|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เป็นที่หวังดังดวงดาว * ก.ศยามานนท์
    เป็นที่หวังดังดวงดาว * ก.ศยามานนท์    

  พอได้รับคำชมว่ามีคนติดตามอ่านบล็อกรีวิวหนังสือของตัวเอง ก็รู้สึกเหมือนได้ยาชูกำลังชนิดอย่างดีมา ชุบชโลมหัวใจให้ชุ่มชื่นพอมีแรงเขียนอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเพื่อนหนอนที่แสนน่ารักจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง .. วันก่อนไปร่วมงานชุมนุมเพื่อนๆ ชาวพงศกรคลับของพี่หมอโอ๊ต .. งานเลี้ยงสนุก / อาหารอร่อย / กิจกรรมก็ยอดเยี่ยม / แถมได้หนังสือและผัดหมี่กรอบทรงเครื่องกลับบ้านคนละกล่องสองกล่องประทับใจกันถ้วนหน้า .. งานนี้ขอขอบพระคุณพี่หมอโอ๊ตพงศกร เจ้าภาพงานที่เอื้อเฟื้อสถานที่และกิจกรรมดีๆแบบนี้ ... ผมนายเมฆชราขอให้กิจการท่านพี่ร่ำรวย เฮง ๆ ตลอดไปนะครับผม.. ในระหว่างที่สนทนาประสาคนหล่อ (เอิ้ก .. ตรงไหน) กับพี่หมอทอมมี่กับน้องศศิศ .. เจ้าของบ้านก็ค่อยย่องมาแล้วยื่นหนังสืออ้วนๆเก่าๆเล่มหนึ่งมาให้แล้วกำชับบอกว่า “ อ่ะอิสพี่ให้..” ผมกระเด้งตัวออกจากโซฟาด้วยความดีใจสุดขีดเพราะนวนิยายที่กำลังอยู่ในมือผมตอนนั้นก็คือเรื่อง ... เป็นที่หวังดังดวงดาว ของ ก. ศยามานนท์ ที่กำลังตามล่าหาอ่านมานานอยู่หลายปีดดีดักนั่นเอง .. ก็ต้องขอขอบพระคุณพี่หมอโอ๊ต ( เจ้าของนวนิยายเรื่องล่าสุดขบวนการกิงก่องแก้ว) ที่กรุณากับหนอนตัวน้อยหัวใจผงาดฟ้าคนนี้นะครับ ...
เป็นที่หวังดังดวงดาว เป็นผลงานหนึ่งในอีกหลายเรื่องของ ก.ศยามานนท์ เจ้าของบทประพันธ์อันเลื่องชื่ออย่างเรื่อง จ้อนกับแดง / กำไลประดับเพชร / ไข่มุกสีชมพู /ดวงใจในม่านเมฆ /ทรามวัยในวสันต์ และอีกหลายเรื่องที่ผมจำไม่ได้แล้ว อิอิ .. นิยายเรื่อง .. เป็นที่หวังดังดวงดาว เรื่องนี้เป็นเรื่องราวชีวิตอันแสนจะผกผันของสามพี่น้อง นั่นก็คือ ธาริษา ไมตรี สาวน้อยอายุสิบแปดปีผู้งดงามอย่างอ่อนโยน ละเมียดละไม หล่อนมีดวงหน้าอันได้สัดส่วนอย่างน่าชม ที่สวยที่สุดก็คงเป็นนัยน์ตาอันกว้างใหญ่มีขนตาหนาทึบและคิ้วอันดกดำ จมูกและปากของหล่อนได้รูป มียิ้มอย่างหวานชื่นจากริมฝีปากที่อิ่มเต็มนั้น หล่อนมีความงามโดยมิต้องอาศัยเครื่องตบแต่งใดๆเลย .. ส่วนผู้เป็นน้องคนกลาง ก็คือ ธาริน ไมตรี จัดเป็นเด็กสาวผู้น่ารักน่าเอ็นดูโดยแท้ หล่อนไม่มีลักษณะความงามอันอ่อนโยน หากคมขำอย่างเอกอุ ความเฉลียวฉลาดส่อสำแดงควบคู่มากับอัจฉริยภาพ จมูกที่รั้นน้อยๆ บอกความไว้วางตัว และปากที่ได้รูปนั้นคงจะเต็มไปด้วยถ้อยคำอันแหลมคม .. สาวน้อยธารินมีอายุเข้าสิบเจ็ดปีเท่านั้นเอง ...
ทั้งธาริษาและธาริน ไมตรี คือตัวละครเอกของเรื่องที่นำพาเรื่องราวนิยายเป็นที่หวังดังดวงดาว ให้เคลื่อนเลื่อนไหลไปตามเหตุการณ์ที่สนุก เข้มข้น พลิกผันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง .. เริ่มต้นที่กระติกกับกระเตง สองนางเอกของเราได้มาพักอาศัยอยู่บ้านย่าแท้ๆของตัวเองอย่างอัดคัตขัดสนเพราะต้องไปอยู่เรือนหลังเล็กแทนที่จะอยู่ตึกใหญ่โตโอ่โถงสมชาติวงศ์พงศา โดยมีสองแม่ลูกมหาภัยอย่างนางลำยองกับลักษมี คอยยุแหย่ผู้เป็นย่าอยู่ตลอดเวลาด้วยเรื่องราวต่างๆ .. เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อพระเอกโผล่มาพร้อมตัวร้ายฝ่ายชาย .. พระเอกของเราคือ วสิต วราธิวัตรกับหม่อมราชวงศ์ภาดา คำแดง สองหนุ่มสหายรักเสมือนญาติสนิทกับ ม.ร.ว.นภดล คำแดง .. ผู้เป็นพี่ของภาดานั่นเอง ..
