เพชรบูรณ์ เมืองภูดอกไม้สายหมอก เมืองต้องห้ามพลาด จะหนาวจะฝนก็เที่ยวได้ตลอด
พูดถึงเพชรบูรณ์ คนทั่วไปมักจะนึกถึงมะขามหวาน น้ำหนาว เขาค้อ และภูทับเบิกเป็นสิ่งแรกๆแน่ๆ คนชอบอากาศหนาวเย็นและไม่ชอบเดินทางไกลคงจะเคยไปหรือคิดฝันจะไปเที่ยวที่นี่กันซักครั้ง ตัวเองไปหลายครั้งมาก เริ่มจากเขาค้อที่ไปครั้งแต่ตั้งแต่ตอนเด็ก (ที่บ้านเทรนด์ให้เที่ยวตั้งแต่เด็ก อิอิ) โตและเริ่มถ่ายรูปก็กลับไปเขาค้อหลายครั้งจนทางจังหวัดเริ่มโปรโมทให้ภูทับเบิกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อหลายปีก่อน ไปมาครั้งแรกตอนถนนยังไม่ดีและยังไม่มีโรงแรมที่พักมากมายเหมือนทุกวันนี้ สำหรับตัวเองกิจกรรมหลักของการไปเขาค้อและภูทับเบิกคือไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นของภูเขาสูง หลายครั้งเลยไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนนอกจากนั่งๆนอนๆพักผ่อนอยู่ในที่พัก เขาค้อและภูทับเบิกในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปมาก มีที่พักมากมายหลายมาตรฐาน หลายราคาหลายบรรยากาศให้เราได้เลือกพัก สะดวกมากขึ้นค่ะ ช่วงหน้าหนาวดอกไม้สวย หมอกเยอะ อากาศหนาวจัด แค่ไปเดินใส่เสื้อผ้าหน้าหนาวกลางสายหมอกดอกไม้ก็คุ้มแล้วล่ะ ส่วนอช.น้ำหนาวเป็นที่ๆมีความหนาวเย็นมากไม่แพ้กัน แต่เป็นจุดที่แยกออกไปคนล่ะเส้นทาง เลยไม่ค่อยได้ไปซักเท่าไหร่ การเดินทางท่องเที่ยวไปเขาค้อ ภูทับเบิก ซึ่งจริงๆเราสามารถสร้างเป็นรูทขับรถที่น่าสนใจได้โดยเริ่มจากกรุงเทพ แยกพ่อขุนฯ ขึ้นสาย 12 เลี้ยวไปภูทับเบิก ลงทางภูหินร่องกล้า ออกนครไทยแล้ววกลับเข้ามาใช้เส้น 12 เพื่อไปเขาค้อและกลับกรุงเทพ เป็นเส้นทางขับรถเที่ยวเป็นวงกลมที่สวยงามและผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง ช่วงปลายฝนต้นหนาวอากาศเย็น ป่าไม้ชุ่มชื่นเขียวขจี มีโอกาสสัมผัสมหมอกฝนกันได้ทุกวัน ดอกไม้ก็บานสวย เข้าหน้าหนาว บรรยากาศยิ่งเป็นใจ ไม่ไปไม่ได้แล้วค่า เพราะเพชรบูรณ์อยู่ห่างจากกรุงเทพแค่สามร้อยกว่ากม. เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางจากกรุงเทพได้ไม่ไกลมาก นั่งรถไม่ทันเหนื่อย แค่ 4-5 ชม.ก็ถึงจุดพักแรกแล้ว การเดินทางไปเขาค้อจากกรุงเทพทำได้ง่ายแสนง่าย ถ้าขับรถไปเองใช้เส้นลพบุรี (21) ชัยบาดาล ศรีเทพ วิเชียรบุรี เพชรบูรณ์ แล้วจะเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาค้อทางเส้นเก่าหรือจะขับเลยไปถึงแยกพ่อขุนแล้วเลี้ยวขึ้นสาย 12 ก็แล้วแต่เรา แต่เส้นทางเก่าจะคดเคี้ยว ถนนแคบและชันกว่านิดหน่อย ทางหลวงสาย 12 จะขับสบายกว่าและสวยมาก แต่ล่าสุดไปมาตอนสิ้นเดือนสค.