Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

หนังเกย์เกาหลี No Regret ใช้เวลาดูหลายวันมาก แต่ก็ชอบนะ

กว่าจะดูเรื่องนี้จนจบ
ดูไปหลายวันมาก
แบบไม่ต่อเนื่องด้วย
เพราะมันมีฉากอย่างนั้นหลายตอน
แล้วเครื่องเล่น DVD อิชั้นอยู่ห้องนั่งเล่นหน้าบ้านนะค้า
คนในครอบครัวเดินไปมาเป็นระยะ
แถมฉากพวกนี้มาทั้งภาพ ทั้งเสียง
แต่ป๊ากับม้าจะแตกตื่นว่าเดี๋ยวนี้ริอาจดูหนังเกย์แล้วเร๊อะ






แต่จริง ๆ ประสบการณ์การดูหนังเกย์เรายังน้อยนิด
อย่าง A Frozen Flower ก็ไม่เรียกว่าหนังเกย์ซะทีเดียวนะ
แต่เรื่องนี้นี่เต็ม ๆ ตาเลย ดูไป แอบปิดปากไป 555

พล็อตหนังก็ไม่มีอะไรมากนะ
คนนึงจน คนนึงรวยแล้วมาตกหลุมรักกัน
โดยมีอุปสรรคจากสังคม และความแตกต่างกันมากมายทั้งฐานะ การศึกษา พื้นฐานครอบครัว
แต่จริง ๆ
พี่'ปราย พันแสง นักเขียนคนโปรดของเราเคยบอกไว้ว่า
อุปสรรคของความรักในโลกนี้มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น คือคนที่เรารัก...ไม่รักเรา

จริง ๆ ไม่ค่อยอยากบรรยายมาก
เพราะไปอ่านบล็อคคุณ shinsaibashiที่พูดถึงหนังเรื่องนี้แล้วมันดีมากจนเราไม่อยากจะบรรยายเลย
เพราะเค้าบรรยายได้ตรงใจเราเกือบทุกอย่าง
ไอ้ที่ไม่ชอบ 20 นาทีหลังของหนังที่ทำให้เรื่องมันโดด ๆ เราก็ไม่ชอบเหมือนกัน
มันทำให้เห็นอีกมุมของตัวเอกที่เราเชื่อมาตั้งแต่ต้นเรื่องว่าเป็นคนรักดี รักศักดิ์ศรี สุขุม รู้จักยับยั้งชั่งใจ
แต่ความที่รักมาก ก็คงแค้นมาก เวลามีใครมาจุดอะไรขึ้นก็พร้อมจะระเบิดไปตามเค้า

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ "ซูมิน" เด็กกำพร้าจากสถานรับเลี้ยงเด็กออกจากสถานรับเลี้ยงเพื่อมาหางานทำที่กรุงโซลเมืองหลวงของเกาหลี เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เมืองที่ใฝ่ฝันของใครหลายต่อหลายคนที่จะแสวงหาความก้าวหน้า โดยซูมินได้ทำงานหลายอย่างตั้งแต่เป็นเด็กในโรงงาน ขับรถแทกซี่ พร้อมทั้งเรียนหนังสือไปด้วยในยามค่ำคืนเพื่อให้ตนบรรลุในสิ่งที่ตนปรารถนา แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกกับเขาเมื่อซูมินไ้ด้พบกับ "ซงแจมิน" ชายผู้ที่ตกหลุมรักแรกพบซูมินในค่ำคืนหนึ่งขณะที่เขากำลังขับรถแท็กซี่นั่น เอง ต่อมาเมื่อซูมินได้รู้ว่าซงแจมินเป็นหัวหน้าที่อยู่ในโรงงานที่ตัวเองทำ งานอยู่และได้ช่วยเขาให้รอดพ้นจากการไล่ออกจากงาน ซูมินตัดสินใจออกจากงานและหางานใหม่ท่ามกลางความสับสนในจิตใจจนได้มาทำงาน เป็นเด็กขายบริการอยู่้ในบาร์แห่งหนึ่ง ส่วนตัวของซงแจมินเองนั้นเมื่อรู้ว่าซูมินออกจากงานก็ได้เที่ยวตามหาเพื่อ ต้องการบอกความในใจของตัวเองให้ซูมินได้รับทราบและขอทำตามความต้องการของตัว เองในขณะที่แม่ของซงแจมินเองก็รู้ว่าลูกชายของตัวเองนั้นเป็นเกย์และต้องการ ที่จะปิดบังความเป็นเกย์ของลูกชายเพื่อหน้าตาของตระกูลและเพื่อหน้าที่การ งานโดยจับให้ลูกชายได้แต่งงานกับสาวสวยนางหนึ่ง ซึ่งในที่สุดแล้วทั้งสองก็ได้ผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ จนกระทั่งได้สมหวังกันในที่สุด

นักแสดงตัวหลักที่เล่นเป็นซูมิน (คนจน) แสดงได้ดีมาก




แสดงออกความเจ็บปวด ความทุกข์ที่ตัวเองแบกรับได้ทางสายตาโดยที่คนดูอย่างเรารับรู้ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องพูดเลย

ส่วนคนที่แสดงเป็นแจมิน
อุ๊ย Kim Nam Gil




คนที่แสดงเรื่อง Portrait Of A Beauty 미인도 (2008) นี่หว่า





เรื่องนั้นเราก็ชอบมากเหมือนกัน แสงก็สวย
















ฉากวาดรูปบนแผ่นหลังยังติดตาจนถึงทุกวันนี้เวลานึกถึงหนังเรื่องนี้ อาร์ทมาก ชอบ





แต่เรื่อง No Regret เนี่ยเรายังชอบไม่สุดนะ
งง ๆ กับการงอนกันไป งอนกันมา แล้วตามง้อกันไปง้อกันมาอย่างไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่
เหมือนแรก ๆ ซูมินจะรักในศักดิ์ศรีมาก ๆ รักแจมินแต่ไม่ยอมแสดงออก
กลับผลักไส พูดจาไม่ดี และพยายามหนีจากแจมินไป
แต่ไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นมาตามง้อ ตามตื้อเมื่อตอนที่รู้ว่าแจมินจะแต่งงาน

แต่โดยรวมก็ชอบนะ ถ้าตัดประเด็นที่ไม่ค่อยเข้าใจกับ 20 นาทีหลังออกไป
เราชอบแสงในหนังเรื่องนี้นะ
เค้าจะถ่ายในเวลากลางคืนเกือบทั้งเรื่อง
แสงสวยดีทั้งเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นฉากโรงแรม ฉากไฟจากถนน ฉากสนาม ทางเดิน หรือดาดฟ้า แสงสวยทุกที่เลย
ยกเว้นไอ้โลเกชั่นในสถานบริการที่ทำงานของซูมิน เหอะ ๆ

ที่เค้าใช้ฉากกลางคืนเกือบทั้งเรื่องเพราะจะสะท้อนชีวิตที่มืด ๆ และโชคชะตาที่ไม่ค่อยจะสว่างของซูมิน รวมถึงความทุกข์ของซูมินที่เจอมาตลอดชีวิตของเค้า
เพลงประกอบก็เพราะนะ เข้ากับบรรยากาศของหนังทุกเพลงเลย

ฉากที่ 2 คนเดินคุยกันตรงทางเดินกลาง ๆ เรื่อง ทำให้เรานึกว่าฉากในหนังเรื่อง Before Sunrise ที่เราชอบเลย แสงก็สวยด้วย









ทุกคนคงชอบบทพูดคุยอันเดียวกัน จากที่อ่านบล็อคชาวบ้านหลายบล็อคก็ชอบเหมือนกัน
คือตอนที่ซูมินรู้ว่าแจมินกำลังจะแต่งงาน ต่างคนต่างเจ็บปวดทั้งกันทั้งคู่ แล้วซูมินที่ระหว่างทำแผลที่มือให้แจมินก็พูดว่า


"เราเป็นอะไรกัน สำหรับคุณผมเป็นอะไร"

"เพราะผมไม่มีการศึกษาอย่างนั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นผมจะตั้งใจเรียน"

"หรือเพราะผมมันโสกโครก...ถ้าอย่างนั้นผมจะซื่อสัตย์ต่อคุณ"

"หรือเพราะว่าผมมันจน ถ้าอย่างนั้นผมจะทำงานให้หนักขึ้น"

"เราเป็นอะไรกันนี่....สำหรับคุณแล้วผมเป็นอะไร......."



