Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
20 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
บันเทิงเริงใจ# 60 แดจังกึมภาค HK/เจ้าสาวเดือนวาเลนไทน์/หนังร้อนรสกิมจิ/ E.U. ON AIR/ Lover on screen




หลันเจี๋ยอิง+หลิวเต๋อหัว






หลอฮุ่ยเจียน+โจวซิงฉือ






เหลียงเพ่ยหลิง+หวังซูฉี






เหลียงเพ่ยหลิง+เผิงเหวินเจียน






หลี่ยั่วถง+เฉินเฮ่าหมิน





























วันนี้อินไซด์ภาคการแสดงของคุณชายฟง ภาคร้องก็คงกำลังเสือซุ่มทำอัลบั้มชุดสาม อัดฉีดไป เฮ้ย อัดเสียงไปได้กี่เพลงแล้วเอ่ย ? (แม่ยกรอจ่ายเงินและฟังซะให้น่วม) ..........เพิ่งจะได้ไฟพระฤกษ์ยำออกมาให้ได้เรื่องราวนี่แหละจ้า

เมื่อปีที่แล้วดังกันฮอตฮิตติดเพดานบ้านที่ฮ่องกงกันแบบสุดเหวี่ยง กับเรื่อง Moonlight Resonance ก็ด้วยเหตุที่ละครก็ฮิต เลยทำให้คุณชายเด็กดี กลายเป็นดารา hot ติดเทอร์โบขึ้นไปอีก พร้อมคว้าไปสองรางวัลจากสถาบันตัวแม่ ในบทบาทของ Goon Ga Jai เด็กหนุ่มผู้รักครอบครัวและซื่อสัตย์ในความรัก ทำให้เป็นแฟนหนุ่มสุด perfect ในหัวใจของสาว ๆ Goon Ga Jai เป็นคนดีหาตัวจับยากที่สุดในละคร แต่ในความจริงมันหายากมากที่จะมีคนนิสัยดีสมบูรณ์แบบอย่างนั้น







“ผมเป็นลูกชายคนโตของบ้าน ตอนเด็ก ๆ พ่อแม่ค่อนข้างคาดหวังในตัวผมมาก อย่างเช่นว่า เวลาที่น้องชายทำผิด พ่อแม่จะลงโทษผมด้วย เพราะพวกเขาจะสอนผมว่า ผมต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีของน้อง ๆ เพราะเหตุนี้ ผมจึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก ผมแคร์ความสัมพันธ์ในครอบครัว”

ตั้งแต่ผมเข้าวงการบันเทิง มีงานเข้าตลอด (ยุ่งเป็นยุงชุม) ทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากนัก มีครั้งหนึ่งที่ครอบครัวผมไปเที่ยวเมืองนอก ในขณะนั้นผมก็ทำงาน จู่ ๆ น้องชายผมที่กำลังหนุกหนานกับการตกปลา เกิดคิดถึงผมขึ้นมา เลยตัดสินใจโทรชวนผมให้มาสนุกด้วยกัน แต่เพราะผมติดงานไปไม่ได้ ทำให้ความรู้สึกตอนนั้นแย่มาก ๆ

เพราะว่าฟงเลือกเข้าวงการบันเทิง มีงานทำไม่หยุด เป็นเหตุให้ต้องห่างเหินกับครอบครัว ก็เหมือนว่าเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นเรื่องธรรมดากับท่านผู้ชม ดาราอีกหลายคนก็ประสบกับปัญหานี้ โชคดีที่ครอบครัวเข้าใจ พี่ใหญ่ฟงสามารถตั้งสมาธิกับงานได้อย่างเต็มร้อย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฟงได้หยุดพักหายใจเฮือกหนึ่ง เพราะว่างเว้นจากถ่ายละคร และได้ใช้เวลาจอยกับครอบครัวมากขึ้น ได้โปรดให้เด็กชาย Goon Ga Jai ออกมาทำความดีกับครอบครัวในชีวิตจริงบ้างเถิด...... ว่าแล้วผมก็ต้องขอบคุณทุกคนในครอบครัวที่เข้าใจผม





ในบรรดานักแสดงเลือดใหม่ของทีวีบีในวันนี้ หลินฟงดูมีศักยภาพในการแสดงสูงกว่าใครเพื่อน สามารถแสดงได้สองภาคทั้งดีและร้าย (ถึงร้ายก็ร๊าก) ทักษะการแสดงโดดเด่น......เด้งกว่าผองเพื่อนในรุ่นเดียวกัน ถ้อยคำสรรเสริญเยินยอกันเพียงนี้ ทำให้ฟงรีบส่ายหัวปฏิเสธทันที และกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า มีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงครับ (แม่ยกอาจจะมีความรักบดบังตาอยู่)


“เปรียบเทียบกับนักแสดงรุ่นใหม่อีกหลายคน ทักษะการแสดงของผมก็เป็นที่ยอมรับในระดับหนึ่ง ผมพูดได้เพียงว่า ผมมีใจรักและสนุกกับการแสดง ทุกครั้งที่ผมได้รับบทละคร จะใช้เวลาศึกษาและพิจารณาคาแรกเตอร์ ค้นหาว่าควรจะ present ออกมาแบบไหนจึงจะดีที่สุด ศึกษาหาความเป็นไปได้ครับ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทักษะของผมเพิ่มพูน” (เป็นกองภูเขาเลากา ไม่ต้องดัดจาหริดต่อให้เว่อร์ นังข้าน้อย)