เค้ากำลังขยายทางเป็นระยะทางยาวเลยค่ะ ใครที่ใช้เส้นนี้ก็ต้องใช้รถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยจ้า ของกินต้องห้ามพลาดเมื่อมาเพชรบูรณ์ ขนมจีนบุณมี ร้านดังของหล่มเก่าที่อยู่เยื้องรร.หล่มเก่าพิทยาคม เป็นร้านขนมจีนเส้นสดหลากสีสันจากธรรมชาติ มีทั้งหมด 6 สี คือ สีขาวแบบเดิมๆ ,สีม่วงจากดอกอัญชัน,สีเหลืองจากฟักทอง,สีส้มๆจากแตงโม,สีเขียวจากใบเตยและสีชมพูจากบีทรูท นำมาผสมทำเส้นขนมจีนหลากสีสัน ร้านจะเสิร์ฟขนมจีนกับผักใสในตะกร้าใบน้อยแยกกัน และน้ำยาจะมาในหม้อดิน 3 ใบ ประกอบด้วยน้ำยาป่า น้ำยากะทิ และแบบน้ำพริก น้ำแกงรสชาติดีแต่ที่เด็ดคือส้มตำค่ะ ลองสั่งตำลาวมาชิมกันได้นะคะ แซ่บอีหลีเด้อ จานนี้เลยต้องห้ามพลาด ละลานตาไปหมด ทำเส้นลวกเส้นกันสดๆ
ไฮไลท์เด่นๆของเพชรบูรณ์ เขาค้อ ภูทับเบิกที่ต้องห้ามพลาด มาถึงเขาค้อกันแล้วก็ควรไปเที่ยวชม วัดพระธาตุผาแก้ว กันเป็นที่แรก ซึ่งวัดนี้เป็น 1 ใน 10 Dream destinations ของเมืองไทย เป็นสวรรค์บนดินด้วยความวิจิตรงดงามอลังการท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อน ธรรมชาติที่สวยงามและเงียบสงบ ที่มีทัศนียภาพที่งดงามมากๆ วัดพระธาตุผาแก้วยังเป็นวัดที่มีความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบไร้ขีดจำกัดที่พบเห็นได้ที่นี่ที่เดียวในเมืองไทย ความสวยงามวิจิตรเกิดจากการนำกระเบื้องสี ถ้วยชามเบญจรงค์ ลูกปัด มุก แก้วแหวน เงินทองเพชรพลอย เซรามิหลากสีสัน หลายลวดลาย สิ่งมีค่าต่างๆมาประดับประดาตกแต่งเจดีย์ ลวดลายผนังและพื้น อย่างสวยงามเกินจะบรรยาย เวลาที่ทุกคนไปวันนี้ มั่นใจว่าจะต้องใช้เวลาชมความงามมากกว่าปรกติแน่ๆ ทิวทัศน์ การก่อสร้างและสถาปัตยกรรมตกแต่งของที่นี่สวยงามจริงๆ ไปแล้วไปอีกได้ทุกที่ไปเขาค้อจริงๆ
r พระพุทธเจ้าห้าพระองค์เสร็จสมบูรณ์แล้ว รอกันมาหลายปีเลยค่ะ ไปมาหลายครั้งมาก ขอโพสต์เป็นหลักฐานซักรูป เช้ามาลุ้นหมอก แม้จะไม่มีก็ไม่เป็นไร เดินเล่นชมสวนสวน เดินถ่ายรูปซักพักก็ออกไปขับรถเล่นเส้นทางหลวงสาย 12 กัน ทางหลวงเส้นนี้ทิวทัศน์สวยงามและผ่านแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ถ้าออกจากบลูสกายเลี้ยวขวาก็จะไปนครไทย พิษณุโลก ขับไปไม่ไกลจากโรงแรมก็แวะทานกาแฟที่ร้าน Story cup ซึ่งเป็นร้านกาแฟเล็กๆริมทาง ที่ออกแบบได้น่ารัก น่าแวะถ่ายรูปเลยล่ะค่ะ
เลยไปหน่อยก็จะถึงจุดพักรถริมทาง Route 12 ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร โรงแร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ มุมถ่ายรูปที่อยู่บนเขา มีทิวทัศน์สวยงามเลยล่ะ จุดนี้คนที่ใช้เส้นทาง 12 หล่มสัก พิษณุโลกน่าจะคุ้นเคยกันดี งแวะไปเดินเล่นถ่ายรูปเก๋ๆก็เพลินดีค่ะ ไม่ไกลจากแค๊มปสนด้วย
วกกลับมาแคมป์สนขึ้นเขาค้อเพื่อไปน้ำตกศรีดิษฐ์ กันค่ะ ซึ่งคืนนี้เราจะย้ายที่พักมานอนบนเขาค้อคืนนึง อายุจะได้ยืนขึ้นอีกปี ^^
เที่ยวน้ำตกไปหน้าฝนนะคะ น้ำเยอะป่าชุ่มชื่นสดชื่นมากๆ แต่ต้องระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำเยอะเกินไปเที่ยวก็ต้องระมัดระวังน่ะจ๊ะ
แวะทานข้าวที่ ร้านครัวคุณต๋อย ตรงข้ามแคมป์สนกันก่อน ร้านนี้มีที่เด็ดที่ปลาช่อน แป๊ะซะ มาทานครั้งแรกปลื้มมากๆ กลับมาเพ้อหลายวันเลยเลยล่ะ ปลาช่อนแป๊ะซะที่นี่รสชาติไม่เหมือนใคร น้ำแกงทั้งเข้มทั้งข้นอร่อยสุดยอดจริงๆ สามารถเติมน้ำแกงและเติมผักได้อีกต่างหาก ชอบมากๆ กลับไปเพื่อไปทานเมนูนี้อย่างเดียวก็เอาน่ะ ^^
พระเอกมาแล้วจ้าาา ปลาช่อนแป๊ะซะ ใครไปทานร้านนายต๋อยอย่าลืมสั่งนะคะ ของเค้าเด็ดอร่อยเข้มข้นมากจริงๆ เติมผักเติมน้ำแกงได้อีกต่างหาก
ไก่ทอดเกลือก็อร่อยสุดๆ เห็นรูปแล้วหิวเลย
ขึ้นเขาค้อขอเลี้ยวขวาลงเส้นไปน้ำตกศรีดิษฐ์เพื่อแวะทานกาแฟที่ แทนรักทะเลหมอก รีสอร์ท และชมสวนดอกไม้สวยๆ วิวเทพๆกันก่อน แม้ไม่ทานอะไรก็ลงไปชมวิว ถ่ายรูปกับดอกไม้สวยๆก็คุ้มแล้วจ้า เป็นอีกที่ที่ถ้าผ่านแล้วต้องขอแวะซักแป๊บก็ยังดี บางครั้งไม่ผ่านยังขอออกนอกเส้นทางซักหน่อยก็เอา อิอิ
สำหรับตัวเลือกอื่นๆสำหรับจุดชมทะเลหมอกสวยๆบนเขาค้อเพราะมาเขาค้อก็ต้องมาชมทะเลหมอกกันสินะ จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและชมหมอกที่สวยงามดั่งความฝันต้องยกให้วัดกองเนียมค่ะ จุดนี้สวยมากไร้คำบรรยาย มาดูรูปพิสูจน์กันเลย แต่ก็น่ะ ทะเลหมอกไม่ได้ให้ชมกันทุกวันนอกจากมีเงินมีเวลามาเที่ยวกันแล้ว ต้องมีดวงกันด้วยประมาณนึง แต่รับประกันได้ว่าถ้ามาเจอตอนมีหมอกสวยๆ ต้องตะลึงเหมือนอยู่ในภวังค์แน่นอนค่ะ เพราะภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับภาพฝันกันเลย สำหรับคนที่อยากมาชมความงามของหมอกไล่สันเขาแบบนี้ควรจะมากันตั้งแต่เช้ามาเฝ้ากันตั้งแต่หกโมงกันเลยจะดีมาก ถ้ามีเวลามาเขาค้อมไม่มากนักก็ต้องวิ่งรอกเอาหน่อย แนะนำให้มาลุ้นที่นี่ก่อนจะไปจุดชมวิวที่อ่างเก็บน้ำเพราะตรงนั้นเป็นแอ่ง ถ้ามีหมอกจะโดนกักไว้ให้เราชมกันจนถึงสายๆ ไม่ต้องรีบค่ะ
หรือถ้ามีเวลาอีกหน่อยก็เก็บเช้าอีกวันไปชมวิวที่เป็นจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะที่เราสามารถจะชมวิวเขาค้อได้ 360 ครบทุกองศา เราสามารถไปชมได้ทั้งตอนเช้า ไปรอพระอาทิตย์ขึ้นกันเลยหรือจะไปชิลล์กันตอนเย็น พระอาทิตยลับสันเขาที่เขาตะเคียนโง๊ะก็สวยงามไม่แพ้ที่ใด แต่ที่แน่ๆ มีโอกาสลุ้นทะเลหมอกกันทุกทิศทางเลยล่ะค่ะ
สมเป็นภูดอกไม้ สายหมอก เมืองต้องห้ามพลาด .... จริงๆค่ะ
หรือจะขับรถลงไปที่ทุ่งแสลงหลวง (ฝั่งหนองแม่นา) เข้าไปชมทะเลหมอกที่สวยงามมากที่จุดชมวิวศาลาดุสิตา ภายในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงกันก็ได้ค่ะ การที่จะเข้าไปจุดนี้ควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบก่อนว่าเราจะเข้าไปตอนเช้า ด่านจะเปิดตั้งแต่ตีสี่ตี่ห้า ช่วงหน้าแล้งเอารถยนต์เข้าไปได้ ระยะทางไม่ไกลมากขับรถครึ่งชม.ก็ถึง แต่ถ้าฝนทางจะเละควรเป็นรถกะบะแรงดีเท่านั้นน่ะจ๊ะ
ถ้ามีเวลาเที่ยวไม่กี่วันอาจจะเลือกชมวิวหมอกบนเขาค้อซักคืนสองคืนแล้วค่อยย้ายเป้าหมายไปต่อที่ภูทับเบิกก็ได้ค่ะ โดยเราลงจากเขาค้อทางแคมป์สน ใช้เส้นทางหลวงสาย 12 ก่อนถึงแยกพ่อขุน เจอแยกให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปภูทับเบิกเลย เดี๋ยวนี้การเดินทางไปภูทับเบิกทำได้ง่าย ถนนแม้จะคดเคี้ยวและชัน แต่ถนนดีกว่าเมื่อก่อนเยอะค่ะ ค่อยๆไต่ขึ้น (ขอรถแรงดีนิดนะคะ) และต้องขับรถแข็งซักหน่อย ใครที่ขับอยู่แต่ในเมืองไม่ค่อยได้ขับตจว.ยังไม่แนะนำค่ะ ขาลงก็ชันมากและลงยาว รถเบรกไหม้ไปหลายคันเลย ค่อยๆขับนะคะ (ยังไม่ได้ไปถึงยอดภูทับเบิกเลย พูดถึงเรื่องลงซะแล้ว อิอิ ภูทับเบิกเป็นชื่อของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งบนภูเขาที่สูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ อยูในอ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 100 กม. จุดเด่นของภูทับเบิกไม่ใช่ทีพักสวยหรูห้าดาวหรืออย่างใด แต่อากาศที่หนาวเย็นตลอดปีและหนาวจัดในฤดูหนาว และเป็นจุดที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา แถมเป็นภูเขาที่เป็นที่โล่งไม่มีต้นไม้ใหญ่บังเนื่องจากเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปีที่น่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศ เลยไม่มีอะไรบดบังทัศนียภาพ แม้ตอนนี้จะมีรีสอร์ทที่พักสร้างขึ้นกลางไร่ดอกกะหล่ำปลีมากขึ้นก็ตามและอาจจะดูรกเกะกะสายตาอยู่บ้างแต่ก็ถือเป็นทางเลือกที่หลากหลายและมีจำนวนห้องพักมากขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่แห่กันไปเที่ยวที่นี่เพิ่มมากขึ้นทุกปีเช่นกัน