Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ทดสอบการสร้างบล็อคของช้าน
รับน้อง...ส่องทาง
เกาหลี กับการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิต
โตเกียว ครั้งแรก ตัวคนเดียว
กับหนังบางเรื่องที่ยังอิน
บ่น ๆ เพ้อเจ้อ เล่าโน่น เล่านี่ไปเรื่อย
สิงคโปร์คนเดียวครั้งแรก แถมนัดหนุ่มที่นั่นมาเที่ยวด้วย
เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว อ่านไปตอนนี้มันไม่ดีอ่านะ
มิตรภาพฟูฟ่อง...ที่ฮ่องกงครั้งแรก ตัวคนเดียว
เที่ยวคนเดียวในมาเลย์...ไม่เก๋อย่างที่คิด
เที่ยวคนเดียวในเมืองฝรั่ง และการเจอหนุ่มตี๋หลาย ๆ คนจาก dating app
<<
มิถุนายน 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
3 มิถุนายน 2555
North Face เราต้องสนิทกันแค่ไหนถึงจะปีนเขาด้วยกันได้
All Blogs
หนังญี่ปุ่น The Graduation เงียบ เนิบช้า งดงาม
ซีรี่ย์เกาหลี two weeks หนังสืบสวนสอบสวนที่ต้องลุ้น แต่ทำไมเรากลับชอบฉากกุ๊กกิ๊กล่ะเนี่ย
Give Up Tomorrow เรื่องจริงของแพะ ที่ความยุติธรรมยังเข้าไม่ถึง กม.นิรโทษกรรมไม่เคยช่วยผู้ที่บริสุทธิ
Fly me to Polaris หนังอับดับ 1 ตลอดกาลในใจเรา
หนังเกาหลี Silenced บีบคั้น กดดัน หดหู่ ท้อแท้ สิ้นหวัง จิตตกไปเลย
Architecture 101 ถ้าเป็นกาแฟ คงทั้งหวาน ขม กลมกล่อม นุ่มติดลิ้นไปนาน
Innocent Man สนุกน่ะมันก็สนุกนะ แต่มันจะย้อน MV เยอะไปไหนเนี่ย
The Lucky One ความเชื่อ โชคชะตาและพลังแห่งศรัทธาในแสงเทียนอันริบหรี่ที่พร้อมจะดับได้ทุกเมื่อ
Mother ความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ มันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป
Ice Rain เราจะฝังความเจ็บปวดไว้บนภูเขาหิมะร่วมกัน
Paju (2009) หนังรางวัลที่แอบยากต่อการเข้าใจ
Sung Kyun Kwan Scandal มันเป็นซีรี่ย์ที่สะอาดดีนะ
Come Rain, Come Shine บางความรัก ไม่มีเหตุผลที่จะเริ่มต้น และไม่มีเหตุผลที่จะหยุดลงเช่นกัน
รัก 7 ปีดี 7 หน ทำให้เราแบกรองเท้าไปวิ่งสวนลุมมาได้ร่วมเดือนแล้ว
Searching For The Elephant เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการหลอกตัวเองกับหลอกคนอื่นปะปนกันไป
Saigo no Kizuna คู่พี่น้องที่ต้องมาเป็นฝ่ายศัตรูและแชร์ชะตาชีวิตกันในสงครามโลกครั้งที่ 2
Josee, The Tiger and The Fish การเข้ามาของคนหนึ่ง เปลี่ยนแปลงชีวิตของอีกคนไปตลอดกาล
Love Letter ดูแล้วถึงกับเอามือจับหัวใจเลยทีเดียว อบอุ่นมากมาย
Lovers Vanished หนังอินดี้เงียบ ๆ สลัว ๆ แต่ตอนจบอึ้งและเจ๋งมาก
Secret Garden จิตนาการเราก็เป็นสากลนะเนี่ย
North Face เราต้องสนิทกันแค่ไหนถึงจะปีนเขาด้วยกันได้
Hitsudan Hostess ความรักของแม่กับความพยายามเป็นเป็นที่ 1 ของสาวน้อยหูหนวก
Taegukgi ความรักของพี่ชายอบอวลในสงครามที่ความตายตัดกันไปมาทุกวินาที
Otonari เพียงผนังบาง ๆ ที่กั้นระดับเสียงของ 2 หัวใจข้างห้อง