การสร้างสรรค์ตัวละครให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้นั้น คุณต้องอินไปกับตัวละคร มีความรู้สึกนึกคิดแบบเดียวกับตัวละคร เขารู้สึกอย่างไร เราก็ต้องรู้สึกอย่างนั้น แม้แต่สิ่งแวดล้อมของตัวละครก็ต้องรับรู้ด้วย จริง ๆ แล้วการอินกับคาแรกเตอร์ของตัวละครนั้นไม่ใช่ง่าย ๆ พอเราหลุดเข้าไปเป็นตัวละครตัวนั้นแล้ว การที่จะถอนตัวถอนใจให้หลุดออกจากคาแรกเตอร์ก็ยิ่งยากกว่าอีก บางคนพูดว่า ตรงจุดนี้แหละ เป็นสิ่งที่ยากในการเป็นนักแสดง แต่ผู้คนส่วนใหญ่มักมองไม่เห็น แต่หลินฟงเห็นว่านี่เป็นส่วนที่ดีที่สุดของการเป็นนักแสดง


“ผมเป็นคนกลัวความซ้ำซากจำเจ คิดอยู่เสมอว่าจะต้องมีสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาให้ท้าทายเสมอ ในฐานะเป็นนักแสดง ผมมีโอกาสได้เป็นคนหลากประเภท หลายอาชีพที่แตกต่างกันไป (อยากให้ท่านอาจารย์ฟง ประกอบอาชีพจอมยุทธค่ะ) หลังจากเลิกงาน ผมจะไม่หลุดออกจากตัวละครในทันที ค่อนข้างที่จะคงอารมณ์เดิมนั้นไว้ เพราะมันง่ายต่อการที่จะอินกลับไปใหม่ เพื่อนผมจะชอบเดาคาแรกเตอร์ของผมจากพฤติกรรมที่ผมแสดงออก และอารมณ์ในเวลานั้น เมื่อไหร่ที่ผมเริ่มพูดมาก เพื่อนจะเดาว่าผมต้องแสดงเป็นคนที่ช่างพูด ถ้าเมื่อไหร่ผมเงียบ เพื่อน ๆ จะเดาว่าผมต้องมาแนว moody” (ไม่พูดพล่ามค่ะ ชักกระบี่คร่าวิญญาณออกจากฝัก ลงท้ายด้วยความเพี้ยนของแม่ยกข้าน้อย จอมยุทธทุกท่านอย่าถือสา)
ปล. แปลได้เท่านี้ก่อน มีต่ออีกนะจ้ะแม่ยก
















ชวนมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ มาดูคนเค้าร๊ากกัน อีกแระ ภาพงาม ๆ ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกของพระนาง ไจ่ไจ๋และฟ่านปิงปิง จากละครพีเรียดเรื่อง The Last Night of Madame Chin นางเอกก็เป็นมาดามผู้งามสง่า Jin Zhao Li ในชุดสีขาว และพระเอกไจ่ไจ๋ (โจวอวี้หมิน) ในชุดสูทสีชมพูอย่างหล่อลากไส้ สดใสเหมือนพระอาทิตย์ที่กำลังส่องแสง (มันว่างั้นเลย) กำลังกุ๊กกิ๊กกันหวานหยดบนจักรยาน เหมือนกำลังดูละครเกาหลีอย่างนั้นค่ะ




ละครเรื่องนี้นอกจากนางเอกจะงามพระเอกจะหล่อแล้ว เจ้าของโปรดักชั่นก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหนเลย แต่เป็นผู้จัดคนงามที่เป็นนางเอกของเรื่องนี่แหละค่า ข่าวรายงานว่า นี่เป็นโปรดักชั่นเรื่องที่สองของมาดามฟ่านปิงปิง หลังจากประสบความสำเร็จกับเรื่องแรกคือ Rouge Snow สำหรับเรื่องนี้มาดามฟ่านก็ทุ่มงบสุดตัวเพื่อจะได้งานออกมาอย่างพิถีพิถันและมีคุณภาพ ถึงขนาดไปบุกไต้หวันเพื่อลักพาตัวหนุ่ม F4 นามว่าคุณชาย Vic วาโปรับ เอ๊ย Vic โจวอวี้หมิน มารับบทพระเอก Sheng Yue Ru โดยเรื่องราวได้วางพื้นเรื่องเกี่ยวกับศัตรูที่รุกรานประเทศและความอิจฉาริษยาในตระกูล และโฟกัสเรื่องราวชีวิตของ Jin ZhaoLi มาดามผู้งามสง่า



ความจริงแล้วบท Sheng Yue Ru ที่แสดงโดยไจ่ไจ๋ เป็นเพียงแค่ตัวละครไม่โดดเด่นนัก จะเรียกว่าผู้ชายไม้ประดับก็ว่าได้ แต่เมื่อหล่อขั้นเทพของไต้หวันมารับบททั้งที จะให้แค่ขี้มี่ ๆ ได้ไงอ่ะ บทละครก็ต้องขยายความให้เป็นตัวละครตัวสำคัญคนหนึ่งของเรื่อง เป็นตัวละครที่มีจิตใจดี มีความซื่อสัตย์ มุ่งมั่นและเป็นชายหนุ่มผู้บูชาความรัก เมื่อมาดามคนงามกับหนุ่มรูปหล่อมาตกหลุมรักกันเมื่อแรกเห็น ทำให้เกิดเรื่องราวความรักที่ยากจะลืมเลือนแต่เต็มไปด้วยอุปสรรคนานัปการ (ตามฟอร์มละครดราม่า) มาดามฟ่านยังเม้าท์เพิ่มเติมด้วยว่า พระเอกไจ่ไจ๋ ที่มารับบท Sheng YueRu เรียกว่ามาแบบไร้คู่แข่งค่ะ เพราะฉันรอไจ่ไจ๋เคลียร์หนี้สิน เคลียร์คิวเพื่อมารับบทพระเอกโดยเฉพาะเลยค่ะ อะวู้ ! สงสัยมาดามฟ่านปิงปิงจะไม่เห็นใครในสายตาค่ะ นอกจากจะปักหลักถ่ายทำที่เซี่ยงไฮ้แล้ว ยังจะยกกองไปถ่ายทำที่ซีเหมินและไต้หวันด้วย งบประมาณก็น่าดูชมค่ะ เฉียดกรายเป็นล้านแร้ว แค่งบด้านคอสตู้มก็อู้ฟู่แพงระยับจับจิต (คิดว่าของมาดามฟ่านคนเดียวก็ปาไปหลายแสนแล้ว เห็นงามสุด ๆ ในทุกชุด)















