Bloggang.com : มาเรีย ณ ไกลบ้าน : ซักครั้งในชีวิตกับสุดยอดพูลวิลล่าในฝัน ...... ศ รี พั น ว า (Sri Panwa Phuket) ตอนที่ 1

ซักครั้งในชีวิตกับสุดยอดพูลวิลล่าในฝัน ...... ศ รี พั น ว า (Sri Panwa Phuket) ตอนที่ 1

ไม่ได้อัพบล็อครีวิวโรงแรมสองปีกว่า แต่ก็ยังอัพเรื่อยๆในพันทิปและในแฟนเพจนะคะ ใครที่เล่นพันทิปหรือตามกันที่แฟนเพจก็น่าจะผ่านตากันมาแล้ว ทริปนี้ไปกันมาตั้งแต่เดือนตค.ปีที่แล้วค่ะ

วันนี้ฤกษ์ดีอากาศร้อนจัดแบบนี้ก็พาลจะทำให้คิดถึงทะเล ลมทะเล คิดถึงพูลวิลล่าที่เราสามารถว่ายน้ำเล่นน้ำอยู่ในห้องพักในวันที่ร้อนสาหัสขนาดนี้ได้ฉ่ำใจกันทั้งวัน และพอพูดถึงสุดยอดพูลวิลล่ากลิ่นไอทะเล แว๊บแรกที่นึกถึงก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ .... ศรีพันวา ภูเก็ตค่ะ

เดินทางมาถึงศรีพันวาก็เข้าเช็คอินกันก่อนเลยค่ะ ล็อบบี้ Baba Dining Lounge แยกส่วนจากตัวรีสอร์ทนะคะ คืออยู่บททางขึ้นเขาก่อนที่เราจะนั่งรถตุ๊กตาสี่ล้อ (ญาติของตุ๊กตุ๊ก อิอิ) ซึ่งเป็นรถรับส่งภายในรีสอร์ทค่ะ

Baba Dining Lounge เป็นความประทับใจแรกที่มีให้ศรีพันวาเลยค่ะเพราะโทนสีออกแบบได้สดใสอบอุ่น โปร่งโล่งสบาย ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถชมวิวของแหลมพันวาได้อย่างสวยงาม

หลังจากที่เราเช็คอินเรียบร้อยแล้วน้องตุ๊กตาก็พาเราไปรอห้องพักที่ Baba Pool Club ค่ะ

ยังไปไม่ถึงห้องพักก็ประทับสุดๆกับ Baba Pool Club แล้วค่ะ เรานั่งรอห้องพักกันที่นี่อย่างเย็นใจในวันอากาศร้อนแดดจัด แต่กลับรู้สึกชิลล์กับภาพที่เห็นเบื้องหน้าจริงๆ

ยังรอห้องอยู่ค่ะ เลยเดินเล่นชมบรรยากาศโดยรอบของ Baba Pool Club กันซักนิด

ห้องพักเรียบร้อยแล้ว รถตุ๊กตาก็พาเราไปที่ห้องกันค่ะ แหม ตื่นเต้นจัง ห้องเราจะเป็นห้องไหนกันน๊าาาาา?

เราพักห้อง LV 19 : EGRET ซึ่งเป็นวิลล่า 2 ห้องนอนค่ะ

ตะลึงตึงๆกับความกว้างใหญ่ของห้องแบบนี้ ทั้งสระว่ายน้ำที่ใหญ่มโหฬาร ทั้งศาลานั่งเล่นขนาดใหญ่ริมสระว่ายน้ำ ทั้งเดย์เบดขนาดยักษ์ที่สุดที่เคยเห็นมากับหมอนอิง 20 ใบ อิอิ

ห้องนี้เป็นห้องหัวมุมและอยู่สูงสุด จะเห็นวิวทั้ง 2 อ่าวค่ะ

ห้องนอนสามารถชมวิวอ่าวมะขามและแหลมพันวาจากบนเตียงเลย

สระว่ายน้ำใหญ่โตอลังการ

มีแพนทรี่เล็กๆพร้อมไมโครเวฟ อ่างล้างมือ เครื่องทำกาแฟ ตู้เย็นใหญ่ขนาดใหญ่พร้อมเครื่องดื่มเต็มตู้ที่สามารถทานได้ทั้งหมดไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ขนมทานเล่น แถมมีมาม่าคัพเอาใจคนไทยที่คิดถึงต้มยำกุ้งตอนตี 2 อีกด้วยค่ะ

สะใจจริงๆ แต่สุดท้ายทานจริงชามะนาว 2 ขวด อิอิ

ที่ชอบและปลื้มมากคือมีไอติมหวานเย็นหลากสีหลายรสแช่เอาไว้ให้ทานเล่นเย็นใจในวันร้อนอบอ้าวอีกด้วย ไม่น่าเชื่อว่ารีสอร์ทระดับศรีพันวาจะมีอะไรน่าัรักๆกุ๊กกิ๊กเอาใจคนไทยช่างเที่ยวอย่างเราได้ขนาดนี้ และสิ่งเล็กๆน้อยแบบนี้ก็สร้างความประทับใจและจดจำี่ที่นี่ไ้ด้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ

ทริปนี้แทบจะไม่ได้ใช้เลนส์ตัวอื่นเลยนอกจากเลนส์ไวด์ 10-20 เพราะฉะนั้นจะไม่แทบจะได้ถ่ายเจาะมุมตามที่ถนัดนะคะ

แค่นาทีแรกที่ย่างกรายเข้ามาในวิลล่าก็ไม่อยากออกไปไหนแล้วค่ะ เพราะที่นี่เหมือนบ้านตากอากาศหรูหราที่มีึสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ์สารพัดจะแพมเพอร์เราในวันหยุดพักผ่อนได้ดีที่สุดจริงๆ

ห้องน้ำที่กว้างขางใหญ่โตอลังการไม่หลุดคอนเซ็ปท์ อ่างล้างหน้า 2 อัน ซ้ายขวา ห้องซาวน่า+ห้องอาบน้ำ หรืออ่างจากุชชี่และฝักบัวอาบน้ำกลางแจ้ง แล้วยังมีจากุชชี่ในสระว่ายน้ำอีกต่่างหาก มานอนที่นี่แล้วอยากให้วันนึงมีซัก 48 ชม.จริงๆค่ะ

มองออกไปที่อ่างจากุชชี่เอ้าท์ดอร์

เรนชาวเว่อร์กลางแจ้ง เซ็กซี่ที่สุด แต่กลางวันไม่กล้าอาบตรงนี้นะคะ ดูอุกอาจไปซักนิดเพราะมันเปิดโล่งได้วิวเต็มจริงๆ อิอิ แต่ลองอาบใต้แสงจันทร์แล้วโรแมนติคที่สุดเลย

มุมนี้เก๋มากค่ะ ทางรีสอร์ทจะเจาะกำแพงตรงอ่างแช่จากุชชี่ให้เป็นหน้าต่าง และตรงนี้เองที่ทำให้ดูเหมือนเป็นกรอบรูปธรรมชาติที่สามารถมองเห็นองค์พระใหญ่และวิวที่เปลี่ยนสีสันได้ตามช่วงเวลาของวัน รวมทั้งสามารถเห็นพระอาทิตย์ตกในกรอบนี้ได้เลยนะคะ ไอเดียดีจริงๆ

แต่ไม่ว่าความสวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักจะดึงดูดให้เรา้ใช้เวลาในห้องมากแค่ไหน แต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะขอขึ้นไปชมวิวที่ Baba's nest จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยชนะเลิศกันก่อน

วิวพาโนราม่ายามเย็นที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกพร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ทั้งสวยงามทั้งโรแมนติค ชนะเลิศค่ะ

ถึงจะไม่ไ้ด้พักที่นี่ก็สามารถโทรมาจองโต๊ะล่วงหน้ากันได้นะคะ

สวรรค์บนดินแท้ๆ

นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆแก้วนึง นั่งแกล้มวิวเทพไปสองชม. ชื่นใจจริงๆ อิอิ

คิดว่าพวกเราคงจะเห็นภาพพระิอาทิตย์ตกงามๆๆเทพๆกันมาเยอะแล้ว คราวนี้เลยขอปรับ White balance และ picture style ให้ได้ภาพโทนสีที่ดูแตกต่างกันไปบ้างนะคะ แต่ไม่ว่าจะโทนสีอะไร Baba's nest ก็ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่ชิลลลล์และสวยงามที่สุดค่ะ