ความสนุกสนานเพลิดเพลินพลิกผันโศกเศร้าเคล้าน้ำตาเริ่มต้นที่ชายทะเลสามมุข ไล่เรียงต่อเนื่องมาถึงพระนครในความยาวของนวนิยายเล่มโต ๔๒ ตอนจบ ๗๗๘ หน้า ตอนจบของเรื่องมีหักมุมด้วย .. ผมอ่านจบแล้วในสองคืนเกือบตีสอง วางไม่ลงเลย .. อยากจะเล่าเรื่องย่อทั้งเรื่องให้เพื่อนๆฟัง แต่ก็เล่าได้ไม่เต็มที่เพราะกลัวจะข้ามตอนสนุกไป เอาเป็นว่าสรุปตอนจบเรื่องนี้ก็คือแฮปปี้เอนดิ้ง สมรักทั้งสองคู่ ... แต่ที่น่าติดตามคือระหว่างเส้นทางความรักของทั้งสองคู่ มันน่าติดตาม น่าใจหายใจคว่ำไปเสียเหลือเกิน ...
นัยยะความหมายของชื่อเรื่องตามความคิดของผม ... เป็นที่หวังดังดวงดาว ก็คงจะหมายถึง .. สิ่งที่นางเอกของเรื่องคือ กระเตง ฝันอยากจะเป็นนักประพันธ์เอกได้เพียรพยายามไต่หาฝันจนสำเร็จ พร้อมกับความดีงามของตนเองจนชนะอุปสรรคทุกสิ่งอย่าง นั่นรวมถึงความรักแท้ด้วย .. ธาริษาก็เช่นเดียวกัน เธอพิสูจน์หัวใจบริสุทธิ์ของรักแท้ตามพรหมลิขิต เฝ้ารอคอยผลลัพท์ของมันอย่างใจเย็น จนวันหนึ่งทุกอย่างก็เป็นที่หวังดังดวงดาว ..
“ รัศมีแห่งความดีงามของธาริษา ย่อมจะฉายเด่นให้ “ ใครคนหนึ่ง ” ได้ประจักษ์แจ้งใจ ..”
ถ้าเพื่อนหนอนได้ประสบพบเจอนวนิยายรักเข้มข้นสนุกเรื่องนี้ก็อย่ารีรอที่จะหยิบขึ้นมาอ่านกันนะครับผม .. รับรองว่าเรื่องนี้เอาไปเลยห้าดาวเต็มสำหรับความสนุกสนาน สี่ดาวสำหรับสำนวนภาษาอันวิจิตรอลังการ .. แต่ผมก็อดจะแปลกใจไปไม่ได้ว่าคนรุ่นเก่าสมัยคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย (พ.ศ. ๒๕๐๔) ได้มีนวนิยายไทยที่อ่านสนุกมากๆๆๆ อย่างนี้ด้วยอยู่หลายเรื่อง (อย่างงานของคุณน้อย ชลานุเคราะห์ที่ผมจับมารีวิวอยู่บ่อยๆ) แถมพล็อตเรื่อง โครงเรื่องประมาณนี้ยังยืนยงคงอมตะอยู่บนจอโทรทัศน์บ้านเราในตอนนี้ไม่แตกต่างจากนวนิยายสมัยก่อนเลย ..
ถ้าหากน้องๆนักเขียนรุ่นใหม่ได้อ่านบล็อกนี้ก็ลองไปหาอ่านงานเขียนนวนิยายรุ่นเก่าอย่างที่ผมรีวิวมาดู ก็จะทราบว่าภาษาไทยของเรานั้นวิจิตรบรรจง สวยงามเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ยากจะหาชาติใดเสมอเหมือนได้อีกแล้ว .. ที่สำคัญนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยก่อน ต้องฝ่าด่านอรหันต์ของนักภาษาไทยกับคนอ่านมากมายแค่ไหน ถึงจะได้รับการพิมพ์นวนิยายไทยให้เราได้อ่านอย่างซาบซึ้งและเข้าถึงความคิดตัวละครอย่างชนิดที่ประทับใจกับไม่รู้ลืมเลือนเลยทีเดียวเชียวครับ ..
        วันนี้วันพฤหัสบดี .. ใกล้เทศกาลกินเจแล้ว ขอให้เพื่อนหนอนมีความสุขกันมากๆ นะครับ ..นายเมฆชรา     
Create Date : 08 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 8 ตุลาคม 2552 11:02:13 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1890 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: tommy IP: 124.122.164.196 วันที่: 8 ตุลาคม 2552 เวลา:22:04:03 น. |
|
|
|
โดย: เมฆชรา วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:10:00:01 น. |
|
|
|
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:22:00:19 น. |
|
|
|
โดย: Kitsunegari วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:15:00:26 น. |
|
|
|
โดย: ศิริขวัญ IP: 221.7.131.179 วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:12:46:23 น. |
|
|
|
โดย: เมฆชรา วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:12:48:06 น. |
|
|
|
โดย: เมฆชรา วันที่: 12 ตุลาคม 2552 เวลา:12:58:56 น. |
|
|
|
| |
|
|
คงไม่มีใครตั้งชื่อเรื่องได้เพราะแบบนี้อีกแล้ว
เรื่องของคุณก ศยามานนท์ เป็นเรื่องที่ออกแนวตะวันตกเล็กน้อย
อ่านแล้วไม่ล้าสมัย
ต้องอ่านให้ครบนะครับ
อิอิ