สุมหัวมาทางนี้ หนังเกาหลีร้อน ๆ ฮอตตี้ฮอตแต๋วแหวว จิง ๆ จ้า คือเนื้อเรื่องมันช่างเย้ายวนใจเหล่าชาวสีม่วงและบรรดาสาว ๆ ก็ยิ่งอยากพิสูจน์ให้อกอีแป้นแตกกันไปข้างนึงค่ะ ชื่อเรื่องก็สุดจะแหล่มว่า A Frozen Flower เป็นภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ในสมัยราชวงศ์โกคูรยอของเกาหลี ที่มีกษัตริย์หนุ่มหล่อครองบัลลังก์ พร้อมด้วยมเหสีคู่ใจผู้งดงาม (แต่ไร้ความหมาย) และตามติดชีวิตทุกย่างก้าวด้วยองครักษ์หนุ่มหล่อคนสนิ้ท สนิท.......หนิดกันจนเกิดความฉาวที่ว่า กษัตริย์หนุ่มหล่อเกิดมีใจกับองครักษ์รูปหล่อ ส่วนมเหสีเธอเป็นอะไรก๊ะ เป็นแค่ดอกไม้เดินล่องลอยในอุทยานกระนั้นหรือ ? แต่เมื่อศักดิ์ศรีของความเป็นกษัตริย์มันค้ำคออยู่ และยังต้องมีหน้าที่ผลิตทายาทเพื่อสืบราชวงศ์ต่อไป เราจะไม่กระทำชำเราอะไรกับพระเมหสีดอก เพราะเราอินเลิฟองครักษ์สุดหล่อ ดังนั้น องครักษ์สุดหล่อก็ต้องถวายตัวกับเราเพียงผู้เดียว และช่วยปฏิบัติภารกิจกับมเหสีแทนเราด้วย (โอ้ว ! มเหสีอยากผูกคอตราย.....สุดแสนเสียดายของ)





เรื่องนี้จะไม่ฮอตได้ไงกันคะ เพราะกษัตริย์หนุ่มหล่อที่มาแสดงน่ะ พระเอกจูจินโม และองครักษ์สุดหล่อ ได้แก่พระเอก โจอินซอง (ทั้งคู่ก็พระเอกแถวหน้าขั้นเทพของเกาหลี) มันเลยเป็นที่ดึงดูดใจของคนดูอย่างมากล้น ส่วนพระเอกปากแดงสุดหล่อ โจอินซอง ก็ทิ้งทวนด้วยเรื่องนี้เพื่อจะอำลาแฟนคลับไปรับใช้ชาติในกองทัพอากาศแห่งเกาหลี (ทิ้งให้แฟน ๆ น้ำตาร่วงกราว เพราะจากไกล หรือบทองครักษ์รูปงามมันทิ่มตำใจอย่างแรงซะก็ไม่รู้) ตอนนี้ขายลิขสิทธิ์กระหน่ำซัมเมอร์เซลไปหลายประเทศแล้ว เช่น สเปน , เชคโกสโลวาเกีย, รัสเซีย, ตุรกี, บราซิล , ไทยแลนด์ (พี่ไทยจะพลาดได้รือ) , สิงคโปร์ , ญี่ปุ่น, เยอรมัน , เบลเยี่ยม , เนเธอแลนด์ และลักเซมเบิร์ก .......เฮ้อ ! ฮอตตี้กันหลายประเทศ อันว่าชาวต่างชาติเค้าเล็งเห็นการถ่ายทำด้วยภาพอันสวยงาม และเรื่องราวความรักต้องห้ามระหว่างกษัตริย์และองครักษ์คนสนิท มันช่างยั่วโมโห พอ ๆ กับยั่วน้ำลายเหลือหลายคร่า


















ฤกษ์ดีศรีวาเลนไทน์ ดารานำจาก E.U. กลุ่มยุโรป ฮ่า ๆ เหล่าดารานำซีรี่ส์ Emergency Unit (หรือเป็นที่ทราบของคอละครแนวตำรวจเป็นอย่างดีว่า ตัวแม่นั้นคือ The Academy และเวอร์ชั่นนี้ก็ได้ต่อยอดมาจนภาค 3 แล้ว) นำทีมโดยเจ้าพ่อมาเฟีย เฮียเหมียวเฉียวเหว่ย , เจ๊สุดสวยแฟนเจ้าพ่อ โจวไห่เม่ย , หนุ่มผู้หลงรักลูกสาวเจ้าพ่อ นายรอน อู๋จั๋วะซี ,เพื่อนซี้ตำรวจหนุ่ม เฉินเจี้ยนฟงจะมาโชว์ความล่ำให้สาวได้หวีดกัน หวีดวาเลนไทน์ และสองสาวน้องใหม่ที่ชิมลางละครเป็นครั้งแรก คือสาวเจียงยั่วหลิน (ลูกสาวสุดน่ารักของเจ้าพ่อ) และสาว Ka Kei (แฟนในเรื่อง) ของหนุ่มเฉินเจี้ยนฟง