ฉากนี้ทำเอาหลายคนร้องไห้ได้เหมือนกันนะ
แต่เราไม่ร้อง คงเป็นเพราะไม่ได้ดูหนังรวดเดียวจบ ทำให้อารมณ์มันไม่ต่อเนื่องด้วย แต่ก็แอบเศร้าเหมือนกัน

แต่ประโยคที่เราชอบมากกว่า
แต่ไม่มีใครที่เขียนเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้พูดถึงก็คือ
ฉากแรก ๆ ที่แจมิน พูดตรงทางเดินที่ซูมินบอกลาและผลักไสแจมินไป
พอซูมินเดินหันหลังจากไป
แจมินก็พูดว่า "ยินดีที่ได้รู้จัก ซูมินชี่"

แล้วพอฉากท้าย ๆ ที่ซูมินพยายามฆ่าแจมินแต่เกิดเปลี่ยนใจแล้วทั้งคู่ก็อยู่บนรถกลับโซล
ซูมินขอโทษแจมิน
ความเงียบเข้ามา
แล้วซูมินก็พูดกลับไปว่า
"ยินดีที่ได้รู้จัก แจมินชี่"

มันเป็นประโยคธรรมดานะ แต่ติดใจเรามากเลย
มันเหมือนเป็นคำที่ขอให้อีกฝ่ายให้อภัยและทำให้สถานการณ์มันดีขึ้น
เหมือนได้ปลดปล่อยความรู้สึกให้อีกฝ่ายรับรู้
แต่รู้สึกว่าคำนี้เป็นคำที่ซูมินบอกรักแจมินเลยด้วยซ้ำ

ไม่รู้เราเป็นอะไรมากกับคำนี้รึเปล่าก็ไม่รู้
ซึ่งเราก็รู้สึกว่าคำนี้ในหนังญี่ปุ่น ที่นางเอกบอกกับพระเอกในหนังเรื่อง About Love ว่า "ฮาจิเมะ มาชิเตะ" ก็เหมือนเป็นคำบอกรักพระเอกที่เราพูดไปแล้วบล็อคก่อนหน้านี้

ถือว่าเป็นหนังที่ดูแล้วอินอีกเรื่องนึง
รู้สึกว่าเราจะอินกับคำนี้ในทุกภาษาเลยนะเนี่ย
ห้ามมาพูดยินดีที่ได้รู้จักกับเรานะ
ไม่งั้นเราจะคิดว่ากำลังบอกรักเราด้วย
แต่สมัยนี้ คำว่า "ยินดีที่ได้รู้จัก" ก็ไม่ค่อยได้ยินคนพูดอยู่แล้วนะ อิอิ




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2553
3 comments
Last Update : 24 มิถุนายน 2555 14:24:42 น.
Counter : 6615 Pageviews.

 

เพลงประกอบตอนช่วงแรกของหนังเพราะดีครับ นอกนั้นก็เอิ่ม.. ปล.แต่แปลกนะที่ผมพบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบดูหนังเกย์

 

โดย: Nanatakara 29 สิงหาคม 2553 20:59:10 น.  

 

อ่อ ยินดีรู้จักนะครับ อย่าคิดลึกล่ะ เพราะผมก็ยังใช้คำนี้อยู่จ้า อิอิ

 

โดย: Nanatakara 29 สิงหาคม 2553 21:01:04 น.  

 

ผมชอบนะเรื่องนี้ ดราม่าดี กลิ่นน้ำเน่าโชยกรุ่นมาก และที่สำคัญคุณน้องนายเอกน่ารักดีจัง55+

ชอบตอนจบด้วยครับ มันแปลกๆไปจากหนังแนวนี้ที่เคยได้ดูมา ตอนแรกนึกว่าจะจบเศร้าซะอีก อุตส่าห์เตรียมผ้าเช็ดหน้า(เว่อร์ครับ55+)

 

โดย: เกาเหลาใส่เส้น 18 กันยายน 2553 16:13:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.