Bloggang.com : ข้าน้อยคาราวะ : บันเทิงเริงใจ#74 Fung's concert/ท่าน(โจว)ขงจื๊อ/เบิ้ดเดย์อาเส่/โยคะร้อนต้าเอส/Club Spark/Iron Horse

บันเทิงเริงใจ#74 Fung's concert/ท่าน(โจว)ขงจื๊อ/เบิ้ดเดย์อาเส่/โยคะร้อนต้าเอส/Club Spark/Iron Horse

เจ้าหย่าจือ

หยังกงหยู

ไช่เส้าเฟิน

หลิวอวี้เฟย

คุณชายเรย์ฟงมาทำแอ๊บเกาหลี ซารังเฮโย...เย อารายกันคะ

นี่มันไม่เอี่ยวกะเกาหลีซักกะน้อย แต่พ้อยท์คือคุณชายเรย์ฟงเป็นท่านทูตไปแร้ว ทูตในโครงการ “Orbis eye health ambassador” (วิทยาการคอมพิวเตอร์มันก้าวกระโดดไกลถึงขั้นสุดยอดแระ คุณชายฟงแหล่มกว่าตัวจริงซัก 3 กระเบียดนิ้ว)

เข้าเรื่องเกี่ยวกับแคมเปญ Orbis โครงการสัญลักษณ์น้องตาเดียว (แต่โต๊โต)

ซึ่งคุณชายฟงได้เข้าร่วมรณรงค์มาตลอดหนึ่งปีเต็ม เบื้องหลังการทำภาพหล่อแหล่มแอ๊บแบ๊วนี่ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ คุณชายฟงอุทิศตัวเพื่อยกแขนค้างเติ่งไว้นานกว่าครึ่งชั่วโมง ผลสุดท้ายปวดแขนและเหนื่อยสุด ๆ (ช่างภาพมันแกล้งทรมาน)

เพราะเมื่อคืนก่อนเจ้าตัวถ่ายละครอยู่เสิ่นเจิ้น เผลอแว้บเดียวต้องย้ายร่างกลับมาฮ่องกงเพื่อจะถ่ายโปสเตอร์สุดแหล่มอันเนี้ย แม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนแต่ถือว่างานนี้มีคุณค่าทางใจอย่างมาก ถ้าผมสามารถช่วยคนพิการทางสายตาให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ผมเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของงานนี้ครับ (โปสเตอร์ใหญ่ก็พอแระ ว่าแต่สโลแกนคือ ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจรึเปล่า)

น้ำเน่า...ยุงชุม

ปีนี้ภารกิจสุดบิ๊กเจง ๆ สำหรับคุณชายเรย์ฟง คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกกำลังจะเปิดม่านเดือนหน้า Mag ทุกเล่มกระหน่ำลงเรื่องราว ยังมีอาวุธลับไม้เด็ดอะไรที่จะนำมาโชว์ออฟต่อสายตาผู้ชมให้ตะลึงงัน..... (แม่ยกหาผ้าปาดน้ำลายด่วน)

Source : Yes ! Magazine

การแสดง 4 ภาค เฮ้ย 4 sections

แม้ว่าจะอยู่ในวงการมาถึงสิบปี แต่จับไมค์ไฟส่องหน้าได้แว้บ ๆ ประมาณ 2 ปี ก็ได้เวลาขึ้นเวทีใหญ่ ณ โคลีเซี่ยม กันแล้ว อะไรที่เป็นครั้งแรกทุกอย่างต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะสร้างเซอไพรส์ เวที , เสื้อผ้า , การเต้น , การร้อง , แขกรับเชิญ ทุกองค์ประกอบต้องทำให้บรรเจิดด (ไม่เกิดให้มันรู้กันไป)

Theme คอนเสิร์ตชื่อ รัก...รักเธอไม่มีหมด

เมื่อมาแนวเลิฟ จึงต้องให้ซาบซึ้งกันทุกอย่างของการเลิฟ ไม่ว่าจะรักดื่มด่ำกำซาบ , รักกันฉันท์พี่น้อง , รักโรแมนติก และมิตรภาพอันยาวนาน ทุกอย่างจะมีให้เห็นในคอนเสิร์ต