ลีลาการโปรโมทละครก็คิดออกมาได้เก๋ไก๋สไปซี่มั่ก ๆ มีถ่ายรูปโพสต์ท่ากับกรอบรูปหัวใจ (หัวใจดวงเดียวรักกันไปทั่วงาน) อย่างคู่ของเฮียเหมียวและเจ๊โจวไห่เม่ย นี่โพสต์ได้เดิ้นสุดเหวี่ยงกับบรรยากากาศอินเลิฟ หวิดจะเม้าท์ทูเม้าท์โชว์ (แต่เฮียเหมียวก็ร่ายคาถาว่า ชิเหม่ยเจิน สะกดไว้ทัน) ส่วนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ขอกอดกันกลมเล่นโบว์ลิ่ง อย่างคู่นายรอนกับสาวเจียงยั่วหลิน โยนกันธรรมดาน่ะอย่าเลย ว่าแล้วขี่คอผู้ชายโยนจะดีกว่า ส่วนคู่นายเฉินเจี้ยนฟงกับสาว Ka Kei เล่นจนล้มกลิ้งหัวชนกันกระจาย โชคดีที่หัวแข็งทั้งคู่





งานนี้นักข่าวถามหนุ่มรอนว่า ดูท่าจะมั่นอกมั่นใจกับเรทติ้ง และ ถ้าหากเรทติ้งออกมาง้าม งาม สมใจนึกล่ะก็ คุณจะมีโชว์หล่อโชว์เซอไพรส์อะไรรึเปล่า ? ผมจะให้เฮียเหมียวแกใส่กางเกงว่ายน้ำไปตีกอล์ฟโชว์ซักหน่อย แต่ผมจะใส่สูท (ช่างคิดเรื่องหวือให้คนอื่นดีนักพ่อคุณรอน ถ้าจะใส่สูทต้องเปลี่ยนเป็นปีนต้นมะพร้าวแทน) แต่ตอนนี้คุณไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ? หลังจากงานออกมาเสร็จแล้ว ทำให้มีความมั่นเพิ่มขึ้นอีกนิสนึง ผมจะบอกว่า ตอนนี้ถอยรถใหม่แล้วแต่พวกปาป้าชอบมาคอยเป็นบอดี้การ์ด เป็นพวกสอดส่องรถดารา (เพื่อนรอนถอยรถใหม่แระ เพื่อนฟงจะถอยหลายอย่าง สุดท้ายไม่ได้ซักกะอย่าง ถอยสาวซักคนเน้อ)




เฮียเหมียวเฉียวเหว่ย แกคอยจ้องจะบอกว่า ผมน่ะโรแม้นติกแค่ไหน.......คือหลังจากเสร็จการโปรโมทเรื่องนี้ ผมจะไปหาศรีภรรยาสุดสวย (ชิเหม่ยเจิน) ที่กองถ่าย และเราก็จะไปดินเนอร์ใต้แสงตะเกียง เอ๊ย ใต้แสงเทียนกันสองคน (ถึงตาจะร้อนผ่าวจนแทบไหม้แต่ต้องกลั้นใจถามต่ออีก) คุณเตรียมของขวัญอะไรให้ภรรยาคะ ? ผมจะแอบให้ดอกไม้ (เอ่อ....รุ่นนี้ก็เซอไพรส์ได้อีก) เธอชอบดอกลิลลี่ หวังว่าเราจะรักกันยืนยาวตลอดไป (ชั่วกาลนานเทอญ)




เจ๊โจวไห่เม่ยคนสวย สละคิวจากปักกิ่งเพื่อดิ่งมาโปรโมทเรื่องนี้โดยเฉพาะ และบอกเล่าเก้าสิบว่า ตอนนี้ฉันรับละครเรื่องใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ จะเริ่มถ่ายทำเดือนหน้าค่ะ สำหรับวันวาเลนไทน์ ฉันก็ไม่มายด์ว่าจะได้ฉลองกับแฟนหรือไม่ เพราะนี่ไม่ใช่วาเลนไทน์ครั้งแรก (คือเจ๊ผ่านช่วงโปรโมชั่นมาแล้ว) ตลอดเวลาเขาก็ดีกับฉันทุกวัน ไม่จำเป็นต้องฉลองอะไรเป็นพิเศษ (ทุกวันคือวันวาเลนไทน์ค่ะ ทราบแล้วเปลี่ยน) ได้ยินข่าวว่า คุณแอบปลื้มคนคนหนึ่งที่อยู่เมืองจีน เรื่องนี้ฉันไม่ขอตอบค่ะ คนนั้นทำงานอยู่เบื้องหลังแวดวงโฆษณา บางครั้งเราต้องติดต่อกันเพราะทำงาน ที่ว่ามีโอบไหล่กันก็เป็นเรื่องปกติ (ถ้าโอบปากก็ไม่ปกติล่ะว่ะ) แสดงว่าแฟนเชื่อใจในตัวคุณ ? ถูกต้องนะคร้าบ (ก็ลองไม่เชื่อเด่ะ)












เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการเจ้าค่า แคทวอล์ค สุดอลังการงานสร้าง โชว์คอสตูมโบราณสวยสดจากละครฟอร์มเข้มข้นแห่งปี Beyond the Realm of Conscience (ชื่อแรก Palace Scheme) หรือนิคเนมว่า แดจังกึมเวอร์ชั่นทีวีบีฮ่องกง ระดมดาราที่ว่าสวยหล่อสุดใจมาล่อสายตาผู้ชม ได้แก่ เสอซือมั่น,หยังอี้,เฉินเห้า,เจิ้งเจียอิ่ง,หมีเซียะ,กวนซิ่วอิง,ฮุ่ยอิงหง,หลี่ซือเวิ่น,เฉาหมิ่นลี่,เยี่ยชุ่ยชุ่ย, เซียวเจิ้นหนาน ฯลฯ สังเกตว่า วิกผมของแต่ละนางสนมจะออกมาแทบบล๊อคเดียวกันเป็นพื้นฐาน คือเกล้าผมหนา ๆ รูปทรงก็พิสดารตามสไตล์แต่ละนาง ใส่แล้วจะหัวกลม ๆ น้ำหนักก็คงจะทำให้เดินคอเอียงได้ ถ้าไม่ทรงตัวให้ดี (จะทำคล้าย ๆ ทรงผมโบราณาเกาหลี แต่ของเกาหลีเป็นเปียขดซ้อนทับกันอยู่แบบเดียว)













บทบาทนางสนมคู่เอกของเรื่องนี้คือ สนมทาเวียและสนมอาเส่ (เสอซือมั่น) ในเรื่องสนิทสนมกันดุจพี่น้องคลานตามก้นออกมา แต่สุดท้ายแล้ว ความอิจฉาริษยาก็เข้าครอบงำสนมทาเวีย จนกลายเป็นสนมนางร้าย ถึงทาเวียจะเปลี่ยนบทบาทมาร้าย แต่ทาเวียก็ไม่หวั่นเกรงว่าบทนางร้ายจะทำให้ความสวยลดลง (โฮะ ๆ ถึงร้ายก็ร้ายแค่ในจอนะคะ ไม่มีผลกระทบกับอิมเมจค่ะ ไม่กลัวจะโดนเปลือกทุเรียนแบบเมืองไทยด้วยค่ะ)








ลองชุดกันอย่างอลังการในครั้งนี้ ทาเวียกับพี่เฉินเห้า ก็เล่นหัวพูดคุยกันอย่างหนุกหนาน มือพี่เฉินเห้าก็โอบกอดทาเวียอย่างกะคนรักก็ไม่ปาน (อะแฮ่ม ++ ฮ่องเต้หลงรักนางสนมทาเวียจนโงหัวไม่ขึ้นไงล่ะ) ทาเวียหัวเราะบอกว่า พี่เห้าไม่กลัวคนครหาหรือว่า พี่เปงมือแต๊ะอั๋ง (มือหมูเค็ม) อันดับหนึ่งของสถานี (พี่เห้าขอเปลี่ยนเป็นมือแต๊ะเอียอันดับหนึ่งยังพอให้อภัย) เราว่ามาดฮ่องเต้เข้ากั๊นกับพี่เฉินเห้าทีเดียวแระ (แต่จะไม่ชอบอีตอนที่พี่หูเบาโหวง ไม่ฟังเรื่องจริง จะฟังแต่คำป้อย้อของพวกร้ายลึกทั้งกายและใจ) ส่วนสนมทาเวีย ช่วงบนนี่ขอสวยแบบเกอิชา ดูหน้าวอกไปอ่ะ กระโปรงหลายชั้นหลากสีสันลากหางยาวอลังการ คิดว่าทาเวียเปลี่ยนเป็นร้ายก็น่าชมทีเดียวเชียว อย่าลืมซ้อมจิกตาให้ดี ๆ นะจ้ะทาเวีย








ดาวค้างฟ้านิรันดร เจ๊หมีเซียะมากับชุดงามสีม่วงเข้ม ดูมาดสงบเสงี่ยม น่าเกรงขาม (ไม่รู้ว่าเป็นซังกุงฝ่ายซ้ายหรือขวา หรือตำหนักเย็นตำหนักร้อน) นักข่าวได้โอกาสอัพเดทเจ๊หมีเรื่องอาการป่วยของแฟนเจ๊ แต่เจ๊หมีปฏิเสธว่าไม่มีอะไรร้ายแรง ตอนนี้พักฟื้นอยู่ที่บ้านแล้ว ขอซอกแซกต่ออีกนิดนึงค่ะว่า จะมีโครงการ wedding fair บ้างหรือเปล่า ? เดี๊ยนไม่พร้อมจะเป็นเจ้าสาวในตอนนี้ ขอถ่ายละครเสร็จก่อนค่อยว่ากันใหม่ (นักข่าวชอบบังคับเจ๊หมีแต่งงานซะทุกรอบ รอบหน้าอัพเดทอีก จะมีฝ่ามือซังกุงลอยมาคาดหน้าหรือเปล่าอ่ะ)










สนม Mandy เฉาหมิ่นลี่ กับชุดโบราณดูเด่นขึ้นหม้อมั่ก ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะมีบทบาทแอบอิจฉาคนอื่น หรือจะให้คนอื่นมาคอยจ้องตบซะก็ไม่รุ นักข่าวก็ไม่อินไซด์เรื่องการแสดงของชีค่ะ แต่จะถามเรื่องน้องชายของแฟน (แฟนที่ชื่อ Stephen Huynh ลือว่ากิ๊กกันอยู่กับเฉาหมิ่นลี่) คือน้องชายตัวดีไปทำวีรกรรมอินเลิฟ แต่เป็นรักต่างวัย ก็เลยเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา แต่สนมเฉาก็ตอบว่า ฉันขอตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดแม้ว่าจะกดดันเรื่องอะไรก็ตาม ส่วนน้องชายของ Stephen ฉันคิดว่าเขาเป็นคนดีและฉันสนับสนุนเค้าค่ะ..........ปล. สนม 3 นาง ตัวติดกันตลอดจ้ะ หลี่ซือเวิ่น , เฉาหมิ่นลี่ และเยี่ยชุ่ยชุ่ย








คู่เอก คู่ฮอตฮิตติดชาร์จในเรื่องรักใคร่ เสอซือมั่น กับ เจิ้งเจียอิ่ง สนมนางเอกและองครักษ์รูปหล่อ ยืนเคียงคู่สู้กล้องไม่ถอยอยู่แล้วจ้า พี่เควินดูจะฟิตเปรี๊ยะจนผอมแห้งไปหน่อยนะคะ พี่ตื่นเต้ลจนนอนไม่หลับ เพราะได้เป็นองครักษ์มือขวาครั้งแรก หรือเพราะมาเจอหน้าสนมเส่และเหล่าป้าซังกุง แล้วพี่เควินมีแรงชักกระบี่ปกป้ององค์ฮ่องเต้มั้ยเนี่ย ฝ่ายสนมอาเส่ โพสต์แจกยิ้ม....ยิ้มแล้วยิ้มอีกจนเหือกแห้งกันไปข้างนึง คอสตูมสวยถูกใจสาวกอาเส่รึเปล่าหว่า ? เราเสียดายนิดนึงตรงที่ว่า กระโปรงไม่ค่อยพลิ้ว ผ้าออกแนวหนักหนาสาหัส แต่วิกผมสูงเสียดฟ้าดีจิงเอย ไม่ได้เห็นมานานกับอาเส่ลุคแต่งองค์ทรงเครื่องซะขนาดนี้

ปล.น่าชมมากมายค่ะ ละครแนวนี้ ถ้าได้ดูแบบพากย์ไทยก็จะทำให้สะใจยิ่งขึ้น หาผู้เหลียวแลจะนำเข้ามาฉาย เกามากไปมันก็เลี่ยน หันมากินติ่มซำอย่างเดิมมั่งก็ดี















เธอเป็นเจ้าสาวแห่งวาเลนไทน์ค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้แต่งในวันวาเลนไทน์ แต่ก็อยู่ในเดือนแห่งความรัก หลีจือกับเจ้าบ่าวเศรษฐีนักธุรกิจแซ่หม่าอายุ 52 ปี เข้าพิธีสีชมพูกันไปเรียบร้อย ณ ออสเตรเลีย (ไกลพอที่แขกเหรื่อและนักข่าวจะไปกันลำบาก แต่ก็ยังมิวายไปได้อีก ชุมชนจีนมีอยู่ทุกมุมเมือง แนะนำให้ไปเนปาลซะดีมั้ย) งานเลี้ยงสีชมพูจัดขึ้นที่ hotel (คงจะเป็นเพนนินซูล่า) จัดให้นั่งดริ๊งค์นั่งอีทกัน 10 โต๊ะ (มันรู้อีก) และเชิญเพื่อนสนิทเท่านั้นมาร่วมแสดงความยินดีปรีดากับบ่าวสาว งานนี้มีเผยตัวเลขที่ทุ่มเนรมิตงานแต่งไปเกือบหนึ่งแสนเหรียญฮ่องกง ถึงแม้งานเลี้ยงจะไม่ใหญ่โต แต่ตกแต่งออกมาอย่างหรูหราตระการตา






เจ้าบ่าวและเจ้าสาวอยากจะเก็บรายละเอียดงานแต่งเป็นความลับ เลยต้องเดินทางมาถึงโรงแรมอย่างเช้าตรู่ (เรียกว่าช่วย รปภ.เปิดประตูกันเลยทีเดียว โรงแรมเค้ามีปิดประตูมั่งปะ) เพื่อจะหลบเลี่ยงฝูงนักข่าวที่มาคอยติดตาม คุณพ่อของ Gigi มาถึงโรงแรมตอนสิบเอ็ดโมง (คุณพ่อทำเวลาเยี่ยมค่ะ ใกล้เวลาอาหารเสิร์ฟพอดี๊) พอนักข่าวเริ่มรัวชัตเตอร์ พ่อของ Gigi ก็รีบยกมือปิดหน้าทันที ทางด้านเพื่อนของเจ้าบ่าวชื่อ Mr.Chan ก็ทำหน้าที่แจกซองแดงหนึ่งพันเหรียญแก่นักข่าวเพื่อเป็นของขวัญ (หรือของชำร่วยอ่ะเนี่ย ถ้าของชำร่วยเป็นเงินคงเริ่ดดีแท้น้อ) เพื่อนของเจ้าบ่าวหม่า คือ Mr.Chan เป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณทุกคนในนามของ Mr.& Mrs.Ma แต่เมื่อคืนก่อนหน้างานเลี้ยงฉลองวิวาห์ คุณหม่าและคุณนายหม่าได้ร่วมทานข้าวเย็น (ข้าวไม่ร้อนนั่นเอง) กันพร้อมหน้าครอบครัว และเจ้าสาวนั่งยิ้มสวยอยู่ในวงด้วยอย่างมีความสุข ครั้งนี้ถือเป็นการดินเนอร์กันแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัวเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น หวังว่าคุณนักข่าวจะปล่อยให้ครอบครัวได้ทานดิน กันอย่างเป็นสุข เป็นสุขเถิด






Mr. Chan ได้เล่าความรู้สึกของน้องชาย คือหลีอิงที่ประสบอุบัติเหตุ (ถึงขั้นต้องนั่งรถเข็น นับว่าสาหัสอยู่) หลีอิงกล่าวว่าดีใจที่เห็นพี่สาวสุดที่รักมีวันนี้ เนื่องจากไม่สะดวกที่จะเดินเหิน (ตกลงเป็นเจ้าบ่าวที่เดินเหินมีปัญหาและยังน้องชายอีกคน คิดว่าจีจี้จะเหนื่อย....ไหนจะน้อง ไหนจะสามี อุแม่เจ้า) งานนี้การเดินที่เป็นอุปสรรคมิอาจขวางกั้นความร๊ากของเราสองได้ ทั้งคุณน้องชาย , พ่อแม่เจ้าบ่าวก็รีบเดินทางมาถึงโรงแรมให้ไวว่องที่สุด ถึงแม้ว่างานเลี้ยงจะตกแต่งอย่างหรูหรา แต่หลีอิงก็บอกว่า ไม่ได้อะเมซซิ่งในความหรูหรา แค่ขอให้ทั้งสองครอบครัวร่วมดินเหน่อ กันอย่างมีความสุข เพราะค่ำคืนนี้จะเป็นคืนสำคัญของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่จะเลี้ยงฉลองงานวิวาห์






แขกคนสำมะคัญของ Gigi อีกหนึ่งคนก็คือ เจ๊เล่ออี้หลิง....หลิง....หลิง ผู้บริหารหญิงเหล็กแห่งทีวีบี (ประมาณคุณแดงสุรางค์นะฮ้า) ปรากฏตัวพร้อมกับสาละมีตอนหกโมงเย็นฝ่า ๆ (งานนี้ลำบากเจ๊เล่อ ต้องเป็นตัวแทนเจ้าสาวพูดความในใจจนเหือกแห้งล่ะค่ะ คิดซะว่าเจ๊เป็นเจ้าสาวอีกรอบก็ได้ค่ะ) คุณเจ๊เล่อได้ออกมาให้สัมภาษณ์นักข่าวประมาณสองทุ่มในนามของเจ้าสาวคนจ๋วย......วันนี้เจ้าสาวมีฟามสุกม้าก ระหว่างดินเนอร์ คู่บ่าวสาวพูดคุยกันอย่างแฮปปี้ Gigi ในชุดเจ้าสาวดูสวยงามอร่ามตามากค่ะ (ชุดสวยซู้ด ๆ เล้ย) Gigi น้ำตาไหลด้วยความสุข พอเดี๊ยนเห็น Gigi ร้องไห้ ฉันก็อดจะน้ำตารินด้วยไม่ได้ค่ะ (อิอิ ยกให้เจ๊เล่อวันนึง ในฐานะเงาเจ้าสาว) แต่น้องชายของ Gigi ไม่ร้องไห้ เขาดูเข้มแข็งมาก ช่วยต้อนรับแขกเหรื่อตลอดคืน ส่วนเจ้าบ่าวก็ไม่มีน้ำตาเช่นกัน.....ความสุขมันคงล้นออกมาทางอกแทนต่อมน้ำตาซะม้างเนี่ย (เกี่ยวจิงเฟ้ย) ฉันก็จะขอกล่าวความในใจแทนเจ้าสาวแสนสวยในวันนี้ว่า “ขอขอบคุณทุกคนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ช่วยดูแลพวกเรามาเป็นเวลาหลายปี ขอบคุณทุกคนจากใจจริงค่ะ” เจ๊เล่อก็บอกว่า เจ้าสาวไม่สะดวกที่จะออกมาด้วยตัวเอง ฉันก็เลยเก็บภาพมาฝากให้ทุกคนได้ชื่นชมกัน งานเลี้ยงคืนนี้เป็นดินเนอร์ที่อบอุ่นมาก หลีอิงเห็นพี่สาวและพี่เขยยิ้มอย่างมีความสุข ทำให้เขาเปล่งเสียงหัวเราะดัง ๆ อย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน......Happy Ending รักนะ จุ๊บ ๆ ทุกคน





ชมภาพงามๆ และความบันเทิงต่อในกระทู้














Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2552 11:33:44 น. 6 comments
Counter : 4956 Pageviews.

 
เจิมบลอกตัวเองตอนดึก อิอิ ขอบคุณมิโดริ ที่ส่งเพลงเพราะมาให้ค่ะ ฟงร้องเพราะมากมาย

คือว่ายังรอเพลงหนังจีน จอมโจรอาหนิวอยู่จ้า


ช่วงนี้บายดีเหรอ อากาศร้อนแล้ว ขอนอนผึ่งไขมันก่อนน๊า

ขอให้ทุกคนที่แอบมาสอดส่อง มีความสุขกับการชมบลอก ถ้าช่วยเม้นท์ด้วยจะดีมาก


โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:25:00 น.  

 
รอเพลงจอมโจรอาหนิวด้วยคนค่ะ ชอบเพลงนี้จัง

ขอแสดงความยินดีกับจีจี้ด้วยจ้า

ทรงผมอาเส่ตลกมากมาย มองดูแล้วเหมือนมีงูอยู่บนหัว เห็นแล้วตกใจหมดเลย ส่วนเสื้อผ้าถูกใจแบบ ไม่ถูกใจสีเท่าไหร่ค่ะ แต่มองไปมองมาก็โอเคใช้ได้ เหมือนตอนเทพมารสะท้านภพ ช่วงแรกที่มีภาพข่าวก็ไม่ถูกใจชุด แต่ว่าดูไปเรื่อยๆ กลับยิ่งชอบ

ทาเวียคงร้ายน่าดู จะร้ายรังแกอาเส่เท่าไหร่ไม่ว่ากันค่ะ ขอแค่มีองครักษ์สุดหล่อคอยปลอบขวัญอาเส่ ยิ่งร้ายยิ่งดีองครักษ์จะได้ปลอบขวัญนานๆ (เฮ่อๆ เข้าทางแฟนคลับอาเส่ค่ะ ลุ้นจนตัวโก่งแล้วเนี่ย)


โดย: O-yohyo วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:28:39 น.  

 
รอ ร้อ รอ โจรอาหนิว อิอิ

ดีค่ะโอโย่ ช่วงนี้งานเข้า เพราะแม่นางอาเส่ใกล้จะมีเวรมีกรำ 55 (ในละครจ้า) ถึงจะเป็นสนมหัวงู 55+ งูขาวปะ ฮี่ๆ ก็ยังมีเครื่องประดับที่ดูแล้วไม่ยากจนเหมือนเทพมารนะ ขอให้เรื่องนี้ดั้ง ดังสุด ๆ ช่อง 3 จะได้เปลี่ยนใจมาฉายมั่ง


โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:38:19 น.  

