Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ทดสอบการสร้างบล็อคของช้าน
รับน้อง...ส่องทาง
เกาหลี กับการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิต
โตเกียว ครั้งแรก ตัวคนเดียว
กับหนังบางเรื่องที่ยังอิน
บ่น ๆ เพ้อเจ้อ เล่าโน่น เล่านี่ไปเรื่อย
สิงคโปร์คนเดียวครั้งแรก แถมนัดหนุ่มที่นั่นมาเที่ยวด้วย
เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว อ่านไปตอนนี้มันไม่ดีอ่านะ
มิตรภาพฟูฟ่อง...ที่ฮ่องกงครั้งแรก ตัวคนเดียว
เที่ยวคนเดียวในมาเลย์...ไม่เก๋อย่างที่คิด
เที่ยวคนเดียวในเมืองฝรั่ง และการเจอหนุ่มตี๋หลาย ๆ คนจาก dating app
<<
กันยายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
29 กันยายน 2553
ชั่วฟ้าดินสลายจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่มีผีถีบเบาะข้างหลังทุก 10 นาที
All Blogs
หนังญี่ปุ่น The Graduation เงียบ เนิบช้า งดงาม
ซีรี่ย์เกาหลี two weeks หนังสืบสวนสอบสวนที่ต้องลุ้น แต่ทำไมเรากลับชอบฉากกุ๊กกิ๊กล่ะเนี่ย
Give Up Tomorrow เรื่องจริงของแพะ ที่ความยุติธรรมยังเข้าไม่ถึง กม.นิรโทษกรรมไม่เคยช่วยผู้ที่บริสุทธิ
Fly me to Polaris หนังอับดับ 1 ตลอดกาลในใจเรา
หนังเกาหลี Silenced บีบคั้น กดดัน หดหู่ ท้อแท้ สิ้นหวัง จิตตกไปเลย
Architecture 101 ถ้าเป็นกาแฟ คงทั้งหวาน ขม กลมกล่อม นุ่มติดลิ้นไปนาน
Innocent Man สนุกน่ะมันก็สนุกนะ แต่มันจะย้อน MV เยอะไปไหนเนี่ย
The Lucky One ความเชื่อ โชคชะตาและพลังแห่งศรัทธาในแสงเทียนอันริบหรี่ที่พร้อมจะดับได้ทุกเมื่อ
Mother ความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ มันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป
Ice Rain เราจะฝังความเจ็บปวดไว้บนภูเขาหิมะร่วมกัน
Paju (2009) หนังรางวัลที่แอบยากต่อการเข้าใจ
Sung Kyun Kwan Scandal มันเป็นซีรี่ย์ที่สะอาดดีนะ
Come Rain, Come Shine บางความรัก ไม่มีเหตุผลที่จะเริ่มต้น และไม่มีเหตุผลที่จะหยุดลงเช่นกัน
รัก 7 ปีดี 7 หน ทำให้เราแบกรองเท้าไปวิ่งสวนลุมมาได้ร่วมเดือนแล้ว
Searching For The Elephant เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการหลอกตัวเองกับหลอกคนอื่นปะปนกันไป
Saigo no Kizuna คู่พี่น้องที่ต้องมาเป็นฝ่ายศัตรูและแชร์ชะตาชีวิตกันในสงครามโลกครั้งที่ 2
Josee, The Tiger and The Fish การเข้ามาของคนหนึ่ง เปลี่ยนแปลงชีวิตของอีกคนไปตลอดกาล
Love Letter ดูแล้วถึงกับเอามือจับหัวใจเลยทีเดียว อบอุ่นมากมาย
Lovers Vanished หนังอินดี้เงียบ ๆ สลัว ๆ แต่ตอนจบอึ้งและเจ๋งมาก
Secret Garden จิตนาการเราก็เป็นสากลนะเนี่ย
North Face เราต้องสนิทกันแค่ไหนถึงจะปีนเขาด้วยกันได้
Hitsudan Hostess ความรักของแม่กับความพยายามเป็นเป็นที่ 1 ของสาวน้อยหูหนวก
Taegukgi ความรักของพี่ชายอบอวลในสงครามที่ความตายตัดกันไปมาทุกวินาที
Otonari เพียงผนังบาง ๆ ที่กั้นระดับเสียงของ 2 หัวใจข้างห้อง
