บล็อก- blog เปรียบเสมือนสมุดไดอารี่เล่มใหญ่ที่สุดของผม
|
|||
นิยาย " ม.ปลาย วุ่นวายรัก " โดย เหมชาติ ทอง -- ( ตอนที่ 6. ) 6. . งานกิจกรรมของโรงเรียนกำหนดกติกา ให้นักเรียนแต่ละคนลงกรีฑาได้ 2 รายการ . และลงกีฬาได้ 2 รายการ เท่านั้น . . สีไหนตุกติก แอบส่งคนลงซ้ำเกิน ลิมิตนี้ จะถูกจับแพ้ foul-ฟาวล์ ในรายการ นั้นๆ ทันที . ทั้งนี้เพื่อกระจายโอกาส เฉลี่ยให้เด็กๆ ทุกคนได้สัมผัสกับกีฬาอย่างทั่วถึง . ไม่ใช่เปิดช่องโหว่ ให้นักเรียนคนเก่ง แย่งลงแข่งซะทุกรายการ . * * * * * * * * * . . โยธาลงกรีฑาประเภทลู่ไปแล้ว กำลังจะ ลงแข่งบาสคู่ชิงกับสีม่วง . . และก็ยังจะลงชิงฟุตบอล ม.ปลายชาย คู่ปิดสนามกับสีม่วงอีกด้วย !! . . สีแดงกับสีม่วง ปีนี้ . เทพเจ้าโอลิมปิก -องค์ใดหนอ? ช่างลิขิตให้ได้ต้องมาท้าทาย -ชาลเล้นจ์ -challenge ฝีมือฝีเท้าในรอบชิง ทั้งบาส - ทั้งบอลเพื่อชิงรางวัลถ้วยรวม . อย่างให้เห็นม่วงเห็นแดง กันไปเลย . . คณะตะวันเพลิง-จริงๆ แล้ว ก็แพ้ ตกรอบ ไปหลายรายการ เช่น เปตอง และ วอลเล่ย์ หรืออื่นๆ ที่ได้เหรียญเงินบ้าง เหรียญทองแดงบ้าง . เขาก็ไม่เอามานับแต้ม เพื่อชิงรางวัล ถ้วยรวมกีฬา . เขาจะนับแต่เหรียญทอง . . ส่วนสีม่วง ตอนนี้มีคะแนนถ้วยรวมนำ สีแดง อยู่หนึ่งรายการ . . ถ้าสีแดงแพ้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง สีม่วงจะก็ได้ครองถ้วยรวมทันที . และถ้าสีแดงชนะหนึ่ง เสมอหนึ่ง ก็ได้แค่ครองถ้วยรวมร่วมกันกับสีม่วง . . ถ้าสีแดงอยากจะครองถ้วยรวมแบบ สง่างาม เพียวๆ -pure หนึ่งเดียวไม่เอี่ยว ใคร . ก็ต้องเอาชนะสีม่วงให้ได้รวดเดียว ทั้ง สองรายการ . คือชนะทั้งบาส และบอล ! . * * * * * * * * * . . สนามบาสในโรงพลศึกษาของ โรงเรียนตอนนี้ คนดู แน่นนนน- - เอี้ยด !!! . . เพราะไม่ใช่จะมีแค่สีแดง และสีม่วง ที่กรีฑาทัพกันมาเชียร์นักกีฬาของตัวเอง สีละฝั่งฟาก ของคอร์ตสนาม . รัวกลอง ร้องเพลงเชียร์ และโบกธงสี เชียร์กันปลิวไสว . คณะสีอื่นๆ ที่แม้สีตนตกรอบไปแล้ว ไม่ ได้เข้าชิง ก็ยังแห่กันเข้ามาดูบาสแมทช์นี้ ด้วย . . บาสเก็ตบอลเป็นกีฬาโปรดของ เด็กๆ ทุกคน . มันเป็นกีฬาที่มีชีวิตชีวา และมีพลัง มากๆ มีการเคลื่อนไหวอย่างว่องไวจน คนดูไม่อาจพลาดสายตา เพราะจะมีการ ช่วงชิง ทำแต้มกันตลอด ทุกวินาที . * * * * * * * * * . . " เอียด - มารองหมานไอ่โยหน่อย " . . เจี๊ยบมีอาการเอ็กไซต์เต็ด-excited จัด อีกแล้ว . เธอกลัวจะไม่ชนะสีม่วง จนต้องยกมือ ไหว้ท่วมหัว บนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์ -สิทธิ์ . รวมถึงเรียกเอียดให้มาประเดิมอวยพร ให้โยธา เพื่อจะได้โชคดี และมีชัยชนะ . . " อะไรเหรอ -รองหมาน ? " . . สาวใต้รุ่นใหม่อย่างเอียด งงมาก กับคำเหนือคำนี้ . ไม่เคยได้ยินจริงๆ . . " หมาน แปลว่าโชคดี . - เฮง-เฮง-เฮง " . . พงษ์ -ที่ก็ลงเล่นด้วยรีบอธิบาย ให้เอียดเข้าใจอย่างเร็ว . . " เอียดโจ้ยปั๋นปอนหื้อไอ่โยกำ " . . อธิบายแล้ว พงษ์ก็เร่งเอียดแทนเจี๊ยบ บอกให้ช่วยปันพรให้โยธาสักหน่อย . . " อุย-- " . . เอียดอุทาน . ปันพร คือการให้พร ก็เห็นแต่คนรุ่นอุ๊ย-ปู่ย่า -ตายาย . หรือรุ่นหม่อน -ทวด ทำกันนะ- เรื่องนี้ . . " เราไม่ใช่คนเฒ่าคนแก่-นะ . - จะได้ทำยังงั้น " . . โยธาอมยิ้ม เมื่อเห็นบุษบันนิ่วหน้า โวยวาย ว่ามันสมควรหรือ . . เจี๊ยบจึงบอกเหตุผล ด้วยเสียงดัง ฟังชัด . . " เอียดทำเหอะ-- . ตัวรู้มั้ย โยมันบอกว่า ที่มันวิ่งชนะอ้ายหนึ่ง ได้ ก็เพราะมันได้ยินเสียงเอียดเชียร์มัน . มันก่าใจ๋ขึ้น - ล่นโวยเหีย . -- จนได้ที่ 1 " . . โยธาตกใจ ! เจี๊ยบพูดเรื่องงี้ ตรงนี้ ได้ไง ! . -- รีบหลบตาเอียด . อายมาก ที่เจี๊ยบเอาเรื่องที่ตนพูดเล่นๆ กับพงษ์ และเดย์ มาเล่าประกาศให้เอียดฟัง -ซะจริงจังแบบนี้ . . เอียดมองโยธาที่ยืนก้มหน้า ตามองพื้น สนามบาส เอาแต่เขี่ยเท้าเล่นไปมา . แล้วเดี๋ยวเดียว โยธาก็แอบชำเลืองมอง มาที่เธอ . พอพบว่า เอียดก็กำลังจ้องมองเขาอยู่ โยธาหน้าแดง รีบก้มหน้า หลบสายตาเธอ อีกครั้ง . . เจี๊ยบไม่รับรู้ ว่าใครจะอายใคร เรื่องไร -ยังไงตอนนี้ เธอมุ่งแต่เรื่องต้องเอาชนะ สีม่วงให้ได้อย่างเดียว . . " เร็วเอียด - ขะใจ๋ปั๋นปอน . -- เดียวจะแข่งแระ " . . ภาษาเชียงใหม่ ในชีวิตประจำวันของเด็ก วัยรุ่นจะมีทั้งภาษาเหนือ ผสมปนๆ กับภาษา กลาง . คล้ายๆ กับที่เราได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ใน ละครโทรทัศน์ จึงฟังพอเข้าใจได้ไม่ยาก . ไม่เหมือนภาษาเหนือจริงๆ ของจังหวัดอื่น เช่น แพร่ น่าน ฯลฯ ที่ยังสตรอง ของแท้กว่า เป็นกำเมียงล้อนๆ (= คำเหนือล้วนๆ ไม่มีปน) ที่บางที ฟังแล้วก็มีงง เพราะเดาความหมายไม่ ออก . . บุษบันไม่อยากขัดใจเพื่อนๆ จึงต้องตามน้ำ ยอมเป็นแม่หมอ ประทับทรงองค์ลง . อวยพรให้กับโยธา และทีมบาสสีแดง . . " โย - . ตัวเองกับเพื่อนๆ ต้องชนะสีม่วงนะ ห้ามแพ้โดยเด็ดขาด . -- พวกเราจะคอยเชียร์ " . . พงษ์ร้องสาธุ แกล้งเอาสองมือลูบศีรษะ จากหน้าผมไปถึงง่อน ( ท้ายทอย ) . . ส่วนโยธายิ้มอย่างดีใจ ยกสองมือตีเปี๊ยะ กับมือเอียดเบาๆ แบบให้สัญญา รับปาก . . " ขอบคุณมากเอียด-- . เอียดคอยเชียร์โยดังๆ น้า . โยกับพวก จะเล่นให้สุดฝีมือเลย " . . . แล้วทันใด -- . กรรมการก็เป่านกหวีดถี่ๆ เรียกนักกีฬาให้เข้าสู่สนาม . * * * * * * * * * . . ท่ามกลางเสียงนกหวีด เสียงโห่ เชียร์ เสียงรัวกลอง และเสียงแครี่ ลูกบาส ดังกระทบพื้นเป็นจังหวะ . กับเสียงเอี๊ยดอ๊าด ของพื้นรองเท้าผ้าใบ ที่นักกีฬาทุกคนสวม เสียดสีกับพื้นซีเมนต์ ของสนาม . --- ดังอย่างนี้ ตลอด . . มันปนกันสุดมั่ว - แสบแก้วหู เพราะฟัง ไม่ได้ศัพท์ . . * * * * * * * * * . . เกวลินยืนดูแข่งบาสอยู่ในกลุ่มคณะ โสมทรงกลด สีเหลือง ที่ข้างสนาม ฝั่ง ตรงข้ามเยื้องๆ กับคณะสีแดง . . แอ้มรู้สึกใจวูบลง เมื่อเห็นโยธายกมือ ตีแปะกับมือของบุษบัน . . ไม่รู้หรอกนะ ว่ากำลังสัญญากันเรื่อง อะไร . แต่แอ้มรู้ ว่านั่นคือโยธากำลังเบิกบานใจ และมีความสุข . . ยิ่งนึก แอ้มก็ยิ่งน้อยใจ . เมื่อเช้า เธอเองก็ถือป้ายให้คณะสีเหลือง แต่งเป็นชุดเลียนแบบชุดเทวนารี ที่พี่ฝ้าย- สุภาพร มะลิลา -เอ๊ย มะลิซ้อน มิสแกรนด์ ไทยแลนด์แต่ง ตอนไปประกวดที่ลาสเวกัส . . โยธาที่ยืนถือธง สแตนด์บายเพื่อรอจะ ออกขบวน ไม่ไกลกันกับสีเหลือง . หันมามองแอ้มนิดหนึ่ง กระตุกยิ้มให้แอ้ม ทีนึง . แล้วหันหน้ากลับไป . . ก็แค่นั้น- . แอ้มนั้นให้ใจหาย -น้อยใจนัก เยื่อใยที่โยมีให้เธอ มีเพียงเท่านี้เองหรือ ? . . จนเมื่อขบวนเริ่มเคลื่อนตัว ทยอยเดิน พาเหรดแถวหน้ากระดานเรียงสี่ ออกสู่ถนน ทีละสี ตามลำดับ . แดง เหลือง เขียว ม่วง และ ฟ้า . . แอ้มก็ไม่มีโอกาสได้เห็นโยธาอีกเลย เพราะถูกความยาวของแต่ละขบวนสีบดบัง สายตา . . ตอนพาเหรดเข้าสู่สนามของโรงเรียน