Passionate Love

เมื่อหูผึ่งว่าจะมีรักดูดดื่ม เราเริ่มวาดภาพว่าคุณชายเรย์ฟงจะออกมาเซ็กซี่ (แล้วแดนเซอร์นี่สู้ไม่ได้เหรอ)

คิดว่าเอกลักษณ์ที่ดูเด่นสุด ๆ น่าจะเป็นการเล่นกับน้ำ และ dancing ไปด้วย (มีแดนเซอร์เป็นฝูง ๆ) และงานนี้เปลืองทรัพยากรน้ำนั่นแหละ (มันจะออกแนวเซ็กซี่ ?) เป็นแบบเซ็กซี่แมน ดูแข็งแรง......เพราะเดือน June เป็นเดือน summer หวังว่าคนดูจะสนุกสนานและเต้นไปด้วยกัน (คิดว่าชุดจะใส่แบบเซ็กซี่ ?) จะใส่แบบซีทรู แต่ก็ไม่เปิดมากเท่าไหร่ ข่าวลือแว่วมาว่าจะใส่ T-back ถ้างานนี้ทุ่มจริง แม่ยกขอดูจริง

ซื้อตั๋วกันมือไม้สั่น (คิดว่าเกินสามารถว่ะ แต่อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน)

เวที 3 ด้านเหมือน 4 ด้าน

ครั้งนี้เวทีจะออกแบบอย่างพิเศษ บริษัทไปอัญเชิญดีไซเนอร์มาออกแบบเวที (คนเดียวกับที่ทำเวทีหมุนรอบทิศให้ขั้นเทพกัวฟู่เฉิงแหละคร่า) แม้ว่าจะเปิดเวทีแค่ 3 ด้าน แต่จะมีเทคนิคให้มองได้เหมือน 4 ด้าน การันตีว่าแฟน ๆ จะมีโอกาสได้สัมผัส (ชุดซีทรูแบบแนบ ๆ)

ในคอนเสิร์ตมีน้ำด้วย คนดูที่อยู่ด้านหน้าก็ต้องเตรียมตัวเปียกไปกับคุณชายเรย์ฟงด้วย (แถวหน้าเค้าระบุว่าให้ใส่ชุดว่ายน้ำมาด้วย)

Dancing กับนาย Laughing (เซียะเทียนหัว)

มีรักแบบดื่มด่ำ มาถึงคิวรักแบบพี่ ๆ น้อง ๆ กันบ้าง (สาบานกันมาเรียบร้อยแล้ว ว่าจะไม่แปรเปลี่ยนเป็นอื่น)

คิวนี้จะเผยลุคแบบ cool man เต้นเพลงเร็วสุดเร้าใจกับเซียะเทียนหัว (หลายคนอาจจะไม่รู้จัก) ผมเป็นเพื่อนกับเค้ามาหลายปีแล้ว ตอนเจอกันเราก็ร้องเพลงด้วยกัน แต่ไม่เคยร่วมงานกันจริง ๆ เลยซักครั้ง นี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นเวทีด้วยกัน ชุดที่ใส่จะรังสรรค์ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน (โปรดถ่างตารอชม)

ร้องเพลงทุกแนว

ฉายาเจ้าชายเพลงรักที่มอบประกาศนียบัตรไว้ให้

จะไม่มีช่วงแห่งความโรแมนติกได้อย่างไร ? ผมขนเพลงรักมามอบให้ทุกคนครับ ร้องกันเต็มสูบ 2 อัลบั้ม บวกกับอัลบั้มใหม่ที่จะออกด้วย ได้โปรโมทชุดสามกันบนเวทีเลย เพลงรัก เพลงเร็ว เพลงแร๊พ (ถ้าทำได้) มีหมดครับท่านผู้ชม โดยเฉพาะเพลง Let’s Get Wet ได้เชิญ Wyman Wong มาช่วยเขียนเพลงให้ด้วย ออกแนวผสมผสานความแกร่งกับความเซ็กซี่ไว้ด้วยกัน

แขกรับเชิญที่ไม่น่าจะพลาด (หมวยลินดา จงเจียซิน)

ผ่านมาหลายสถานีรักแล้ว มิตรภาพระหว่างผองเพื่อนพี่น้องในวงการ (อยู่มาหลายปี มีคนคบหลายคน)

พอเพื่อน ๆ รู้ว่าผมจะเปิดคอนเสิร์ต ก็พากันจองตั๋วไว้เพียบ มากันหลายคนทั้งข้างล่างข้างบนเวที (ข้างหน้าข้างหลังก็มี)

รายชื่อเกสต์ก็ออกมาแล้ว (อาซา , หย่งเอ๋อ , หวงเฉาหลิน ,เซียะเทียนหัว) แต่ลินดายังไม่รู้คิวว่าจะหัวหรือก้อย ? เธอยังหาคิวไม่ได้เพราะยุ่งมาก ผมก็หวังว่าทุกคนจะพอใจกับแขกรับเชิญครับ (ดูเหมือนคุณชายเรย์ฟงจะแอบถอนใจนะเนี่ย ถ้าลินดามาไม่ได้ กลัวว่าแฟน ๆ จะไม่อยากดู) ขอให้โล่งใจได้ ถ้าชีมาจะคืนตั๋ว ถ้าไม่มาก็แล้วปาย...ล้อกานเล่น

รู้สึกเหมือนความฝัน (ฝันที่เป็นจริง)

จะให้พูดความรู้สึกก็เหมือนความฝันครับ ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง ว่าไปแล้วรู้สึกเร็วไป แต่เมื่อบริษัทเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี ผมก็ต้องเดินหน้าเต็มที่ คอนเสิร์ตครั้งนี้สำคัญมากกับอาชีพการงาน (มีคนให้กำลังใจมากมายแล้วฟง ใส่ชุดซีทรู แถมโปรโมชั่นลูบเป้า.....แม่ยกน้ำหมากหกกระจาย)

ได้เวลาฝึกซ้อมการแสดง

ฟงออกอัลบั้มไปสองชุด ซึ่งที่ผ่านมาเรียกว่ายอดขายดีมาก สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและค่ายเพลงด้วย แต่ความมั่นใจไม่ได้หมายความว่าจะปลอดจากความเครียดนะครับ แน่นอนว่าต้องรู้สึกกดดันอยู่แล้ว จากนี้ไปจะเริ่มซ้อมและเตรียมตัว (คุณกังวลเรื่องยอดขายบัตรหรือเปล่า) เรื่องขายบัตรคอนเสิร์ตยกให้บริษัทหัวหมุนไปเถอะ

5+ ส่วนผมจะเครียดในเรื่องของการแสดง นอกจากร้องเพลงรักแล้ว ผมจะโชว์ด้านอื่น ๆ อย่างเต็มความสามารถ (สาธุ แค่ท่าในกล่องเม้นท์ก็เหมือนได้ดูแล้วว่ะ)

เป็นข่าวกันตลอดปี ในวังจะสงบสุขหรือร้อนรุ่ม ยังไง้ก็ต้องเป็นข่าวกับคู่พระนาง Beyond the Realm of Conscience นางสนมอาเส่ (เสอซือมั่น) และองครักษ์รูปหล่อ เจิ้งเจียอิ่ง เมื่อวานโน้น....วานไหนของมัน

ระหว่างการถ่ายทำเกิดความขลุกขลักขึ้นเล็กน้อย ทำให้ต้องหยุดพักรบ 10 นาที (ได้โอกาสฮันนีมูน เฮ้ย พักยกหายใจรดต้นคอกันหน่อย)

ทั้งคู่อยู่ในห้องเดียวกันแต่ไม่ได้พูดจาภาษาคนอะไรกันมากนัก

(เอ๊ะ ๆ ปกติจะระดับพระเอกนางเอกเค้าจะมีห้องพักส่วนตั๊วไว้เอกเขนกกันน๊า หรือว่ากองถ่ายนี้จะจัดห้องเตียงคู่ซะหมดก็ม่ายรู้)

แต่เดี๋ยวก่อน.....ทำไมนักข่าวยังเดินจงกรมปวนเปี้ยน

พระนางเลยสละเวลาพักจัดให้...... จัดให้เหมือนเดิมเป๊ะ ยืนเคียงข้างกันฉันและเธอให้นักข่าวได้งานเข้ากันตามระเบียบ

ข่าวซุบซิบได้ปล่อยออกมาจาก Mag เล่มใดไหนกันว่า ทั้งอาเส่และเควิน มีนัดดินเนอร์ส่วนตัวกันล่วย นางเอกทำการเคลียร์ว่า คืนนั้น (คืนที่พระจันทร์วันเพ็ญ)

เจ๊ซังเทียนเอ๋อก็อยู่กับเราด้วย ไม่อยากจะตอบโต้อะไรกับแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว (คุณจะหลบหน้าให้มากกว่าเดิมงั้นหรือ) ไม่เลย ฉันไม่ได้จงใจจะหลบอะไรทั้งน้าน......มีโผล่มาอีกเล่มหนึ่งบอกว่า อาเส่ไปเมืองไทยเพื่อทำบุญบริจาคโลงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์อะไรซักอย่าง ฉันไม่ได้ออกจากเกาะนี้ไปไหนเลย ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หวังว่าคงไม่ลือกันเลยเถิดยิ่งกว่านี้ค่ะ (ขอให้แมงเม้าท์ได้บินเข้าปากหน่อยเถอะน่า)

ฝ่ายพระเอกทำได้อย่างเดียวคือ

ขอบคุณที่ปั้นข่าวให้ครับ มีผมติดโผอีกแล้วหรือ ? เรื่องดินเนอร์ไปกันเป็นกลุ่มใหญ่เลย แต่ผมได้พาดหัวข่าวแค่คนเดี๊ยะ

ไม่อยากจะตอบอะไรง่ะ (หลังจากจบละคร ข่าวลือทั้งหลายคงไปสู่ที่ชอบเอง)

ก็คงใช่ครับ แต่ไม่เกี่ยวกับข่าวลือหรอก เพราะผมโดนมาก่อนจะถ่ายทำเรื่องนี้ซะอีก ที่บอกว่าใช่ นั่นคือผมไม่ต้องจำบทละครโบราณที่ยาก ๆ แบบนี้อีกต่อไปครับ.....แป่ว

วิ่งหนีไม่กลับมามองเลยรึป่าวท่านองครักษ์

HAPPY BIRTHDAY TO CHARMAINE อาเส่ (28th May) นางกำนัลถูกห้อมล้อมด้วยแฟนคลับที่หอบเด็ก เอ่อ เค้ก.....มาอวยพรกันถึงกองถ่าย

ได้เวลาปล่อยภาพท่านปรมาจารย์โจวเหวินฟะออกมาให้ยลความชรา

ความขลังในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของท่านเฮียโจว ที่เป็นชีวประวัติของนักปราญช์ผู้โด่งดังของจีน “ขงจื๊อ” เชิญนักข่าวให้เข้ามาเหล่การถ่ายทำกันให้ถ้วนทั่ว โดยฉากที่ได้ชมกันวันนี้จะเป็นบทเข้าห้อง (เข้ามานั่งในห้องเฉย ๆ )

เป็นการพบกันของท่านโจวเหวินฟะที่แสดงเป็น ขงจื๊อ และโจวซวิ่น ที่แสดงเป็นนางสนม Nan Zi (ชื่อเสียงของนางโด่งดังในทางฉาว)