One Million Stars Falling from the Sky ไม่ร้องแต่ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง
Welcome to The Quiet Room แต่ที่จริง...มันไม่เงียบ
หนังญี่ปุ่น Sweet rain 3 เรื่องราวกับ 1 ยมทูตในวันฝนตก
Sukida หรือความเงียบ จะเป็นการบอกรักที่โรแมนติกที่สุด
หนังญี่ปุ่น Chloe กับการต่อสู้กับโรคประหลาด
Niini no Koto wo Wasurenaide กับความเจ็บปวดของเนื้องอกในสมอง
หนังญี่ปุ่น Confessions ว่าด้วยเรื่องการแก้แค้นทางจิตวิทยาที่เจ๋งดีนะ
Oishi Man คนนึงมาเพื่อเยียวยาบางสิ่ง อีกคนอยู่เพื่อรอคอยบางอย่าง
Oh Dal Ja's Spring ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเรามีซีรี่ย์เรื่องนี้ถึง 3 ชุด
The Woman Who Still Wants To Marry เธอมาเปลี่ยนฤดูหนาวในใจฉันให้เป็นฤดูใบไม้ผลิ
49 days เข้มข้น ลุ้น ตื่นเต้น เดาไม่ถูก ดูรวดเดียวจบเลย
April Bride...ว่าด้วยการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องอัศจรรย์
Hanamizuki - May your love bloom for a hundred years
Once Upon a Time in Seoul หนังแมน ๆ แต่แอบหวานเล็ก ๆ ให้หัวใจอุ่น ๆ
Jump หนังจีนที่ให้ข้อคิดดี ๆ เรื่องความพยายาม
Madeleine การส่งหนังสือพิมพ์ก็เหมือนกับการเดินเล่นในเมืองที่ว่างเปล่า
Tegami (2006), The letters (手紙) มนุษย์นั้นจะใช้ชีวิตเพียงลำพังคนเดียวไม่ได้
ชั่วฟ้าดินสลายจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่มีผีถีบเบาะข้างหลังทุก 10 นาที
หนังจีนเพิ่งเข้าโรง Aftershock ที่พี่เอ๋ นิ้วกลมบอกว่า มันคือหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งตั้งแต่เคยดูหนังมา
หนังเกย์เกาหลี No Regret ใช้เวลาดูหลายวันมาก แต่ก็ชอบนะ
น้องมาค้นหนังในกรุเป็นร้อยเรื่อง แต่ไม่ได้กลับไปซักเรื่อง รสนิยมการดูหนังเหมือนกันเหลือเกิ๊น
ญี่ปุ่นกับเกาหลี Heaven's Bookstore กับ Sad Dream 2 เรื่อง 2 พล็อตแปลกในวันเดียว
Before Sunrise อบอุ่น เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง งดงาม กินใจ
หนังไต้หวันนอกกระแส Blue Cha Cha นิ่ง เนือย เอื่อย น้อยแต่มากมายและงดงาม
อยากมีความเคยชินกับการดูหนัง 2 คนบ้างจัง
ดูหนังคนเดียวที่ลิโด้กับ Hot Summer Days
About Love หนังที่ทำให้เราตกหลุมรักตั้งแต่ 10 นาทีแรก
You're beaufiful VS Coffee Prince ไม่ไหวแล้วทั้งคู่ อินขนาด
Beethoven Virus VS Nodame ลากไปถึงรถไฟฟ้าฯ และ I wish I had a wife
นั่งดูเด็กเล่นเปียโนในหนัง My Piano แล้วน้ำตาไหล (อ่อนไหวไปมั้ยเนี่ย)
หนังญี่ปุ่น waiting in the dark เงียบแต่ไม่อึดอัด น้อยแต่มากมายจริง ๆ
สั่งหนัง departures คนขายบอกหาไม่เจอเลยส่งเรื่องอื่นมาให้ มันถูกต้องแล้วเหรอ
หนังเกาหลี Maundy Thursday (Our happy time) ขอบคุณผู้กำกับที่คุณสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา
Sky of Love เค้าร้องไห้กันฉากไหนเหรอ?