One Million Stars Falling from the Sky ไม่ร้องแต่ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง
Welcome to The Quiet Room แต่ที่จริง...มันไม่เงียบ
หนังญี่ปุ่น Sweet rain 3 เรื่องราวกับ 1 ยมทูตในวันฝนตก
Sukida หรือความเงียบ จะเป็นการบอกรักที่โรแมนติกที่สุด
หนังญี่ปุ่น Chloe กับการต่อสู้กับโรคประหลาด
Niini no Koto wo Wasurenaide กับความเจ็บปวดของเนื้องอกในสมอง
หนังญี่ปุ่น Confessions ว่าด้วยเรื่องการแก้แค้นทางจิตวิทยาที่เจ๋งดีนะ
Oishi Man คนนึงมาเพื่อเยียวยาบางสิ่ง อีกคนอยู่เพื่อรอคอยบางอย่าง
Oh Dal Ja's Spring ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเรามีซีรี่ย์เรื่องนี้ถึง 3 ชุด
The Woman Who Still Wants To Marry เธอมาเปลี่ยนฤดูหนาวในใจฉันให้เป็นฤดูใบไม้ผลิ
49 days เข้มข้น ลุ้น ตื่นเต้น เดาไม่ถูก ดูรวดเดียวจบเลย
April Bride...ว่าด้วยการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องอัศจรรย์
Hanamizuki - May your love bloom for a hundred years
Once Upon a Time in Seoul หนังแมน ๆ แต่แอบหวานเล็ก ๆ ให้หัวใจอุ่น ๆ
Jump หนังจีนที่ให้ข้อคิดดี ๆ เรื่องความพยายาม
Madeleine การส่งหนังสือพิมพ์ก็เหมือนกับการเดินเล่นในเมืองที่ว่างเปล่า
Tegami (2006), The letters (手紙) มนุษย์นั้นจะใช้ชีวิตเพียงลำพังคนเดียวไม่ได้
ชั่วฟ้าดินสลายจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่มีผีถีบเบาะข้างหลังทุก 10 นาที
หนังจีนเพิ่งเข้าโรง Aftershock ที่พี่เอ๋ นิ้วกลมบอกว่า มันคือหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งตั้งแต่เคยดูหนังมา
หนังเกย์เกาหลี No Regret ใช้เวลาดูหลายวันมาก แต่ก็ชอบนะ
น้องมาค้นหนังในกรุเป็นร้อยเรื่อง แต่ไม่ได้กลับไปซักเรื่อง รสนิยมการดูหนังเหมือนกันเหลือเกิ๊น
ญี่ปุ่นกับเกาหลี Heaven's Bookstore กับ Sad Dream 2 เรื่อง 2 พล็อตแปลกในวันเดียว
Before Sunrise อบอุ่น เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง งดงาม กินใจ
หนังไต้หวันนอกกระแส Blue Cha Cha นิ่ง เนือย เอื่อย น้อยแต่มากมายและงดงาม
อยากมีความเคยชินกับการดูหนัง 2 คนบ้างจัง
ดูหนังคนเดียวที่ลิโด้กับ Hot Summer Days
About Love หนังที่ทำให้เราตกหลุมรักตั้งแต่ 10 นาทีแรก
You're beaufiful VS Coffee Prince ไม่ไหวแล้วทั้งคู่ อินขนาด
Beethoven Virus VS Nodame ลากไปถึงรถไฟฟ้าฯ และ I wish I had a wife
นั่งดูเด็กเล่นเปียโนในหนัง My Piano แล้วน้ำตาไหล (อ่อนไหวไปมั้ยเนี่ย)
หนังญี่ปุ่น waiting in the dark เงียบแต่ไม่อึดอัด น้อยแต่มากมายจริง ๆ
สั่งหนัง departures คนขายบอกหาไม่เจอเลยส่งเรื่องอื่นมาให้ มันถูกต้องแล้วเหรอ
หนังเกาหลี Maundy Thursday (Our happy time) ขอบคุณผู้กำกับที่คุณสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา
Sky of Love เค้าร้องไห้กันฉากไหนเหรอ?
