Bloggang.com : ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง : อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยมในบรรยากาศส่วนตัวที่ Enkai

อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยมในบรรยากาศส่วนตัวที่ Enkai

ชื่อร้าน : Enkai
รายการอาหาร : อาหารญี่ปุ่น
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 17.00 – 01.00 น. (ออเดอร์สุดท้าย 23.30 น.), วันเสาร์ – อาทิตย์ มีบุฟเฟ่ต์กลางวัน 11.00 – 15.00 น.
ที่ตั้งร้าน : CCC Park ซอยประเสริฐมนูกิจ 33 (เข้าซอยมาก็จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือ) ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร – นวมินทร์) บึงกุ่ม, กรุงเทพมหานคร บึงกุ่ม Thailand
พิกัด GPS : 13° 49' 30.60" N 100° 37' 45.32" E

ดูแผนที่เพิ่มเติม

Enkai Japanese Banquet House

Enkai Japanese Banquet House ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ที่จะขอพาไปเฉลิมฉลองความอร่อย ในบรรยากาศส่วนตัว ซึ่งคำว่า Enkai (เอ็งไก) หมายถึงวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองรูปแบบหนึ่งของญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นในกลุ่มนักธุรกิจเพื่อให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยในเรื่องการปิดดีลค้าขายก็คือ บรรยากาศร้านอาหารที่ดี และรสชาติอาหารที่อร่อย ดังนั้น Enkai จึงเป็นตัวแทนของร้านอาหารที่จะพาไปสู่บรรยากาศการเฉลิมที่พร้อมทั้งบรรยากาศและรสชาติของอาหารญี่ปุ่น

ซึ่งบรรยากาศของที่นี่ตกแต่งในรูปแบบของ Japanese Castle ซึ่งภายในจะเน้นความเป็นส่วนตัว เปรียบเสมือนห้องอาหารในปราสาทของเจ้าเมืองยังไง ยังงั้น ดังนั้นลูกค้าของ Enkai จะได้รับบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ภายในห้องแต่ละห้องตกแต่งแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งแต่ละห้องก็มีพื้นที่กว้างพอควร ทำให้ไม่อึดอัดจนเกินไป และไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับการบริการที่ทั่วถึง เพราะภายในห้องจะมีกริ่งสัญญาณเรียกพนักงานเพื่อรับการบริการอย่างเต็มที่

หรือใครที่ชอบทานอาหารพร้อมกับพูดคุยกับเชฟ ก็สามารถนั่งที่เคาเตอร์ด้านนอก ซึ่งก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารได้ดีทีเดียว ซึ่งด้านนอกก็มีการตกแต่งร้านด้วยของตกแต่งน่ารักๆ ในแบบฉบับชาวญี่ปุ่นอยู่ทั่วร้าน ทำให้รู้สึกเหมือนได้ทานอาหารอยู่ที่ญี่ปุ่นทีเดียว

พาไปดูบรรยากาศรอบๆ ร้านกันแล้ว ที่นี่มาดูรายการอาหารกันบ้างครับ ขอเริ่มที่เมนูแรก ซึ่งถือว่าเป็นเมนูเด่นของร้านเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ Taraba Osumashin (800.-) ซุปขาปูทาราบะ ซึ่งเนื้อปูแน่น สดและชิ้นใหญ่ เต็มคำ รสชาติหวาน นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน่อไม้ฝรั่ง หอมซอย และสาหร่าย ทำให้น้ำซุปมีรสชาติหวานกลมกล่อม อร่อยจนซดหมดชามเลยครับ

จากนั้นก็ต่อด้วย Kuruma Ebi (480.-) กุ้งลายเสือย่างกระเทียม กุ้งตัวโตเนื้อแน่นเน้นๆ และหอมกระเทียมย่างที่จัดมาเต็มที่ บีบมะนาวนิดช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวตัดความเลี่ยนของกระเทียมย่างได้ดี แถมรสชาติขอกุ้งก็สดหวาน อร่อยเต็มปากเต็มคำเช่นกัน

มีปู มีกุ้ง ก็ต้องมาถึงเมนู Gindara Saiko (450.-) ปลาจินดารา หมักซอสไซเกียวสูตรพิเศษของร้าน ซึ่งเนื้อปลานุ่มเนียนมัน รสชาติเค็มนิดๆ หวาน และหอมซอสมิโสะ แถมหนังปลากรอบอร่อย ทานง่าย ได้ประโยชน์เยอะด้วยครับ

จากนั้นก็มาถึงเมนูยอดนิยม Sushi ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าชอบทานเมนูไหน ทางเชฟก็จะจัดมาให้ตามความต้องการสำหรับมื้อนี้ขอจัดมา 5 คำประกอบไปด้วย Toro Hamaji (160.-) ท้องปลาฮามาจิ, Chutoro (350.-) ท้องปลาทูน่า, Hotate (200.-) หอยเชลล์, Enkawa (160.-) ครีบปลาตาเดียว และ Foei Gras (300.-) ตับห่านซึ่งรสชาติดีมาก ไม่คาว เนื้อเนียนนุ่ม และซอสที่ราดก็มีรสหวานนิดๆ ตัดเลี่ยนของตัวตับห่านได้ดี ถือว่าเคี้ยวเพลินเลยครับ ส่วนปลาดิบก็รสชาติดี เนื้อปลาสด แถมอร่อยนุ่มลิ้น นอกจากนี้ยังได้รสหวานนิดๆ ของข้าวญี่ปุ่น ถือว่าอร่อยเพลินสุดๆ ครับเมนูนี้

