บล็อก- blog เปรียบเสมือนสมุดไดอารี่เล่มใหญ่ที่สุดของผม
|
|||
นิยาย " จันทรากินรี " โดย เหมชาติ ทอง -- ( ตอนที่ 4.) . 4. มนตร์ดำ เดรัจฉานวิชา . . . " เสด็จพี่อนันตราชจะอภิเษกนาง จันทราในอีกเจ็ดวัน . แกจะไปเอายามาให้ข้าทันก่อน จะมีวันงานไหมนังเหยี่ยน ? " . . เหยี่ยนร่ำไห้ ไม่ตอบ . . " จะร้องห่มร้องไห้ทำไม -ห็า ? รำคาญจริงๆ ร้องกระซิกๆ อยู่ได้ . แกก็รู้สันดานของข้าดีไม่ใช่เหรอ ? ลงข้าได้ตัดสินใจแล้ว เป็นตายก็เป็นกัน ข้าจะไม่ยอมให้มีวันอภิเษกเกิดขึ้น ! " . . นางเดินไปเลือกข้าวของมีค่าบางชิ้น ใส่ห่อผ้า นำมายื่นส่งให้นางบ่าว . . " อะ- นี่เป็นค่าจ้างหมอยาเสน่ห์ ให้มันเรียกร้องอามิสสินจ้างเองก่อน . เผื่อเหลือ ก็จะได้เป็นของแก . แต่ถ้ามันเรียกเกินมา แกต่อรองมัน เองก็แล้วกัน " . . เหยี่ยนจำใจเอื้อมมือรับห่อสมบัติ เครื่องประดับทองคำมาเปิดดู . . " แกว่าพอมั้ย ? " . . นางเหยี่ยนดูแล้ว ทูลว่า . . " ปกติ หมอผีกรั๊วะจะคิดค่าดำเนินการ เป็นอัฐ 30 ล้านหอยเบี้ย . ซึ่งราคานี้ ก็เท่ากับรางวัลใหญ่ที่ได้จาก การใช้อัฐเสี่ยงโชคซื้อก๋วยสลากชุด 5 ก๋วย ของการปกครองนคร แล้วดวงดี เกิด เฮง- เฮง-เฮง . แต่เมื่อทรงใช้สิ่งของที่เป็นทองคำ เป็นค่าจ้าง แทนอัฐหอยเบี้ยเยี่ยงนี้ บ่าวว่า มูลค่าของทรัพย์ทองคำสูงกว่าหอย หลาย เท่ายิ่งนัก . ฟีล-feel ของบ่าว ก็ประมาณว่า น่าจะ เกินพอ แระเพคะ " . . " ดีละ--" . . ทรงออกคำสั่งมันทันที . . " เช่นนั้น- แกก็รีบลอบแฝงกาย แอบ กลับไปโตนสะเรียมซะวันนี้เลย . ข้าวปลาก็คดห่อไปกินในป่าระหว่างทาง จะได้ไม่เสียเวลา " . . " งั้นบ่าวขออนุญาตล่องแพเฟอร์รี่-ferry ที่ปากแม่น้ำ เพื่อข้ามฝั่งไปนะเพคะ . มันเร็วกว่าที่สาวน้อยอย่างบ่าว-จะต้อง เดินป่า เทรกกิ้ง -trekking " . . " ย่ะ !! --" . . มเหสีกระแทกเสียงใส่มัน . . " ก็ตาม - -ใจเธอ ! " . . เพราะหมั่นไส้มันนัก ที่ตั้งแต่ได้อัพเกรด เลื่อนขั้นตำแหน่งเป็นนางกำนัลสนองพระ โอษฐ์ระดับที่สูงขึ้น เมื่อสองสามเดือนก่อน . --หมู่นี้ มันติดชอบจะทำเก๋ ริจะพูดภาษา กัลปพฤกษ์คำ ผสมปนกับภาษาวิลาสคำ -อยู่เรื่อย . . ทรงกำชับมันว่า . . " ไปกลับ--- แกอย่าให้เกิน 4 วัน . เพราะเมื่อวาน-- ข้าได้ยินเจ้าพี่อนันตราช ทรงรับสั่งให้ขุนวังเรียกช่างฉาย จากนคร ไพรวัลย์มาเข้าเฝ้าเป็นการด่วน . ก็ไอ้เจ้าคนที่มันผมหงอกเป็นสีทอง และ มีหน่วยตาซีดๆ เป็นกระจกฝ้าสีน้ำข้าว ที่เขา ว่าเป็นช่างฉายชาววิลาศ - อะนะ " . . " เอ๊าะ - อ๋อย " . . นางเหยี่ยนร้อง พุทโธ่-ถัง ออกมาเป็น คำคล้ายๆ ภาษาล้านนา . . " บ่าวก็เคยเห็นมันไปๆ มาๆ ไพรวัลย์- กัลปพฤกษ์ กัลปพฤกษ์-ไพรวัลย์ อยู่เพคะ . หึ - นี่คงทรงนัดเข้าเฝ้า เพื่อให้มันมาฉาย พระรูปคู่ จันทรา-อนันตราช เจ แอนด์ เอ - J & A . ทำพรี เวดดิ้ง - pre wedding นะซีเพคะ ! " . . นังเหยี่ยนกล่าวอย่างหมั่นไส้แทน . . อัปสราดารารายรู้สึกแน่นลำคอ น้ำตารื้นด้วยความโกรธ และน้อยใจขึ้นมา ในฉับพลัน . . " ก็ใช่-นาสิ ! . ทรงหลงคนใหม่ จนมองไม่เห็นหัวคนเก่า อย่างข้า . นี่ไงล่ะ นังเหยี่ยน -- . ข้าถึงต้องได้ขอให้แกรีบช่วยข้า " . . ฟังคำเจ้านายพูดมาอย่างคับแค้นใจ แบบเสียงสั่นเครือ เจือสะอื้น เหยี่ยนก็ให้ เจ็บแค้นเคืองโกรธ โทษจันทราขึ้นมาใน ทันที . รีบทูลปลอบใจดาราราย . . " โห-- นังกินรี-นี่มันร้าย . เพคะ -ทรงวางพระทัยโลด บ่าว จะรีบไปรีบมา . บ่าวขอรับรองว่า จะรีบทำเรื่องนี้ ให้สำเร็จ เสร็จทันการแน่นอนเพคะ " . . * * * * * * . . " รัก - ไม่รัก รัก- ไม่รัก . รัก - ไม่รัก . . ฮื่ยยย --- ! " . . . โพระดกร้องอย่างขัดใจ . ปาก้านดอกกุหลาบในมือทิ้ง เมื่อลอง เด็ดกลีบกุหลาบ มาเสี่ยงทายแทนคุ้กกี้ เล่นๆขำๆ ว่าจันทรากินรีจะมีใจรักศัตรู รูปหล่อแล้วหรือยัง . แล้วพบว่ากลีบสุดท้ายนั้นจบที่คำว่า -ไม่รัก . . " องค์หญิง- " . . หันมาทูลถามจันทรากินรี ที่นั่งมองนาง เล่นเกมนี้ตั้งแต่ต้น . . " องค์หญิงทรงรู้สึกรักเจ้าชายอนันตราช บ้างหรือยัง เพคะ ? " . . จันทรากินรีถอนหายใจ . . " กุหลาบดอกนี้ ทายแม่นยิ่งกว่าคุ้กกี้ จ๊ะพี่โพระดก หัวใจของน้องไม่เคยนึกรัก ยังเฝ้าแต่จะเกลียดชังอนันตราช อย่างไม่มี วันหาย " . . " แล้วนี่เรา จะช่วยฟื้นพระชนม์ชีพของ องค์สุริยันกินราได้สำเร็จไหมนี่ ? . -- พี่ชักไม่แน่ใจแล้วซี " . . โพระดกเปรยขึ้น ด้วยรู้สึกวิตก . . " ตอนแรก--บอกตามตรง พี่ยังคิดว่า องค์หญิงจะทรงแอบหลงรักเจ้าชายอนันตราช ตั้งแต่แรกเห็นองค์ จากกระจกมนตราเสียอีก " . . พระพักตร์ขององค์หญิงแดงซ่านทันที รีบบอกนางพี่เลี้ยงว่า . . " ตอนนั้น -- หญิงอาจแค่เพียงหวั่นไหว กับรูปโฉมที่งามสง่าขององค์อนันตราช " . แต่พี่โพระดกจ๋า - ตอนที่หญิงดึงลูกศร ออกจากอุระของเจ้าพี่สุริยัน--" . พลัน- พระองค์ก็เริ่มน้ำเนตรเอ่อ . . " หญิงแทบจะขาดใจตาย ด้วยความ โกรธแค้น " . . แล้วทรงกันแสง ด้วยภาพที่เชษฐาถูกยิง ด้วยศรธนู ปรากฏชัดเจนในมโนภาพอีกครั้ง . . " หัวใจของหญิงตอนนี้ มันสิ้นไร้ซึ่ง ความรักความชอบ มีแต่จะอัดแน่นด้วย ความเกลียดชัง อาฆาตพยาบาท จองเวร จองกรรมต่ออนันตราชเท่านั้น . โธ่เอ๋ย- แล้วนี่เราจะทำไงกันดี พี่จ๋า " . . โพระดกโอบกอดองค์หญิง ที่เธอได้เป็น นางพระพี่เลี้ยงถวายงานรับใช้มาตั้งแต่วัยเยาว์ . ปลอบประโลมกันแสงนั้นด้วยความเอ็นดู . . " โถ-- . ไม่เป็นไรเพคะ เรายังมีเวลาพอ เรื่องของ ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ที่คงต้องปล่อยให้ มันก่อเกิดขึ้นมาเอง . แต่--ถ้าองค์หญิงจะทำพระทัยรักเจ้าชายให้ ได้เร็วที่สุด พี่ว่าก็จะยิ่งดีนะ เราจะได้หาโอกาส เหมาะ หลอกล่อพาเจ้าชายไปยังหิมพานต์ได้ทัน เวลาแห่งลิขิตสวรรค์ " . . " เขารักหญิงจริงหรือเปล่า ? . - ก็ไม่รู้ " . . " พี่ว่าทรงรักจริง-- ก็ดูซิ อีกสองวัน ก็จะทำการอภิเษกกันแล้ว . จะไม่จริงได้อย่างไร ? . และพอพี่ได้ดูฉายาของงาน ที่เป็น พรี เวดดิ้ง- pre wedding พี่ก็ยิ่งแน่ใจว่า เจ้าชายอนันตราช ทรงรักน้องจันทราของพี่มากเหลือเกิน . โดยเฉพาะจากภาพที่ฉายกันบนหัวเรือใหญ่ ที่อ่าวนอกเมืองของนครกัลปพฤกษ์ " . . " อ๋อ - รูปที่ยืนกันบนหัวเรือนะเหรอ ? " . . จันทรากินรีมีพักตร์แดงซ่านอีกครั้ง . . " ภาพนั้นน่ะ-- พอดีท้องฟ้าเปิด มีแสงแห่ง สุริยาส่องลงมา ช่างฉายชาววิลาศเขาเลยจัด ท่าทางให้ บอกว่าจะให้เป็นธีม-theme " มาย ฮาร์ท วิล โก ออน "- my heart will go on . มันเป็นภาษาวิลาศน่ะจะ-- พี่โพระดก หญิงเอง ก็ไม่เข้าใจความหมายอะไรนักหรอก . . ช่างฉายทูลให้หญิงยืนที่หัวเรือ แล้วให้ กางปีก- อุ๊ย กางแขนสินะ ออกทั้งสองข้าง . แล้วทูลเชิญองค์ชายให้เข้ามายืนตระกอง หญิงอยู่เบื้องหลัง . -- ตลกดี อะ -- " . . ทรงพระสรวลอายๆ พักตร์แดงเปลี่ยนมา เป็นเรื่อชมพู - วิ้ง ๆ . . " แล้วองค์หญิงรู้สึกเช่นไรบ้าง- ล่ะเพคะ ? ตอนที่เจ้าชายมาตระกองกอดองค์อยู่ด้านหลัง . --- รู้สึก . ซู่ๆ ซ่าๆ ปาทังก้า ปาทังกี้ . - บ้างไหมเพคะ ? " . . " นี่-- " . . ค้อนให้พี่เลี้ยงอย่างรู้ทัน . ทรงปิดบังโพระดกเกี่ยวกับความรู้สึกอบอุ่น รัญจวน ที่แผ่ซ่านทั่ววรกายทุกครั้งเมื่อทรงได้ ประทับเคียงข้าง ใกล้ชิดกับองค์อนันตราช . องค์หญิงทำเฉไฉ ตอบพี่เลี้ยงว่า . . " อย่ามาหลอกถาม ให้หญิงเผลอหลงตอบ ว่าใช่-- เลยนะ . ที่หญิงยอมอดทน ทำตามที่เขาสั่ง ก็เพื่อ จะให้งานมันเสร็จๆ แล้วเรื่องไปเท่านั้นหรอก . - ขอบอก " . . โพระดกถอนหายใจเฮ้อ...อออ . -ยาวยืด . . " เพคะ ตามนั้น . -- จบ ! " . . จันทรางอน กับคำทูลตอบแบบประชด ประชันของพระพี่เลี้ยง . . " แล้วนี่พี่จะเคี่ยวเข็ญไรกับหญิงนักหนา . --หญิงหรา ? ที่จะเปลี่ยนใจ . -ไปรักศัตรู " . . " เพคะ - . รับทราบ เพคะ !" . . โพระดกทูลตอบแบบประชดอีกครั้ง . ให้นึกขวางเจ้านายองค์น้อยของตนยิ่งนัก ที่ทรงปากแข็งเหลือเกิน กับเรื่องนี้ . และถวายค้อน คืนกลับให้องค์หญิงบ้าง แล้วคลานเข่าหนีไป ด้วยอาการงอนตุ๊บป่อง . . หากลึกๆ นางก็ดีใจที่ได้เห็นชัดว่าหัวใจ ของเจ้าชายอนันตราช และเจ้าหญิงจันทรา กินรีมีจิตปฏิพัทธ์ต่อกันแล้ว . แผนการต่อไป คือการหาวิธีพาองค์ อนันตราชไปหิมพานต์ให้สำเร็จในเร็ววัน . . * * * * * * * * . เหยี่ยนกลับมาจากโตนสะเรียม ตอนเกือบเช้าตรู่ ของวันที่ห้า . มันรีบตรงไปเข้าเฝ้าดารารายถึงตำหนัก ทั้งที่นางยังบรรทม . . " ทูนหัวของบ่าว . - บ่าวกลับมาแล้ว เพคะ " . . มันต้องกล่าวถึงสองครั้ง มเหสีถึงจะ รู้สึกตัว . นางขยับองค์ มองฝ่าม่านมุ้ง . . " ว้ายยย -- . นังเหยี่ยน !! . -- ตกใจหมด ! . แกมายืนตะคุ่มๆ หน้าวิสูตรแบบนี้ ข้าก็นึกว่าผี ! " . . " บ่าวเองเพคะ ไม่ใช่ผีที่ไหน " . . อัปสราดารารายผลักผ้าห่มผวยออก จากกาย . . " ข้ารอแกกลับมา จนหลับ สลบพับไป สองสามรอบ . - สำเร็จมั้ย ? . -- แล้วไหนล่ะยา ? " . . " สำเร็จ เพคะ . แต่ยังไม่เพอร์เฟคท์ลี่ -perfectly " . " อ่าวววว --- . เยอะนะ -- แกนี่ " . . ทรงรีบลงจากแท่นบรรทม แหวกม่าน วิสูตรออกมา เพราะนางเหยี่ยนทำนิ้วมือ จุ๊-จุ๊ แบบให้ทรงเงียบๆ ไว้ . มันหันไปมองรอบๆ เลิ่กลั่ก ระแวดระวัง เหมือนกำลังจะบอกเรื่องลับสำคัญอะไรสัก อย่าง . * * * * * * * * . . ฟ้าสาง-- . ที่ตลาดเก่าของท่าเรือ ริมป่าต้นจาก ที่ขึ้นริมแม่น้ำแน่นเป็นทิวแถว นอกเขต ชายแดนนครกัลปพฤกษ์ออกไปไม่ไกล เท่าไรนัก . . ปรากฏร่างของสองหญิง คลุมผ้าเก่าๆ ที่ศีรษะ เดินลัดเลาะมุ่งผ่านตลาดเข้าไป . . คนนำหน้าดูจะเป็นบ่าว คนที่เดินตามหลัง แบบกระฟัดกระเฟียดคงเป็นนาย . . " แกบ้าไปหรือเปล่า ? -- . ถึงได้ยอมให้มันนัดส่งมอบยาที่ตลาด ขอทานเชลยสงครามสกปรกๆ แบบนี้อะ " . . " ไอ้หมอผีมันเป็นคนกำหนดเองเพคะ มันบอกว่า มันจะเดินทางจากโตนสะเรียม มาพักโฮมสเตย์ ที่โรงเรือนขอทานเชลย สงครามนอกเมือง เพื่อรอพบเราที่นี่ . บ่าวจำใจต้องยอมมันทุกอย่าง กลัวมัน เล่นตัว ไม่ทำยาให้ " . . " แล้วยังบังคับให้ข้าต้องมารับของ ด้วยตัวเองอีก . - ยุ่งชะมัด ทองหยองก็ให้ไปแล้ว " . . เหยี่ยนไม่เถียง รีบพาอัปสราดาราราย เดินฝ่าตลาดเช้ามืด ที่มีเหล่าแม่ค้าพ่อขาย เริ่มนำเกวียนสินค้ามาวางของขายกันบ้าง แล้ว . . อัปสราดารารายจึงกระชับผ้าคลุมให้ ปกปิดใบหน้ามากขึ้นอีก . . " ตายละ คนเริ่มมาตลาดกันเยอะ . ข้ากลัวคนจะจำใบหน้าที่สวยเด่นของข้า ได้จัง " . . เหยี่ยนหันมามอง . . " คงไม่หรอกเพคะ . ลงใช้ผ้าซิ่นเก่าๆ ของบ่าวคลุมหัวเป็นเมาะ ไอ้โม่งแบบนี้ ดูไง- ก็เหมือนชาวบ้านชาวดง - แสนจะบ้านน๊อก-บ้านนอก ! . ไม่มีใครดูออก หรือจำได้ว่าทรงเป็นพระ มเหสีแน่นอน - เนียนสนิทแระเพคะ " . . ฟังที่นังบ่าวบอกอย่างไม่สบอารมณ์นัก ดารารายหายใจฟึด-ฟาด เอามืออุดจมูกตัวเอง บ่นว่า . . " นี่--นังเหยี่ยน ถามจริง แกเคยซัก ผ้าซิ่นของแกบ้างอ๊ะป่าว -เนี่ย ? " . . . * * * * * * * * . . และแล้ว-- . นางเหยี่ยนก็หันมาทูลด้วย เสียงกระซิบ . . " เรากำลังจะเข้าสู่ตลาดขอทานเชลย สงครามกันแล้วเพคะ . ยังมืดๆ อยู่ - ต้องระวังองค์เองหน่อย อาจถูกพวกขอทานเชลยกระชากลากถู ขอเศษอัฐ " . . เดินเลยตลาดเช้า มาหน่อยหนึ่ง ก็ถึงโรงเรือนแบบกั้นคอก หลังคามุง ด้วยใบไม้แห้งใบใหญ่คล้ายใบตองตึง . สภาพเก่าๆ ที่เห็น ดูทรุดโทรม และ น่ากลัวมาก . แสงสว่างอ่อนๆ ยามอรุณจะรุ่งส่องให้ เห็นว่าภายในโรงเรีอนมีคนเดินกันแบบก้มๆ ขวักไขว่ไปมา . เห็นเป็นเงาเคลื่อนไหววูบวาบ . . " ข้าไม่เข้าไปนะ . --- แกเข้าไปคนเดียวก็พอ . ข้าจะรอข้างนอกนี้แหละ " . . ดารารายบอก เพราะนางรู้สึกเสียวสยอง จนน้ำเสียงสั่น . . " ไม่ได้เพคะ- . พระมเหสีต้องเสด็จเข้าไปพบกับไอ้หมอผี โตนสะเรียมด้วยพระองค์เอง . เพราะมันยังจะต้องมีพิธีกรรม ให้ต้องทำ อีกอย่างนึงเพคะ " . . " โอ๊ยยย-- . - จะอะไรกันอีกล่า ! " . . ดารารายร้องออกมาทันที กระทืบบาท รัวๆ อย่างขัดเคือง . พิธีกรรมบ้าบออะไรเนี่ย ? ทำไมต้องเยอะ อย่างนี้ด้วย . . เหยี่ยนก็เงียบอีก ไม่ตอบคำถามอย่าง ฉุนเฉียวของอัปสรา . ทั้งที่จริง มันรู้ดีว่าพิธีกรรมต่อไปนั้นต้อง ทำอะไร -แบบไหน เพราะมันก็เคยได้เห็น มาก่อน ตอนที่ป้าของมันทำเสน่ห์กับหมอผี คนนี้ . . ทันใดนั้น มีขอทานสี่ห้าคน กรูกันออกมาจากโรงเรือน เดินดุ่มๆ ตรงมาหาสองหญิง . ยื่นกะลาในมือมา ส่งเสียงขอทาน . . " เมตตา... . กรุณา... . ค้ำจุนโลก... " . . " เมตตา... . กรุณา... . ค้ำจุนโลก... . . เป็นเสียงพูดซ้ำๆ อย่างวิงวอน . . " นังเหยี่ยน- . -- ข้ากลัว " . . ดารารายร้องอี๋ย์ย์ - เบ้หน้า . พยายามบีบตัว หดหนีจากกะลาสี่ห้า ใบ ที่ยื่นมาขอทานแบบประชิดตัวนาง . . " พ่อหมอกรั๊วะ- พ่อหมอกรั๊วะ อยู่หนายยยย -- ? " . . นังบ่าวของมเหสีอัปสรารีบตะโกน เรียกหาหมอผีจากโตนสะเรียม . . " พ่อหมอกรั๊วะ- . ข้าพามเหสีดารารายมาหาท่าน แล้ว " . . เสียงตะโกนของนางเหยี่ยน กลับยิ่งเรียกให้ขอทานอีกกลุ่มขยับตัว . แล้วเดินกันออกมาสมทบ . . เหยี่ยนตาเหลือก รีบแหกปากตะเบ็งเรียกหมอผีอีกครั้ง . คราวนี้ นางตะโกนเรียกสุดเสียง สุดลำคอ จนเกิดเป็นเสียงแบบออเพอร่า -opera ระดับโซปราโน่ -soprano . แล้วกลายเป็นเสียงเอโค่ -echo ดังก้องสะท้านโรงเรือนค่ายเชลยสงคราม . . " พ่อ-หมอ-กรั๊วะ - . ( กรั๊วะ -กรั๊วะ-กรั๊วะ-- กรั๊วะ- กรั๊วะ -กรั๊วะ-กรั๊วะ- กรั๊วะ- . กรั๊วะ- กรั๊วะ ะ ะ ะ ะ ะ ... ) " . . . . ได้ผล- . มีเสียงแหบพร่า แบบคนแก่เฒ่ามากๆ ดังออกมาจากด้านในโรงเรือน . . " เปิดทาง -ให้พวกมันเข้ามาหากรู !" . . เหล่าขอทานได้ยิน ก็รีบหันหลัง เดินก้มหน้างุดๆ กลับเข้าไปโดยดี . . " อีสองตัวนั่น- . -- เข้ามาหาข้าได้แล้ว " . . อัปสราดารารายถึงกับสะดุ้งเฮือก สุดตัว เสียงแหบแห้งนั้น ฟังแล้วน่ากลัว บอกไม่ถูก . นางกลัวจนขอถอดใจ- ไม่เอาแล้วงานนี้ ไม่ไปต่อ ขอกลับวังดีกว่า . . แต่แล้วก็ถูกนังเหยี่ยนรีบรุนร่าง ผลักให้ เจ้านายเดินนำเข้าไปในโรงเรือนเชลยจาก สงครามที่เก่า แสนจะทรุดโทรมด้วยกัน . . ฟ้าเริ่มสาง แสงอาทิตย์ส่องเข้ามา ให้เห็นผู้คนในโรงเรือนชัดขึ้น . . อย่าว่าแต่ดาราราย ที่กลัว และนึกสยด สยองจนแทบหายใจไม่ออก เหมือนกำลัง จะเป็นลม ขาดใจตายในตอนนี้ . เพราะแม้นางเหยี่ยนเอง ที่ชีวิตมันเผชิญ หน้ากับสิ่งร้ายๆ มามากมาย ก็ยังใจเต้นตึ๊กๆ หวาดหวั่นกับสิ่งรอบๆ ตัว และที่อยู่ตรงหน้า ขณะนี้อย่างที่สุด จนร่างกายและมือไม้ของ มันสั่นไหวระริก . . มีเสียงทักทายของหมอผีกรั๊วะ ดังมา จากมุมสลัวๆ . . " อ้อ-- . นี่นะรึ ? - มเหสีผู้จะทำเสน่ห์ อุบาทว์ๆ ใส่กษัตริย์ผู้ผัว . แกไม่รู้หรือว่า ทำแบบนี้มันเป็น บาปหนักกรรมหนา . ตายไป-แกก็จะตกนรก ขุมที่ ลึกเกินจะหยั่งถึง กี่ปี กี่ชาติ ก็จะ ไม่ได้ผุด ไม่ได้เกิด ! " . . " แกไม่ต้องมาอวดดี ทำเป็นสู่รู้ - พูดมาก ! " . . ดารารายเผลอตวาดแว๊ด . นางถูกคอมเม้นต์แรงจากหมอผีจน โมโห ลืมกลัว ด่าสวนกลับไป . . " รีบส่งยามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ . ข้าจะได้กลับวัง " . . " ก็ปากคอหยาบช้า ร้ายกาจเยี่ยงนี้ นี่เอง -- เจ้าถึงไร้ซึ่งเสน่ห์ให้ผัวรัก . ต้องมาจ้างวานคนชั้นต่ำอย่างข้า ให้ใช้เดรัจฉานวิชามาร เข้าช่วย " . . และแล้ว- . เฒ่าหมอผีก็เดินกระย่องกระแย่ง ออกมา . ตรงมาหาทั้งสองนาง -ใกล้ๆ . . กลิ่นสาบคลุ้งนำหน้ามาก่อน ก่อนที่โฉมร่างหมอผีแบบอันซีน จะ ปรากฏให้เห็นเป็นบุญตา . . อัปสราดารารายรีบเอามืออุดจมูก และปิดปากตัวเอง กล้ำกลืนเสียงอุทาน ที่กำลังจะหลุดร้องออกมา . ด้วยนางตกใจ กับภาพตรงหน้า สุดประมาณ . . โอ-- . สารรูปหมอผีแห่งโตนสะเรียม ช่าง น่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้ !!! . ยิ่งกว่าหน้ากากนักร้อง ที่แกงเหลือง- เอ๊ย-แกงส้ม ใส่ในลุคหน้ากากร็อตไวเล่อร์ ของค่ายเวิร์คพอยต์-- ร้อยเท่า !! . . เป็นชายเฒ่าชราที่ดูแก่งั่ก อายุคง เก้าสิบปีขึ้นเห็นจะได้ . เคี้ยวหมากไม่หยุด เสียงดังจั๊บๆ ไร้ ซึ่งมรรยาทผู้ดี -ทั้งที่ฟันของแกเหมือน จะหักเกือบหมดทั้งปาก . . ผมหงอกขาวที่มีเพียงหร็อมแหร็ม ถูกปล่อยให้ยาวเฟื้อย หย่าขาดจากหวี . มองไป- เห็นเนื้อตัวเหี่ยวย่นชัดเจน เพราะท็อปเลส -คือท่อนบนไม่สวมเสื้อ นุ่งแต่ผ้าถุงเน่าๆ ที่เปื่อยขาดกะรุ่งกะริ่ง คล้ายชุดคอสตูมของหน้ากากกระต่ายป่า ที่โบ สุนิตาใส่บนเวทีวันก่อน . หลังของแกโก่งงอ แต่ก็ไม่ถือไม้เท้า เวลาเดินจึงดูโคลงเคลง งุ่มง่าม เหมือน ลิงป่าแก่ๆ ที่ตัวใหญ่ ๆ . . น่ากลัว ราวกับปีศาจชรา ที่โผล่ มาจากหลุมศพ ของสุสานร้าง- ก็ไม่ ปาน . . และแล้ว หมอผีก็กวักมือ เรียก นางเหยี่ยน . . " อีไพร่-- . เชิญเอ็งรับห่อยา ช่อง 3 " . . นางเหยี่ยนมองตามมือเหี่ยวๆ ของหมอ ผีกรั๊วะ ที่ชี้บอกทิศทางให้ . ที่ซอกช่องหลืบของโรงเรือน ซอกที่สาม มั้ง ? นับจากซ้ายไปขวา เห็นมีขอทานชู ห่อผ้าอยู่ไหวๆ . . แล้วก็มีเสียงประกาศเรียก ดังออกมา เหมือนเสียงประกาศทางไมโครโฟนของ บางสถานที่ ที่ฟังเข้าใจยากมาก ต้องเงี่ยหู ฟังให้ดี ถึงจะพอเดาได้ว่า กำลังเรียกใคร . เพราะจะพูดเสียงเบาเหมือนบ่นๆ แบบ ไม่เปิดปากพูด หากก็รัวเร็ว และจะประกาศ เรียกแค่รอบเดียว-ผ่าน . . " คุณเหยี่ยนส์รับยาช่อง 3 - " . . นังเหยี่ยนที่ตะแคงหูฟัง ร้อง -ห๊ะ ? เรียกกรู อ๊ะป่าวเนี่ย ? . นางหันไปมองรอบๆ ก็ไม่เห็นมีใคร อื่นอีก นอกจากตัวเอง . งั้นก็เรียกกรู-นี่แหละว้า นังบ่าวจึงรีบ เดินเข้าไปหา . . พอถึงที่ เอื้อมมือจะไปรับ แต่ขอทานคนนั้นกลับโยนห่อยาข้ามหัว นาง ไปตกลงบนลานดินพื้นโรงเรือน ที่ เป็นดินเฉอะแฉะ ปนขี้ปลักขี้เลน แสนจะ โสโครก . -- ให้มันต้องก้มลงหยิบเอง . . " แม่ง-งงง " . . เหยี่ยนฉุนกึ๊ก - . ระเบิดคำด่าในลำคอออกมาทันที ขณะก้มลงคว้าห่อผ้าเก่าๆ นั้นขึ้นมา . . พลัน นางก็ถูกขอทานห้า-หกคน ตรงเข้ามารุมจับตัว . ยึดแขน ยึดขา รัดตัวนางไว้แน่น . . ดารารายตกใจ นางไม่พอใจในทันที . ร้องตวาดเสียงดัง . . " หยุดนะ ! . พวกแกมาจับบ่าวของข้าทำไม --ห๊า ? . ปล่อยนังเหยี่ยนของข้า -เดี๋ยวนี้ ! " . . หมอผีกรั๊วะพูดเสียงสั่นเครือ ด้วยความ หง่อมชรา . . " ข้าต้องให้จับนังไพร่ของเอ็งไว้ก่อน-- . เพราะข้ากำลังจะให้มเหสีกินหมากจาก ปากของข้า . ที่กำลังเคี้ยวจนนุ่ม หอมหวานได้ที่ . ไม่งั้น--พิธีกรรม มันจะไม่เสร็จสมบูรณ์ " . . " ว้ายยยย..." . . ดารารายฟังแล้วอยากจะบ้าตาย นางร้องลั่น . คลื่นไส้ อยากจะอ้วก ! . . " ไม่เอานะ - . ข้าไม่กินหมากจากปากแก . - ไอ้หมอผีสกปรก ! " . . " อีมเหสีโง่ !!-- ฟังข้าก่อน . หมากอาคมเดนตีน--ที่ข้ากำลังเคี้ยว หยับ-หยับ รอป้อนใส่ปากของเอ็งอยู่เนี่ย - . ข้าอุตส่าห์ตั้งใจทำจากวิญญาณ ตายโหงที่ร้ายที่สุด เท่าที่ข้าเคยทำมา ทั้งหมด เจียวนาโว้ย-- . เป็นวิญญาณสุดพยาบาทของผีวัวป่า ที่มันเป็นบ้า -- มีน้ำลายไหลยืดเต็มปาก ตลอดเวลา เที่ยวคึกคะนองวิ่งไล่ขวิด สัตว์อื่นๆ ทั่วทั้งป่าลึก . ต่อมา- มันถูกเสือสมิงขบกัดเป็นแผล ฉกรรจ์ สาหัสมาก มันเลยใช้เขาแหลม ยาวโง้งขวิดตอบเสือสมิงไป แล้วกระหน่ำ แทงซ้ำ จนเสือสมิงตายคาเขาของมัน . แต่มันเองก็ต้องตายพร้อมๆ กับเสือสมิง . . ข้ารับรองว่า เมื่อเอ็งกลืนกินหมาก คำนี้แล้ว ผัวเอ็งจะหลงรักเอ็ง ติดหนึบ ชนิดที่ไม่ยอมห่างไปจากตัวของเอ็ง . แม้สักวินาทีแน่นอน " . . . " ข้าไม่อาวววว-- . ข้าไม่กินนนน ! . ไอ้หมอผีบ้าาาาาาา !!! " . . อัปสราดารารายไม่ยอม . . " อีมเหสีปากร้าย . -ฟังข้านะ . ทำการกันมาถึงขั้นนี้แล้ว--ถ้าเจ้าไม่ยอม กลืนหมากของข้าลงในท้อง วิญญาณผีวัว ป่ามันก็จะออกมาจากปากของแก ไล่ขวิด แกจนพุงแตก ไส้ไหลทะลัก . -จะบอกให้ ! ! " . . ดารารายผงะ- . อะไรกันนี่ ?-- . ทำไมพิธีกรรมทำเสน่ห์ถึงสุดสกปรก และอุบาทว์ชาติชั่ว- เช่นนี้ ? . . " ทูนหัวของบ่าว ทำตามที่พ่อหมอผี โกสต์ ด๊อกเต้อร์ -เชแมน-shaman บอก . - เถิดเพคะ " . . นางเหยี่ยนกลัวเจ้านายจะต้องตาย ด้วยคมเขาของผีวัวป่า รีบขอร้องอัปสรา ดารารายให้ยอมทำตามที่หมอผีกรั๊วะบอก มาแต่โดยดี . . เห็นดารารายทำท่าเหลียวหาทางกลับ ออกไป หมอผีกรั๊วะจึงร้องตะโกนสั่ง . . " จับตัวมเหสีไว้ ! " . . ขอทานเชลยกลุ่มหนึ่งปรี่เข้าจับตัว ดารารายที่ทำท่าจะหนีไว้ทันที . มีคนหนึ่งใช้มืออุดปากนางไว้ . . ดารารายดิ้นรนขัดขืน นางต่อสู้สุดฤทธิ์ ใช้เท้าสลับถีบ ยันไปรอบๆ ทิศ . จนมีขอทานบางคนโดนเท้านางถีบเข้า ให้-เต็มแรง ถึงกับกระเด็นล้มคว่ำ ขอทาน อีกสองสามคนจึงตรงเข้ามาร่วมช่วยกัน . . ที่สุด... . พระมเหสีอัปสราดารารายก็ถูกจับ กดร่างให้นอนหงายบนพื้นดินที่สกปรก เปียกแฉะ แขน และขาของนาง ถูกเข่า ของขอทานเชลยศึกหลายคนยันทับ ไว้แน่น . . มิหนำซ้ำ ปากก็ถูกปิด จนนางตาเหลือก ร้องไม่ออก . . เหยี่ยนที่ยังถูกกุมตัว ตกตะลึง - สงสารดารารายยิ่งนัก ทำไมพวกมันต้อง ทำกับพระมเหสีถึงขนาดนั้น . นางจึงสะบัดดิ้นไปมา ต่อสู้สุดกำลัง หวังจะให้หลุดจากการจับกุม ไปช่วย เจ้านายตัวเอง . . ขอทานคนหนึ่งถูกนางเหยี่ยนใช้ ปากกัดที่มือจนเลือดอาบ . เจ้านั่นเจ็บ- ร้อง โอ๊ย ! . มันโมโหสุดขีด--เมิงกัดกรูหรอ ? .จึงเอากำปั้นเด็ด ตุ้ยที่ท้องนางเหยี่ยน แบบหมัดฮุค-อัพเพอร์ คัท . -- สุดแรงเกิด ! . . นางเหยี่ยนร้อง -- อุ๊บ ! เจ็บปวด จุกเสียดไปหมด ตัวงอฟุบลง ทันที . นางล้มลงนอนกับพื้นดิน ครวญคราง เสียงดัง อะ-- อะ- อะ . -- ไปไหนต่อไม่รอด . . . หมอผีก้าวขา นั่งคร่อมอกของ ดารารายไว้ . แล้วสวดมนตร์เสียงรัวเร็ว . ไม่สนใจใบหน้าที่ส่ายดิ้นไปมาของ มเหสีอัปสรา . . และแล้ว ปากของนางก็ถูกจับบีบ บังคับให้อ้าออก . . ชานหมากเละๆ แหยะๆ ที่เฒ่าหมอผี ล้วงออกมาจากปากของมัน ถูกยัดลงไป ในปากของดาราราย . หมอกรั๊วะเอานิ้วเหี่ยวๆ ของตัวเอง จิ้มดันให้หมากเข้าไปในปากนางลึกๆ . . อัปสราดารารายให้ขย้อน จะอาเจียน ทำท่าจะพ่นคายชานหมากออกมา . แต่แล้ว นางก็ถูกปิดปากแน่นอีกครั้ง จนหายใจไม่ออก ส่ายหน้าไปมา หายใจ เข้าออกก็ขลุกขลัก ลำบาก . . ในที่สุด... . ดารารายก็ต้องจำใจกลืนชานหมาก นั้นลงไปในลำคอ เพียงเพื่อที่-นางพอจะ หายใจได้สักอึก . . * * * * * * * * .. " ถุ๊ย ! - . ก็แค่เนียะ ..." . . หมอผีถ่มน้ำลายลงข้างๆ ตัวเอง พูดใส่หน้ามเหสีอย่างเย้ยหยัน . แล้วขยับตัว ค่อยๆ ลุกขึ้น . . " ทำเป็นขยะแขยงชานหมาก ของข้า--- . เอ็งมันใจสกปรก ก็ต้องกิน ของสกปรกแบบนี้แหละวะ " . . จากนั้น หมอผี และเหล่าขอทาน ทั้งหมดก็ผละจากไป กลับไปอยู่ที่พัก เดิมของแต่ละคน . -- ไม่สนใจใยดีกับสองนาง . . ทิ้งให้ดารารายนอนสะอื้นกระซิกๆ เกลือกกลิ้งร่างไปมาอยู่กลางลานดิน . สักครู่ นางก็ระเบิดเสียงหัวเราะออก มา ราวกับสะใจตัวเอง . แล้วทันใด ก็ปล่อยร้องไห้โฮเสียงดัง ประหนึ่งสมเพทตัวเองแทน . . ใช่แล้ว--นางกำลังสติแตก เหมือน คนวิกลจริต !! . . นางเหยี่ยนที่นอนแน่นิ่งจากการ ถูกหมัดฮุค หนักน้องๆ บัวขาว ต่อย ตุ้ยเข้าที่ท้อง มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทุกอย่าง . ให้สะท้อนใจด้วยความขมขื่น และ เวทนาเจ้านาย กับตัวมันเอง . . นางฝืนความเจ็บปวด คว้าหาห่อยาที่ตก อยู่ใกล้ๆ มากำไว้ . ค่อยๆ พยายามคืบตัว คลานไปตามพื้น ลานดินที่สกปรกเฉอะแฉะทีละน้อย- ทีละ น้อย พาตัวเองไปถึงตัวเจ้านายของมัน จนได้ . เข้าประคอง ฝืนให้อัปสราดารารายนั่ง พลางปลอบประโลมให้ลุกขึ้น . . " ทูนหัวของบ่าว-- . เรากลับกันเถิดเพคะ " . . ดารารายเอาแต่ร่ำไห้สะอึกสะอื้น ตาลอย มองเหม่อไปข้างหน้าอย่างไร้ จุดหมาย . แต่นางเหยี่ยนก็พยายามฝืนกายเจ้านาย อีกครั้ง ให้ลุกขึ้นยืนจนได้ . . เนื้อตัวอัปสราดารารายมอมแมม สกปรกเลอะเทอะ มีแต่เศษดินเศษโคลน . หากเหมือนนางจะหมดอาลัยตายอยาก ในชีวิตเสียแล้ว จึงไม่ใส่ใจไยดีที่จะปัด เช็ดออก . . รับผ้าซิ่นผืนเก่าจากนางบ่าว มาคลุม ที่ศีรษะอย่างเลื่อนลอย และยอมให้มัน ประคองเดิน พากันออกมาจากโรงเรือน เชลยสงครามทั้งนาย และบ่าว อย่างสุด แสนอเนจอนาถใจ . . นางเหยี่ยนเองก็ไม่พูดอะไรสักคำ รีบพาดารารายออกห่างจากบริเวณนั้น โดยไม่หันหลังกลับไปมองโรงเรือน เชลยสงครามอีก แม้แต่น้อย . . . * * * * * * * * . . . " เมื่อหันเห สู่เดรัจฉาน มารวิชา . ทั้งกายา แลอารมณ์ บ่มความชั่ว . แลกชีวิต กับมัน ยอมพันพัว . และวันหนึ่ง ที่เกลือกกลั้ว พาตัวตาย " . . . ค่ำนั้น-- . นางบ่าวผู้ภักดีจับเจ้านายทูนหัว ของตนลงสรงให้เอง . ปิดประตูหน้าตำหนัก ขัดลั่นดาน จากด้านในอย่างแน่นหนา . . เหยี่ยนบรรจงใช้ขมิ้น และมะขามเปียก ทั้งฝัก ขัดวรกายอัปสราดารารายครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนผิวพรรณของมเหสีดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้นอย่างถนัดตา . . ดารารายที่ยังเหม่อลอย เหมือนจะเริ่ม ผ่อนคลาย กลับคืนสติ . แอบชำเลืองมองดูนังเหยี่ยน ที่ก้มหน้า ก้มตาประโคมเครื่องสำอางบำรุงผิวพรรณ และความงามให้ตน ก็ให้นึกเอ็นดูมัน อย่าง สำนึกในการกระทำนั้น . . อัปสราค่อยๆ เอื้อมมือตนจับมือของ นางเหยี่ยน เอามาแนบที่แก้มตัวเองอย่าง นุ่มนวล . รำพันว่า . . " เหยี่ยนเอ๊ย -- . ข้าต้องขอบใจเอ็งเหลือเกิน " . . ทรงสะอื้นเบาๆ . . " เอ็งช่างดีต่อข้านัก . ไม่มีใครรักข้า-- . เท่าเอ็งอีกแล้ว " . . นางกำนัลเหยี่ยนตื้นตันจนน้ำตาคลอ กล่าวกับเจ้านายด้วยความรัก และบูชา . . " ทูนหัวของบ่าว-- . ชีวิตนี้ บ่าวก็ตายแทนพระองค์ได้เพคะ " . . ดารารายกอดนางบ่าวสาวใช้ ซบหน้า กับอกของมัน ราวลูกน้อยซบอกอุ่นของมารดา . พลางกันแสงสะอื้นอย่างซาบซึ้ง . . * * * * * * . . . ทรงภูษาเสร็จ- . . ที่หน้าคันฉ่อง ดารารายเรียกหา น้ำปรุงหอม . . " ช่วยหยิบขวดชาแนล นัมเบอร์ไฟว์ จากเมืองวิลาศให้ข้าที " . . " ไม่-เพคะ " . . เหยี่ยนส่ายหน้า . . " คืนนี้ พระมเหสีของบ่าวจะต้องเข้าเฝ้า ถวายงานรับใช้องค์อนันตราช . พระองค์จะต้องทำให้เจ้าชายอนันตราช ยกเลิกงานอภิเษกของวันพรุ่ง-มะรืนนี้ให้จง ได้ . บ่าวจึงขอให้ทูนหัวใช้เซรั่ม- นัำปรุงหอม ที่ท่านหมอกรั๊วะทำมาให้ . -- แทนน้ำปรุงเดิมเพคะ " . . " ไหน -- . ขอข้าดูก่อน " . . เหยี่ยนส่งน้ำมันหอมในขวดขนาดกลางๆ ให้มเหสีอัปสราดาราราย . . " อุ๊ย-- . นี่เหรอ เซรั่ม-ที่แกว่า ? " . . เห็นสภาพขวดที่ไม่ผ่าน อย. -ฉลากโชว์ แบรนด์เนมก็ไม่มี ดารารายถึงกับอุทาน . - นางรับไม่ได้ ! . . " ขวดที่ใส่มา --- . ดูหน้าตา ยังกะเป็นขวดน้ำปลาขวดเล็ก ที่คนเขาใช้หมด แล้วโยนทิ้งเลย- อ่า . นี่มันคงไปเก็บมาจากกองขยะแถวๆ โรงเรือน เชลยสงครามนั้นแน่ๆ . ล้างบ้างป่าว -ก็ไม่รู้ . ยี้ !! --ไม่เอาหรอก . แกเอาน้ำหอมจากเมืองวิลาศมาให้ข้าดีกว่า " . . " พระมเหสีเพคะ . ทรงอย่าลืมซิว่า -- เรายอมทำทุกอย่างกันมา สารพัด และพ่อหมอกรั๊วะ แกก็ทุ่มกับงานนี้ให้เรา จนสุดตัว " . . ว่าแล้ว นางเหยี่ยนก็รีบยกขวดยาเสน่ห์มาถือ ไว้ที่อกข้างซ้าย พลางเอียงคอ ทำท่าพรรณา อธิบายสรรพคุณ และเชิญชวนให้ดารารายฟัง . ดูเก๋ไก๋--ไม่แพ้บรรดาเนตไอดอล ที่ต่างดาหน้า แห่กันมาโฆษณาสินค้าทางโลกโซเชี่ยล . . " ยาเสน่ห์นี้-- . ขอรับประกันว่าเป็นของแท้เพคะ . ตัวยามีส่วนผสมที่ทำมาจากน้ำลายของ วิญญาณวัวป่าบ้า 75 % นำมาหมักกับน้ำหมาก จากปากพ่อหมอกรั๊วะ อีก 25 % นานหนึ่งราตรี . จนออกมาในรูปของผลิตภัณฑ์เซรั่ม-serum เป็นสินค้าเกรด A ที่ทางผู้ผลิตมีความภาคภูมิใจ และมั่นใจ ให้คำรับรองสรรพคุณ . แต่เดี๋ยวก่อน--- . หากสั่งซื้อ และใช้แล้วไม่พอใจ ก็สามารถ ติดต่อส่งคืนกลับได้ ภายในสามวัน . ทางผู้ผลิตยินดีคืนทรัพย์กลับคืนให้ เต็มตาม ราคาที่ซื้อไป - เพคะ " . . ดารารายทำเฉย . ไม่ใส่ใจการรีวิวเซรั่ม -น้ำหอมเสน่ห์ แบรนด์ หมอกรั๊วะของนางบ่าว . . เหยี่ยนให้อ่อนใจกับพระทัยสุดรั้นของเจ้านาย ตน แต่นางก็พยายามทูลวิงวอน ขอร้องไม่เลิก . . " ทรงทำต่ออีกนิด ตามที่บ่าวขอ . -- เถิดเพคะ พระมเหสี " . . หากอัปสราดารายก็ยังไม่ไยดีต่อนาง ทรง เอาแต่มององค์เองในคันฉ่อง . แตะโน่น -แต่งนี่ เรื่อยเปื่อย . . " ตายแระเพคะ " . . จู่ๆ นางเหยี่ยนสะดุ้ง . ยกมือทาบอก ร้องขึ้นมา . . " บ่าวเกือบลืม-- . เราต้องเซ่นไหว้ ให้อาหารวิญญาณ ก่อนเพคะ " . . นางเดินอย่างเร่งรีบ ลงไปที่ครัวของ ตำหนัก ที่อยู่ห้องติดกัน . . แป๊บเดียว-- . ได้ยินเสียงแม่ไก่ตัวหนึ่ง ร้อง ก๊อกกกก-- ดังลั่น . ตามด้วยเสียงตีปีก -- พั่บๆ ๆ ๆ . แล้วเงียบไป . . * * * * * * * . . เหยี่ยนถืออ่างใหญ่กลับเข้ามา เห็นรอย เปื้อนของเลือดไก่ กระเซ็น กระจายเป็นจุดๆ ตามใบหน้าของมัน . . นางบ่าวเทเลือดไก่ และเครื่องในสดๆ อันได้แก่ ตับ ไต ไส้ พุง ทั้งหลาย ใส่ใน ชามดินเผาใบโต แถวๆ นั้น . . อัปสราดารารายยืนกอดอก พิงโต๊ะ คันฉ่อง มองดูมันเงียบๆ . . เห็นนางเหยี่ยนจุดธูปกำใหญ่ ควันคลุ้ง ส่งกลิ่นหอมเอียนๆ ไปทั้งห้อง . . แล้วพนมมือ พูดอะไรไม่รู้ งึมๆ งำๆ และปักธูปทั้งกำลงในหม้อทองเหลืองใบใหญ่ ที่ใส่ดินทรายไว้เต็ม . . ทันใดนั้น.. . ของที่เซ่นผีในชามดินเผา ซึ่งคือเลือด และเครื่องในไก่สด . ก็เริ่มกระดุกกระดิก ขยับได้ เหมือน กำลังถูกอะไรมากิน . . แพร่บเดียว --ทุกอย่างหายเกลี้ยง ! ทั้งเลือด ทั้งเครื่องใน . เหลือแต่ชามเปล่าๆ . . . เหยี่ยนถอนหายใจ เก็บชามผลักซุก ไว้ใต้โต๊ะคันฉ่อง . . " เรียบร้อยเพคะ -- . คราวนี้ เราก็มาทาน้ำหอมของหมอผีกรั๊วะ กัน " . . " อะ-- เอาให้เหมาะเลยแก . อยากทำไรให้ข้า . --- ก็เชิญ ! " . . ดารารายประชด ยอมแพ้มันแระ เพราะรำคาญ . . พอเหยี่ยนเปิดขวด แตะน้ำมันหอมที่ขวด แล้วมาป้าย แตะที่องค์ของอัปสราดาราราย . . ดารารายก็สะดุ้งเฮือก .. . . นางรู้สึกเย็นวาบ ราวถูกราดด้วยน้ำเย็นจัด แล้วบังเกิดความซ่านเสียว จนขนลุกเกรียว . รู้สึกได้ถึงกระแสโลหิต และเลือดลมปราณ ที่กำลังฉีดแผ่ซ่าน แล่นกระจาย ไปทั่วทั้งวรกาย . . ทันใดนั้น นางเหยี่ยนก็ผงะตกใจ . รีบปิดฝา กำขวดน้ำมันหอมไว้แน่น เซถอยหลังหนี จนล้มหงาย . . เพราะนางเห็นมีเงาดำทะมึน . ค่อยๆ ก่อตัว โผล่ขึ้นคร่อมเหนือศีรษะ ของมเหสีอัปสราดาราราย . . กลุ่มเงานั้น เริ่มรวมตัวกัน . . และแล้ว มันก็ทำให้เห็นเป็นรูปร่าง ของผีวัวป่า ตัวบิ๊กจัมโบ้ สุดมหึมา . . มันผงกหัว ส่งเสียงคำรามในลำคอ . . " มออออออออออ ... " . . ดวงตาของมันเป็นสีแดง ลุกโพลงราวกับ ลูกบอลไฟ . ส่ายเขาแหลมยาวโค้งไปมาอย่างบ้าคลั่ง แล้วมันก็ยกขาหน้าทั้งคู่ขึ้นโขก คร่อมตัวของ มเหสี ประหนึ่งวัวเพศผู้กำลังเสพสังวาสตัวเมีย -นั่นเอง - มันกระทำใส่นาง สอง-สามครั้ง . และแล้ว เงาดำนั้น ก็ค่อยๆ เลือน - เลือนหายไป... . . . . " เหยี่ยนนนน.... " . . เสียงดารารายเรียก น้ำเสียงสดใส อย่างคนกำลังอารมณ์ดีที่สุด . . " เป็นอาลาย --หื้อม์ ? . มองหน้าข้าแค่นี้ . --ถึงกับตกตะลึง เชียวหรา ? . . อัปสราดารารายตรัสหยอกล้อบ่าว . ยิ้มให้มัน แล้วสรวลขำอย่างชื่นมื่น . . ภาพของมเหสีในคันฉ่อง และตัวจริงของมเหสี ที่ยืนยิ้มหวานให้ . บัดนี้ ได้เปล่งรังสีเสน่ห์ เป็นออร่า-aura ออกมาอย่างน่ามหัศจรรย์ . . ดวงตาส่งประกายกลอกกลิ้งแพรวพราย ชวนน่าหลงใหล อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน . กลิ่นหอมรัญจวน โชยเรื่อออกมาจากวรกาย ของนาง ชวนให้อยากสูดดม . วาจาที่เคยกระด้างแดกดัน พลันกลับเปลี่ยน เป็นน้ำเสียงออดอ้อน ออเซาะ . . " เหยี่ยน -- . เหยี่ยนจ๋า--- . ช่วยดูให้หน่อยสิจ๊ะ . ข้าสวยพอจะเข้าถวายงาน รับใข้เสด็จ พี่อนันตราชหรือยัง ? " . . แล้วมีเสียงหัวเราะกระซิก เบาๆ ตามมา . . เหยี่ยนขนหัวลุกชันทันที-- . เพราะเสียงนี้ มันเหมือนเสียงหัวเราะของ เด็กสาววัยแรกรุ่น . ไม่ใช่เสียงเดิมๆ ของมเหสีอัปสราดาราราย . มันไม่ใช่- อ่า . . นางเหยี่ยนยอมรับแล้ว ในอิทธิฤทธิ์ของ เวทมนตร์ดำจากอำนาจวิญญาณเดรัจฉาน . เพราะมันเกิดขึ้น ต่อหน้าตัวนางเองตอนนี้ ให้ได้ตระหนักรับรู้ . . . * * * * * * * * * . ขณะที่นายและบ่าว กำลังเตรียมตัว กัน จะออกไปเข้าเฝ้าองค์อนันตราช . เสียงเคาะประตูตำหนักก็ดังขึ้น . . " อุ๊ย-- ใครมา ? " . . ทั้งสองสะดุ้งตกใจ . . " ทรงหลบเข้าหลังวิสูตรก่อนเพคะ เดี๋ยวบ่าวจะออกไปดูเอง " . . ทูลแล้ว เหยี่ยนก็เดินไปถึงประตู แอบมองทางช่องแอบดูเล็กๆ . . พอเห็นว่าเป็นใคร นางก็รีบเปิดให้ และทรุดตัวลงนั่งอย่างรู้งาน . . " บังคมเพคะ - . องค์อนันตราช " . . " ดารารายของข้าอยู่ไหน " . . เจ้าชายอนันตราชตรัสถามอย่่างร้อนรน . ทรงก้าวเดิน ผลักทหารส่องประทีปสองคน ที่ยืนหน้าตนให้พ้นทาง . แล้วเข้ามาประทับยืนในตำหนัก สอดส่าย สายเนตรมองหา . . " ดาราราราย .... . ข้ามาหาเจ้าแล้ว " . . อัปสราดารารายที่หลบอยู่หลังม่านแอบยิ้ม อย่างสมใจ . สุดพึงใจที่เห็นพระอากัปกริยาของสวามี สำแดงอาการคลั่งไคล้ โหยหาตน ต่อหน้า เช่นนี้ . . " เสด็จพี่... . หม่อมฉันอยู่นี่เพคะ " . . นางแหวกวิสูตร ออกมายืนรับแสงวับวาม จากประทีปของตำหนักที่ส่องมากระทบองค์ . พลางโพสท่ายั่วยวน แบบนางงามที่ถูก ประกาศเรียกเข้ารอบสามคนสุดท้าย . . " โอ้- ดาราราย . เจ้าช่างงาม กระไรเยี่ยงนี้ " . . อนันตราชอุทานอย่างตกตะลึง ในรูปโฉมของนาง ณ ตรงหน้า . . " ไยเสด็จพี่ ถึงต้องมาตามหม่อมฉัน ถึงตำหนักเอง . หม่อมฉันก็กำลังจะไปเข้าเฝ้า ถวาย การรับใช้อยู่พอดี เพคะ " . . อนันตราชแทบสำลักอารมณ์เสน่หา ที่อัดอั้น . ทรงตรงเข้ากอดรัดนาง . . " ข้าทนคิดถึงเจ้าไม่ไหว ดาราราย . ข้าถึงต้องให้ทหารวัง ต่างประทีป พาข้ามาหาเจ้าที่นี่- " . . ทรงผลักรุนนางไปที่แท่นบรรทม ทันที . ดารารายจึงแสร้งออดอ้อน ออเซาะ . . " แล้วราตรีนี้ พระองค์จะทรง ประทับบรรทมที่ไหน -ละเพคะ ? " . . " ข้าขออยู่กับเจ้าที่นี่ ข้าจะไม่ห่าง เจ้าไปไหน " . . " เพคะ " . . . เหยี่ยนอมยิ้ม เมื่อเห็นสององค์สำแดง ความรักกันโดยไม่สนใจใครรอบข้าง . . นางหันไปบอกกับทหารวังที่ยืนถือผาง ประทีปคินเผาขนาดใหญ่ . . " พวกเจ้าทั้งสองกลับไปได้แล้ว ข้าจะลั่นดานพระตำหนัก . สองพระองค์จะประทับนิทรา " . . * * * * * * * * * . . ปิดประตูเสร็จ นางบ่าวเหยี่ยนก็รีบ ออกมาจากตำหนัก ด้วยความลิงโลดใจ อย่างสุดๆ . องค์อนัตราชทรงต้องมนตร์ขลังแห่ง เซรั่มมหาเสน่ห์อย่างแน่นอน ถึงขั้นไม่ทรง รอให้อัปสราดารารายไปถวายการปรนนิบัติ รับใช้ถึงตำหนักหลวง อย่างเคย . . กลับทรงเสด็จมาหาเอง . และขอประทับนิทราสวาท ณ ตำหนัก ของอัปสราดารารายเยี่ยงนี้ . ***************************** จบตอนที่ 4 . .................................................................. ** หมายเหตุ : ครั้งนี้เป็นการนำนิยายมาลงบล็อกใหม่อีกครั้ง เขียนลงบล็อกครั้งแรกเมื่อ 7 ตุลาคม 2559 สถิติบันทึกการเข้าอ่าน 1994 ครั้ง ณ 18 ธันวาคม 2561 ** ................................................................................................... |
Huean Piang Din
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |