เกิดมาชั่ว * ก.สุรางคนางค์
เกิดมาชั่ว * ก. สุรางคนางค์
“ ฉันเองก็เสียใจที่เข้าใจพิชาผิดๆ แต่มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลย ผู้หญิงคนนี้เกิดมาชั่ว ถึงขนาดปั้นน้ำเป็นตัวในทางชู้สาวขนาดนี้ แม้ว่าเราจะช่วยเหลือเมตตาอย่างไร ก็ยากจะดีได้เสียแล้ว รังแต่จะหาความวุ่นวายใส่ตัว เขามีสามีมาก่อนนายสำราญเสียด้วยซ้ำ”
นี่เป็นบทสนทนาของสองสามีภรรยาคือพิชากับอรอวล .. ทั้งสองคือตัวเอกของนวนิยายขนาดสั้นเรื่องเกิดมาชั่ว ของก.สุรางคนางค์เรื่องที่ผมจะมาแนะนำรีวิวเพื่อให้เพื่อนหนอนที่น่ารักไปหาอ่านให้ได้ ถ้าหากพอจะมีเวลาอันสั้นในการอ่านนวนิยายดีๆสักเรื่อง.. เกิดมาชั่ว เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อพิชาได้พามัณทนี สาวหน้าอ่อน ตาหวานเข้ามาในบ้านที่มีอรอวล .. ภรรยากำลังตั้งท้องโตกับคนรับใช้เก่าแก่คือ ยายเผื่อน .. แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว .. พอมาอยู่ได้ไม่เท่าไหร่พฤติการณ์ของมัณทนีเริ่มไม่ชอบมาพากล ตัวอย่างเช่น ..
“ เป็นลูกผู้หญิง แล้วมาอยู่อาศัยบ้านคนอื่นอยู่ ไม่ได้มาเป็นนาย เช้าขึ้นตื่นมาก็เข้ามากินข้าว ทิ้งจานไว้ให้ยายเผื่อนล้าง ..เขาเข้ามาอาศัยคุณอยู่ หรือจะเข้ามาเป็นนายอิฉันอีกคน ..”
เรื่องราวเงาความยุ่งยากเริ่มเข้ามาสู่บ้านคนมองเห็นความหายนะอยู่รำไร .. พิชา ไม่รู้เลยว่ามัณทนีเป็นคนไม่ดี คิดอยู่อย่างเดียวว่าชีวิตของเจ้าหล่อนน่าสงสาร .. อรอวล ..รู้สึกเหมือนน้ำท่วมปาก เมื่อความดีงามที่ตนเองยึดถือกำลังจะสั่นคลอน เพราะความชั่วร้ายของคนๆหนึ่ง .. ที่ตอบแทนความเอื้ออาทรของตนเอง ด้วยการลอบกัด ลอบปรองร้าย .. นวนิยายเรื่องนี้อ่านสนุก สั้น กระชับ ถ้อยคำเผ็ดร้อนจนเรารู้สึกได้ว่า .. นังคนนี้ทำไมมันยังหน้าด้าน หน้าทนอยู่บ้านคนอื่นได้อย่างสบายใจ ..ดูอารมณ์นางเผื่อนที่โดนมัณทนีเล่นงานดูสิครับ ..
“ แหมเจ้าพระคุณพุดเหมือนใจอีเผื่อน กำลังคิดว่ามากนายอย่างนี้ บ่าวเห็นจะไม่ไหวแน่ เจ้าประคุณเอ๋ย .. ไม่เคยเห็นกินแล้วไม่ล้างชาม บ่าวล้าง เมื่อวานยังมาสาระแนสอนอีเผื่อนว่า ..ป้าแกงทำไมปลาไหล ฉันกินไม่เป็น อิฉันเลยอดไม่ได้ว่าเอาสองสามคำว่า คุณไม่ได้เป็นนายของอิฉันนี่ นายอิฉันกินเป็น อิฉันก็จะแกง .. คุณไม่กินก็อย่ากิน .. ทำดัดจริตวุ๊ยว๊าย .. ไม่มองปลาไหลว่าเป็นงู จริตมาก เป็นลูกเป็นเต้าอิฉันจะตบหน้าบวม”
นวนิยายเรื่องนี้ตัวละครไม่มากมาย ..การดำเนินเรื่องราวมักเป็นเป็นรูปแบบเล่าเรื่องออกมาจากปากของอรอวล ตั้งแต่ต้นจนจบ .. เนื้อเรื่องไม่หักมุมตอนจบ .. คนไม่ดีก็จะได้รับผลกรรมตามนั้น ..ส่วนคนดีๆอย่างนางเอกก็เกือบแย่ไปเหมือนกัน ดังถ้อยคำของชลธิชาเพื่อนของอรอวลบอกกล่าวเรื่องราวเป็นคติสอนใจให้แง่คิด ที่เพื่อนหนอนสามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันนี้ได้เหมือนกัน ..
“ ทุกวันนี้มีแต่ของพิเศษ พิสดาร แปลกประหลาดเกิดขึ้นทุกลมหายใจเข้าออก .. เราจะมัวมาอ่อนแออยู่ไม่ได้ เราต้องเข้มแข็งและพร้อมที่จะเผชญมันอยู่ทุกเวลา – ตลอดไป ..”
นวนิยายเรื่อง “ เกิดมาชั่ว “ ของนักเขียนอมตะระบือนามก้องฟ้าเมืองไทยมาทุกยุคทุกสมัย .. เจ้าของผลงาน “บ้านทรายทอง/ พจมานสว่างวงศ์/รักประกาศิต/หญิงคนชั่ว/ดอกฟ้า/โดมผู้จองหอง/เทพราช/ค่าของชีวิตสาว/ปราสาททราย/ปราสาทรัก/พันทิพา/กรองกาญจน์ และอีกนับสิบเรื่องที่เพื่อนหนอนต้องหามาอ่านให้ครบนะครับ ..
ป.ล.อย่าลืมติดตามตอนจบเกิดมาชั่วให้ได้นะครับ .. อ่านแล้วสนุกจริง อิอิ
วันนี้วันอาทิตย์อากาศดีจัง .. ครึ้ม ๆ ฝนตกน่านอน แต่ก็นอนไม่ได้ ต้องรอดูบอลโลกรอบชิงตอนตีหนึ่งครึ่ง .. เอาเป็นว่าอย่าลืมติดตามอ่านนวนิยายไทยกันเยอะๆๆนะครับผม ขอบคุณมากครับที่เข้ามาอ่านกัน ..
สวัสดีครับ ... นายอิส / เมฆชรา
####################################
คำคมนักเขียนจากเวปประพันธ์สาส์น .. ซ่อนกลิ่น ..กับเสน่ห์อันยวนใจ มาฟังคำสัมภาษณ์ (ฉบับคัดลอก) มานะครับ
ประพันธ์สาสน์ :
แล้วเขียนยังไงถึงไม่ซ้ำซากและคนอ่านติดตาม เพราะเรื่องแนวทะเลทรายนี้มีคนเขียนเพียบเลย ???
ซ่อนกลิ่น :
นิยายในโลกนี้มีพล็อตอยู่แค่สิบกว่าพล็อต เพราะงั้นให้เขียนยังไงก็จะวนด้วยพล็อตเดิม แต่คนเขียนต้องสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา ให้คนอ่านรู้สึกถึงความแตกต่าง ต้องพยายามคิดอะไรใหม่ๆให้ได้ ด้วยการหัดช่างสังเกตแล้วต่อยอดความคิดจากเรื่องที่เห็น ส่วนใหญ่ผมจะได้จากการดูหนัง พยายามจะดูให้ได้วันละเรื่อง แนวไหนก็ได้ แต่หนังแต่ละเรื่องจะมีหลายจุดที่ให้เรานำออกมาเล่นได้ เวลาดูๆแล้วสะกิดใจ ก็จะเปิดคอมพิวเตอร์แล้วพิมพ์เก็บไว้ พอว่างๆก้มาเปิดดุว่าแต่ละอย่างจะสามารถต่อยอดไปเป็นอะไรได้บ้าง
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือบทแรก ต้องจับคนอ่านให้อยู่หมัด ให้ตื่นเต้นสงสัยว่าจะเกิดอะไรต่อไปจนต้องติดตามอ่าน ไม่ใช่ห้าบทสิบบทแล้วยังไม่ไปไหน ย่ำอยู่ที่เดิม อย่างนั้นสู้คนอื่นไม่ได้แน่นอน คือตัวผมยอมรับเลยว่าไม่ค่อยมีวรรณศิลปื เพราะเรียนมาทางสายช่าง ทำงานกับตัวเลข ภาษาที่ใช้เลยทื่อๆ ตรงไปตรงมา คิดว่าเป็นความบกพร่องของตัวเอง แล้วถ้ายังเขียนไม่สนุกอีก จบเลย ซึ่งทั้งหมดต้องอาศัยการสั่งสมประสบการณ์ทั้งจากการเขียนการอ่าน”
ทุ่มเทขนาดนี้ เลยได้ฉายาจากเพื่อนๆว่า “ซ่อนกลิ่นเร็วกว่านรก” เพราะเขียนงานได้เร็วมาก แต่นั่นก็แลกมากับการลาออกจากงานประจำ
“ก่อนหน้าเป็นวิศวกรประจำบริษัท แล้วเหนื่อย แปลงร่างตลอดเวลา กลางวันเป็นวิศวกร กลางคืนเป็นนักเขียนหลังจากกล่อมลูกสองคนให้หลับแล้ว คือเริ่มเขียนประมาณ 3 ทุ่ม ก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บรรทัดเดียวก็ยังดี เพราะคิดว่าต้องเขียนทุกวันเพื่อความต่อเนื่อง พอช่วงปลายปี 2551 ก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอยากทำอะไรกันแน่ ต้นปี 2552 เลยลาออกมาทำงานส่วนตัว เน้นเขียนหนังสือเป็นหลัก พอมีงานออกแบบเข้ามาก็ไปทำตรงนั้นก่อน เพราะใช้เวลาไม่มาก และจะมีตัวเวลามาบังคับด้วย ซึ่งสบายใจมาก มีเวลาดูแลลูกมากขึ้น แต่ต้องบังคับตัวเองอย่างหนักไม่ให้ขี้เกียจ ไม่งั้นจะไม่ได้ทำอะไรเลย” ว่าแล้วก็หัวเราะเสียงดัง
เสียงหัวเราะที่มาจากความสุขของการค้นพบตัวเอง ..
(ขอบพระคุณคอลัมน์คุยนอกรอบ เวปประพันธ์สาส์นด้วยครับ )
Create Date : 11 กรกฎาคม 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 20:52:18 น. |
Counter : 2404 Pageviews. |
|
|
|