มาถึงเมนูโปรดของคนที่ชอบทานเนื้อวัว โดยเฉพาะเนื้อโกเบ เพราะเมนู Kobe Gyu Donburi (ราคาตามน้ำหนักและตามราคาตลาดแต่ละช่วง สำหรับมื้อนี้ราคา 1,808 บาท) ข้าวหน้าเนื้อโกเบ ซึ่งคัดเนื้อคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นแท้ๆ รสชาติรับรองอร่อยถูกปาก รสชาติเนื้อหวานนัวทานกับข้าวร้อนๆ เพลินแน่นอนครับ

จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยเมนู Kare Karaage (560.-) ปลาตาเดียวทอด เมนูนี้น่าจะถูกใจเด็กๆ สำหรับปลาที่ทอดได้กรอบนอก และนุ่มใน อร่อยเบาๆ แถมด้วยเครื่องเคียงไม่ว่าจะเป็นสลัด และมัดบด เป็นอีกเมนูที่อร่อยเคี้ยวเพลินเช่นกันครับ

สำหรับคุณภาพอาหารของที่นี่บอกได้เลยว่าคุณภาพดี และรสชาติก็อร่อยถูกปาก แถมบรรยากาศก็ดี เสมือนได้นั่งทานอาหารอยู่ในญี่ปุ่นจริงๆ ซึ่งสำหรับเมนูธรรมดานั้นทางร้านเปิดให้บริการทุกวันในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 01.00 น.

นอกจากนี้ในวันเสาร์ อาทิตย์ ยังเอาใจคนที่ชอบทานบุฟเฟ่ต์โดยเฉพาะ ซึ่งทางร้านบอกว่าคุณภาพเหมือนกับเมนู A la cart แน่นอน โดยเมนูบุฟเฟ่ต์ก็มีทั้ง Sashimi, Sushi, Maki, Don หรือข้าวหน้าต่างๆ และเมนูอื่นๆ อีกหลายอย่างรวมทั้งของหวานและเมนู Side dish ด้วยครับ ซึ่งราคาต่อหัวเพียง 599++ ในช่วงมื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 15.00 น. โดยสามารถทานได้ในเวลา 90 นาที ที่สำคัญยิ่งชวนเพื่อนๆ หรือญาติมากัน 6 คน ก็จ่ายเพียง 5 คนเองครับ รวมทั้งตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่นเพียงโทรเข้ามาจองโต๊ะ ก็ได้รับส่วนลดค่าอาหาร 5% ทันที (สำหรับบุฟเฟต์เท่านั้น) รู้อย่างนี้แล้วก่อนไปทานให้รีบโทรจองก่อนนะครับ เชื่อได้เลยว่าใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีแบบจุใจ จะต้องติดใจบุฟเฟ่ต์ที่นี่แน่นอนครับ

สำหรับการเดินทางไปที่ร้านก็มุ่งหน้าไปยังถนนประเสริฐมนูกิจ หรือเกษตร – นวมินทร์ ร้านจะอยู่ในซอยประเสริฐมนูกิจ 33 ซึ่งอยู่ติดกับแยกเลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา หากมาจากถนนนวมินทร์ ก็ตรงไปกลับรถที่แยกนี้ ซึ่งร้านจะอยู่ซอยแรกหลังจากกลับรถ และเข้าเมื่อเข้าซอยปุ๊บจะมองเห็นร้านตั้งเด่นอยู่ทางซ้ายมือจากนั้นก็หาที่จอดรถตามสะดวกเลยครับ

ฝากติดตาม Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง ใน Facebook fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า

ส่วนใครที่เล่น Instagram ก็ เข้าไป Follow ได้ที่ @eatandtraveldiary จ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2558

Last Update : 26 พฤศจิกายน 2558 11:54:31 น.

3 comments

Counter : 3333 Pageviews.

น่าทานมากก เคยผ่านอยู่
สงสัยต้องหาเวลาไปลองทานซะแล้ว : )

โดย: Meeniie (สมาชิกหมายเลข 2764850

) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:08:04 น.

อยากกินเซตปลาดิบกับซุปปูเลยคราบ

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 27 พฤศจิกายน 2558 เวลา:5:06:05 น.

@คุณ Meeniie : ลองแวะดูครับ เผื่อจะติดใจ อิอิ

@คุณ ทนายอ้วน : ตัวซุปปูอร่อยสุดๆ ครับ น้ำซุปหวานมากๆ ส่วนปลาดิบก็สด อร่อย

โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง

วันที่: 30 พฤศจิกายน 2558 เวลา:11:01:04 น.