นางสนม Nan Zi ได้เชื้อเชิญให้ท่านขงจื๊อเข้ามาในห้องและขอให้แปลความหมายของโคลงกลอน (ลำบากท่านขงจื๊อ ต้องเข้าไปแปลกันถึงในห้อง)

โจวซวิ่น กล่าวว่า ท่าทางการแสดงของฉันไม่ได้ออกไปในทางทอดสะพานหรือหมายจะยั่วยุกามรมณ์แต่อย่างใด แม้ว่าจะมีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า Nan Zi เป็นนางสนมผู้เลอโฉมและเต็มไปด้วยเล่ห์ราคะ.......... ข่าวที่ปรากฏออกมาบอกว่า หนังไม่ได้เล่าเรื่องชีวประวัติของท่านขงจื๊อแต่เพียงด้านเดียว แต่ยังเกี่ยวพันไปถึงชีวิตรักด้วย (เพิ่มความอยากรู้อยากเห็น) ด้านผกก. Hu Mei ได้กล่าวว่า ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรกับฉากที่ปรากฏออกมา (ผกก.ยังไม่รู้ แล้วใครมันรู้ดีกว่า ผกก.)

แต่ผมรับรองว่ามันไม่ใช่ฉากโรแมนติกแต่อย่างใด ขอให้ทุกคนไปค้นหาความหมายกันเองดีกว่าเมื่อหนังออกฉายเดือนตุลาคมนี้ (บอกเดือนให้ไปท้าพิสูจน์อีกต่างหาก)

ในบทกวีนิพนธ์ของท่านขงจื๊อ ได้กล่าวเอาไว้ว่า Nan Zi เป็นสนมเอกของฮ่องเต้ในช่วงปีที่ 770-476 ช่วงก่อนคริสตกาล) นางชื่นชมในความเป็นปราญช์ของท่านขงจื๊อ และได้เชิญท่านขงจื๊อไปพบนางที่ตำหนักเป็นการส่วนตัว ท่านขงจื๊อตอบรับไมตรีของสนมเอกด้วยมารยาท แต่ฝ่ายลูกศิษย์ของท่านขงจื๊อ (Zi Lu) เกิดความไม่พอใจ เมื่อขงจื๊อกลับออกมาจากตำหนักของสนมเอก ได้บอกกับศิษย์ว่า “ถ้าข้าทำสิ่งใดที่ผิดต่อศีลธรรม ขอให้สวรรค์ลงโทษข้า” (ลงท้ายแบบนี้ เรื่องยาวค่ะท่านขงจื๊อ สร้างความสับสนอลหม่านแก่ลูกศิษย์และคนรายงานข่าว)

รัก...มัน....ฮากระจาย.....ระหว่างดาหลิง ต้าเอส VS ดาหลิง กู่เทียนเล่อ ในหนังใหม่ Forbidden City Cop : Smart dog รักกันแบบไม่ทำมะดามันต้องเป็นข่าวจนได้

ภารกิจหนักตกอยู่กับนางเอกต้าเอส ที่ต้องงัดทุกลีลาท่าไม้เป็นและไม้ตาย

เพื่อยั่วรักเฮียกู่เทียนเล่อ ขั้นแรกก็เดิ๊พ ๆ ไปก่อน เสื้อหลุดบ่าเผยไหล่เซ็กซี่ไม่มีหมดกันวันนี้

แต่ช่วงล่างแม่คุณต้าเอสแต่งกายรัดรึงแข้งขาหนาแน่น (ดูไม่จืดย่ะ เค็มดี โดยเฉพาะหน้าหล่อน หลุดไปนอกโลกแระ)

ต้าเอสรู้สึกว่างานหนักค่ะ ไหนจะฉากบู๊ตีรันฟันแทง ไหนจะต้องร่ายลีลาการยั่วอีก เล่นเอาเครียดงึม ๆ ปกติก็ไม่รู้ว่าจะโพสต์ลงอีกท่าไหนแร้ว ไม่รู้ต้องยั่วอะไรยังไง (ก็ลงด้วยท่าโยคะร้อนแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ลองใช้สติพิจารณาว่ามันคือภาพไหน)

จนถึงตอนนี้ เดี๊ยนก็ทำไม่เป๊ง ทำไม่เปง.....อายง่ะ.....ม้วนกลิ้งด้วยโยคะร้อน

Fitting ผ่านไป แล้วก็ Blessing จุดธูปไหว้เจ้ากันตามธรรมเนียมปฏิบัติของการถ่ายทำละครทุกเรื่อง (อันนี้เป็นกันทุกชาติ) แต่จะมาเฉาะหมูหันที่เรื่องนี้ “Iron Horse Seeking Bridge” (โอโย่บอกว่ามีแค่ 6 ตอน ไม่ทราบว่าทำไมรักกันง่าย หน่ายกันเร็วจัง)

คู่เอก หยังอี้ VS เจิ้งเจียอิ่ง ออกมารำอวยพร ...เหอ ๆ รำหมัดมวยไทเก๊ก โชว์ธีมกันซะหน่อย

และเข้าสู่ข่าวแรง ๆ (แรงสำหรับพระเอกมากคร่า) พาดหัวว่า “นักแสดงชายขายบริการทางโทรศัพท์” ระบุว่าแซ่เจิ้ง แถมด้วยใส่รูปผมเป็นพระเอกในข่าวอีกต่างหาก ผมทำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ

ก่อนหน้านี้ก็เกิดกรณีมือลวนอึ๋ม (มือหมูเค็ม) ผมก็อยู่ในข่ายต้องสงสัย แต่นั่นก็ผ่านไป คราวนี้ในข่าวเขียนว่าดาราชายคนนั้นอยู่ฝั่งเกาะฮ่องกงและมีคนขับรถด้วย ผมขอนอนยันนั่งยันว่าไม่ใช่ผมแน่นอน (แค่คนหน้าเหมือนอ๊ะป่าว)

ผมอยากจะพูดจริง ๆ ว่า มันไร้ซึ่ง...ซึ่งสาระเจง ๆ

ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้มาทำฉาวในวงการบันเทิง ได้แต่หวังว่าควรจะยุติการเสนอข่าวได้แล้ว (คุณเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนหรือเปล่า) ถ้าผมรู้ ผมก็ไม่พูด แต่ผมไม่รู้เรื่องนี้ ซ้ำร้ายไม่เคยไปสถานที่นั้นด้วย ถ้าผมเคยไปมาก่อนและข่าวเขียนถึงผม อาจจะมีค่าควรแก่การปั้นข่าวได้บ้าง (จะหันหน้าไปเซ็งทางไหนดี ต้องมารดน้ำมนต์ที่เมืองไทยซะ เดี๊ยนจะพาไป)

นางเอกไม่โดนว่าเป็น Ms.Calling กับเค้าบ้างก็รอดตัวไป

ทาเวียบอกว่าเรื่องนี้ได้เข้าฉากกับเด็ก ๆ หลายฉากค่ะ ยอมรับตามตรงว่ากลัวตอนเด็กร้องไห้ (แอบตีก้นลูกเค้ารึเปล่า)

แต่หลังจากคลุกคลี วิญญาณแม่ก็จะเข้าสิง ทำให้เรียนรู้ได้ว่าจะจัดการกับเด็ก ๆ ยังไง......ตกลงเค้าใช้ให้มาเลี้ยงลูกหรือมาเป็นนางเอกกันแน่ว่ะ

พระเอกตุ๊กตาทองคนล่าสุด จางเจียฮุยพร้อมคุณภรรยา เจ๊กวนหย่งเหอ หนีบเอานายชิแลม จางจื่อหลินมาด้วย (มาโดดเดี่ยว หนีเมียมา)

แท็คทีมกันออกรายการโซฟาสีม่วง

“Club Sparkle” ของเจ๊อู๋จวินหยูเจ้าเก่า มาเม้าท์อารายกันมั่ง ก็เริ่มเปิดใจจากเฮียนิคเลยว่า ก่อนจะมาเป็นคนดังอย่างทุกวันนี้ ชีวิตผมก็เคยโดนเป็นอากาศธาตุมาก่อนนะครับ (ใครกันที่มองข้ามหัวเฮียนิคได้เช่นนั้น)

เป็นเหตุการณ์ที่ร้านตัดผม คือผมนั่งอยู่ในห้อง VIP แต่ห้องนั้นก็มีดาราอีกคนหนึ่งที่ผมก็คุ้นเคยกับเขานั่งอยู่ที่นั่นด้วย หลังจากนั้นไม่นาน ช่างทำผมก็เดินเข้ามาและพูดกับผมว่า จะทำผมทรงใหม่ให้ดาราคนนั้น และไม่ต้องการให้เป็นที่เปิดเผย คือบอกเป็นนัยว่า คุณรู้ตัวมั้ยว่าควรจะออกไปจากตรงนั้นได้แล้ว.........ไม่มีความจำเป็นเลยที่ช่างทำผมจะทำเป็นไม่เห็นหัวกันอย่างเนี้ย รู้สึกแปลกใจมาก (ช่างทำผม หรือช่างทำเมินกันแน่ยะ)

ฝ่ายคุณภรรยาขอพูดบ้าง คำถามไม่ได้ยิงมา แต่ตัดตอนระหว่างการสัมภาษณ์มาให้ฟังว่า เจ๊กวนหย่งเหอพูดถึงสิ่งที่ผู้ชายควรจะทำและควรจะเป็น นั่นคือ ผู้ชายต้องมีความรับผิดชอบ (เจ๊ขอว่าอย่างสูง)

เจ๊กวนอธิบายว่าเมื่อผู้ชายออกไปนอกบ้าน (คงหมายถึงสามี) ต้องรู้ว่าควรทำตัวอย่างไร (ขอให้ถอดป้ายคำว่าโสดสนิทออกไปจากชีวิต อย่าแกล้งเดินว่าโสด)

ผู้ชายไม่ควรจับปลาสองมือในเวลาเดียวกัน....กิ๊กหรือกั๊กอย่าให้เจ๊รู้

ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วควรจะรู้ว่าต้องทำอะไรในฐานะที่เป็นสามี ต้องให้เกียรติและจริงใจกับภรรยา (หากเกิดเหตุการณ์บุคคลที่สาม นั่นคือต้องรับผิดชอบด้วยรึเปล่า) เจ๊กวนบอกว่า หน้าที่ความรับผิดชอบคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคู่สามีภรรยา อาจจะมีหลายเหตุผลในระหว่างคู่ ซึ่งบุคคลภายนอกไม่อาจรู้ (เฮียนิคโดนความนัยซ้ำซ้อนค่ะ บอกกันแล้วนะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน)

สุดท้ายคุณสามี ชิแลม มีอะไรฝากบอกเจ๊หยวนหย่งอี๋บ้างรึเปล่า.....รายนี้พูดถึงตัวเองล้วน ๆ ว่า ตั้งแต่ทำงานในวงการบันเทิงมาหลายปี อาชีพการงานราบรื่นมาตลอด ไม่เคยเจอเรื่องร้ายแรงอะไร (เรียกว่าทำบุญมาดี ไม่มีเรื่องร้ายมาพาดผ่าน)

ตอนปลายปี ผมก็ได้ฤกษ์กลับเข้ารังทีวีบีเพื่อเตรียมลงละครใหม่แล้วครับ (คุณจะได้ร่วมงานกับหวีซือมั่นอีกหรือเปล่า) ส่งยิ้มก่อนตอบว่า เราไม่ควรจะอยู่ซ้ำ ๆ แค่นั้นนะครับ ใจจริงผมอยากจะร่วมงานกับเติ้งเจี้ยนหง และ selena หลี่ซือเวิ่น (ทั้งคู่ไปโปรยยาเสน่ห์อะไรไว้ล่ะ นายชิแลมถึงได้โหยหาขนาดนี้)