Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
14 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
Otonari เพียงผนังบาง ๆ ที่กั้นระดับเสียงของ 2 หัวใจข้างห้อง

เพิ่งดู Otonari จบ
ได้แรงบันดาลใจในการซื้อหนังเรื่องนี้มาจากการอ่านบล็อคของคุณ prysang

Otonari - ระดับเสียงของพรหมลิขิต


เขียนได้ดีมาก
ดีจนอยากหยิบมาดู
เพราะชอบดูหนังเงียบ ๆ ไดอาล็อคพูดน้อย ๆ อยู่แล้ว
เลยได้หนังเรื่องนี้มาในครอบครอง




Otonari มันสั้นเกินกว่าจะเป็นซีรี่ย์
และยากเกินกว่าจะเป็นหนัง
ดังนั้น
มันเลยได้เป็น mini serie
แต่เวลาเรียก ขอเรียกว่าเป็นหนังแล้วกันนะ





หนังที่ว่าด้วยเรื่อง
ที่พระเอกกับนางเอกอยู่ห้องติดกัน
แต่ไม่เคยเห็นหน้ากัน
มีเพียงผนังบาง ๆ ที่กั้นระหว่างกัน
ผนังก็บางจนได้ยินระดับเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้อง
ไม่ว่าจะเป็นเสียงฮัมเพลง เสียงบดกาแฟ เสียงเปิด-ปิดประตูห้อง หรือแม้แต่เสียงสะอื้น





ดูจนจบ
สรุปว่าก็ชอบหนังเรื่องนี้นะ
มันดูอ่อนโยน อบอุ่น อบอวลไปด้วยศิลปะและความทรงจำดี

อ่อนโยนตรงเสียงฮัมเพลงของนางเอก
อ่อนโยนตรงอาชีพของนางเอกที่เป็นคนจัดดอกไม้ (สิ่งที่สวยงามที่สุดที่พระเจ้าทรงสร้างโดยลืมใส่จิตวิญญาณลงไป)
อ่อนโยนด้วยพาหนะของนางเอกที่ขี่จักรยานไปทำงาน




อบอุ่นตรงภาพวิวของพระเอกที่ถ่ายตามสถานที่ต่าง ๆ
เพราะพระเอกเป็นช่างภาพที่โด่งดังจากการถ่ายรูปคน แต่จริง ๆ ชอบถ่ายรูปวิว









อบอวลไปด้วยศิลปะเพราะทั้งคู่มีอาชีพที่เกี่ยวกับศิลปะทั้งคู่
เป็นอาชีพที่ต้องใช้อารมณ์ ความรู้สึก และใช้ใจให้การตัดสินความพอดี
ซึ่งไม่ได้ใช้สมองหรือวิทยาศาตร์ตัดสินว่า 1+1 มันต้องเป็น 2 ถ้าไม่ใช่ 2 จะผิดทันทีเหมือนอาชีพเรา
ซึ่งเราอิจฉาอาชีพของทั้งคู่เลยนะ
เป็นอาชีพที่ผลลัพธ์อยู่ที่ความพอใจของลูกค้า
ใช้ sense ในการทำงานค่อนข้างมาก
ถึงแม้ว่าจะผิดพลาดไม่ได้ดั่งใจบางครั้ง มันก็ดูสวยไปอีกแบบ
แม้เอาดอกไม้ชนิดนึงมาจัดเยอะหน่อยก็ไม่ผิด ก็สวยไปอีกแบบ
หรือแสงจะเยอะหรือน้อยไปหน่อย ภาพก็อาจจะดูสวยไปอีกแนว
ไม่มีกฏตายตัวว่าทำยังไงให้มันถูกที่สุด ทั้งถูกต้อง ถูกใจ และถูกราคา





อบอวลไปด้วยความทรงจำตรงที่ทั้งคู่สามารถจำระดับเสียงที่เกิดขึ้นในห้องข้าง ๆ ได้อย่างคุ้นเคย
แค่มีแต่เสียงต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เสียงพูด
ก็สามารถตอบได้ว่าเป็นเสียงของคนข้างห้อง
รวมไปถึงความทรงจำสมัยม.ต้นร่วมกัน


แต่มีสิ่งนึงที่เราไม่ชอบ
คือแฟนเพื่อนสนิทพระเอก
ที่เธอร่าเริงเกินจริง
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบในหนังญี่ปุ่นด้วย
คือหนังญี่ปุ่นมันจะมี 2 ประเภทในความคิดของเรา

คือพวกอะนิเมะ ที่ทุกตัวละครแสดงหน้าตาเกินจริง เสียงเกินจริงและแอคติ้งเกินจริงเลียนแบบการ์ตูน

กับพวกแสดงเหมือนจริง
เป็นคนจริง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะนิ่ง ๆ ไม่เยอะ ไม่ล้น
อย่างหนังที่เราชอบดู

เรื่องนี้ทุกคนดูจริงหมด
ยกเว้นยัยคนนี้ที่เกินจริง อะนิเมะมาเลย
มันทำให้อารมณ์หนังมันดูสะดุด ๆ ยังไงก็ไม่รู้
จะอบอุ่นก็ไม่สุด





หนังเรื่องนี้มันจะคล้าย ๆ กับเรื่อง Turn left, turn right ของไต้หวัน
ที่พล็อตคล้าย ๆ กัน
แต่หนังไต้หวันตอนจบมันเกินจริงมากไป
ซึ่งเราไม่ชอบดูหนังที่เหตุการณ์หรือแอคติ้งเกินจริงเลย
ดังนั้น
เราเลยไม่ดูพวกหนังแอคชั่นหรือหนังที่ต้องใช้ CG เลย
เพราะมันเกินจริง






หนังมีพูดถึงระดับเสียงซึ่งเป็น theme หลักของเรื่อง
ซึ่งเราชอบที่เค้าบอกว่า
ระดับเสียงที่คุ้นเคย ทำให้จิตใจของคนเราสงบลง
คนเราต่างก็มองหาระดับเสียงของตัวเอง
แต่เสียนั้นไม่ได้หาเจอกันง่าย ๆ
แล้วเราไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
หรือบางครั้ง
เราเจอระดับเสียงนั้น เราอาจจะไม่ได้ใส่ใจและฟังผ่านเลยมันก็ได้





เราชอบตอนจบหนังเรื่องนี้นะ
มันธรรมดา นิ่ง ๆ แต่อบอุ่นดี



Create Date : 14 เมษายน 2555
Last Update : 14 เมษายน 2555 15:12:20 น. 0 comments
Counter : 4141 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.