ย่ำย่างกลางเมืองหลวงพระบาง ตอน 2
ความเดิม แรกเริ่ม เดินทางสู่หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ขณะที่กำลังหลับสบายภายใต้ผ้าห่มอันอุ่นอุ่น ของ เกตเฮาท์ วีระเดชา ของ น้องโทนี่ ลูกชายเจ้าของเกตเฮาท์ จุต้องสะดุ้ง ตื่นกับเสียงปลุกจากโทรศัพท์ ผู้ร่วมเดินทาง... ชายผู้นั้นงัวเงีย มาปิด แล้วหลับต่อ แต่ที่ไม่หลับต่อ คือ จุกับน้องตง เราสองคนเลยลุกออกไปทำธุระกันเพื่อเตรียมตัวตักบาตรตอนเช้า 1 ในโปรแกรมทัวร์ที่ คนเยือนหลวงพระบางพลาดไม่ได้ ปกติ จุจะมียีนส์ กับเสื้อยืดเท่านั้น...แม้ว่าหน้าที่การงาน จะให้จุสามารถใส่กระโปรงได้ แต่เห็นว่าอาจจะไม่เหมาะสำหรับ สาวเกือบสวยอย่างจุ ก็เลยไม่มีกระโปรงค่ะ ที่มาหลวงพระบางนี่ ก็ ค้นหีบเก่าๆ ได้ซิ่นผ้าไหมสมัยยายยังสาว อายุซิ่นมากกว่าครึ่งศตวรรษ บวกกับเสื้อลูกไม้พี่สาวที่ขนเอามาใส่ เพื่อหลวงพระบางเมืองแห่งวัฒนธรรมโดยเฉพาะ..... ใส่ออกมาก็...สวยดี สวยจนเพื่อนๆ ร่วมทริป อาจจะมองผ่าน เพราะนึกว่า ลาวที่ไหน...ไม่ใช่จุ ก่อนที่พระจะบิณฑบาตร จะมีการตีกลองบอกให้ชาวบ้านรู้ ก่อน แต่พวกเราเห่อ เลย โผล่ออกมายืนรอที่ถนนหน้าวัดทาดน้อยตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง.....แต่ขอโทษ ไม่ครบทีม เพราะสาวจี๊ด ยังไม่ตื่น ... หลับได้หลับดีจริงๆ แม้ว่า จุทำตัวกลมกลืน กับชาวลาว แต่เพื่อนพ้องที่ร่วมเดินทางไปด้วย ก็ไม่เห็นว่าเขาจะบ้าเห่ออย่างจุ เขายังแต่งตัวธรรมดา และถูกคะยั้นคะยอ ให้ซื้อของใส่บาตร ประเภทข้าวเหนียวในกระติ๊บ เล็ก และข้าวต้มมัด มีเสื่อให้เราได้นั่งรอพระ ผู้ชายยืนใส่ได้ ส่วนผู้หญิงนั่งจกข้าวเหนียวถวายพระ ( เจ๊เบียบ มาเจอ แกจะว่ายังงัยนะเนี่ย ขอสิทธิยืนใส่บาตร?..ดีนะ ที่นี่หลวงพระบาง) ภาพมีเยอะแยะ แต่ว่า รูป 10 รูป มี จุเห็นเป็นผีโผล่อยู่ 2-3 รูป นอกนั้น มีน้องตง กับหนุ่มต๋อง ชัดเจนยิ่ง... ฝีมือ คุณนุช ถ่ายออกมา ไม่รู้ 2 หนุ่มนั่นให้ค่าถ่ายภาพคุณนุชเท่าไหร่ กล้องก็กล้องจุแท้ๆ หลังจากใส่บาตรข้าวเหนียวด้วยความรวดเร็ว เราก็เดินเที่ยวตลาดเช้า ก่อนจะแวะไปทานกาแฟ ที่มีขนมปังปาหัวหมา เอ๊ย ปาเกต และปาท่องโก๋ แสนอร่อย ที่ ร้านประซานิยม... ร้านกาแฟนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติกาแฟลาว ที่ นำมาจากลาวใต้ แต่ จุก็ได้แต่ดมๆ ของคนข้างๆ เพราะจุไม่ทานกาแฟ สั่ง แต่โอวัลติน( เพื่อพลานามัยที่แข็งแรง ตามประสาเด็กๆ ) และเพราะ ลูกสาวเจ้าของร้าน สวยหรืออย่างไรไม่รู้...