All for love เราสามารถเสียสละได้อย่างแม่ชีคนนั้นไหม
Get Karl! Oh Soo Jung ซีรี่ย์สนุกแถมให้ข้อคิดมากมาย
เพิ่งดู "หนีตามกาลิเลโอ" มา ผิดหวังมาก รอมาตั้งหลายเดือน สปอยล์นะ (ใครจะไปดูห้ามอ่าน)
A Frozen Flower หนังเกย์ฟอร์มยักษ์จากเกาหลี หนังดีมาก อินสุด ๆ
Someday บางเวลาที่เรารักกัน ลึกซึ้ง อบอุ่น งดงามได้ใจจริง ๆ
90 Days-Falling In Love Days ปวดใจมากมาย น้ำตาไม่รู้มาจากไหน
คำพูดพระเอกแบบนี้ แค่อ่านก็แทบจะกัดลิ้นตาย (แอบหวานรับวาเลนไทน์)
ชั่วฟ้าดินสลายจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่มีผีถีบเบาะข้างหลังทุก 10 นาที
เพิ่งกลับมาจากดูชั่วฟ้าดินสลายมาที่ SF MBK
ที่นั่ง ๆ สบายดีจัง เพิ่งเคยนั่งครั้งแรก
ดีกว่าพารากอนกับ Major สุขุมวิทที่ดูประจำบ้าง
แล้วดีกว่าลิโด้ที่ไปดูประจำอีก
ที่นั่งที่นี่มันจะแคบกว่า พอดีตัวกว่า มีที่รองคอกับหลังด้วย
แต่ไอ้ที่รองคอก็ไม่ถึงอยู่ดี ผู้ชายสูง ๆ คงชอบเพราะพอดีคอเนอะ
เรื่องนี้ไม่ได้อยากดูเล้ย
ตั้งแต่เค้าโปรโมตทั้งก้นพลอย ก้นอนันดาก็ไม่ได้อยากไปดู
ดูหนังอนันดาหลายเรื่องก็ไม่ได้ชอบเลยนะ
ไอ้เรื่อง Happy Birthday ที่เค้าได้รางวัลมาเยอะ ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกชอบในฝีมือการแสดงเลย
รู้สึกว่าเค้าได้เพราะหนังเรื่องอื่นในปีนั้นไม่ใช่ดราม่าแล้วเผอิญเค้าเล่นดราม่าที่เป็นผู้ชายที่ดูเหมือนจะรับบทหนัก เค้าเลยได้รางวัลไป
อนันดาที่จำได้ก็เรื่องพลอย
แสดงนิดเดียว แต่จำได้มากกว่าไอ้เรื่องที่ได้รางวัลเยอะ ๆ อีก
เบื่อหน้าอนันดาในจอเงิน พอ ๆ กับเบื่อหน้าแพนเค้กในจอทีวีเลย
แล้วเรื่องนี้ อนันดาเล่น (อีกแล้ว)
ไม่มีความคิดจะไปดูหนังเรื่องนี้อยู่ในหัวสมองเลย
แล้วอีกอย่างคือมันไม่ใช่ GTH
เหอะ ๆ ติดแบรนด์ได้อีกตู
แต่พี่ที่ออฟฟิศสุดสวย สาวอักษร จุฬาที่ชอบอ่านนิยายภาษาอังกฤษมาก
แล้วดูหนังแล้วเล่าปรัญญา, สัญลักษณ์ที่สื่อสะท้อนหรือที่มันซ่อนความหมายที่แฝงของหนังแต่ละเรื่องได้เป็นฉาก ๆ มาชวนดูเรื่องนี้
ผลัดไป 2 อาทิตย์แล้ว บอกว่าไปดูได้นะ
แต่ขอดูวันพุธนะ
กับหนังที่ไม่อยากดูเนี่ย
ยอมเสียเงินหลักสิบนะ ไม่เสียหลักร้อย
สัญญากับเค้าว่าจะดูพุธนี้ตั้งแต่พุธที่แล้ว
คิดว่าเค้าจะลืม
ไม่ลืมแฮะ
เช้ามาโทรมาหาที่โต๊ะเลยว่าวันนี้เรามีนัดกันนะ
เอาวะ
ดูก็ดู
เพราะพี่สาวสุดสวยคนนี้จะดูแต่หนังดีเหมือนกัน
ไม่ดูหนังกะโหลกกะลาพวกหนังตลก หนังผี หรือหนังที่ไม่มีที่มาที่ไป
จริง ๆ ก็เหมือนเราอยู่นะ
แต่เราคงอินดี้กว่าพี่เค้าหน่อย
พี่เค้าเป็นคนชอบความโบราณหมดทุกอย่าง
ชอบดูหนังย้อนยุคที่เสื้อผ้า หน้าผมอลังการ
เค้าเคยเอา Tudor มาให้ดู เพราะฟังจากที่พี่เค้าเล่ามันสนุกมากเลย
ได้ทั้งความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อังกฤษ ได้ทั้งบันเทิงด้วย
แต่พอมาดูจริง ๆ ไม่ไหวอ่ะ
เป็นคนไม่ชอบดูหนังโบราณเลย เพราะไม่ชอบเสื้อผ้าหน้าผมทั้งของไทย ฝรั่ง หรือญี่ปุ่น เกาหลี
ขนาดชอบดูหนังกับละครเกาหลีนะ แต่ถ้าเป็นย้อนยุคก็ไม่ดูเลยนะ
ขนาดสุดที่รัก Jung Kyung Ho เล่นเรื่องจามองยังไม่ดูเลย
เราว่านี่แหละที่เค้าตรงข้ามกับเราสิ้นเชิง
แต่พี่เค้าชอบความเป็นโบราณมาก
เสื้อผ้าเค้าก็แนววินเทจ จะมีเสื้อลูกไม้สมัยก่อนที่เค้าซื้อมือสองมาด้วยนะ
แต่ถ้าความที่เค้าสวย หุ่นดี ใส่อะไรก็สวยล่ะนะ
แอบเม้า
ที่คอนโดพี่เค้าก็ตกแต่งแบบโบราณนะ
ตู้เสื้อผ้าเค้ายังเป็นการเอาประตูโบราณมาทำเป็นประตูตู้เลย เก๋ซะไม่มี
แถมห้องเค้าไม่มีไฟสีขาวนะจ๊ะ
มีโคมไฟโบราณสีเหลืองตั้งไว้กลางห้อง
แถมโซฟาก็เป็นโซฟาโบราณแบบหลุยส์ บุเป็นรู ๆ เวลานั่งต้องนั่งตะแคงข้างกับหมอนสามเหลี่ยมเป็นเจ้านางอย่างนั้น
แถมที่เก๋กว่านั้นคือฉากกั้นห้องเค้าที่กั้นพื่นที่เตียงกับส่วนรับแขกหรือนั่งเล่นจะเจาะเป็นรูปโดมของทัชมาฮาล แล้วสีในห้องจะเป็นสีเหลืองเข้มอย่างสไตล์ Morocco
นี่ได้ข่าวว่าปีหน้าจะเก็บเงินไปเที่ยวอียิปต์อยู่นะ เก๋ได้อีก
เพราะปีนี้ไปอังกฤษมา แล้วกลับมาเล่าประวัติศาสตร์ของปราสาทและราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่อดีตกาลนานโพ้นได้เป็นฉาก ๆ
เป็นผู้หญิงที่เวลาเล่าแล้วมีเสน่ห์มาก
สะกดคนฟังซะอยู่หมัด (อันนี้ไม่รู้ว่าเพราะเธอสวยด้วยรึเปล่า ฮา ๆ)
เอ๊ะ
นี่ชั้นจะมาเม้าเรื่องหนัง หรือมาเม้าเรื่อสุดสวยคนนี้เนี่ย
คือว่าพี่สุดสวยคนนี้เค้ามาบิ้วให้ฟัง
ว่าหนังเรื่องนี้เธอต้องไปดูเลยนะ
เพราะมันสร้างมาจากบทประพันธ์สุดคลาสิค
แถมกำกับโดย หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุลเนี่ย เธอต้องดูเลยนะ
เพราะเค้าละเอียด ละเมียดละไมมาก
ก็เลยต้องไปดูกับเธอด้วยประการละฉะนี้
จริง ๆ จองทางเน็ทไว้เป็นแถวบนสุดคือแถว A
แต่ไปซื้อก่อนครึ่งชั่วโมงไม่ทัน ตั๋วเลยหลุดไป
เลยได้แถว B มาแทน
