Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
7 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

Update News # 25(เก็บตกบันเทิงเริงใจฮ่องกง) หนังอลังการแห่งปี "สามก๊ก" / ซีรี่ส์โบราณแนวคลายเครียด




Credit : Fung Forever
ขอเริ่มที่งานบุญงานกุศลก่อน หนุ่มหลินฟง เดินสายทัวร์ในงานช่วยเหลือน้องหนูผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว สะพายกล่องรับบริจาคจากผู้ใจบุญ และแน่นอนแควนคลับอันเป็นที่รักก็ต้องร่วมสละแบงค์ร้อยแบงค์พัน หย่อนลงไปกันอย่างมากมาย สำหรับตัวหนุ่มฟงได้บริจาค 30,000 เหรียญ และยังควักกระเป๋าซื้อของแฮนด์เมดของดาราสาว เยี่ยวิ่นอี๋ อีกด้วย (ว่าแต่จะเอาประติมากรรมชิ้นนี้ไปร่วมโชว์ในตู้เก็บของเล่นป่าวอะ) จากเหตุการณ์อันน่าเศร้านี้ ทำให้ดาราที่หายหน้าไปจากวงการได้กลับมาร่วมทำกุศลกันอีกครั้ง เจ๊หวีสองอันก็มาด้วย





TVB เปิดตัวละครเรื่องใหม่ ชื่อ Eng แปลจากภาษาจีนกันซื่อ ๆ เลยว่า “Tiger Wong snatches the bride” เว้ากันเป็นไทยว่า พยัคฆ์หวังลักพาตัวเจ้าสาว อิอิ คือ เสือหวังฉุดคร่าหญิงสาวสวยนั่นเอง ครั้งนี้ดารานำเป็น เฉินเจี้ยนฟง และ หูติงซิน (นางมารมังกรคู่ได้เลื่อนเป็นนางเอกแย้ว หลังจากที่เป็นสาวใช้ เป็นเพื่อนนางเอก ได้แต่บทรอง ๆ นั่นแหละ) ร่วมด้วย เฉินเจียเล่อ ซึ่งพี่แกเล่นเป็นเสือหวัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพระเอกเจี้ยนฟง หรือ เสือหวัง ใครจะแสดงได้โดดเด่นกว่าใครกันแน่


เค้าโครงเรื่องดัดแปลงมาจากนิยายเก่าแก่ยุคโบร่ำโบราณ เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า บัณฑิตหนุ่มหล่อผู้รอบรู้ โจวเหวินปิง (เฉินเจี้ยนฟง) (ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ) แต่ฐานะนั้นเล่ายากจน (ยาจกดี ๆ นี่เองค่ะคุณผู้ชม) บัณฑิตโจวมั่นใจยิ่งว่าจะพกพาความรู้อันน่าภาคภูมิไปสู่ขอหญิงสาวนางหนึ่งชื่อ หวังเส้าอิง (หูติงซิน) ฐานะของนางร่ำรวย เป็นคุณหนูหวังอยู่สุขสบายไม่เคยแตะแม้แต่จานซักใบ ในเมื่อบัณฑิตโจวไร้สมบัติติดกาย ฮูหยินหวังจึงปฏิเสธอย่างไม่ใยดี คุณหนูหวังมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ หวังเทียนเป่า (เฉินเจียเล่อ) มีฉายาว่า “เสือหวัง” และมีกิตติศัพท์เลื่องลือในทางเลว คือเป็นคนมีนิสัยอันธพาลชอบฉุดสาวสวยหวังทำภรรเมีย (สงสัยว่าพี่แกเป็นลูกเก็บมาเลี้ยงของตระกูลหวังชัวร์ป้าบ) ต่อมาวันหนึ่ง บัณฑิตโจวปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้ เลยพนันกับเพื่อนซี้ว่า ข้าจะแต่งเป็นหญิง (รู้สึกจาเนียน) เพื่อไปเที่ยวเล่นในงานเทศกาลโคมไฟ รับรองว่าไม่มีใครจำข้าได้แน่.....และแล้วก็เกิดเรื่องขึ้น เพราะเสือหวังพลันเห็นเข้าก็เลยปิ๊ง ฉุดบัณฑิตโจวในร่างหญิงไปกักขังไว้ที่ห้องของน้องสาว (คุณหนูหวัง) พรหมลิขิตให้บัณฑิตโจวได้พบกับนางในดวงใจอีกครั้ง...ไม่ต้องขอแต่ง แต่เข้าหอไปเรย อิอิ ...... หลังจากบัณฑิตโจวหายตัวไป เพื่อนรักจึงได้ออกตามหาที่บ้านตระกูลหวัง เรื่องจริงจึงปรากฎว่าลูกสาวของตัวเองอยู่กับบัณฑิตโจว ฮูหยินหวังจึงต้องจำยอมให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกันในที่สุด



จอห์น วู ผู้กำกับโกอินเตอร์ที่ไปสร้างผลงานในฮอลลี่หวูด (จนเกือบกู่ไม่กลับ) แต่บัดเดี๋ยวนี้ ท่านจอห์น วู (ความจริงแซ่อู๋) ได้ลงมือเสกผลงานภาพยนตร์จีนหญ่ายยิ่ง เรื่อง RED CLIFF สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ หนังยิ่งใหญ่สุดอลังการ บานตะไท ยิ่งกว่าผู้กำกับคนใดที่ทำหนังแนวเดียวกัน (สองพันแปรดดร้อยล้านบาทน่ะ คิดแบบไทย ๆ) ความยาวของหนังปาเข้าไป 4 ชั่วโมง (เค้าว่าแบ่งฉายเป็น 2 ภาค ...ถ้าฉายหมดทีเดียวผู้ชมทั่วเอเชียอาจเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะนิ่งงัน ระบาดก็เป็นได้) กองทัพเรือ ,วีรบุรุษผู้กล้า+หล่อ, ไพร่พลทหารอีกนับแสนจะมาโชว์กึ๋น และลวดลายกลยุทธศึกสงครามโจมตี ณ ไทยแลนด์วันที่ 10 ก.ค.51 นี้ เชิญแฟนหนังจีนที่รอคอย จับตาชมความอลังการกันให้สุดเหวี่ยง คงบรรยายอะไรมากกว่านี้ไม่ล่ายเลี้ยว เพาะอั๊วะคิกว่า ต้องมีอายด้อลของพวกลื้ออยู่ในเรื่องนี้เปงแน่ สอดส่ายหาความยิ่งใหญ่กันตามซาหลวกก้อแล้วกาน

คัดตัวนักแสดง




จิวยี่ ขุนพลแห่งง่อก๊ก คือวีรบุรุษอุดมคติที่ไม่เพียงได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่ยังถูกกล่าวถึงในบทกลอนของกวีสมัยราชวงศ์ซ่งด้วย จิวยี่เป็นบุรุษผู้จงรักภักดีต่อแผ่นดิน ขณะเดียวกันก็มีความรักที่ลึกซึ้งต่อเสี่ยวเกี้ยว ภรรยาสาวผู้รักสงบ ผู้ชมจะประหลาดใจระคนยินดีที่ได้เห็น เหลียงเฉาเหว่ย มารับบทวีรบุรุษผู้นี้ เพราะเขาไม่เคยรับบทเป็นแม่ทัพโบราณเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นเขาใส่ชุดเกราะต่อสู้บนหลังม้า


"ผมเลือกเหลียงเฉาเหว่ย มารับบทสำคัญนี้ เพราะเขาเป็นคนที่มีแววตาของความมุ่งมั่น และ เด็ดขาด ซึ่งเป็นบุคลิกที่สำคัญของจิวยี่ นั้นทำให้เขาเป็นตัวเลือกแรกสำหรับผม จอห์น วู กล่าว"