แต่ถ้ามีการจัดการดูแลเรื่องสาธารณูประโภคและคุมโทนของที่พักให้เหมือนแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่รวบคุมความสูงของอาคาร ควบคุมโทนสีให้กลมกลืนกันหรือจะเป็นสีขาวเหมือนกันทั้งหมดเหมือนทีซานโตรินี่ก็สวยไปอีกแบบ หรือคุมรูปแบบอาคารบ้านเรือนไม่ให้ฉีกกันมากแต่ทาสีเป็นลูกกวาดสีพาสเทลหวานๆกลางป่าก็น่าจะสวยดีเหมือนกัน (ใส่ความรู้สึกของตัวเองล้วนๆ อิอิ) ภูทับเบิกเป็นจุดที่สามารถชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งด้วยค่ะไม่ว่ามุมไหนก็สวยงามและมีสิทธิลุ้นทะเลหมอกได้รอบทิศ ถ้าไม่ติดอะไร จะขอออกไปลุ้นบ่อยๆเลยล่ะ
ทะเลหมอกที่รอคอย...... มานอนแบบนี้ทีไร ตั้งนาฬิกาปลุกก่อนไก่โห่ทุกครั้ง คราวนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งตื่นมาชะโงกดูหมอกที่หน้าบ้านก่อน อิอิ ถ้าฟูก็เตรียมตัว (หมายถึงคว้ากล้อง น้ำค่อยกลับมาอาบได้ อิอิ) ถ้าแฟ่บก็อาจจะนอนเล่นแล้วเช็คบ่อยๆ เพราะเป็นจุดที่พักที่มีลุ้นเห็นทะเลหมอกได้มากที่สุด เช้านี้ทะเลหมอกไม่เยอะมากแต่ก็สวยงามประทับใจที่สุด ความสวยงามที่ธรรมชาติให้มาแบบนี้ ถ้านอนอยู่บ้านก็คงไม่เห็นสิน่ะ เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลา และปัจจัยอำนวยจะไม่เคยลังเลที่จะออกไปสัมผัสเมืองไทยซักครั้ง ไปไหนก็ได้ขอให้ได้ไป เมืองไทยเรามีดีมากมายจริงๆ คนที่รู้จักจะรู้ว่าเป็นคนที่ชอบอากาศเย็น ชอบภูเขามากกว่าทะเลนิดนึง เลยไม่แปลกใจเลยถ้าใจจะลอยไปตามดอยอยู่บ่อยๆ โชคดีเหลือเกินที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบสนองความต้องการของตัวเองได้แบบไม่ต้องดิ้นรนไปไกลเท่าไหร่ แค่ 5 ชม.จากกรุงเทพก็สามารถพาตัวเองออกไปสัมผัสความสวยงามเหมือนดูบนสวรรค์แบบนี้ได้แล้วค่ะ
เป็นธรรมเนียนว่าขาล่องกรุงเทพต้องแวะทานทานไก่ย่างทีวิเชียรบุรี ไก่ย่างตาแป๊ะ2 เป็นร้านใหญ่ที่อยู่ติดสาย 21 ขาล่องจอดได้สะดวกเลยค่ะ อาหารอร่อย เมนูเยอะ ราคาไม่แพงจอดทันจอดเลยค่ะ ^^
สำหรับที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกมากมายหลายราคาหลายระดับ แต่จะขอแนะนำที่ชอบเป็นส่วนตัวจากที่เคยได้ไปสัมผัสซักสองสามแห่งนะคะ
บลูสกาย เขาค้อ เป็นที่รีสอร์ทน่ารักสไตล์ชนบทอังกฤษที่ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามของเขาค้อริมเส้นทางหลวงหมายเลข 12 ตัวรีสอร์ทตั้งอยู่บนเนินที่สวยงาม ด้านหลังเป็นผาซ่อนแก้วอันสูงตะหง่าน ด้านหน้าเป็นเนินเขาสูงที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวอันสวยงามของเขาค้อได้โดยรอบ บลูสกาย เขาค้อ มีห้องพัก 2 แบบคือ Deluxe ซึ่งพักได้ 2 คนและ Deluxe suite ซึ่งเป็นห้องที่มีห้องใต้หลังคา สามารถพักได้ 4 คน เป็นห้องหัวมุมที่มีเบย์วินโดว์ ที่สามารถชมวิวสวนภายนอกจากในห้องพัก แต่ล่ะห้องออกแบบได้น่ารักเป็นชนบทอังกฤษได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป และใส่ใจเก็บรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างครบถ้วน ห้องนอนสวยสะอาด ห้องพักทุกห้องมีระเบียงด้านหลังห้อง พร้อมโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่น ที่เราสามารถออกไปนั่งใช้เวลาพักผ่อนกับตัวเอง พร้อมชมวิวสวยๆของผาซ่อนแก้วกันได้เต็มที่ ถ้าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว จะเห็นหมอกสวยๆลอยอ้อยอิ่งคลอเลียผาแก้วจากระเบียงห้องกันเลยทีเดียวค่ะ นอกจากการออกแบบตกแต่งห้องได้น่ารักน่าพักตามคอนเซ็ปท์ชนบทอังกฤษแล้ว บรรยากาศภายนอกของรีสอร์ทก็ยังสวยงามไปด้วยสวนดอกไม้นานาชนิด สนามหญ้าเขียวสดชื่น ทิวสนดอกหญ้า น้ำพุกลางสวนตามแบบฉบับสวนอังกฤษโดยแท้ใครที่ชอบรีสอร์ทแนวภูเขาที่สวยใสน่ารักในบรรยากาศที่สวยงามน่าพักก็น่าจะหลงรักที่นี่ได้ไม่ยาก สำหรับตัวเองหลงรักที่นี่ไปหมดใจแล้วค่ะ
The Sense วิวทะเลหมอก เป็นรีสอร์ทสวยทำเลสุดยอดอีกแห่งที่เราสามารถชมทะเลหมอกของอ่างเก็บน้ำรัตนัยได้อย่างสวยงาม การออกแบบภายในรีสอร์ทก็สวยเรียหรูทันสมัย เหมาะกับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ จะไปกับคู่รักหรือครอบครัวก็น่าจะถูกใจกันทุกคนค่ะ
เนริสา รีสอร์ท รีสอร์ทเล็กๆที่มีความสวยงามของสวนดอกไม้และห้องพักหลากหลาย ถ้ามาทางเส้นเก่าถึงแยกรื่นฤดีให้เลี้ยวซ้ายไปนิดเดียวก็ถึงรีสอร์ทอยู่ขวามือแล้ว ราคาห้องพักเริ่มต้น 2000 จ้า
เขาค้อ เพชรบูรณ์ ภูทับเบิก จะหน้าฝนหรือหน้าไหนๆก็ไปเที่ยวกันได้ไม่ตกเทรนด์ค่ะ แต่ถ้าฝนเราจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่นของสายฝนและไอหมอกได้มากหน่อย นักท่องเที่ยวน้อยไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยว ค่าที่พักก็ถูกมาก ดีแบบนี้จะไปแออัดแย่งกันเที่ยวทำไมในหน้าหนาวเนอะ เดี๋ยวรองานซาซักนิด ฝนนี้เจอกันอีกแน่นอน
Create Date : 24 เมษายน 2558 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2558 15:28:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5913 Pageviews. |
|
|