"เอฟซี ยูไนเต็ด ออฟ แมนเชสเตอร์" สโมสรผีแดงแยกร่าง

เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจ ลีกฟุตบอลที่มีคนรอชมมากที่สุดในโลกก็จะเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง

พรีเมียร์ชิพฤดูกาล 2005-2006 นี้ มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มที่น่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะกับทีมใหญ่ๆ หัวตารางที่ต่างประกาศความพร้อมไล่ล่าแชมป์มากกว่า 1 ตำแหน่งกันแล้ว

เชลซี แชมป์เก่าแทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันอีก ไหนจะมีเจ้ายุโรปอย่าง ลิเวอร์พูล ที่กลับมาร้อนแรงกว่าต้นฤดูกาลก่อนมาก อาร์เซน่อล ที่ไม่มี ปาทริก วิเอร่า แล้วก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าไม่มีผลในทางลบใดๆ ทั้งสิ้น และอีกหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด เห็นจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใต้ร่มเงาของมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน มัลคอล์ม เกลเซอร์ นั่นเอง

ยังไม่มีอะไรจะการันตีได้ว่า การก้าวเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรผีแดงแบบเบ็ดเสร็จของนักธุรกิจจากเมืองมะกัน จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับสโมสรยักษ์ใหญ่ที่ไร้ถ้วยเงินประดับหิ้งเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่างไรบ้าง

...แต่เท่าที่มองเห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้ในขณะนี้ เห็นจะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกองเชียร์เรด เดวิลส์ จำนวนหนึ่ง ซึ่งจงรักภักดีต่อสโมสรอันเป็นที่รักของตัวเองชนิดลึกสุดใจ

แฟนๆ ผีแดงจำนวนไม่น้อยยืนกรานต่อต้านการฮุบกิจการของเกลเซอร์ในรูปแบบต่างๆ นานา ตั้งแต่เดินขบวนประท้วง เผาป้าย ไปจนถึงการโห่ฮาระหว่างเกมการแข่งขัน

แต่ปฏิกิริยาที่รุนแรงที่สุด และน่าจะแสดงออกถึงความผูกพันที่มีต่อทีมของ "บ้าน" ตัวเองอย่างชัดเจนที่สุด คงไม่พ้นกลุ่มแฟนบอลที่ตัดสินใจ "แยกตัว" เป็นเอกเทศจากถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด

...เพื่อสร้าง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ของสาวกผีแดง โดยสาวกผีแดง และเพื่อสาวกผีแดงตัวจริงเสียงจริงโดยเฉพาะ

****************

ด้วยความรู้สึกราวกับ "เสียเอกราช" ให้ต่างชาติ แฟนบอลแมนฯยูนับพันตัดสินใจถอนหุ้นของตัวเองออกจากหุ้นของสโมสร(ซึ่งตามจริงแล้วอาจเรียกว่าโดนเกลเซอร์กว้านซื้อไปซะหมดมากกว่า) และสละสมาชิกภาพของตัวเองจากถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดอย่างสิ้นเชิง

แฟนบอลร่วมอุดมการณ์ได้รวมตัวกันเรี่ยไรเงินคนละเล็กคนละน้อยเป็นทุนจัดตั้งสโมสรใหม่เอี่ยมในชื่อ "ฟุตบอล คลับ ยูไนเต็ด ออฟ แมนเชสเตอร์"(FC United of Manchester) ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรักษาและฟื้นฟูจิตวิญญาณแห่งปีศาจแดงที่ทำท่าจะเสื่อมถอยไปในช่วงหลังๆ ให้กลับมาเจิดจรัสอีกครั้ง


ด้วยความช่วยเหลือและสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกลุ่มแฟนรายย่อยอื่นๆ แฟนซีน(แม็กกาซีนเกี่ยวกับทีมที่ทำขึ้นโดยแฟนๆ) และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทำให้เอฟซี ยูไนเต็ดฯ ถือกำเนิดขึ้นทันเวลาสมัครเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกฤดูกาล 2005-2006 พอดี

อันที่จริงเมื่อแรกนั้น ทีมบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง ลีห์ อาร์เอ็มไอ ซึ่งกำลังประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก เสนอให้แฟนบอลแมนฯยูลงขันกันเทกโอเวอร์สโมสรที่กำลังจะล่มมิล่มแหล่นี้ไปเสีย จะได้ไม่ต้องยุ่งยากในการตั้งทีมใหม่ แต่แฟนๆ ผีแดงก็ปฏิเสธแนวคิดนี้ในทันทีโดยให้เหตุผลว่า พวกเขาอุตส่าห์หนีจากการวิถีแห่งธุรกิจอย่างนี้มา คงไม่คิดจะไปพัวพันกับเรื่องทำนองนี้เป็นอันขาด

เมื่อตัดสินใจจะเดินบนลำแข้งของตัวเองแล้ว แฟนบอลกว่า 4,000 คนจึงช่วยกันเจียดเงินของตัวเองจนทำให้ยอดเงินในบัญชีของเอซี ยูไนเต็ดฯ ทะลุ 100,000 ปอนด์ ไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา

****************

แรกเริ่มเดิมที กลุ่มผู้ก่อตั้งมีมติจะใช้ชื่อทีมแค่ว่า เอฟซี ยูไนเต็ด เท่านั้น แต่เนื่องจากคำนี้มันค่อนข้างจะ "พื้นๆ" จนเกินไป สมาคมฟุตบอลอังกฤษ(เอฟเอ) จึงไม่ให้การรับรอง

ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการโหวตเพื่อหาชื่อใหม่ โดยมีช้อยส์ให้เลือกตั้งแต่ เอฟซี แมนเชสเตอร์ เซ็นทรัล(หนึ่งในชอยส์ตอนเปลี่ยนชื่อทีมเมื่อปี 1902), เอเอฟซี แมนเชสเตอร์ 1878(ปี 1878 คือปีที่ทีมแมนฯยูก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก), นิวตัน ฮีธ ยูไนเต็ด เอฟซี(นิวตันฮีธ เป็นชื่อเก่าของแมนฯยู) ก่อนจะมาลงตัวที่ เอฟซี ยูไนเต็ด ออฟ แมนเชสเตอร์ ด้วยคะแนนโหวต 44 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนในที่สุด

เมื่อได้ชื่อทีม และมีทุนพร้อม ในลำดับต่อมาก็คือการหานักเตะเข้าทีม ซึ่งเอฟซี ยูไนเต็ดฯ ได้เปิดให้นักเตะที่มั่นใจในฝีเท้าของตัวเองเข้ามาคัดตัวกับสโมสรเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีนักกีฬา 900 คนสมัครเข้าร่วมคัดตัว ก่อนจะมีการคัดตัวรอบสองในวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งท้ายที่สุดได้มีการประกาศตัวผู้เล่นโดยการตัดสินใจของผู้จัดการทีม คาร์ล มาร์จินสัน ที่เคยมีประสบการณ์ค้าแข้งในทีมรองๆ ของลีกเมืองผู้ดีมาก่อน(จริงๆ ตอนแรกลือกันถึงขั้นจะดึงซุปเปอร์สตาร์เด็กแนว อีริก ก็องโตน่า มาคุมทีมด้วยซ้ำไป!)

สำหรับสมาชิกทั้ง 17 คนของเอฟซี ยูไนเต็ดฯ ใช่ว่าจะเป็นนักเตะโนเนมเสียทีเดียว บางคนพอจะมีดีกรีติดตัวอยู่บ้างเหมือนกัน

ยกตัวอย่างเช่น ฟิล พรีสต์ลีย์ อดีตนายทวารทีม บังกอร์ ซิตี้ เอฟซี ที่เคยสัมผัสบรรยากาศเกมยูฟ่าคัพมาแล้ว, พอล มิตเตน หลานชายแท้ๆ ของอดีตนักเตะแมนฯยู ชาร์ลี มิตเตน, มาร์ก รอว์ลินสัน อดีตนักเตะฝึกหัดของปีศาจแดง และ บิลลี่ แม็กคาร์ตนีย์ อดีตกัปตันทีม มอสลีย์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

เอฟซี ยูไนเต็ดฯ ลงสนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พบทีมลีห์ อาร์เอ็มไอ เกมจบลงด้วยผลเสมอ 0-0

หลังจากนั้น ทีมน้องใหม่ก็ได้ลงเตะเกมอุ่นเครื่องอีก 3 นัด กับ เอเอฟซี วิมเบิลดัน(แพ้ 0-1) สตาลีบริดจ์ เซลติก(แพ้ 0-2) และ ฟลิกซ์ตัน เอฟซี(ชนะ 5-2)

นับตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป เอฟซี ยูไนเต็ดฯ จะออกสตาร์ตฤดูกาล 2005-2006 ในฐานะสมาชิกของลีกท้องถิ่น นอร์ธ เวสต์ คันทรีส์ ฟุตบอล ลีก โดยใช้สนามกิ๊กเลน เป็นสนามเหย้าร่วมกับทีม บิวรี่ จากลีกทู

****************

เมื่อครู่เอ่ยถึงสโมสรกึ่งอาชีพ เอเอฟซี วิมเบิลดัน ขึ้นมา คงต้องนำข้อมูลเกี่ยวกับทีมนี้มาบอกเล่ากันสักหน่อย เพราะอาจกล่าวได้ว่า ทีมนี้เป็น "แรงบันดาลใจ" ที่ทำให้เอฟซี ยูไนเต็ดฯ กำเนิดขึ้นมาเลยทีเดียว

เอเอฟซี วิมเบิลดันก็เป็นเช่นเดียวกับเอฟซี ยูไนเต็ดฯ นั่นคือ เป็นทีมที่เกิดขึ้นโดยความร่วมแรงร่วมใจของแฟนๆ ผู้มีอุดมการณ์กลุ่มหนึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว

สืบเนื่องจากปัญหาการย้ายที่ตั้งสโมสรอาชีพ "วิมเบิลดัน" จากเดิมที่อยู่พื้นที่ของตำบลวิมเบิลดัน ไปยังแถบมิลตันคีย์นสแทน แฟนบอลจำนวนมากต่างรู้สึกเดือดดาลผู้บริหารทีมเป็นที่สุด เพราะพวกเขารู้สึกว่า หากย้ายที่ตั้งไปเสียแล้ว วิมเบิลดันก็จะไม่เป็นวิมเบิลดันอีกต่อไป เนื่องจากตัวสโมสรเหมือนไม่ได้เล่นให้ตำบลนี้อีกแล้ว

ด้วยเหตุนี้ แฟนบอลจึงรวมตัวกันตั้งทีมเอเอฟซี วิมเบิลดัน ขึ้นมาในปี 2002 โดยพยายามตั้งชื่อให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด

ความเป็นปึกแผ่นและความมุ่งมั่นของแฟนบอลทำให้เอเอฟซี วิมเบิลดัน เติบโตขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว แม้จะออกสตาร์ตในฐานะทีมสมัครเล่นเล็กๆ ของลีกท้องถิ่น เอเอฟซี วิมเบิลดันก็ค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นสู่ลีกที่สูงขึ้น ทั้งยังเคยเอาชนะทีมที่เหนือกว่าหลายทีมในเกมบอลถ้วยมาแล้วด้วย

ด้าน "วิมเบิลดัน เอฟซี" ที่ย้ายเมืองไป ท้ายที่สุดก็ทนแรงกดดันจากการอยู่ผิดที่ผิดทางไม่ไหว จึงเปลี่ยนชื่อเป็น มิลตัน คีย์นส ดอนส์ แทน ส่งผลให้เอเอฟซี วิมเบิลดัน เป็นทีมเดียวในอังกฤษที่ใช้ชื่อว่า "วิมเบิลดัน" และเล่นในนามของชาววิมเบิลดันอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน เอเอฟซี วิมเบิลดัน กลายเป็นทีมระดับล่างทีมหนึ่งที่มีสถานภาพเข้มแข็งมาก นอกจากทีมชายแล้ว ยังมีทีมหญิงในสังกัดอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เอเอฟซี วิมเบิลดันจะเป็นที่คาดการณ์กันในหมู่เกจิลูกหนังเมืองผู้ดีว่า ขอเวลาอีกไม่นานเท่าไร ทีมนี้อาจจะไต่กลับไปยังลีกชั้นนำของอังกฤษ ที่เดิมที่ตัวเองเคยอยู่ก็เป็นได้!

****************

เมื่อคราวที่แฟนบอลแมนฯยูคิดจะแยกตัวออกมาตั้งทีมของตัวเองนั้น ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก คริส สจ๊วร์ต ประธานสโมสรเอเอฟซี วิมเบิลดัน ในฐานะผู้คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการก่อร่างสร้างทีม

ความที่มีแฟนๆ หนุนหลังเป็นหลักพัน ทำให้มีคนมาชมการแข่งขันของเอฟซี ยูไนเต็ดฯ ถึงขอบสนามนัดละกว่า 2,000 คนแทบทุกครั้ง ซึ่งถือว่ามากมายมหาศาลกว่าทีมร่วมลีกทีมอื่นๆ เยอะทีเดียว

ความเป็นปึกแผ่นตรงนี้เองที่สื่อมักจะหยิบเอามาตั้งเป็นหัวข้อบทความที่เกี่ยวข้องกับทีมนี้ โดยใช้การเล่นคำว่า "United we stand" หรือ "รวมกันเราอยู่" นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เอฟซี ยูไนเต็ดฯ จะเดินตามรอยของเอเอฟซี วิมเบิลดันได้สมบูรณ์หรือไม่ ยังไม่มีใครบอกได้ และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะนอร์ธ เวสต์ คันทรีส์ ฟุตบอล ลีก ที่เอฟซี ยูไนเต็ดฯ อยู่ในตอนนี้ กับพรีเมียร์ลีกที่แมนฯยูอยู่นั้น ห่างกันถึง 10 ระดับขั้น เท่ากับว่ากุนซือมาร์จินสันจะต้องนำทีมเลื่อนชั้น 10 ฤดูกาลติดต่อกัน นั่นแหละที่ 2 ทีมคู่แค้น(?) จะโคจรมาเจอกันได้!

เรียกว่าถ้าใครใจร้อนอยากเห็นปรากฏการณ์ไม่ธรรมดานี้เร็วๆ ก็คงต้องลุ้นให้ทั้ง 2 ทีมมาเจอกันในเกมบอลถ้วยกันไปก่อน(แต่เอฟเอคัพฤดูกาลนี้ เอฟซี ยูไนเต็ดฯ หมดสิทธิเล่น เนื่องจากจดทะเบียนสโมสรหลังเส้นตายสมัครร่วมแข่งขันไปแล้ว)

ถ้า 2 ทีม "ยูไนเต็ด" แห่งเมือง "แมนเชสเตอร์" มีโอกาสได้โคจรมาพบกันจริงๆ ก็คงประเด็นให้สื่อมวลชนได้ "เล่น" กันสนุกสนานแน่นอน

...เพียงแต่ถ้ามันไม่เป็นอย่างนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซึ่งไม่มีแฟนบอล 4,000 คนที่ไม่รักพวกเขาแล้ว จะเดือดเนื้อร้อนใจอะไรหรือไม่? อันนี้คงไม่ใช่ประเด็นที่ต้องมาถกเถียงกันกระมัง...

จากหนังสือพิมพ์ มติชน หน้า ๒๑ วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๘

//www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01spo25100848&day=2005/08/10

Create Date : 10 สิงหาคม 2548		3 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2548 11:34:53 น.
Counter : 2214 Pageviews.
Share Tweet