เนื่องจากผู้กำกับ จอห์น วู ต้องการยึดข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เป็นหลัก เขาจึงตัดสินใจเลือกนักแสดงที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับคำบรรยายตัวละครในหนังสือประวัติศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่น ขงเบ้ง ที่หนังสือบรรยายว่าเขามีอายุเพียง 27 ปี ในช่วง ค.ศ. 208 ตอนที่ทำสงครามผาแดง เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาความสูง 6 ฟุต ที่เล่าปี่เพิ่งเลือกมาเป็นที่ปรึกษาทางการทหาร ทาเคชิ คาเนชิโร่ นำเสน่ห์, อารมณ์ขัน และเชาว์ปัญญา ใส่เข้าไปในบทจนราวกับว่าบทนี้สร้างมาเพื่อเขา และบังเอิญเหลือเกินที่เขาชื่นชอบตัวละครงเบ้งมาตั้งแต่เด็กแล้ว


เป็นครั้งแรกที่ ทาเคชิ คาเนชิโร่ ร่วมงานกับ จอห์น วู และ ขงเบ้ง คือตัวละครที่เป็นฮีโร่ในดวงใจของทาเคชิ เพราะฉะนั้นเขาจึงทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ตัวละครตัวนี้ออกมาสมจริงที่สุด




มีการกล่าวถึง เสี่ยวเกี้ยว ภรรยาของจิวยี่น้อยมากในวรรณกรรม นอกจากบอกว่าเธอคือสาวงามผู้เป็นต้นเหตุให้เรือสองพันลำล่ม นางแบบสาวแถวหน้าของเอเชีย หลินจื้อหลิง แจ้งเกิดในผลงานการแสดงเรื่องแรก โดยนำความสง่างามและความเข้มแข็งสู่ตัวละคร จนผู้ชมลืมไปเลยว่าเธอคือนางแบบสาวสวยยอดนิยมในปัจจุบัน หลินจื้อหลิงถึงกับงดงานเดินแบบ ถ่ายแบบ นานถึง 6 เดือน เพื่อเตรียมตัวรับบทนี้ เธอไปเรียนแอ๊คติ้งกับครูสอนการแสดงถึง 3 คนในปักกิ่งก่อนเปิดกล้อง สุดท้ายความตั้งใจและความพยายามของเธอก็ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม และบทนี้จะทำให้เธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่อย่างแน่นอน




ตัวละครอีกหนึ่งตัวหนึ่งที่ท้าทายการหานักแสดงของทีมงานก็คือ โจโฉ ที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นตัวร้าย เขาอาจเป็นคนทะเยอทะยานและอยากเป็นจักพรรดิก็จริง แต่จุดประสงค์ของเขาคือรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น เพราะตอนนั้นจีนแบ่งแยกออกเป็นหายก๊กหลายเหล่า อีกทั้งเขายังเป็นกวีและจิตรกรที่มีพรสวรรค์ด้วย จางเฟิงอี้ คือนักแสดงผู้รับบทนี้ เขาโด่งดังจากบทตัวดีใน Farewell My Concubine และ The Emperor and the Assassin แต่ได้ถ่ายทอดบทร้ายที่ซับซ้อนอย่างโจโฉออกมาได้อย่างลึกซึ้ง จึงไม่น่าแปลดที่ผู้ชมจะรู้สึกชื่นชมในการแสดงของเขา





ในการเตรียมตัวรับบท จูล่ง หูจวินต้องเตรียมพร้อมร่างกายหลายเดือนกับผู้กำกับคิวบู๊ ดิออน ลัม ที่ช่วยฝึกให้ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนเริ่มถ่ายทำ โชคร้ายที่การฝึกร่างกายอย่างหนักทำให้อาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังของ หูจวิน กำเริบ ทำให้เขาต้องพักฟื้นอีกเป็นเดือน และก่อนเปิดกล้องไม่นาน ก็มีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับคิวบู๊เป็น โครี่ หยวน




จางเจิ้น รับบท ซุนกวน (ปล. ไม่พูดถึงรายละเอียดตัวละครตัวนี้)




งานสร้าง



หลังจากวางแผนงานสร้าง 3 ปี และพรีโปรดักชั่นอีก 1 ปี ในที่สุด Red Cliff ก็เปิดกล้องในวันที่ 14 เมษายน 2007 บนที่ดินของ CCTV ในจั้วโจว มณฑลเหอเป่ย ซึ่งใช้เวลาขับรถจากปักกิ่งไปถึงประมาณ1 ชั่วโมง

ฉากสงคราม 3 ฉากใหญ่ ๆ





สงครามฉางปาน

แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การต่อสู้ที่หมู่บ้านฉางปาน ที่ภรรยาทั้งสองของเล่าปี่ถูกฆ่า และแม่ทัพจูล่งช่วยชีวิตบุตรชายของเล่าปี่ไว้ ส่วนที่สองคือการต่อสู้ที่เนินฉางปาน ที่ซึ่งแม่ทัพกวนอูและเตียวหุยสกัดกองทัพศัตรูเอาไว้เพื่อให้ไพร่พลหนีไปได้อย่างปลอดภัย

น่าสนใจว่านี่คือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของวูและหยวน หลังจากร่วมงานกันครั้งแรกในปี 1974 ตอนนั้นหยวนกำกับคิวบู๊ให้ The Young Dragons ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกๆของวู แม้จะไม่ได้ร่วมงานกันนานกว่า 30 ปี แต่ทั้งคู่ก็ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่นกับ Red Cliff ฉากแอ๊คชั่นแต่ละฉากที่วูออกแบบบนกระดาษ ได้รับการถ่ายทอดอย่างละเอียดและสวยงามโดยหยวน ความเชื่อใจที่พวกเขามีให้กันทำให้การทำงานง่ายขึ้นมาก แม้การถ่ายทำจะยากลำบากก็ตาม



สงครามซานเจียงโก๋ว




ฉากสงครามฉากแรกของเหลียงเฉาเหว่ย คือฉากสงครามซานเจียงโก๋วที่ถ่ายทำเมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2007 อากาศร้อนจัดยังไม่พอ เหลียงเฉาเหว่ยยังต้องสวมชุดเกราะหนักอึ้งและขี่ม้าด้วย ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ถ่ายทำยังเป็นที่โล่งซึ่งไม่มีที่กำบังใดๆให้หลบร้อนนอกจากเต้นท์ 2-3 หลังที่ทีมงานสร้างไว้
หากมองข้ามเรื่องอากาศไป จะพบว่าฉากนี้เป็นฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก ด้วยทหารเดินเท้ากว่าหนึ่งพันนายและม้ากว่า 300 ตัว (รวมทั้งทหารม้าอีก 300 นาย) บวกกับทีมงานอีกกว่า 700 ชีวิต ฉากต่อสู้ฉากนี้จึงเป็นการทำงานที่ใหญ่พอสมควร
วันสุดท้ายในการถ่ายทำ เหลียงเฉาเหว่ยทำงานที่สถานที่แห่งเดิม ฉากเดิม และสวมเกราะชุดเดิม ความแตกต่างอย่างเดียวคืออากาศคราวนี้หนาวมาก และพื้นเต็มไปด้วยหิมะ หรืออาจกล่าวได้ว่าฉากนี้ใช้เวลาถ่ายทำกว่า 6 เดือน กว่าจะเสร็จสิ้น ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชมดูแล้วคงคาดไม่ถึง




ฉากนี้เริ่มจากตัวละครซุนฮูหยิน (ซุนซ่างเซียง) ที่รับบทโดย จ้าวเวย ที่ตั้งใจนำกองทัพสตรีซุ่มโจมตีกองทัพของโจโฉโดยยิงธนูเข้าไป เมื่อรู้ว่าศัตรูไล่ตามมา เธอก็ควบม้าลวงพวกนั้นไปยังที่มั่นของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งเป็นเหมือนที่กำบังของเธอ เมื่อศัตรูติดกับ ขุนพลฝ่ายสัมพันธมิตรก็ออกมาต่อสู้ที่ละคน สุดท้าย จิวยี่ ตัวละครของเหลียงเฉาเหว่ย ก็ลงมาจากแท่นและเข้าร่วมรบด้วย โดยเข้ามาขวางลูกธนูให้กับจูล่ง ตัวละครของหูจวิน อย่างอาจหาญ



สงครามผาแดง





แม้จะได้ชื่อว่าสงครามผาแดง แต่โดยทางเทคนิคแล้ว ควรเรียกว่าสงครามป่าอีกา (อู่หลิม) มากกว่า เพราะการต่อสู้เกิดขึ้นที่ป่าอีกา มิใช่ผาแดง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ
สงครามอันเลื่องชื่อครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ การต่อสู้บนบก และการต่อสู้ในน้ำ สำกรับฉากในแม่น้ำ เป็นฉากที่แม่ทัพอุยกาย ส่งเรือไฟไปเผากองทัพเรือของโจโฉ เรือบางลำของโจโฉล่มทันที บางลำก็แตกออกเป็นชิ้นๆแล้วจึงล่ม เนื่องจากลมพัดไปในทิศทางนั้นพอดี ประกอบกับเรือของโจโฉถูกผูกติดกันเป็นแพ ไฟจึงลุกลามเร็วขึ้น จนในที่สุดเรือจำนวนสองพันลำก็ถูกไฟเผาทำลายจนวอดวาย



ฉากนี้ฉากเดียวใช้เวลาวางแผนมากกว่า 1 ปี เรือขนาดใหญ่เต็มรูปแบบจำนวน 18 ลำ ถูกสร้างขึ้นในสถานที่ถ่ายทำ เพราะเรือใหญ่ขนาดนี้ ถ้าไปต่อข้างนอก แล้วย้ายมาที่อ่างเก็บน้ำ จะลำบากเรื่องการขนส่ง เรือลำใหญ่ที่สุดมีความสูงถึง 38 เมตร (125 ฟุต!) การสร้างเรือทั้งหมดใช้เวลา 8 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2006 ถึงเดือนพฤษภาคม 2007 ขณะเดียวกัน ก็มีการสร้างท่าเรือขนาดใหญ่จำนวน 4 แห่งขึ้นในบริเวณนั้น แต่ก็มีเรือหลายลำที่สร้างขึ้นในอู่ต่อเรือใกล้ๆ และขนย้ายมายังบริเวณถ่ายทำทีหลัง ส่วนอีกสองพันลำที่เหลือ จำเป็นต้องสร้างขึ้นด้วยระบบดิจิตอล


ฉากต่อสู้บนบกเป็นฉากสุดท้ายของหนัง เริ่มจากตัวละครกำเหลงซึ่งรับบทโดยชิโด นากามูระ ขึ้นบุกอ่าวและเสียสละตนเอง เผาประตูป้อมปราการ จากนั้นขุนพลจิวยี่ก็นำทัพเข้าโจมตีต่อ เขาต้องการช่วยชีวิตเสี่ยวเกี้ยว ผู้เป็นภรรยา ที่ถูกโจโฉคุมขังอยู่ในป้อมปราการ
ฉากรบอันยิ่งใหญ่อลังการฉากนี้ เป็นโอกาสเดียวที่เราจะได้เห็นจิวยี่และโจโฉเผชิญหน้ากันท่ามกลางทะเลเพลิง และแน่นอนว่าฉากนี้จะติดตาผู้ชมจนจบเครดิตปิดท้ายเรื่องเลยทีเดียว


บทหนัง



การเขียนบทหนังเรื่องนี้ถือเป็นงานหินอย่างมาก และมีความยากถึง 3 ซับ 3 ซ้อน ด้วยกัน
ด้วยความที่มีตัวละครจำนวนมาก และมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นกว่าจะโยงไปถึงศึกผาแดง บทหนังจึงมีขนาดยาวมาก จนจินตนาการไม่ออกว่าผู้ชมชาวตะวันตกจะทนดูหนังภาษาจีนโดยนั่งอ่านบทบรรยายนานกว่า 4 ชั่วโมงได้อย่างไร ทางออกคือแบ่งหนังออกเป็น 2 ภาค สำหรับตลาดเอเชีย และรวบเป็นภาคเดียวสำหรับตลาดนานาชาติ โดยปะหัวว่าเป็น ”ภาพยนตร์แอ๊คชั่นโดย จอห์น วู”

สามก๊กเป็นเรื่องราวที่ชาวเอเชียคุ้นเคยดี ทุกคนที่ได้อ่านหนังสือจะมีมโนทัศน์เกี่ยวกับสามก๊กเป็นของตัวเอง มือเขียนบทก็เช่นกัน บางทีอาจมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2004 จนถึงต้นปี 2007 จอห์น วู เปลี่ยนมือเขียนบทเป็นว่าเล่น แต่ไม่มีบทของใครสักคนที่เขาพอใจ จนสุดท้ายเขาจึงตัดสินใจเขียนเอง โดยให้คานชาน วางโครงสร้างให้ก่อน แล้วจึงให้กว๋อเจิ้ง แจกแจงตัวละครและฉากสำคัญ
กว๋อเจิ้งอยู่กับหนังตลอดการถ่ายทำ และเป็นคนดูแลเรื่องการปรับเปลี่ยนบทเล็กๆน้อยระหว่างงานสร้าง



ทีมเผยว่า “สิ่งที่ยากที่สุดในการทำ

Red Cliff

ก็คือการสร้างความเป็นเอกภาพในงานศิลป์ มีข้าวของเครื่องใช้ยุคสามก๊กเหลืออยู่น้อยมากในปัจจุบัน และรูปภาพทั้งหมดมาจากนวนิยาย และนวนิยายก็เขียนขึ้นมาให้อัศจรรย์เกินจริงเพื่ออรรถรสในการอ่าน ผู้กำกับ จอห์น วู ต้องการเล่าเรื่องใหม่ที่ต่างไปจากฉบับเดิมเล็กน้อย โดยเน้นให้จิวยี่เป็นผู้นำทัพต่อสู้กับโจโฉ เรื่องราวของเขาเป็นการแก้ไขมโนภาพของนิยายใหม่ คนยุคนี้ไม่มีใครเคยเห็นสงครามทางเรือของจีนยุคโบราณ, เรือรบถูกไฟเผา หรือฉากเรือบรรทุกหุ่นฟาง เพราะฉะนั้นเมื่อฉากเหล่านั้นถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ พวกเขาจึงรู้สึกคุ้นอย่างประหลาด แต่ความจริงแล้ว การถ่ายทำฉากเหล่านี้อย่างใหญ่โตเต็มรูปแบบยังไม่เคยมีมาก่อน”





สารจากผู้กำกับ



“เราต่างเคยชมภาพยนตร์มหากาพย์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ด ในฐานะผู้ชม เรารู้สึกตื่นเต้นกับภาพอันยิ่งใหญ่และพลังเสียงที่เร้าอารมณ์จากเทคโนโลยีอันทันสมัย ผู้ชมทั่วโลกก็ชื่นชอบภาพยนตร์จีนแนวต่างๆเช่นกัน ทั้งกังฟู, แอ๊คชั่น และดราม่า แต่ภาพยนตร์จีนมหากาพย์อิงประวัติศาสตร์ยังไม่เคยได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ด้วยเทคนิคอันทันสมัยแบบฮอลลีวู้ดมาก่อน ภาพยนตร์จีนมีองค์ประกอบทางวัฒนธรรมอยู่มาก รวมทั้งจิตวิญญาณแห่งศิลปะการต่อสู้ สื่อภาพยนตร์ทำให้เราสามารถถ่ายทอดความเชื่อและวัฒนธรรมได้หลายชั้น ความคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับวีรบุรุษในสามก๊ก ให้หลากหลายจากแนวศิลปะการต่อสู้ นี่คือภาพยนตร์ที่ผมฝันอยากสร้างมานาน ตั้งแต่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับวีรบุรุษในประวัติศาสตร์อันทรงเกียรติเหล่านั้น

เรื่องราวใน

Red Cliff

เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1,800 ปีก่อนในประเทศจีน ศึกผาแดงเป็นสงครามที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จากเรื่องราวที่เล่าต่อกันอย่างแพร่หลาย เราได้เรียนรู้ถึงสติปัญญาและความกล้าหาญของคนจีนในอดีต ที่แม้จะถูกรุกรานโดยศัตรูจำนวนมหาศาล ก็สามารถวางแผนเอาชนะได้ ผมเชื่อว่า การร่วมงานกับทีมงานที่มีความสามารถและการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ทำให้เราสามารถนำเรื่องราวมหากาพย์นี้สู่จอภาพยนตร์ด้วยคุณภาพระดับฮอลลีวู้ดได้ เราสร้างสรรค์ฉากต่อสู้ที่สมจริงด้วยการถ่ายทำบนสถานที่จริงและใช้เทคนิคพิเศษตกแต่งหลังการถ่ายทำ ซึ่งงานภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้ยังไม่เคยปรากฎในภาพยนตร์จีนเรื่องไหนมาก่อน

เป้าหมายของผมคือการยกหนังเรื่องนี้ให้ข้ามพ้นกำแพงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพื่อที่ผู้ชมชาวตะวันตกจะได้รู้สึกเหมือนกับได้ดู Troy ฉบับเอเชีย ขณะที่ผู้ชมชาวเอเชียจะได้เห็นมุมมองใหม่ของเรื่องราวที่พวกเขาคุ้นเคย นอกจากนี้ ผมยังต้องการพิสูจน์ว่าประเทศจีน สามารถสร้างภาพยนตร์มหากาพย์คุณภาพทัดเทียมฮอลลีวู้ดได้

สำหรับผม แง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของสามก๊ก ไม่ใช่ตัวละครเหนือธรรมชาติที่อยู่ในวรรณกรรม แต่คือความเป็นวีรบุรุษที่ตัวละครแสดงออกมา โลกนี้มีวีรบุรุษอยู่หลายประเภท แต่ผมชอบวีรบุรุษที่สมจริงและเป็นมนุษย์มากกว่า และวีรบุรุษในสามก๊กมีคุณสมบัติตรงกับวีรบุรุษในทัศนคติของผม ผมเชื่ออย่างจริงใจว่า อารมร์ความรู้สึกของมนุษย์เป็นเรื่องสากล และไม่ผูกติดกับวัฒนธรรม ค่านิยมเรื่องคุณธรรม, ความดีงาม และมิตรภาพ ได้รับการยกย่องในตะวันตกเล่นเดียวกับในตะวันออก แม้ความรู้สึกเหล่านี้จะได้รับการถ่ายทอดในลักษณะที่ต่างกัน แต่ลึกๆแล้ว เราต่างรู้สึกเช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงละข้ามรายละเอียดบางอย่างในการสร้าง Red Cliff เรามีทีมสร้างขนาดใหญ่จากทั่วโลก ทั้งจากจีน, อเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลี ดังนั้นทีมงานมากความสามารถจากตะวันตกและตะวันออกจึงมีโอกาสได้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกัน

ระหว่างการถ่ายทำ Red Cliff ผมประหลาดใจมากที่ได้เห็นว่ามีคนหนุ่มสาวมากมายที่สนใจการทำหนังในประเทศจีน พวกเขาทำงานหนักและเรียนรู้เร็ว ขณะเดียวกันก็มีทัศนคติที่เรียบง่าย แม้จะมีพื้นเพการทำงานต่างกัน แต่เราก็ร่วมมือกันแก้ปัญหาตรงหน้าได้ทุกครั้ง ทุกคนอดทนกับอากาศอันร้อนอบอ้าว เพื่อให้การถ่ายทำฉากสงครามสำเร็จอย่างลุล่วง ผมรู้สึกปลาบปลื้มกับสปิริต, ความขยัน และความสามัคคีของทีมงานเรามาก