ความพลั้งเผลอ ทำให้จุทิ้งผ้าเช็ดหน้า...อ้อ แท้จริงมันคือทิชชู่ อิอิ ลงไปในจอกโอวัลตินเสียนี่ ความจริงก็จะกินต่อนั่นแหละ แต่เกรงใจ สั่งใหม่อีกจอกดีกว่า ( ที่นั่นเรียกแก้วว่า จอก เรียกขวดเบียร์ ว่าแก้ว ) ทานกาแฟ...ที่ในร้านมีแต่คนไทยทะยอยมากินเสร็จ พี่โหน๋ย กับหนุ่มต้น ก็กลับไปอาบน้ำและรับจี๊ด ทั้งยังสั่งเสียว่า เด๋วไปรับนะ พวกเรา 2 สาว 2 หนุ่ม ก็ เหมือนว่า จะรับปากว่า ครับ/ค่ะแล้วก็แถ่ดแถ ไปเดินเที่ยวตลาดและวัดกันต่อ จุเกิดที่อุบลราชธานี ใช้ภาษาลาวได้อย่างคล่องแคล่ว แต่คนละสำเนียง แม้หน้าจะเป็นเขมร แต่ว่า แม่ค้าแถวตลาดก็คิดว่าจุเป็นลาว เวลาถามชื่อผักแปลกๆ ก็มักจะได้รับคำประชดประชันว่า เจ้าบ่ฮู้บ้อ มีสินค้าหลากหลายในตลาดเช้า รวมทั้งสิ่งที่สร้างความปริวิตก และเวทนา ไม่ว่าจะเป็นตัวตุ่นเป็นๆ ที่รอการฆ่า ตัวตะกวดที่นอนตาปริบๆ เนื้อเก้งที่แดงสด ยังไม่นับรวมควาย และหมู ที่รอการเชือดอยู่ที่ท่าเรือ ...เฮ่อ จุไม่ชอบการทำลายชีวิตสัตว์... แม้จะยังกินหมู ปลา ไก่ กุ้ง อยู่ก็เถอะ ยิ่งเห็นแววตา จุยิ่งสงสาร และจุก็รู้ว่า นี่คือ คุณสมบัติของนางสาวไทย ที่นอกเหนือไปจาก รักเด็ก จากตลาดเช้าก็ลัดเลาะไปตามชุมชน เห็นสถาปัตยกรรมในยุคโคโลเนียน เห็นผู้คนใส่ซิ่น พาดสไบกลับจากการทำบุญตักบาตร อันเป็นวิถีของชีวิตประจำวันของพวกเขา เดินไปสักพักก็ทะลุเข้าวัดใหม่สุวันนะพูมาราม เป็นวัดแรกที่เราเที่ยวกัน ชอบสถาปัตยกรรมแบบนูนต่ำของสิมวัดนี้มาก รวมทั้งปะรำพิธีที่กำลังจัดเตรียมเพื่องานสงกรานต์ด้วย กำลังชื่นชมความสวยสดงดงามอยู่ดีๆ เพื่อนนุช บอก เฮ๊ย เสื้อ แก กลับข้างเปล่าวะ....อ่ะนะ คนซวย เอ๊ย คนสวยอย่างจุ ใส่เสื้อกลับตะเข็บก็เป็น เดินมาเป็นชั่วโมง ไม่รู้ตัว...เหมือนจะอายเลยนะนั่น ออกจากวัดใหม่ ก็ขึ้นไปเที่ยวที่ พิพิธภัณฑ์ฯ หอพระแก้ว พิพิธภัณฑ์ เช้านี้ ไม่เปิด เราก็เลยได้แต่ถ่ายหอพระแก้วด้านนอก กับหน้าหน้าพิพิธภัณฑ์ที่มีต้นตาลหลายคู่ทอดยาวลงไปตามทางเดินเข้าสู่พระราชวังสมัยนั้น ด้านข้างเป็นโรงละคร ที่มี เจ้าชีวิต ศรีสว่างวงศ์ ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญ ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ จากนั้นก็มานั่งรอ เพื่อนต้น พี่โหน๋ย และสาว จี๊ด ที่ร้านส้มตำ ผัดหมี่ ร้านเดิมที่เหมาเขาตั้งแต่เมื่อคืน...ดื่มโอเลี้ยงหวานเจี๊ยบ แก้คอแห้ง ไปพลาง พร้อมกับ 1 หนุ่ม 2 สาว ที่มาสมทบทีหลัง ด้วยรอยยิ้ม แยกเขี้ยว ไหนบอกจะไปรับ พี่ก็รอตั้งนาน จุไม่รู้นะ อ้ายนุชโน่นนน มันอาจจะลืม พอครบทีม ก็ขึ้นไปชมวัดป่าฮวก แล้วก็ไปต่อที่วัดพูสี วัดคู่เมืองหลวงพระบางเบื้องหลัง หนุ่ม T_Ang กับเพื่อน ระหว่างการถ่ายภาพ ภาพจะสวย ตากล้องต้องโพสต์ท่าดีๆ และมีศิลปะรายละเอียดของวัดพูสีนั้น น้องตง บรรยายไว้หมดแล้ว และ T_Ang คงจะบรรยายเพิ่มเติม เพราะงั้น จุขอบายที่จะให้รายละเอียด แบบว่า ขี้เกียจเปิดหนังสือ (เล่มเดียวกันทั้ง 3 คน )ทางขึ้นวัดพูสีนั้น ร่มรื่นไปด้วยต้นจำปาลาว สวยมากค่ะ เป็นต้นจำปาลาว (ลั่นทม) ที่อายุประมาณ 100 ปีขึ้นไป บางวัดนั้นชาวบ้านก็เด็ดดอกจำปาลาว ที่กองเชียร์มหาวิทยาลัยต่างๆ เคยเด็ดดมเด็ดเล่น นั้น เขาก็เด็ดเอามาขายพวกเรานี่ละค่ะ เพื่อนำไปบูชาพระ ขึ้นถึงวัดพูสี พวกเราจะมองทิวทัศน์ได้ทุกมุมของเมืองหลวงพระบาง ไม่ต้องกลัวว่าจะหอบเพราะต้องปีนเขา เพราะ จุมี ยาดม ค่ะช่างภาพคนเดิม กับนางแบบกลุ่มเดิม เหนื่อยจังเลย...เวลาขึ้นมาอยู่บนยอดเขาแล้วอยากพักผ่อนนานๆ ไม่ใช่สังขารจะไม่เอื้ออำนวยให้เดินต่อ แต่เพราะอากาศบนพระธาตุพูสี ร่มรื่นมากๆ ต่างหากจุว่าจุแวะพักผ่อนก่อนดีกว่า ก่อนจะพาไปน้ำตกตาดกวางซี แล้วก็ตะลุยเธคเมืองหลวงพระบางและภาพพิเศษนี้ เป็นสาวลาวน่าตาน่ารัก ทำงานเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน นำภาพมาฝากหนุ่มๆ ค่ะ โดยเฉพาะน้องโต้ง เรียกร้องว่า ไม่พาสาวลาวมาให้.....โถ..พี่จุยังแย่เลย หนีบหนุ่มมา บ่ได้จั๊กคนตามไปดู ---- เยือนหลวงพระบางวันแรกของน้องตงตามไปดู------เยือนหลวงพระบางวันที่ 3 ของน้องตงตามไปดู ---- เยือนหลวงพระบางกับความประทับใจของน้องตงสาระ สุดๆ กับ หนุ่ม T_Ang สบายดี หลวงพระบาง ตอน 3 ล่องโขง 6 ชั่วโมง Create Date : 23 เมษายน 2549 24 comments Last Update : 5 พฤษภาคม 2549 13:10:08 น. Counter : 4255 Pageviews. ShareTweet
ไปล่าสุดคือราวปี 44 เอารถเข้าทางเวียงจันทน์ แต่ดูเหมือนยังไม่ค่อยถึงหลวงพระบางเท่าไรเลย อยากล่องเรือมาก ๆ แต่เวลาน้อยเกินไป
นี่ล่ะนะถึงบอกว่าเวลาเที่ยวต้องเที่ยวให้คุ้ม