All for love เราสามารถเสียสละได้อย่างแม่ชีคนนั้นไหม
Get Karl! Oh Soo Jung ซีรี่ย์สนุกแถมให้ข้อคิดมากมาย
เพิ่งดู "หนีตามกาลิเลโอ" มา ผิดหวังมาก รอมาตั้งหลายเดือน สปอยล์นะ (ใครจะไปดูห้ามอ่าน)
A Frozen Flower หนังเกย์ฟอร์มยักษ์จากเกาหลี หนังดีมาก อินสุด ๆ
Someday บางเวลาที่เรารักกัน ลึกซึ้ง อบอุ่น งดงามได้ใจจริง ๆ
90 Days-Falling In Love Days ปวดใจมากมาย น้ำตาไม่รู้มาจากไหน
คำพูดพระเอกแบบนี้ แค่อ่านก็แทบจะกัดลิ้นตาย (แอบหวานรับวาเลนไทน์)
North Face เราต้องสนิทกันแค่ไหนถึงจะปีนเขาด้วยกันได้
เราดูเรื่องนี้ในโรงตอนบ้านเรามีเทศกาลหนังยุโรป EU Film Festival 2012
เรานั่งอ่านและดู trailor ทุกเรื่อง
มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่เราต้องไปดูคือเรื่อง North Face
สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับนักปีนผาชาวเยอรมันสองคนที่พยายามปีนหน้าผาชัน 'อีเกอร์' ความสูง 5,900 ฟุตที่ไม่เคยมีใครปีนสำเร็จมาก่อนในช่วงก่อนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1936 ที่เบอร์ลิน หนังนำเสนอการพิชิตหน้าผาเสมือนการต่อสู้ระหว่างนักปีนชาวเยอรมัน โทนี เคิร์ซ และ แอนดี ฮินเทอร์สตอยเซอร์ กับนักปีนจากออสเตรีย วิลลี แองเกอเรอร์ และเอดี เรนเนอร์ ทั้งสี่อยู่ทีมเดียวกันแต่ไม่ได้ปีนด้วยกันเมื่อไปถึงครึ่งทาง
หนังเข้า 18.50
แต่จำผิดเป็น 16.50
ตื่นมา 4 โมง
นอนได้ยังไงก็ไม่รู้ 16 ชั่วโมงตั้งแต่เที่ยงคืน
ตาลีตาเหลือกอาบน้ำ แต่งตัวไปดูหนัง (คนเดียว ตลอด ๆ)
ไปถึง 5 โมงนิดหน่อย เค้าก็พาเข้าโรง
คนดูเต็มโรงจนล้นออกมาต้องนั่งพื้นตามขั้นบันไดกันเลยทีเดียว
แอบดีใจอยู่ลึก ๆ ว่าหนังสไตล์เราเดี๋ยวนี้ดูกันเต็มขนาดนี้เลยหรือนี่
ก็เลยขึ้นไปนั่งพื้นตามบันไดถัดจากชาวบ้าน
ดูได้ 10 นาที
เอะใจ
ทำไมหนังยังไม่เห็นมีปีนเขาเลย
แล้วภาษาเหมือนภาษาอิตาลี่เลย
ดูเหมือนเป็นหนังเกย์ คอมมาดี้ ไม่เห็นดราม่าอย่างที่ชอบดูเลย
หันไปถามคนข้าง ๆ ว่าหนังเรื่องอะไร
เค้าบอกว่าไม่รู้ อ้าวเวง ไม่ได้ทำการบ้านมาใช่มั้ย
เห็นหนังฟรีก็เลยเดินเข้ามาว่างั้น?
ถามอยู่ 2-3 คนไม่ได้เรื่องเลยเดินออกมาถามเจ้าหน้าที่ข้างนอกดีกว่า
เพราะเกรงใจคนดูหนังที่มารำคาญเรา
เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นหนังเรื่อง Loose Cannons (2010)
เค้าบอกว่า North Face มันเรื่องสุดท้าย ฉายตอน 18.50 ค่ะ
เราก็เลยไม่ดู
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องนี้สนุกนะคะ
เอิ่ม
คือไม่ได้อยากดูหนังสนุกแบบคอมมาดี้น่ะค่ะ
อยากดูหนังสนุกแบบดราม่ามากกว่า
เราเลยไปร้านขนมเจ้าประจำของเรา
ซึ่งวันนี้คนเยอะมาก มืดฟ้ามัวดิน
คุยกับเจ้าของที่ชอบดูหนังอินดี้เหมือนกัน
เค้าบอกว่าร้านเค้าออกทีวีไปเมื่อเช้า
วันนี้คนเลยเยอะเป็นพิเศษ
ว้า ว่าจะชวนไปดูหนังยุโรปด้วยกันซะหน่อย
เค้าบอกว่าไปไม่ได้
แต่ชี้ไปที่พี่ผู้ชายคนข้าง ๆ บอกว่า
นี่ไง พี่คนนี้ชอบดูหนังอินดี้คนเดียวเหมือนเราเลย
ไปดูด้วยกันสิ
เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้าง
แต่ดูหน้าพี่เค้าแล้ว
เอิ่ม
หนูยอมดูคนเดียวต่อไปดีกว่าค่ะ
จบนะคะ
พี่เค้าก็ถามข้อมูลแล้วพี่เค้าก็บอกว่าไปดูแน่นอน
เจอกัน
เอิ่ม
หนูไม่ได้ชวนนะคะ แค่หนูบอกข้อมูลเฉย ๆ นะ
เจอกันข้างในก็ไม่จำเป็นต้องนั่งดูด้วยกันหรือข้างกันเนอะ
โอเคนะ
ตอนเข้าโรง
ได้ที่นั่งหลังสุดกลาง ๆ ถือว่าเป็นที่นั่งที่ยอดเยี่ยมมาก
คนดูประมาณ 60% ของโรงได้
(ว่าแล้ว ว่าหนังที่เราอยากดูมันต้องไม่เต็มโรง แต่แค่นี้ก็คงดีมากแล้ว )
นี่ขนาดหนังฟรีนะเนี่ย คนยังมาดูกันไม่เต็มโรงเลย
แต่เราก็ชินซะแล้ว
เพราะเวลาไปดูที่ลิโด้ก็ดูกันไม่ถึงครึ่งโรง เลือกที่นั่งกันได้ตามใจมาก
หลังดูหนังจบ
ปาดน้ำตาไปหลายป้อย
อิจฉาผู้หญิงไทยข้าง ๆ ที่มีฝรั่งคอยโอบเวลาเสียน้ำตา
ส่วนเราต้องนั่งปาดน้ำตาเพียงลำพัง กร๊าก ๆ
หนังดีมากเลยนะ
มีทั้งฉากที่คิดไม่ถึงและคาดไว้แล้วว่าเป็นแบบนี้
ตอนกลาง ๆ และท้าย ๆ ตรงที่ทั้งคู่เผชิญความยากลำบากในการปีนเขา
เราแอบมองบรรยากาศในโรง
ทุกคนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้กันเลย
ลุ้นแทนตัวละครกันหมด
อิพวกมาเป็นคู่ก็สามารถกุมมือหรือโอบลุ้นกันได้
แต่อิพวกมาคนเดียวก็ต้องกอดตัวเองไปนะฮ๊าฟฟฟ
ดูจบก็เลยได้เรียนรู้ว่า
ภูเขานั้น
มันสวยงามเสมอถ้าเรามองมันอยู่ไกล ๆ
แต่มันจะอันตรายมากถ้าเราอยากจะเอาตัวเข้าไปแนบสนิทกับมัน
ยิ่งภูเขาที่มีหิมะและหมอกปกคลุม
มองจากที่ไกล ๆ มันจะดูสวยมากเวลาถ่ายรูป
แต่อย่าได้เอาตัวไปแนบเชียวนะ
ถึงตาย ไม่หนาวตาย ก็ลื่นตาย หรือไม่ก็หิมะไหลทับตาย
แต่ไม่ว่าจะตายแบบไหน
คนที่ไม่เคยคิดจะปีนก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทำตัวเองทั้งนั้น
เอาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยง
แต่สำหรับคนที่อยากขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด
มันคงเป็นสิ่งที่ยอมแลกชีวิตตัวเองกับความเสี่ยงนั้น
passion อันมหาศาล สามารถทำให้เรายอมสละตัวเองจาก comfort zone เดินเข้าไปหา risky zone ได้ไม่ยาก
และต้องยอมรับผลที่ตามมา
การที่คน 2 คนจะมาปีนภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยอันตรายและความหนาวเย็นด้วยกันได้
เราต้องสนิทกันขนาดไหนนะ
เราต้องเชื่อมั่นในกันและกันขนาดไหนนะ
เราจะปีนไปด้วยกันจนสุดทางได้มั้ยนะ
ในเมื่อคนนึงปีนเพื่อแข่งกับตัวเอง
ส่วนอีกคนปีนเพื่อแข่งกับคนอื่น
การปีนเขาด้วยกัน ไม่เหมือนการนั่งตกปลาด้วยกัน
การตกปลาด้วยกันก็มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันได้โดยไม่เสี่ยง ต่างคนต่างแชร์เรื่องราวให้กันและกันฟัง เนิ่นนาน
ส่วนการปีนเขาด้วยกันก็มีช่วงเวลที่ดีร่วมกันเหมือนกัน
แต่เสี่ยงกว่า เหนื่อยกว่า แต่ละคำพูดที่ออกมามันสำคัญทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น rope, rock, snow, เหมือนแม้กระทั่งคำว่า watch out หรือ ok
ทุกคำพูดเพียงไม่กี่คำ สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้โดยทันที
ถ้าคนข้างล่างไม่รับฟัง หรือฟังแต่ไม่ทำตาม
เราต้องมี passion ขนาดไหนนะ ถึงมุ่งมั่นฝ่าฟันกับสภาพอากาศอันเลวร้าย ทั้งพายุฝน พายุหิมะ กระแสลมแรงขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้
แต่ความมุ่งมั่นเท่านั้นคงไม่พอ
เมื่อเรารู้ว่าเพื่อนร่วมทาง ที่ไม่ใช่กลุ่มของเราได้รับบาดเจ็บ
เราควรจะทำอย่างไร
เลือกที่จะปล่อยเค้าไว้แล้วสุดท้ายเค้าต้องตายทั้งคู่ แล้วเราเดินขึ้นไปให้ถึงจุดหมาย
หรือเลือกที่จะช่วยเหลือ แต่จุดหมายของเราอยู่ไกลออกไปหรืออาจจะไม่ถึงเลย
การปีนเขา
ทำให้เราคุยและอยู่กับตัวเองไปพร้อม ๆ กับอยู่กับอีกคน
เราต้องขจัดความกลัวไปพร้อม ๆ กับเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวของอีกคน
เราท้าทายความอึดของตัวเองไปพร้อม ๆ กับสภาพร่างกายของอีกคน
แต่ความอึดแค่นั้นยังไม่พอที่จะทำให้เราไปจุดสูงสุดได้
มันต้องมาพร้อมสมองและประสบการณ์ที่พร้อมจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ตลอดเวลา
การตัดสินใจช้าเพียงเสี้ยววินาที
อาจจะทำลายความตั้งใจทั้งหมดที่มีมา รวมถึงชีวิตของเพื่อนอีกคน
ของอะไรที่ทำตกลงไป มันไม่สำคัญเลยถ้าเพื่อนร่วมทางยังอยู่กับเรา
หรือมันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราไปถึงปลายทาง แต่เราทิ้งเพื่อนร่วมทางไว้ระหว่างทาง
ยิ่งสูง อุปสรรคยิ่งเยอะขึ้นเรื่อย ๆ และทางเลือกก็มีน้อยลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
เราเชื่อเหลือเกินว่า
คนที่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ (ไม่ว่าจะปีนเขา, งานหรือธุรกิจ)
เค้าต้อง "เกินคน"
ไม่ว่าจะเป็น
แกร่งเกินคน
เด็ดขาดเกินคน
หน้าด้านเกินคน
เลือดเย็นเกินคน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด
เราได้เรียนรู้ว่า
คนที่ดีเกินคน ไม่สามารถขึ้นไปถึงจุดนั้นได้แน่นอน
Create Date : 03 มิถุนายน 2555
Last Update : 26 กันยายน 2557 15:23:48 น.
4 comments
Counter : 4866 Pageviews.
Share
Tweet
เขียนดีมากๆ ค่ะ
โดย: p'ส้ม IP: 125.24.84.211 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:13:17:35 น.
ขอบคุณครับ
โดย: ทุ่งหัวช้าง IP: 49.48.212.166 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:16:35:41 น.
คุณลีลี
น่ารักที่สุดเลยที่รีวิวมาให้อ่านกัน
แล้วเจอกันนะคะ
โดย: โนบูตะ เองค่ะ ^^ IP: 202.29.153.10 วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:17:57:47 น.
น่าดูอีกเรื่องแล้ว
โดย: naray14 IP: 124.121.205.102 วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:10:27:30 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [
?
]
ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.