เสร็จแล้วเราใช้มือถือเราเป็น boarding pass ได้เลยค่ะ ถ้าไม่มีกระเป๋าโหลดก็เดินไปเกทได้เลยโดยไม่ต้องมาที่เค้าท์เตอร์เช็คอินอีก ซึ่งถือว่าสะดวกมากสำหรับคนที่เดินทางบ่อยไม่มีสัมภาระ

แต่เรามีกระเป๋าโหลดเลยต้องไปโหลดที่เค้าท์เตอร์กันก่อน นกแอร์แยกเค้าท์เตอร์เช็คอินได้เป็นสัดส่วนเป็นระเบียบค่ะ แยกโซนเหนือ ใต้ มีเค้าท์เตอร์ Nok kids club สำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ เค้าท์เตอร์สำหรับคนที่เช็คอินผ่านมือถือที่มีสัมภาระและไม่มี เคาท์เตอร์ Priority สำหรับผู้โดยสารที่เป็นพระภิกษุและผู้ต้องการความช่วยเหลืออื่นๆ ส่วตัวถือว่าชอบมากค่ะ เป็นสัดส่วนดี

ตอนนี้นกแอร์เปิดเส้นทางใหม่ บินไปลำปางกันสบายๆแล้วค่ะ ไม่ต้องไปเชียงใหม่แล้วรถต่อกันเป็นชม.อีกแล้ว ราคาเริ่มต้นเบาๆ พอๆกับนั่งรถทัวร์ VIP 24 ที่นั่ง แถมเป็นราคาที่รวมทุกอย่างแล้วอีกต่างหาก ทั้งกระเป๋า ของว่างบนเครื่องซึ่งเป็นร้านโปรดไฮโซป้าแอน (Auntie Anne's) อีกต่างหาก เราบินต่อรถจากดอนเมืองไปเวียงจันทน์เลย ซึ่งสะดวกและประหยัดกว่าบินตรงมาก มีเวลาซักหน่อยรูทนี้ถือว่าคุ้มค่ะ 

พอไปถึงสนามบินอุดร รับกระเป๋าแล้วก็มองหาเจ้าหน้าที่นกแอร์และป้าย Nok transfer meeting point ซึ่งอยู่ตรงสายพานกระเป๋านั่นแหล่ะค่ะ มีน้องเจ้าหน้าที่คอยเช็คชื่อผู้โดยสาร พอพร้อมแล้วก็พาไปรับเค้าเตอร์ลิมูซีน รับบัตรโดยสารนั่งรถตู้ต่อไปสะพานมิตรภาพฝั่งไทยกันเป็นลำดับแรก ซึ่งค่าโดยสารรถลิมูซีนจากสนามบินอุดรฯไปสะพานมิตรภาพ 200 บาทค่ะ ผู้โดยสารทั่วไปสามารถซื้อได้ที่สนามบินได้เลย

พอไปถึงตม.ไทย ก็ผ่านปรกติค่ะ แล้วก็ซื้อตั๋วนั่งรถบัสเพื่อข้ามสะพานมิตรภาพอีก 20 บาท (ตรงนี้ผู้โดยสารต้องจ่ายเองนะคะ) นั่งรถบัสบรรยากาศเก่าๆอารมณ์ต่างจังหวัดบ้านเรา ได้ฟิลย้อนอดีตตื่นเต้นนิดหน่อย รถมีตั๋วยืนนะคะ เพราะนั่งข้ามสะพานแป๊บเดียวเองค่ะ  

พอไปถึงด่านล่าวก็ซื้อ one way ticket 5 บาทที่เค้าท์เตอร์ พอผ่านตม.ลาว (อย่าลืมขอใบตม.มากรอกให้เรียบร้อยก่อนเข้าคิวนะคะ) แล้วก็ให้ใช้บัตรเดินผ่านช่องทางของเค้า เหมือนเดินผ่านขึ้นไปรถไฟฟ้าธรรมดาเลยค่ะ พอผ่านจุดนี้แล้วเราก็ถึงลาวโดยสวัสดิภาพแล้ว หลังจากนั้นก็มองหาเจ้าหน้าที่ทรานเฟอร์รถของนกแอร์ เป็นผู้ชายยืนถือป้ายตรงทางออก สังเกตง่ายค่ะ เพราะเค้าทำแบบนี้ทุกวัน พอเจอเจ้าหน้าที่แล้วก็อุ่นใจและนั่งรอผู้โดยสารคนอื่นที่มากับเราจากดอนเมืองซึ่งทริปนี้มีประมาณสิบคน ฝรั่งที่มาด้วยกันออกมาช้ามาก รอกันเป็นชม.สงสัยต้องขอ Visa on arrival หรือไม่ก็ติดปัญหาอะไรซักอย่างที่ตม.​ก็ต้องรอต่อไป ....​พอมากันครบแล้วรถถึงจะออก เพราะฉะนั้นเบาใจได้ค่ะ เค้ารอเราแน่นอน 

โรงแรม City inn โรงแรมที่พักในเวียงจันทน์ ย่านที่พักทำเลดีใช้ได้เลยค่ะ อยู่ใกล้ๆกับโรงแรมลาว พลาซ่า เดินไปสวนน้ำพุและแหล่งร้านอาหารชิคๆเก๋ๆของเวียงจันทน์ได้ไม่ไกล เดินไปประตูชัยก็สบายๆ แอดมินจองห้องผ่านบุ๊คกิ้ง.คอม คืนล่ะ 65 US ห้องพักสะอาดสะอ้านนอนสบายอุ่นใจค่ะ ไม่รู้สิ เป็นผู้หญิงเที่ยวคนเดียวค่าใช้จ่ายอะไรก็คุมไปเหอะ แต่ที่หลับที่นอนขอนิดนึงค่ะ อย่างน้อยให้มันดูปลอดภัยซักนิด จริงๆจ่ายน้อยกว่านี้ก็ได้ เพราะที่พักในเวียงจันทน์ 20-30 เหรียญก็มีเยอะค่ะ แต่คราวนี้ไปครั้งแรกขอนอนหลับแบบสนิทใจซักนิด พอรู้ลู่ทางแล้ว คราวหน้าค่อยว่ากัน อิอิ

เดินเที่ยวประตูชัยกันสองครั้ง ซึ่งสามารถเดินไปจากโรงแรมได้ไม่เหนื่อยมากก็ถึงค่ะ เดินไปชมทิวทัศน์ ชิมวิถีชีวิตชาวบ้านไปเพลินๆค่ะ 

ตอนเย็นประตูชัยสวยงามจริงๆ

เจอคู่แต่งงานมาถ่ายพรีเวดดิ่งในวัด แต่งตัวด้วยชุดประจำชาติสวยงามค่ะ

วัดพระธาตุหลวง ศูนย์รวมจิตใจของชาวลาวทั้งประเทศ

มีเวลาเหลือ คนขับรถเลยแวะไปชมอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์ ริมแม่น้ำโขง

เดินเที่ยวในเวียงจันทน์ตอนกลางคืน อากาศเย็นสบายที่สุด โดยรวมปลอดภัยนะคะ ไม่มีอะไร เดินเล่นได้ถ้าไม่ดึกจนเกินไป

Jo ma

ขากลับก็มารอขึ้นที่ออฟฟิศนกทรานเฟอร์ ซึ่งอยู่ในเมือง บอกตุ๊กๆมาถูกค่ะ (ตัวเองเดินลากกระเป๋ามาจาก City inn ด้วยซ้ำ เดิน 2 กม. ชิลล์ๆ อิอิ)​

ระหว่างรอรถออกก็ออกเดินหาของทาน จนมาเจอร้านแหนมเนืองเวียงสะหวัน ร้านดังโดยบังเอิญ โชคดีที่ร้านอยู่ใกล้กับจุดขึ้นรถของนกแอร์ เดินซักสิบนาทีก็ถึง สั่งแหนมเนืองชุดเล็กสำหรับทานคนเดียว 20000 กีบ ราว 80 บาท ราคาอาหารที่นี่ถือว่าไม่ถูก เมื่อเทียบกับค่าครองชีพนะคะ คนที่ทานข้าวนอกบ้านได้คงต้องมีรายได้พอสมควรเลย

....................................................................................................................................................................................................

Nok car ใช้บริการรถช่าของ Thai rent a car เจ้าเก่าแ ที่มีสาขาอยู่ตามสนามบินใหญ่ๆทั่วประเทศ ราคาเช่าเป็นกันเอง บางช่วงมีโปร 399/499 ออกมาให้สะดุ้งด้วยน่ะเออ สนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดและโปรดีๆได้ในเวบ //www.thairentacar.com ได้เลยค่ะ น้องพนักงานส่งรถน่ารักมาก อธิบายทางไปโรงแรม ร้านอาหาร จุดท่องเที่ยวในอุดรให้เสร็จสรรพ์ แต่สุดท้ายป้าลืมหมด อิอิ

โรงแรมพาราไดซ์ โรงแรมที่พักในอุดร โดยรวมเป็นบูติคน่ารักดีค่ะ จองห้องสแตนดาร์ดจากเวบบุ๊คกิ้ง.คอมได้ราคามา 1100 เห็นห้องก็ถูกใจ ราคาก็อยู่ในงบ คิดไม่นานค่ะ จองเลย อิอิ ที่ต้องจองมาเพราะคิดว่าวันนี้คงกลับจากเวียงจันทน์เย็นมากแน่ๆ ถ้าไม่จองก็ต้องเสียเวลาหาโรงแรมอีกนานเลย ที่นี่มีสระว่ายน้ำน่าว่ายเชียวค่ะ ที่จอดรถกว้างขวาง ห้องอาหารน่านั่ง ล็อบบี้ก็น่ารักดี มีเปียโน เลาจน์ให้นั่งฟังเพลงกันชิลล์ๆอีกต่างหาก โรงแรมเหมือนรีโนเวทใหม่นะคะ สะอาดสะอ้านน่านอน เตียงนอนสบายหมอนนุ่มมาก คุ้มราคา บรรยากาศโดยรวมบูติคเชียวล่ะค่ะ แถมอยู่ใกล้ UD Town ด้วยน่ะ แต่อยู่ในซอยนิดนึง ถ้าไม่มีรถก็ต้องเดินเข้าออกหน่อย แต่ตะกี้เห็นมีรถตุ๊กๆจอดรออยู่หน้าโรงแรมนะคะ อาจจะมีอยู่ตลอดก็ได้

วัดผาตากเสื้อ อ.สังคม หนองคาย เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงและทิวทัศน์สองฝั่งไทยลาวที่สวยงามอีกแห่งนึงค่ะ เสียดายที่มีเวลาไปแค่ตอนบ่าย ถ้าเป็นตอนเช้า มีลุ้นหมอกสวยงามเชียวล่ะ ถ้าเราไปเที่ยววัดป่าภูก้อนก็ลองเผื่อเวลาไว้ซักสองสามชม. ก็สามารถขับรถไปเที่ยวอ.สังคม และผาตากเสื้อได้สบายๆเลยค่ะ ถ้าจะแวะทานอาหารริมโขงที่อ.สังคมก็มีร้านให้เลือกมากมายเลยค่ะ เผื่อเวลาไว้หน่อยก็ชิลล์ดีนะคะ เป็นอำเภอที่เล็กๆเงียบสงบน่ารักดีค่ะ

กลับมาเที่ยวทะเลบัวแดง แม้ในตอนที่ยังไม่บานเต็มที่ยังสวยงามตระการตาค่ะ  ค่าเรือรอบเล็ก 300 นั่งได้ 5-6 คน รอบใหญ่ 500 ถ้ามากันหลายคนหารๆกันไปคุ้มมากๆๆ  ตอนที่ไปดอกบัวแดงยังไม่บานเต็มที่แต่นักท่องเที่ยวเริ่มมาเที่ยวกันแล้วค่ะ เราไปถึงเก้าโมงแดดค่อนข้างแรง ที่นี่เที่ยวได้ตั้งแต่ 6-11 โมงนะคะ หลังจากนี้ตลาดวายจ๊ะ ใครที่ยังไม่มีเวลาก็รอได้ค่ะ เพราะดอกบัวบานสวยที่สุดเดือนธค.และยังเที่ยวได้จนถึงมค.เลยล่ะ

มื้อสุดท้ายที่อุดรคือร้านส้มตำเจ๊ไก่ ร้านดังสุดแซ่บของเมืองอุดรกัน ส้มตำมั่วป่าจานใหญ่เท่าบ้าน 80 บาท ทานคนเดียวสี่ห้าคำเลิก 555 คือมันอร่อยมากถูกปากน่ะแต่เผ็ดเกิน ทานไม่ไหวเด้อ กุ้งฝอยจานล่ะ 30 เพิ่งทานแบบนี้ครั้งแรก เคยทานแต่ชุบแป้งทอด อันนี้เค็มๆมันๆอร่อยดีทานเล่นๆเพลินๆระหว่างรอส้มตำ แต่ก็ไม่หมด แหนมใบมะยมก็ปรกติธรรมดา 30 ร้านนี้คนเยอะมากก ลองชิมแค่นี้แต่คิดว่าเมนูอื่นก็น่าจะอร่อยเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆราคาถูกจัง