Update News# 26 (เก็บตกบันเทิงเริงใจฮ่องกง) 5 Quiz กับเจ้าเวย, รำลึกถึงซูสีไทเฮา, 3 ซีรี่ส์ทีวีบี ขอรำลึกถึงนางเอกหน้าหวานระดับคลาสสิค "หลิวเซียะหัว" กับหนังจีนยุคโด่งดัง "ซูสีไทเฮา" Credit Photo : //www.raymondfamily.cn พระเอกขวัญใจแม่ยก และสาว ๆ ก็ยก .....กำลังอุทิศกายใจถ่ายละครเรื่อง Heart of Greed 2 อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย 2 วันที่ผ่านมามีการถ่ายฉากแต่งงานในละครที่โรงแรมแถวจิมซาจุ่ย ซึ่งคู่บ่าวสาวไม่ใช่ หนุ่มฟงและสาวทาเวีย ตามที่เห็นในภาพ แต่เป็นคู่ของเจ๊หมีเซียะกับลุงเซียะหวี่ หลินฟงผู้เป็นลูกชวนป๋วย ต้องไปทำหน้าที่แสดงความยินดี หลังจากถ่ายมาหลายตอน คุณชายหลินก็ได้ใส่แต่ชุดกะโปโล ทำขนมไหว้พระจันทร์ทู้กวัน คงมีฉากนี้แหละที่ใส่สูทอย่างหล่อ แต่สูทสีอ่อนไม่ค่อยเห็นฟงใส่เท่าไหร่ (ใครจัดให้เนี่ย) ในวันนั้นก็มีนักแสดงมาเข้าฉากกันเพียบ เช่น ลินดา, เคทสุ่ย, เฉินห้าว,คุณแม่ใหญ่ (หลี่ซือฉี) และตัวประกอบฉากอีกมากหน้า วันถัดมาเป็นฉากรวมพลปาร์ตี้บาร์บีคิว เรียกว่าปิ้งหมู ปิ้งหมึก ปิ้งไก่ จนแทบไม่ต้องใช้ไฟค่ะ เพราะเดี๋ยวก็สุกไปเอ้ง จากอุณหภูมิประมาณ 30 องศา ทำเอาเหล่านักแสดงบ่นอุบไปตาม ๆ กันว่าร้อนจนแทบคลั่ง (ถ้าถ่ายที่บ้านเรา คงจะชักกระแดกไปแร้ว) หนุ่มฟงนั่งปิ้งบาร์บีคิว ตากแดดนานเกินไป ทำให้หน้ามีผื่นแดง ...นักข่าวสาระแนถามเลยว่า คุณกลัวว่าความหล่อจะลดลงรึเปล่า ? (ใครบอก หล่อเท่าเดิม และเพิ่มทุกวัน) ฟงตอบว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็จางหายไปเอง” ผมมีความลับจะบอกด้วยว่า “ผมใส่ชุดว่ายน้ำเข้าฉากเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าจะต้องตะลึง ตึ๊ง ตึง ในรูปร่างอัน perfect (ฮ่าฮ่า ล้อกันเล่นครับ) แต่ผมยังนอนยันนั่งยันคำเดิมครับว่า จะไม่ใส่ชุดแบบนักกีฬาว่ายน้ำ (สามเหลี่ยม ขาเว้า สูง สู้ง สูง) แม้จะให้ค่าจ้างมากขนาดไหน ผมขอ say no ครับ ....เอาน่าฟง จ้าง 8 หลักปักอยู่หน้าบ้านแล้ว ยังไม่ยอมใส่อี๊กกกก หนุ่ม Bosco หวังจงเจ๋อะ ช่วงนี้เปลี่ยนอาชีพเป็นนักดับเพลิง เพราะถ่ายละครเรื่อง “ไฟนรกเพลิงชีวิต” Burning Flame 3 หนุ่มบอสเล่าให้ฟังถึงความยากในการรับบทนักผจญเพลิงว่า ผมต้องเข้าคอร์สฝึกฝนก่อนจะเข้าฉาก 2 วัน เพราะทีวีบีต้องการแอ็คชั่นที่สมจริง เวลาเข้าไปปฏิบัติการดับเพลิง การเป็นนักดับเพลิงจำเป็นต้องมีทักษะและความเชี่ยวชาญ ผมเตรียมพร้อมด้วยการฟิตร่างกาย ตอนนี้น้ำหนักลดไป 8 ปอนด์แล้ว แม้ว่าจะฝึกหนัก แต่ก็โอเคครับ ก่อนจะถ่ายจริงแต่ละครั้ง พวกเราก็มีการซ้อมก่อน และตรวจเช็คอุปกรณ์ทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย ดังนั้นผมจึงไม่กังวลเวลาถ่ายทำ.......แต่ที่น่ากังวลกว่าคือ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมเอาเจ้าสี่ขาของผมมาเข้าฉาก แต่มันควบคุมไม่ได้ครับ (สงสัยอยากเล่นเป็นพระเอกมากกว่า) ต้องพามันเข้าคอร์สอบรมการแสดง อบรมมารยาทแบบหมา ๆ ไง ทีมงานก็เลยจัดให้สุนัขตัวเมียมาคอยเป็นเพื่อนมัน ปรากฏว่ามันก็ไม่คุ้นเคย ผมเลยไม่อยากให้ทีมงานเข้าใกล้มัน เพราะมันอาจจะกดดันครับ (เปลี่ยนเป็นแมวแล้วกัน จะได้เซื่องทั้งวัน ไม่หลุกหลิก) คู่กัดแห่ง “Academy Full Throttle” หนุ่ม Ron อู๋จั๋วซี และ สาวเจียงยั่วหลิน มีฉากทะเลาะงอนง้อกันตลอดเรื่อง นายรอนเผยให้ฟังว่า เรื่องนี้สาวเจียงมักจะลงไม้ลงมือ ตี หยิก กัด ข่วน ผมบ่อยมาก เอ๋ ! ชักสงสัยว่าเป็นแมว มิใช่สาว แต่ละครั้งเธอก็ออกแรงแบบไม่มีกั๊กเลยคับ งับมือผมซะบวม แถมหยิกจนบวมไปทั้งแขนอีก (เล่นซะน่วม จะรอเอาคืนฉากไหนดีอ่ะ) แล้วคุณชอบผู้หญิงออกแนวโหดแบบยัยตัวร้ายอย่างนี้หรือเปล่า ? (แต่ให้เล่นกับยัยตัวร้าย จวนจีฮุน จะเล่นด้วยป่าว) นายรอนบอกว่า ผมชอบผู้หญิงแบบที่ไม่ดูรุนแรงจนเกินไปครับ (เอาแค่เบาะๆ คอเคล็ดก็ดี) ในชีวิตจริง ไม่มีผู้หญิงมาทุบตีผมเหมือนในละครหรอกครับ หลังจากฉากหยิก กัด ผ่านไป ความซวยก็มาอีกระลอก เพราะหนุ่มรอนต้องเข้าฉากโดนฝ่ามือพิฆาตของสาวเจียง เป็นฉากที่รอนขอแยกทางกับเธอ ฝ่ายผู้หญิงก็ต้องโกรธแบบสุดขีด....แต่ทว่าสาวเจียงก็ตรบบไม่ถูกตำแหน่ง คือไม่ถูกใจผู้กำกับซักที ทีนี้ขอให้น้องเจียงช่วยตรบหนุ่มรอนแบบเต็มแรงเลยนะ ฟาดลงไปบนแก้ม....ได้เลยค่ะ ผู้กำกับ หนูจัดให้ตามที่รีเควส....ว่าแล้วได้ยินเสียงดัง “เพี๊ยะ” ครบ 5 นิ้ว ขนาดคนยืนห่าง ๆ ยังได้ยินเสียงเอฟเฟ็คของจริง หลังจากนายรอนหน้าบวมไปเรียบร้อย สาวเจียงก็เผยว่า “ตอนแรกเราก็ตบประมาณหลอก ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องตบแบบโดนเต็ม ๆ ฉันก็ขอโทษพี่รอนเค้าไปแล้วค่ะ” เก็บข่าวในทีวีเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มาเล่าสู่กันฟังค่ะ....เห็นหนุ่มหล่อจากฮ่องกง และหล่อจากเมืองจีน พี่กู่เทียนเล่อ กับ หวงเสี่ยวหมิง มาเดินย่ำ ๆ กันบนผืนดินผืนทรายอันเวิ้งว้าง บวกกับแต่งชุดอารายคุ้น คุ้น ชุดนักรบโบราณสมัยจิ๋นซี ก็ต้องเรื่อง เจาะเวลาหาจิ๋นซี (กันอีกแล้วหรือพี่กู่) หรือโฆษณาเป๊บซี่กันแน่ว้อย (ใครที่ไม่แปลข่าวนี้ ขอให้....ให้ไปที่ชอบเถอะ) แต่เห็นพี่กู่มานั่งขายเป๊บซี่แถวนี้ เอ๋อ ! คือชุดที่พี่กู่ใส่เนี่ย เหมือนเป็นชุดนักโบราณคดี เท่ห์มั่ก มั่ก เชียวค่ะ พอถ่ายเสร็จบนหัวพี่กู่ก็เหมือนใครเอาทรายมาโปรยเล่นซะงั้น ต้องวิ่งหลบแดดเข้ามาปัดทรายออกเป็นการใหญ่ จะหล่อแต่ละทีก็ลำบากอย่างนี้ค่ะ ส่วนหวงเสี่ยวหมิง นายก็เดินเฉิบ ๆ เป็นไกด์ชี้ชวนให้ดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย เลยไม่รู้ว่านายหมิงเค้าถ่ายอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ดูภาพไปคิดไปก็แล้วกันนะ เก็บสัมภาษณ์ 5 คำถามของเจ้าเวย กับบท ซุนซ่างเซียง เรื่องสามก๊ก คุณโด่งดังจากซีรีย์เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้คุณเป็นอย่างมาก และ ในภาพยนตร์เรื่อง Red Cliff คุณได้รับบทบาทครั้งใหม่ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย ? เจ้าเวย : ใช่ค่ะ ในภาพยนตร์เรื่องนี้บทเข้มข้นขึ้น ตัวฉันรับบทเป็น ซุนฮูหยิน น้องสาวคนเล็กของซุนกวน เป็นบทที่สนุกมากด้วยคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะฉันต้องแสดงเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งแกร่งเกินชาย เธอเป็นตัวแทนสาวหัวก้าวหน้า ในยุคสมัยนั้น ได้ยินมาว่า คุณมีความสุขมากระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ? เจ้าเวย : แน่นอน เพราะตัวละครของฉัน เป็นผู้หญิงที่ทะมัดทะแมงชอบใส่ชุดผู้ชาย ว่าง ๆ เธอก็จะปลอมตัวเป็นทหารเพื่อไปช่วยพี่ชายรบ แถมหน้าตาก็ไม่ต้องแต่งอะไรมาก นั้นแหละที่ทำให้ฉันชอบมาก คุณต้องเรียนการแสดงเพิ่มเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม ? เจ้าเวย : ใช่ค่ะ เพราะว่าทุกตัวละครจะต้องพูดภาษาจีนกลาง และต้องออกรบในสงครามด้วย ดังนั้นฉันต้องเรียนเรื่องการ วางท่าทางการใช้ดาบและ ทวน รวมถึงการออกสำเนียงต่าง ๆ ด้วย เป็นครั้งแรกที่ต้องแสดงประกบหนุ่มฮอตอย่าง ทาเคชิ คาเนชิโร่ และ เหลียงเฉาเหว่ย เจ้าเวย : สองคนนั้นเขาเล่นเป็นข้ารับใช้ของฉัน ( หัวเราะ ) ส่วนใหญ่ฉันจะได้เข้าฉากกับ เหลียงเฉาเหว่ยมากกว่าเพราะเขารับบทเป็น จิ่วยี่คนสนิทของพี่ชายซุนฮูหยิน ส่วนทาเคชิ รับบทเป็นขงเบ้ง เราเหมือนอยู่คนละฝ่ายแต่ก็มีการเข้าฉากร่วมกันมาก แต่ฉากที่ฉันชอบมากที่สุดในหนังกลับเป็นฉากที่ เสี่ยวเกี้ยว ที่แสดงโดยหลินจื้อหลิงต้องถอดเสื้อผ้าที่เขียนแผนที่จากตัวเธอม้วนออกมาเพื่อทำตามแผนการศึกที่ จิวยี่วางไว้เพื่อพิชิตโจโฉ ฉันว่ามันเจ๋งดี คุณได้ร่วมวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก ที่บ้านเกิดด้วยตื่นเต้นไหม เจ้าเวย : รู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ ในช่วงที่คนทั้งประเทศกำลังโศกเศร้าจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ฉันเชื่อว่ามหกรรมกีฬาโอลิมปิกช่วยดูแลจิตใจของพวกเราได้เยอะ และภาพยนตร์เรื่อง Red Cliff ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ประเทศจีนทุ่มทุนสร้างขึ้นมากว่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อนำออกฉายต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนกับสารแจ้งเหตุจากจีนถึงคนทั้งโลกว่า กว่าที่ประเทศจะรวมกันเป็นหนึ่งได้ เราต้องเสียสละอะไรบ้าง ความสามัคคีเท่านั้นที่จำนำเรามาถึงทุกวันนี้ได้ ข้อมูล : //www.showded.com ตามลิงค์ไปดูข่าวอีกเพียบในห้องแดนมังกร   Create Date : 13 มิถุนายน 2551 6 comments Last Update : 31 สิงหาคม 2551 10:07:54 น. Counter : 3861 Pageviews. Share Tweet

เจิมตัวเองซะงั้น อยากรู้ว่าเพื่อนที่เข้าเยี่ยม blog ได้ยินเพลงซูสีไทเฮากันป่าวคะ ช่วยแจ้งให้รู้ทีเถิ้ดดดด Happy Holiday กันทุกคนค่ะ   โดย: ข้าน้อยคาราวะ IP: 58.8.133.8 15 มิถุนายน 2551 10:01:56 น.

หวัดดีค่า คุณข้าน้อย แวะมาเยี่ยมจ้า   โดย: (toon)lovegongli IP: 124.120.228.109 16 มิถุนายน 2551 17:56:39 น.

โดยส่วนตัวก้อชอบหลิวเซี่ยะหัวด้วยอ่ะ แต่ว่าม๊ะเคยดูซูสีไทเฮาเวอร์ชั่นนี้เลยค่ะ เวอร์ชั่นที่ชอบคงเป็นเวอร์ชั่นของที่มีเดีย ออฟ มีเดีย เคยเอามาฉายในบ้านเรา รู้สึกว่าเวอร์ชั่นนั้นทำออกมาดีมาก ทั้งนักแสดง และเนื้อหา ส่วนเรื่องโฆษณาเป๊ปซี่ของเฮียกู่ ดูแล้วค่ะ ทำออกมาได้น่าสนใจมากตอนดูครั้งแรก ทำเอานั่งดูเพลินเลยอ่ะค่ะ   โดย: nepatak (Nepatak ) 18 มิถุนายน 2551 10:41:43 น.

แว้กกก....คนปั้น blog ยังไม่ได้ดูเรยเจ้าค่ะ คอดสะนาเปปสี่ เราก็ว่าเค้าทุ่มทุนดีค่ะ   โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) 19 มิถุนายน 2551 21:26:53 น.

แวบมาอ่านข่าวน่าตื่นตาตื่นใจเหมือนเดิม ข้าน้อยจ๊า ดีแล้วที่ฟงฟงไม่คิดถ่ายภาพชวนวาบหวามนั่น 8 หลักก็เหอะ ขอเป็นพระเอกเรียบง่ายแบบนี้ดีกว่าหวือหวามากมันไม่งาม คือ แม่ยกหัวโบราณ เอ่อรูปฟงฟงที่กล่องคอมเม้นน่ารักดีอ่ะ ขอลงิค์แวะไปสูบรูปได้ไหมค อืมๆ เด็กใสวัยกรี๊ดซะ   โดย: มิโดริ IP: 124.120.212.7 20 มิถุนายน 2551 23:42:55 น.

เพลงมันไม่ขึ้น บางทีอาจขึ้นเป็นบางเวลาทั้งข้าน้อย ไว้จะลองเข้ามาฟังใหม่   โดย: มิโดริ IP: 124.120.212.7 21 มิถุนายน 2551 0:03:10 น.