรยากาศแล้ว ก็มาเริ่มที่อาหารกันครับ
เริ่มกันที่เครื่องดื่มเย็นๆ ก่อนครับ Mojito Mocktail ที่มีรสชาติเปรี้ยวซ๋าชื่นใจดี
ตามมาด้วย Strawberry smoothie รสชาติหอมหวานคล้ายๆ ไอศครีมโยเกิร์ต เหมือนกัน
นอกจากนี้ยังมี Sparking Water รสชาติดี แก้เลี่ยนได้เปลี่ยนอย่างดีเลย
เริ่มที่ Starter เบาๆ ก่อนครับ
เริ่มด้วยเมนู Augus beef carpaccio Cipriani style
เป็นเนื้อวัวสด กับผักสลัด Rocket ครับ เนื้อนุ่มมากๆ ไม่รู้สึกคาวด้วย ผมชอบเมนูนี้ที่สุด
ตามด้วย Caprese salad buffale muzzarella & tomato
เป็นสลัดฝรั่ง เบาๆ ซึ่งประกอบไปด้วยชีส และมะเขือเทศ รสชาตินุ่มลื่นคอดีครับ
ลืมบอกไปอย่าง ว่ามี Olive oil กับอีกอย่าง อันนี้จำไม่ได้ ซึ่งของส่วนใหญ่ พนักงานเค้าบอกว่านำเข้ามาจากอิตาลี ครับ
มี complementary แถมด้วยครับ
ตามมาด้วย Parma ham with bread กินคู่กับขนมปัง อร่อยมากๆ ครับ เนื้อนุ่มๆ ลื่นคอมากๆ และก็ไม่คาวด้วยครับ
จากนั้นมาต่อด้วยจานหนักๆ กันเลยดีกว่าครับ
นั่นก็คือ Phuket Lobster เมนูนี้เป็นกุ้ง Lobster ชิ้นใหญ๋ๆ อร่อยมากๆ
ส่วนเมนูนี้ของโปรดผมครับ
Classic lasagna ชีสนุ่มๆ ร้อนๆ
Cabonara tradizionale
หน้าตาไม่ค่อยเหมือนคาโบนาร่า ทั่วๆ ไปที่เคยกินเท่าไรครับ
เลยถามพนักงาน เค้าบอกว่า เป็นสูตรดั้งเดิม ของคนอิตาเลี่ยนเค้า ซึ่งไม่ได้ใส่ครีมเท่าไร ซึ่งจะใส่แต่ชีส แต่ก็อร่อยดีนะครับ
ส่วนเมนูนี้พิเศษ หน่อย Originale fettuccine alfredo
เพราะว่า เชพจะมาคลุกเคล้าด้วยชีสแบบพิเศษที่นำเข้ามาจากอิตาลี
โดยจะคลุกเคล้าตอนร้อนๆ ให้ชีสเข้ากับเส้น
ของคาวเมนูสุดท้ายครับ
Pizza Schiacciata
เป็นพิซซ่าสไตล์อิตาเลี่ยน แท้ๆ เลยครับ
อิ่มกับของคาวกันแล้ว มาชิมของหวานกันครับ
เริ่มกันที่ Torta della nonna lemon cake ครับ
ตามมาด้วย gianduiotto chocolates
เป็นช็อกโกแล๊ต แบบพิเศษที่นำเข้าจากอิตาลี หอมหวาน แล้วก็ไม่ขมด้วย
ตามมาติดๆ ด้วย Panna cotta อัดแน่นด้วย กีวี และเบอรี่ ต่างๆ
ส่วนของหวานอย่างสุดท้าย คุณเพื่อนขอลอง เพราะทางพนักงานแนะนำว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องชีส เป็นชีสแบบพิเศษ ที่หาทานได้ยาก
ส่วนผมก็อยากลองดูว่าต่างจากที่อื่นอย่างไร
ซึ่งอย่างที่บอกไว้แล้ว ชีสของที่นี่จะนำเข้าจากอิตาลีทั้งหมด เรื่องรสชาติ ก็จะสไตล์อิตาลีแท้ๆ
เมนูนี้คือ
D.O.P. Italian cheese experience
เป็นชีส 5 ชนิด ซึ่งระหว่างเสริฟ พนักงานก็บรรยาสรรพคุณชีสแต่ละชนิด ก็จะมีชื่อบอกไว้ที่จาน แต่ละอย่างมีความพิเศษต่างกัน ที่จำได้ก็จะมีชีสที่มาจากนมวัวที่พาไปเลี้ยงบนยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปกติที่เค้าเลี้ยงกัน เพื่อที่จะให้ได้ความเข้มข้นเป็นพิเศษ
อีกอย่างก็จะเป็นชีสที่ได้มาจากการเลี้ยงในถ้ำ ระหว่างกินไป ก็นั่งนึกว่า เค้าคิดได้ยังไงที่ทำชีสแต่ละแบบได้ ส่วนที่ผ่านมาก็กินอย่างเดียวไม่สนใจอะไร
ได้มารู้ที่นี่ก็อึ้งๆ เล็กน้อย
ชีสที่นี่ถ้าได้ทานกับซอสต่างๆ จะช่วยดับกลิ่นชีส และเพิ่มรสชาติได้เป็นอย่างดี ส่วนผมลองแค่ 3 อย่างครับ ซึ่งรสชาติก็ต่างจากชีสที่เคยทานอยู่ทั่วไปจริง
จากนั้นปิดท้ายด้วย ลาเต้ร้อนๆ ที่มาพร้อมกับลาเต้อาร์ท สวยๆ แก้วนี้
มื้อนี้ได้เต็มอิ่มกับอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ หลากหลายแบบ ซึ่งรสชาติอาหารทำได้ดี ให้ความรู้สึกถึงความเป็นอิตาเลี่ยนแท้ๆ ซึ่งหาทานได้ยาก
ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Create Date : 19 มิถุนายน 2554 |
|
17 comments |
Last Update : 19 มิถุนายน 2554 22:56:12 น. |
Counter : 9249 Pageviews. |
|
|
|