คิดว่าตัวเองโชคดีแล้วนะที่ไม่เจอผี BB หรือผีคุยมือถือมาอยู่ในรัศมีการดูหนังให้รำคาญใจ
หลังจากนั่งดูไปได้ซักพัก
ไอ้ข้างหลังมันเตะเบาะอ่ะ
เตะยังไงไม่ทราบมาถึงกลางหลัง ไม่รู้มันนั่งท่าไหน
เตะทุก 10 นาทีที่เปลี่ยนท่าเลยมั้ง
ก็มีหันไปมองนะ เป็นคู่รักชาย-หญิง
แต่คนที่เตะคงเป็นผู้หญิงเพราะเค้านั่งตรงกับเรา
แล้วอีกข้างนึงของเค้าที่ตรงกับเราครึ่งนึงเป็นที่ว่าง (เบาะมันก็ไม่ได้ตรงกันพอดีเป๊ะเนอะ เหลื่อม ๆ กัน)
ตอนเตะแรง ๆ ก็มีหันไปมองนะ
แต่เค้าก็คงไม่รู้สึกตัว
ประมาณครึ่งชั่วโมงแรกหันไปมอง 3 ครั้งก็ไม่มีอะไรดีขึ้นก็เลิกหันไปมอง
เพราะเมื่อยคอที่หันไป ใจเราก็ไม่ได้อยู่กับหนัง แถมหงุดหงิดอีก
ได้แต่ทำใจ
เพราะยิ่งโมโหไปก็เท่านั้น มันก็ไม่รู้ เสียเงินมาดูหนัง แต่ดูหนังไม่รู้เรื่อง แถมได้อารมณ์หงุดหงิดกลับบ้านอีกที่มันแย่มากเลยนะ
แต่คิดว่าเค้าน่าจะเห็นเราบ้างนะที่เราหันไปมองเนี่ย
แต่เค้าคงไม่สนใจ
แถมหนังฉายไป มัน 2 คนก็คุยกันเองอีก เสียสมาธิจริง ๆ
มีอยู่ครั้งนึง
หันไปมองมัน
น้องในออฟฟิศอีกคนที่มาด้วยหันมามองหน้าเรา
ตอนแรกก็แอบเกรงใจว่าเราที่เราหันไปมองหน้ามันเนี่ย ทำให้น้องเค้าเสียสมาธิในการดูหนังไปด้วยรึเปล่า
แต่จากการที่สบตากันแล้ว
พอเข้าใจว่าน้องข้าง ๆ เราก็โดนอีนี่ถีบเบาะเหมือนกัน
เพราะที่นั่งอีนี่มันกึ่งกลางระหว่างเบาะเรากับเบาะน้องข้าง ๆ พอดี
จริง ๆ ถ้ามาคนเดียวจะลุกไปนั่งที่อื่นแล้วนะ เพราะโรงมันไม่เต็ม
กะจะไปนั่งข้างมันเลย เพราะที่นั่งข้างมันว่างอยู่
แต่นี่มากันหลายคนเลยเกรงใจ ไม่อยากสร้างปัญหา
เพราะบางคนเจอแบบนี้ก็ทนได้ ช่างมัน ไม่หงุดหงิดอะไร
มีบางช่วงเตะแรงมากจนอยากจะลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงดังใส่หน้ามันเลย
แต่ก็นะ มาหลายคน กลัวพี่และน้องในออฟฟิศตกใจ
แต่ก็ไม่เคยทำกับใครนะ ได้แค่คิดอยู่ในใจ
เพราะคงไม่เคยเจอบ่อยด้วยแหละ ส่วนใหญ่ดูแต่ลิโด้ อยากนั่งตรงไหนก็นั่ง แถมไปคนเดียวก็สบายตัว เจอไม่ดีก็ย้ายหนี โรงไม่เต็มอยู่แล้ว
แล้วถ้าไม่ดูลิโด้ก็รอมันออกแผ่นแล้วดูที่บ้านดีกว่า สบายใจ
ไม่ต้องแต่งตัว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง แถมไม่หงุดหงิดกับสิ่งแวดล้อมคนดูคนอื่นด้วย
แล้วก็ไม่ต้องเอาตัวเองไปในดงเชื้อโรคในโรงหนังด้วย
คนส่วนใหญ่ไม่รู้นะว่าโรงหนังเนี่ย เป็นแหล่งเชื้อโรคตัวดีอันดับต้น ๆ เลย
สกปรกกว่าห้องน้ำสาธารณะอีกนะ
แต่ที่สกปรกที่สุดนะ คือ keyboard ที่เราพิมพ์ ๆ กันอยู่เนี่ยแหละ
โดยเฉพาะ keyboard ในร้านเกมส์
แหม วัน ๆ นึงเล่นกันตั้งกี่สิบมือ แล้วยิ่งมือเด็กผู้ชายด้วยแล้ว
ไปจับอะไรต่อมิอะไรมา อี๋ ไม่อยากจะคิด แค่พิมพ์ก็ขนลุกแล้ว
จะว่าไป Keyboard ที่บ้านที่กำลังพิมพ์อยู่นี้ก็ใช่ว่าจะเช็ดแอลกอฮอล์ทุกครั้ง
ใครอ่านถึงบรรทัดนี้อนุญาตให้หยุดอ่านแล้วไปเอาแอลกอฮอล์มาเช็ด keyboard เป็นการด่วนนะจ๊ะ
ชั่วฟ้าดินสลายก็เป็นหนังดีอีกเรื่องนึงนะ
แต่ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมาย
ไอ้คนที่ถีบเบาะมันยังทำให้เราประทับจิตกว่าเลย
ขนาดออกจากโรงแล้วมันยังอยู่ในหัวสมองเราอยู่แล้ว
แต่ลืมเรื่องหนังไปแล้ว
จำได้แต่ว่ามันละเมียดละไมดี
แสงสวยมาก โดยเฉพาะแสงโคมไฟตอนกลางคืน
ดูแล้วอยากไปลองนอนในคุ้มทางเหนือที่เต็มไปด้วยแสงเทียนและแสงโคมไฟกระดาษสาแบบนี้บ้าง (แต่คงร้อนน่าดู มันไม่ได้โรแมนติกอย่างที่คิด ฮา ๆ)
หนังแสดงให้เห็นถึง 2 ฝ่ายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นด้านธรรมะ กับฝ่ายที่เต็มไปด้วยกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ และคนที่อยู่ตรงกลางที่พร้อมจะโอนเอนไปทางกิเลสได้โดยง่าย (อย่างว่าแหละ กิเลศมันเหมือนน้ำ ที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ)
หนังแสดงให้เห็นว่าการที่จิตใจเรามัวแต่ลุ่มหลงและดิ่งลงสู่ที่ต่ำ ผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง
หนังแสดงให้เห็นถึงความเป็นอนัตตา คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา
มันก็เหมือนความรักหนุ่มสาว ที่สุดท้าย ๆ ใด ๆ ในโลกก็เข้าสู่กฏพระไตรลักษณ์
ไตรลักษณ์หมายถึงลักษณะทางธรรมชาติ 3 ประการ ที่พระพุทธองค์ทรงเห็นธรรมชาติ และนำมาสอนให้มวลมนุษย์เข้าใจคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งสั้นและเข้าใจได้ดีที่สุด
อนิจจังคือทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นอนิจจัง ซึ่งเป็นกฎของธรรมชาติ ไม่ว่าอะไรก็ไม่ยืนยงคงอยู่
ทุกขัง หมายถึงว่าทุกสิ่งเป็นทุกข์ ในส่วนของความสุขเองก็มีทุกข์แฝงอยู่ กลัวจะไม่ยั่งยืน เปลี่ยนแปรไป ซึ่งเรื่องของทุกข์นี้ได้เขียนไว้แล้ว ทุกข์จึงเป็นองค์ประธานของพุทธศาสนาเพราะเป็นกฎของธรรมชาติ
อนัตตา ซึ่งแปลตามตัวว่าไม่มีอัตตาซึ่งหมายถึงไม่มีตัวตน ความจริงแล้วไม่มีอะไร ตัวตนที่ชื่อนั้นชื่อนี้ไม่ช้าก็สลายกลายเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ ถึงแม้จิตที่จะไม่ตาย ก็เปลี่ยนไปไม่ใช่จิตของนาย ก นาย ข จนกว่าจิตดวงนั้นจะถึงนิพพาน
ความรักของหนุ่มสาวที่ลักลอบอยู่ด้วยกันมันเป็นอะไรที่หวานหอม น่าตื่นเต้น อยากอยู่ด้วยกันตราบชั่วฟ้าดินสลาย แต่สุดท้าย แม้แต่ความรักมันก็ไม่เที่ยง
"รูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง" มีความหมายเท่ากับการพูดว่า "สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง"
พลอยเล่นเรื่องนี้เปลืองตัวอยู่เหมือนกันนะ
ใครดูเรื่องนี้ไม่ได้ข้อคิดธรรมะมา ก็คิดซะว่าไปดูก้นพลอย กับก้นอนันดาก็ได้
ดูแค่ก้นกับฉากสวย ๆ ก็คุ้มแล้วเหมือนกัน (มั้ง สำหรับบางคน)
ใครอ่านมาถึงตรงนี้
จำได้มั้ยว่าเราให้เวลาไปเอาแอลกอฮอล์มาทำความสะอาด keyboard
ทำหรือยัง? ทำเดี๋ยวนี้เลยนะ
ลืมเรื่อง Rule of 72 เรารึยังที่บอกว่ามันคือ อะไรที่ได้ดู ได้อ่าน ได้ฟังไป
แล้วไม่นำไปใช้กับชีวิตเราเองภายใน 72 ชั่วโมง
จะเท่ากับว่าสิ่งที่ได้ยิน ได้อ่าน ได้ฟังนั้น จะไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตเราเลย
แอลกอฮอล์เนี่ย มีติดตู้ยากันทุกบ้าน
ไปหยิบมาเช็ดเลย ไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมงหรอก อะไรทำได้ก็ทำเลย จะได้ไม่ลืม
ไม่ลืมใช่มั้ยที่เราบอกว่า keyboard มันคืออะไรนะ
ลืมแล้วใช่มั้ย
มันคือแหล่งสะสมเชื้อโรคอันดับ 1 ที่สกปรกกว่าห้องน้ำอีก
ทำซะเลยตอนนี้ อย่าให้อารมณ์เสีย
ปล. เริ่มเม้าเรื่องหนัง มันมาจบลงที่แอลกอฮอล์ได้ไงวะเนี่ย
Create Date : 29 กันยายน 2553
Last Update : 26 ตุลาคม 2553 8:04:21 น.
1 comments
Counter : 2032 Pageviews.
Share
Tweet
แหมๆ อย่าเหมาเอาอากาศที่กรุงเทพมายัดเยียดให้ภาคเหนือสิครับ
คิดหน่อยสิ ว่าทำไมเค้าถึงต้องจุดโคมไฟกัน
ไม่ใช่ว่าจะทำโรแมนติกบ้าบอะไรหรอกนะ แต่มันหนาวจริงๆ ครับ - -"
โดย: คนเหนือ IP: 118.172.37.51 วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:5:04:51 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [
?
]
ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
คิดหน่อยสิ ว่าทำไมเค้าถึงต้องจุดโคมไฟกัน
ไม่ใช่ว่าจะทำโรแมนติกบ้าบอะไรหรอกนะ แต่มันหนาวจริงๆ ครับ - -"