 
ใครถามหาเพลงคะ
555 จัดให้แล้ว เอาไปฟังละกัน ว่าใช่ต้นแบบหรือเปล่า
ฝ่ายชายน่ะ ใช่จางเซี๊ยะโหย่วร้องแน่ๆ แต่ฝ่ายหญิงมามิไม่แน่ใจ

//www.sendspace.com/file/3rht8x

นี่รูปคอมเมนต์น่ะ มันบาดตาไปไหม แนบสนิทซะขนาดนั้น


โดย: midori IP: 124.120.198.32 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:02:17 น.  

 
ขอบคุณคร้าบ คุณมิริผู้น่ารัก

เพลงสมัยโน้นมานเพราะจับจิต สงกะสัยมิริมีเพียบแหงม

แต่เพลงท่านเปาก็ยังหลงใหลยู้ ไม่ลืม ๆ เฮ้อ ไม่มีใครแปล หรือแกะเนื้อเพลงอะไรให้เลย

รูปมันหวานจนบาดตาเลือดซิบ ๆ เดี๋ยวส่งผ้าไปให้ซับนะจ้ะ


โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:37:50 น.  

 
เพลงเก่าก็มีพอควรล่ะ แต่มันชื่อเพลงภาษาจีนไง อ่านไม่ออก แต่ฟังแล้วรู้จักบางเพลงไม่รู้ชื่อเพลงด้วยซ้ำ 555

เนื้อเพลงน่ะมีแล้วตัวเอง
แปลเป็นภาษาปะกิด ใครแปลไทยก็ไปแปลเองละกัน 555 แปะให้ตรงนี้เลย ที่จริงเกอร์เอาไปแปะที่บอร์ด 3 ค่ะ


静夜思
Jeng Ye Si
Mesmerizing Night


夜尽了 我会畅快饮醉
Ye chun liu, wo wui ceong fai yem chui
The night ends, I drown myself with wine

让苦水变作了绝句
Yong fu sui pin cho liu chut kui
Allowing sorrows to become an end in itself

繁华盛世似月星跌坠
Fan wah seng sai chi yue seng tit chui
The grandeur and splendour of life is like falling comets

大笑过后洒眼泪
Tai siu guo hou sa ngan lui
After laughter comes tears

梦里我是疯子不是谁
Mong lui wo si fong zi pet si sui
In the dreams of dreams, I am nobody but a fool



为何让你进驻我心里
Wei ho yong ni chun ju ngo sum lui
Why do I allow you to stay in my heart

未伸手去碰已后退
Mei sen sou hui pong yi hao tui
You left before I could even reach out my hands

浮云叶絮会随风散聚
Fou wen yi ken wui chui fong san chui
The floating clouds and the rustling leaves will be ruffled away by the winds

烦恼太重身太累
Fan noe tai chong sen tai lui
Mentally burdened, physically drained

没有寄望也就没唏嘘
Mut yao kei mang ye chao mut hei hui
Where there is no hope, there will be no disappointments



痛到何程度值得真流泪
Thong dou ho cheng tou chek de zhen lau lui
What is the threshold of pain worthy for my endless tears

爱到何程度值得一再追
Oi dou ho cheng tou chek de yet joi chui
What is the threshold of love worthy for my endless pursue

地老再等天荒,多么教人憔悴
Dei lou joi deng tin fong, do mo gao yen chiu chui
The earth waits for the heavens, tormenting people in languish

誓言若似太难记住别记取
Sai yin yok ci tai nan kei chu pit kei chui
If an oath is not to be remembered, do not then commit it to memory


到哪天承受什么都能睡
Dou na tin seng sao se mo dou neng sui
Till the day whatever comes I am able to ease myself to sleep

要哪天才愿活得心似水
Yiu na tin choi yun wut de sum chi sui
Only until that day shall I live a life like water

步上了这天阶,怎可往后退
Pou seung liu zhe tin kai, chem ho wong hou tui
Arriving at this heavenly border how can I move backwards

自言自语我越说就越心虚
Zhi yin zhi yue ngo yut suet chao yut sum hui
Self-talking my way to emptiness

都只得说下去
Dou zhi neng suet ha hui
And I can only continue to talk



为何让你进驻我心里
Wei ho yong ni chun chu ngo sum lui
Why do I allow you to stay in my heart

未伸手去碰已后退
Mei sen sou hui pong yi hao tui
You left before I could even reach out my hands

寻常别过哪日可再聚
Chem seung pit guo na yet ho choi chui
In search of the day of our reunion

谁也发现失去谁
Sui ya fat yin set hui shui
Anyone could realize the loss of someone

亦会继续渡过换新居
Ye wui kai chuk guo du wun sen koi
And continue to move forward



痛到何程度值得真流泪
Thong dou ho cheng tou chek de zhen lau lui
What is the threshold of pain worthy for my endless tears

爱到何程度值得一再追
Oi dou ho cheng tou chek de yet joi chui
What is the threshold of love worthy for my endless pursue

地老再等天荒,多么教人憔悴
Dei lou joi deng tin fong, do mo gao yen chiu chui
The earth waits for the heavens, tormenting people in languish

誓言若似太难记住别记取
Sai yin yok ci tai nan kei chu pit kei chui
If an oath is not to be remembered, do not then commit it to memory


到哪天承受什么都能睡
Dou na tin seng sao se mo dou neng sui
Till the day whatever comes I am able to ease myself to sleep

要哪天才愿活得心似水
Yiu na tin choi yun wut de sum chi sui
Only until that day shall I live a life like water

步上了这天阶,怎可往后退
Pou seung liu zhe tin kai, chem ho wong hou tui
Arriving at this heavenly border only to move backwards

自言自语我越说就越心虚
Zhi yin zhi yue ngo yut suet chao yut sum hui
Self-talking my way to emptiness

都只得说下去
Dou zhi neng suet ha hui
And I can only continue to talk


โดย: midori IP: 124.122.154.253 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:17:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าน้อยคาราวะ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




小花

Friends' blogs
[Add ข้าน้อยคาราวะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.