Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
North Face เราต้องสนิทกันแค่ไหนถึงจะปีนเขาด้วยกันได้

เราดูเรื่องนี้ในโรงตอนบ้านเรามีเทศกาลหนังยุโรป EU Film Festival 2012

เรานั่งอ่านและดู trailor ทุกเรื่อง
มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่เราต้องไปดูคือเรื่อง North Face




สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับนักปีนผาชาวเยอรมันสองคนที่พยายามปีนหน้าผาชัน 'อีเกอร์' ความสูง 5,900 ฟุตที่ไม่เคยมีใครปีนสำเร็จมาก่อนในช่วงก่อนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1936 ที่เบอร์ลิน หนังนำเสนอการพิชิตหน้าผาเสมือนการต่อสู้ระหว่างนักปีนชาวเยอรมัน โทนี เคิร์ซ และ แอนดี ฮินเทอร์สตอยเซอร์ กับนักปีนจากออสเตรีย วิลลี แองเกอเรอร์ และเอดี เรนเนอร์ ทั้งสี่อยู่ทีมเดียวกันแต่ไม่ได้ปีนด้วยกันเมื่อไปถึงครึ่งทาง






หนังเข้า 18.50
แต่จำผิดเป็น 16.50
ตื่นมา 4 โมง
นอนได้ยังไงก็ไม่รู้ 16 ชั่วโมงตั้งแต่เที่ยงคืน
ตาลีตาเหลือกอาบน้ำ แต่งตัวไปดูหนัง (คนเดียว ตลอด ๆ)
ไปถึง 5 โมงนิดหน่อย เค้าก็พาเข้าโรง
คนดูเต็มโรงจนล้นออกมาต้องนั่งพื้นตามขั้นบันไดกันเลยทีเดียว
แอบดีใจอยู่ลึก ๆ ว่าหนังสไตล์เราเดี๋ยวนี้ดูกันเต็มขนาดนี้เลยหรือนี่
ก็เลยขึ้นไปนั่งพื้นตามบันไดถัดจากชาวบ้าน

ดูได้ 10 นาที
เอะใจ
ทำไมหนังยังไม่เห็นมีปีนเขาเลย
แล้วภาษาเหมือนภาษาอิตาลี่เลย
ดูเหมือนเป็นหนังเกย์ คอมมาดี้ ไม่เห็นดราม่าอย่างที่ชอบดูเลย
หันไปถามคนข้าง ๆ ว่าหนังเรื่องอะไร
เค้าบอกว่าไม่รู้ อ้าวเวง ไม่ได้ทำการบ้านมาใช่มั้ย
เห็นหนังฟรีก็เลยเดินเข้ามาว่างั้น?
ถามอยู่ 2-3 คนไม่ได้เรื่องเลยเดินออกมาถามเจ้าหน้าที่ข้างนอกดีกว่า
เพราะเกรงใจคนดูหนังที่มารำคาญเรา
เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นหนังเรื่อง Loose Cannons (2010)



เค้าบอกว่า North Face มันเรื่องสุดท้าย ฉายตอน 18.50 ค่ะ
เราก็เลยไม่ดู
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องนี้สนุกนะคะ
เอิ่ม
คือไม่ได้อยากดูหนังสนุกแบบคอมมาดี้น่ะค่ะ
อยากดูหนังสนุกแบบดราม่ามากกว่า




เราเลยไปร้านขนมเจ้าประจำของเรา
ซึ่งวันนี้คนเยอะมาก มืดฟ้ามัวดิน
คุยกับเจ้าของที่ชอบดูหนังอินดี้เหมือนกัน
เค้าบอกว่าร้านเค้าออกทีวีไปเมื่อเช้า
วันนี้คนเลยเยอะเป็นพิเศษ
ว้า ว่าจะชวนไปดูหนังยุโรปด้วยกันซะหน่อย
เค้าบอกว่าไปไม่ได้
แต่ชี้ไปที่พี่ผู้ชายคนข้าง ๆ บอกว่า
นี่ไง พี่คนนี้ชอบดูหนังอินดี้คนเดียวเหมือนเราเลย
ไปดูด้วยกันสิ

เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้าง
แต่ดูหน้าพี่เค้าแล้ว
เอิ่ม
หนูยอมดูคนเดียวต่อไปดีกว่าค่ะ
จบนะคะ

พี่เค้าก็ถามข้อมูลแล้วพี่เค้าก็บอกว่าไปดูแน่นอน
เจอกัน
เอิ่ม
หนูไม่ได้ชวนนะคะ แค่หนูบอกข้อมูลเฉย ๆ นะ
เจอกันข้างในก็ไม่จำเป็นต้องนั่งดูด้วยกันหรือข้างกันเนอะ
โอเคนะ





ตอนเข้าโรง
ได้ที่นั่งหลังสุดกลาง ๆ ถือว่าเป็นที่นั่งที่ยอดเยี่ยมมาก
คนดูประมาณ 60% ของโรงได้
(ว่าแล้ว ว่าหนังที่เราอยากดูมันต้องไม่เต็มโรง แต่แค่นี้ก็คงดีมากแล้ว )
นี่ขนาดหนังฟรีนะเนี่ย คนยังมาดูกันไม่เต็มโรงเลย
แต่เราก็ชินซะแล้ว
เพราะเวลาไปดูที่ลิโด้ก็ดูกันไม่ถึงครึ่งโรง เลือกที่นั่งกันได้ตามใจมาก

หลังดูหนังจบ
ปาดน้ำตาไปหลายป้อย
อิจฉาผู้หญิงไทยข้าง ๆ ที่มีฝรั่งคอยโอบเวลาเสียน้ำตา
ส่วนเราต้องนั่งปาดน้ำตาเพียงลำพัง กร๊าก ๆ



หนังดีมากเลยนะ
มีทั้งฉากที่คิดไม่ถึงและคาดไว้แล้วว่าเป็นแบบนี้
ตอนกลาง ๆ และท้าย ๆ ตรงที่ทั้งคู่เผชิญความยากลำบากในการปีนเขา
เราแอบมองบรรยากาศในโรง
ทุกคนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้กันเลย
ลุ้นแทนตัวละครกันหมด
อิพวกมาเป็นคู่ก็สามารถกุมมือหรือโอบลุ้นกันได้
แต่อิพวกมาคนเดียวก็ต้องกอดตัวเองไปนะฮ๊าฟฟฟ

ดูจบก็เลยได้เรียนรู้ว่า
ภูเขานั้น
มันสวยงามเสมอถ้าเรามองมันอยู่ไกล ๆ
แต่มันจะอันตรายมากถ้าเราอยากจะเอาตัวเข้าไปแนบสนิทกับมัน



ยิ่งภูเขาที่มีหิมะและหมอกปกคลุม
มองจากที่ไกล ๆ มันจะดูสวยมากเวลาถ่ายรูป
แต่อย่าได้เอาตัวไปแนบเชียวนะ
ถึงตาย ไม่หนาวตาย ก็ลื่นตาย หรือไม่ก็หิมะไหลทับตาย
แต่ไม่ว่าจะตายแบบไหน







คนที่ไม่เคยคิดจะปีนก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทำตัวเองทั้งนั้น
เอาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยง
แต่สำหรับคนที่อยากขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด
มันคงเป็นสิ่งที่ยอมแลกชีวิตตัวเองกับความเสี่ยงนั้น
passion อันมหาศาล สามารถทำให้เรายอมสละตัวเองจาก comfort zone เดินเข้าไปหา risky zone ได้ไม่ยาก
และต้องยอมรับผลที่ตามมา




การที่คน 2 คนจะมาปีนภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยอันตรายและความหนาวเย็นด้วยกันได้
เราต้องสนิทกันขนาดไหนนะ
เราต้องเชื่อมั่นในกันและกันขนาดไหนนะ
เราจะปีนไปด้วยกันจนสุดทางได้มั้ยนะ
ในเมื่อคนนึงปีนเพื่อแข่งกับตัวเอง
ส่วนอีกคนปีนเพื่อแข่งกับคนอื่น