ในขณะเดียวกัน เราได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากรัฐบาลจีนในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนเดินมาถูกทางแล้ว อีกไม่นานภาพยนตร์จีนจะก้าวสู่เวทีโลกและสะกดคนดูทั่วโลกด้วยความหลากหลายและนักแสดงคุณภาพ
หากเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ภาพยนตร์อย่าง Red Cliff ไม่มีโอกาสได้สร้างอย่างแน่นอน เพราะข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและทรัพยากร เพราะฉะนั้น ผมจึงของส่งคำขอบคุณถึงนักลงทุนจากประเทศจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และไต้หวัน ที่ช่วยทำให้ฝันผมเป็นจริง ผมปรารถนาจะสร้างภาพยนตร์ที่ผู้ชมทั่วโลกสามารถสนุกไปกับมันได้ ผมขอพูดจากใจว่า ภาพยนตร์ไม่มีพรมแดน ขณะที่ผู้ชมชาวตะวันออกชื่นชอบภาพยนตร์ตะวันตก ผู้ชมชาวตะวันตกก็ชื่นชอบวัฒนธรรมอันสง่างามของตะวันออกเช่นกัน เพราะฉะนั้น ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อคุณดู Red Cliff คุณจะไม่มองมันว่าเป็นภาพยนตร์จีนหรือฮอลลีวู้ด แต่เป็นภาพยนตร์ของคนทั่วโลก”


CREDIT : ThaiPR.net



คลิกไปดูภาพต่อ RED CLIFF





















 

Create Date : 07 มิถุนายน 2551
8 comments
Last Update : 11 มิถุนายน 2551 19:03:56 น.
Counter : 4131 Pageviews.

 

ข้อมูลปึ้กมาก
เรื่องสามก๊กเนี่ยก็กะจะไปดูเหมือนกัน
(ทาเคชิเป็นขงเบ้งที่หล่อมาก อิอิ..)

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ (^^)

 

โดย: minnie_RR IP: 125.26.81.168 7 มิถุนายน 2551 11:24:52 น.  

 

สามก๊ก - เรื่องนี้เป็นหนังที่ต้องไม่พลาดไปดูโรงแน่ๆ เลยค่ะคุณข้าน้อยฯ เพระจะได้ดูความอลังการของฉากได้เต็มๆ...

เฮียเหลียงกะทาเคชิดูดีทั้งคู่เลย..

 

โดย: กวางตุ้งหวาน 7 มิถุนายน 2551 19:51:35 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องสามก๊กมากๆค่ะ

ยิ่งทำให้อยากดูมากขึ้นกว่าเดิมอีก ^^

(อยากดูพี่เหลียงอ่ะ รักแรกของหนูแมว -เขิน)

 

โดย: แมวจรจัด IP: 117.47.178.32 7 มิถุนายน 2551 21:20:56 น.  

 

คุณmin คุณตุ้ง คุณแมว หนังเค้าระดับยักษ์จริงเลย ๆ ค่ะ ก็ต้องดูแบบจอยักษ์ ๆ ถึงจะสมศักดิ์ศรีระดับโชว์ทั่วโลก

มีเฮียเหลียงกับทาเคชิ ก็เดิ้นสุด ๆ

 

โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) 8 มิถุนายน 2551 9:20:22 น.  

 

ต้องดู แต่ซื้อแผ่นมาดูนะ ดูโรงไม่ไหว ป้าแก่แล้ว

 

โดย: จอมยุทธหญิง (magarita30 ) 9 มิถุนายน 2551 22:31:27 น.  

 

น่าสนใจอย่างยิ่ง อลังการงานสร้าง แต่เหตุผลเดียวกะท่านพี่เพลง ไม่ได้เข้าโรงหนังมานานแล้ว
ดูแผ่นแหงมๆ

 

โดย: มิโดริ IP: 124.120.212.7 20 มิถุนายน 2551 23:50:43 น.  

 

อ่านแล้วขนลุกมากๆค่ะ ตอนสมัยเราเรียนเค้าเปลี่ยนจากโจโฉแตกทัพเรือเป็นจูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊าแล้วล่ะ....เสียดายจริงๆ

 

โดย: นางพญามารเมฆไฟ IP: 116.68.151.186 30 มิถุนายน 2551 11:47:23 น.  

 

I??ve learn some good stuff here. Certainly value bookmarking for revisiting. I wonder how much effort you set to create this sort of excellent informative web site.
Louis Vuitton utlopp Online Sale //www.goevent.se/omgevent.cfm

 

โดย: Louis Vuitton utlopp Online Sale IP: 94.23.252.21 12 สิงหาคม 2557 7:44:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ข้าน้อยคาราวะ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




小花

Friends' blogs
[Add ข้าน้อยคาราวะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.