การปีนเขาด้วยกัน ไม่เหมือนการนั่งตกปลาด้วยกัน
การตกปลาด้วยกันก็มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันได้โดยไม่เสี่ยง ต่างคนต่างแชร์เรื่องราวให้กันและกันฟัง เนิ่นนาน

ส่วนการปีนเขาด้วยกันก็มีช่วงเวลที่ดีร่วมกันเหมือนกัน
แต่เสี่ยงกว่า เหนื่อยกว่า แต่ละคำพูดที่ออกมามันสำคัญทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น rope, rock, snow, เหมือนแม้กระทั่งคำว่า watch out หรือ ok
ทุกคำพูดเพียงไม่กี่คำ สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้โดยทันที
ถ้าคนข้างล่างไม่รับฟัง หรือฟังแต่ไม่ทำตาม





เราต้องมี passion ขนาดไหนนะ ถึงมุ่งมั่นฝ่าฟันกับสภาพอากาศอันเลวร้าย ทั้งพายุฝน พายุหิมะ กระแสลมแรงขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้

แต่ความมุ่งมั่นเท่านั้นคงไม่พอ
เมื่อเรารู้ว่าเพื่อนร่วมทาง ที่ไม่ใช่กลุ่มของเราได้รับบาดเจ็บ
เราควรจะทำอย่างไร
เลือกที่จะปล่อยเค้าไว้แล้วสุดท้ายเค้าต้องตายทั้งคู่ แล้วเราเดินขึ้นไปให้ถึงจุดหมาย
หรือเลือกที่จะช่วยเหลือ แต่จุดหมายของเราอยู่ไกลออกไปหรืออาจจะไม่ถึงเลย






การปีนเขา
ทำให้เราคุยและอยู่กับตัวเองไปพร้อม ๆ กับอยู่กับอีกคน
เราต้องขจัดความกลัวไปพร้อม ๆ กับเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวของอีกคน
เราท้าทายความอึดของตัวเองไปพร้อม ๆ กับสภาพร่างกายของอีกคน
แต่ความอึดแค่นั้นยังไม่พอที่จะทำให้เราไปจุดสูงสุดได้
มันต้องมาพร้อมสมองและประสบการณ์ที่พร้อมจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ตลอดเวลา
การตัดสินใจช้าเพียงเสี้ยววินาที
อาจจะทำลายความตั้งใจทั้งหมดที่มีมา รวมถึงชีวิตของเพื่อนอีกคน
ของอะไรที่ทำตกลงไป มันไม่สำคัญเลยถ้าเพื่อนร่วมทางยังอยู่กับเรา
หรือมันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราไปถึงปลายทาง แต่เราทิ้งเพื่อนร่วมทางไว้ระหว่างทาง





ยิ่งสูง อุปสรรคยิ่งเยอะขึ้นเรื่อย ๆ และทางเลือกก็มีน้อยลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
เราเชื่อเหลือเกินว่า
คนที่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ (ไม่ว่าจะปีนเขา, งานหรือธุรกิจ)
เค้าต้อง "เกินคน"
ไม่ว่าจะเป็น
แกร่งเกินคน
เด็ดขาดเกินคน
หน้าด้านเกินคน
เลือดเย็นเกินคน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด
เราได้เรียนรู้ว่า
คนที่ดีเกินคน ไม่สามารถขึ้นไปถึงจุดนั้นได้แน่นอน






Create Date : 03 มิถุนายน 2555
Last Update : 26 กันยายน 2557 15:23:48 น. 4 comments
Counter : 4866 Pageviews.

 
เขียนดีมากๆ ค่ะ


โดย: p'ส้ม IP: 125.24.84.211 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:13:17:35 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: ทุ่งหัวช้าง IP: 49.48.212.166 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:16:35:41 น.  

 
คุณลีลี
น่ารักที่สุดเลยที่รีวิวมาให้อ่านกัน

แล้วเจอกันนะคะ



โดย: โนบูตะ เองค่ะ ^^ IP: 202.29.153.10 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:17:57:47 น.  

 
น่าดูอีกเรื่องแล้ว


โดย: naray14 IP: 124.121.205.102 วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:10:27:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.