เพื่อทำพิธีเปิด เธอทันเห็นโยธายืนถือธง อยู่กลางสนาม แต่เขาก็ไม่ได้มองมา . แอ้มจึงเป็นฝ่ายแอบมองข้างเดียว เห็นใบหน้าหล่อของโยธา แอ้มก็ใจชาหนึบ แล้วเปลี่ยนเป็นเต้นรัว . . แต่ครั้นพอสีของแอ้มต้องไปตั้งแถวอยู่ ด้านข้าง ที่ห่างออกไป และถูกคณะสีเขียว ยืนคั่นไว้ เธอก็ไม่สามารถมองเห็นโยธาได้ . . จนเริ่มขึ้นอัฒจันทร์เชียร์ ทุกคนต่าง ก็วุ่นวายกับสีของตัวเองอย่างสุดยุ่งขิง . แอ้มก็ยังพอใช้เวลาช่วงนี้ แอบมองหา โยธา เห็นอยู่กับเพื่อนตรงนั้น -ตรงโน้น แว๊บ-แว๊บ . แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันอย่าง จังๆ . . . แต่ตอนนี้ เธอเห็นโยธาวิ่งแครี่บาส หนีสีม่วง ผ่านหน้าที่เธอยืนเชียร์ไปอย่าง คล่องแคล่ว . เขาไม่เห็นแอ้มหรอก แต่แอ้มแอบส่ง ใจเชียร์ให้เขาหมดทั้งหัวใจ . . พอโยธาลอยตัวใต้แป้น หย่อนลูกบาส ลงห่วงอย่างสวยงาม . แอ้มก็ปรบมือให้ --สุดปลื้มปริ่ม . ปรบมือให้คนเก่ง ที่เธอรู้สึกพิเศษคนนี้ อย่างดีใจ . ลืมความหมองเศร้าไปได้ชั่วขณะ . . * * * * * * * * * . . บอกเลย ว่าบาสสูสี-มวกๆ และไล่บี้คะแนนกัน จนมันหยด ติ๋งๆ เป็นหมูกระทะเกาหลีใต้ . . เหลืออีกเพียงไม่ถึง 1 นาที จะหมดเวลา การแข่งขัน สีม่วงนำสีแดง ด้วยสกอร์ . 71 - 68 . . คะแนนโดดเด่นของสีม่วงนั้น เพิ่งได้ มาจากการชู้ตนอกเขต 3 คะแนน ของหนึ่ง -สงคราม เมื่อสักครู่ . เรียกเสียงกรี๊ดจากกองเชียร์พยับเมฆา สนั่น ลั่นไปสามโลก . จนโรงพละ และสนามบาสสะเทือนไป 7.9 แมกนิจูด . * * * * * * * * * . . โยธารับลูกจากเพื่อน - ส่งต่อให้พงษ์ . พยักหน้าส่งซิกฯ กัน . . แล้วโยธาก็กระโดดตัวลอย ขึ้นรับลูกบาส ที่พงษ์โยนคืนกลับมาให้อย่างเร็ว . รับแล้ว โยธาตัดสินใจชู้ตที่นอกเส้น 3 คะแนนทันที . . จังหวะที่ชูัตออกไป สงครามรีบเข้ามา กระแทก กันท่า จึงโดนเป่านกหวีด จับฟาวล์ . . และพระเจ้าช่วย ! --กล้วย เผือก และหัว ไชเท้าทอด . --- จะว่าโม้อีกปะ ? . . ลูกลงห่วงด้วยอ่าาาา--- . . สีแดงทั้งกองเชียร์หวีดร้อง กรี๊ด- กรี๊ด-กรี๊ด -- ไม่หยุด . พากันกระโดด ดิ้นเร่าๆ ด้วยความ สะใจ ราวกับเป็นผีบ้า . . ( ผีบ้า ภาษาเหนือก็คือ อาการบ้า เสียสติ ไม่เกี่ยวกับปีศาจ ) . . สีม่วง-ที่ทั้งงง ทั้งช็อก มองสีแดง-ที่กำลังดีใจเนื้อเต้นต่อหน้า . -- ก็ให้นึกหมั่นไส้ . . เอียงหน้ามาซุบซิบ -ซูบซาบ นินทา - เล่าขวัญกันว่า . ดุ๊ -- . ผ่อแล่ -- เต้นแร้งเต้นกา อย่างผีปอบเข้า ผีกะลงเหีย . เป๋นดีโทรศัพท์ ฮ้องหื้อรถโรงยาสวนปุง มาฮับหมู่สีแดง . ไปรักษาผีบ้า -แต๊ะ ! . . ( โรงยาสวนปุง ก็คือโรงพยาบาลสวนปรุง ของเชียงใหม่ . เป็นโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยโรคจิต แบบ โรงพยาบาลศรีธัญญา-นั่นเอง ) . . เล่าอย่างนี้ อาจมีบางท่านไม่เข้าใจ แต่ใครเคยเรียนโรงเรียนมัธยม และดูบาส เวลาแข่งกีฬาสี จะเข้าใจใสวิ้ง . -- เพราะมันมันส์ สุดๆ จริงๆ . . คือว่า ตอนนี้ สกอร์ขึ้น 71-71 เท่ากันแล้ว อ่า- . . แต่สีแดงกำลังจะได้ลุ้นลูกโทษอีก 1 แก่น ( 1 ลูก) จากฝีมือชุ้ตของโยธา . . อีกทั้ง เวลาในสนาม ก็เหลืออีกเพียง . 7 วิ- . . จึงช่วยไม่ได้ ที่สีแดงจะลิงโลด เต้นลิง เต้นค่างกัน . ขณะที่สีม่วงพากันปั่นป่วน ระทึก -น้ำลายฝืด จนหนืดติดคอ . * * * * * * * * . . โยธายืนอยู่ที่ตำแหน่งชู้ต มองไป เห็นบุษบันกำลังมองมา และตะโกนเชียร์ เขาด้วยความตื่นเต้น . ก็รีบยิ้ม พยักหน้าให้เอียด กับบอกตัวเอง ว่า ทำใจให้สบายๆ ไม่ต้องรีบมาก . . เจี๊ยบรีบนำกองเชียร์ ร้องเชียร์เสียงดัง และทุบกลองเป็นจังหวะ . . " สีแดง-สุดหล่อ " . . น้องๆ ก็รับว่า . . "ชู้ตลง-ชู้ตลง " . . " สีแดง -สุดหล่อ " . "ชู้ตลง-ชู้ตลง " . . ร้องสู้กับสีม่วง ที่ก็ร้องเพลงเดียวกันนี้ ว่า . . " สีแดง-ตาเหล่ " . " ไม่ลง-ไม่ลง " . . " สีแดง-ตาเหล่ " . " ไม่ลง-ไม่ลง " . . โยธาตั้งสมาธิ - ยิ้มน้อยๆ . แล้วชู้ตลูกโทษออกไป . . " สวบ ! " . . คือเสียงลูกบาส ผ่านตะกร้าบาสเก็ต ที่ถักทอด้วยเส้นเอ็นขนาดกลางๆ ลงไป . . เสียงนี้ ไพเราะเหลือเกินสำหรับสีแดง ที่พอลูกลง ก็ตกตะลึง เงียบสนิทก่อน . แล้วหวีดร้อง กรี๊ดดดดด---สุดเสียง เมื่อ อ. สุวิทย์เป่านกหวีด ปรี๊ดดด-ยาว-- หมดเวลาการแข่งขัน . . ทำร้ายจิตใจสงคราม กับสีม่วง ที่เสียใจจนกลืนน้ำลาย น้ำตาคลอ . --กับสกอร์ ที่จบที่ . . 72-71 . * * * * * * * * * * . . สงครามแวะมาสัมผัสมือกับ โยธา ที่สนามบาส . . ยิ้มให้ . กล่าวชมรุ่นน้องด้วยน้ำใจนักกีฬา . . " โยเก่งมากๆ -อ้ายยอมฮับฝีมือ เลย " . . โยธารีบค้อมหัวให้อย่างขอบคุณ . . " ขอบคุณคับอ้ายหนึ่ง " . . " เดียวป๊ะกั๋นแฮ่มน่อ บอลชิง" . หนึ่งว่า ว่าเดี๋ยวเจอกันอีกนะ -ฟุตบอล นัดชิง . . " คับ- . เต๋มตี้ นะคับอ้าย " . . สงครามพยักหน้า . แล้วหันไปทางเอียด ที่กำลังจะช่วยกัน กับเจี๊ยบ ยกกระติกน้ำอันใหญ่ จะย้ายไปที่ อัฒจันทร์สนามบอล . . " สนุกไหมเอียด " . . " สนุกค่ะ " . . เอียดก็ฟังๆ อยู่ ที่สงครามมากล่าวชม โยธา ซึ่งทำให้เธอรู้สึกดี ที่ทุกคนแฟร์ๆ ไม่ขี้แพ้ชวนตี-ไรแบบนั้น . . " อ้ายหนึ่งก็เล่นเก่งค่ะ " . . สงครามหัวเราะ . . " เสียดาย อยู่คนละสี ถ้าอยู่สี เดียวกัน มีเอียดคอยเชียร์ อ้ายจะ ต้องชนะแน่ " . . บุษบันแอบเห็นโยธาทำหน้าตึง คอตั้ง ทันที . . พอดีเจี๊ยบก็พูดขึ้นว่า . . " ไปก่อนเจ้า- อ้ายหนึ่ง . จะไปเชียร์เดย์มันแข่งหลีดต่อเจ้า " . . จึงเดินกันออกจากโรงพละ . โยธากับพงษ์รีบแย่งเอียดกับเจี๊ยบ หิ้วกระติกน้ำให้ พากันเดินผ่านปะรำ ศาลาไทย ตัดสนามฟุตบอล ตรงไป ที่อัฒจันทร์ . ที่น้องๆ ม. ต้น พากันวิ่งไปแย่งที่นั่ง .เตรียมแข่งเชียร์กันแล้ว . * * * * * * * * . . " กองเชียร์ และหลีดทุกสี เตรียมพร้อมค่ะ... . เราจะเริ่มแข่ง เพลงที่ 1 อันเป็นเพลงบังคับ . คือ เพลงมาร์ชของโรงเรียน . . ครูจะนับ 3- 4 -ทุกคนพร้อมนะคะ . . 3- ..... . 4 ! " . . พอ อ. ผ่องใส นับ 4 . ทั้งห้าคณะสี ทุกอัฒจันทร์ก็เริ่มร้องเพลง โดยเชียร์เพลงเดียวกัน . เสียงตีกันบ้าง แต่ก็ฟังออก . . เชียร์หลีดเดอร์ทุกสีที่ลงมาหลีดแข่งขัน พร้อมกันหมดกลางสนาม . ต่างประดิษฐ์ท่วงท่านำเชียร์ โชว์กันอย่าง งดงาม . แข่งกันทำท่าหลีดที่พิศดารพันลึก และ แปลกตา สุดจะบรรยาย . . เด็กๆ สมัยนี้เก่งมาก สามารถทำให้ การที่เคยทำแค่ออกมาเต้นเหยงๆ หน้า กองเชียร์ เปลี่ยนเป็นศิลปะการแสดง ไปแล้วอย่างน่าชื่นชม . . เพราะคนดูมองเห็นได้จากผลงาน ถึงความอุตสาหะนั้น ว่าเด็กๆ ต้องฝึกซ้อม กันมาอย่างอดทน มีวินัย ไม่ย่อท้อ . จึงสามารถหลีดโชว์ได้สวยงาม พร้อมเพรียง กันขนาดนั้น . * * * * * * * เดย์ใส่หัวใจเข้าไปในการหลีด . พยายามยิ้มให้ใจสุข ไม่เหลือบดูสีอื่นๆ อีกสี่คณะ . ที่ก็หลีดนำกองเชียร์ของสีตน ด้วยท่วงท่าที่บรรจง . . ไม่งั้น เดย์จะพะวง จนหลีดผิดๆ ถูกๆ อย่างปีที่แล้ว . . ทีเด็ดนึง-ของเดย์ ปีนี้ คือ พอหลีดท่ายกมือ ชูสูงขึ้น . ซึ่งก็จะมีกันทุกสี . . แต่บางท่อน บางจังหวะของเพลง เวลาลากแขนกลับลงมา เดย์จะไม่ให้ ลากแขนลงมาตรงๆ . หากเพิ่มลูกเล่น โดยให้ลากแขน ที่ใส่ถุงมือยาวไว้ ให้สบัดพลิ้ว . รัวถี่ๆ ลงมาอย่างเร็ว จนดูไหวพลิ้ว เหมือนสายน้ำ . . พอทำพร้อมกัน ทั้ง 12 คน . ภาพถุงมือยาวสีขาวที่ยาวเลยข้อศอก รัวสบัดไหวพลิ้ว ตัดกับชุดสีแดงเพลิง . กลายเป็นท่าหลีดที่ดูเตะตามาก จนใครๆ ก็พากันชื่นชอบ . ต่างรอดูจังหวะ ที่หลีดสีแดงจะลากแขน พลิ้วลงมาพร้อมๆ กัน . . หลีดสีอื่น หันมามองหลีด สีแดง อย่างอึ้ง -บวกทึ่ง . อุทานในใจกัน ว่า ไอ้ยะ-- . . แบบเสียดายๆ -ที่นึกอย่างเดย์ ไม่เป็น ก็ท่ามันสวยดีอะ- . แต่จะทำบ้าง ตอนนี้ก็ไม่ทันซะละ ไม่ได้ซักซ้อมกันมา ขืนทำตามไป เดี๋ยวก็มั่ว ทำไม่พร้อมกันแน่ . . พวกครูที่นั่งดูที่ศาลาไทย ยังพูด กันว่า . . " เนียะ-- ผ่อแล่-ๆ . หลีดสีแดง ทำท่า-ม่อกเอี้ยะ " . . แล้วก็ยกแขนพลิ้ว ทำท่าหลีด เลียนแบบให้เพื่อนครูด้วยกันดูอย่าง ชอบใจ . ตรงนั้น ก็หัวเราะครืน พยักเพยิด เห็นดีงาม พูดสนับสนุนว่า . . " แม่นๆ เปิงดีน่อ-- . ผ่อม้วน-ม่วน " . . เจี๊ยบ กับเอียด และพงษ์ อยู่หน้าอัฒจันทร์ . . พงษ์เอาโทรโข่งห้อยคอ ออกไปยืนกำกับการใช้อุปกรณ์ ประกอบการร้องเชียร์ของน้องๆ ตรงลู่วิ่งดินลูกรัง . ที่ตอนนี้-ว่าง เพราะแข่งวิ่งกัน หมดทุกรายการแล้ว . . เอียดนั้น คอยดูน้องๆ ร้องเพลง และคอยยกนิ้วชม . ให้กำลังใจเป็นระยะ . . ส่วนเจี๊ยบนั่งที่ขอบสนาม หน้าอัฒจันทร์ คอยมองไปที่เดย์ กับทีมหลีด . และดูหลีดสีอื่นๆ ไปด้วย อย่างเครียดๆ ราวกับนางพยาบาล เฝ้ามองคนไข้ ในห้อง ICU . เพราะเจี๊ยบเป็นคนจริงจัง จึงห่วง นั่น-นี่ ระแวดระวัง กลัวว่าเดย์จะหลีด แพ้สีอื่นอีก . * * * * * * * * * . . สีอื่น ก็ประมาณนี้ อะนะ เด็กๆ เค้าสู้กันเต็มที่ - . ไม่มีใครยอมใครง่ายๆ หรอก . เพราะนี่คือกีฬาสี ที่ต้องชาลเล้นจ์ -challenge- ท้าพิสูจน์กัน ว่าสีไหนจะ เจ๋งจริง . * * * * * * * * . . บอลคู่ปิด -เตรียมลงสนาม ทันที ที่แข่งหลีดเสร็จ . . โยธา และพงษ์กระโดดฮึบๆ วอร์มร่างกายอยู่ข้างเพื่อนๆ . . เจี๊ยบที่ลงบอลหญิง ม. ปลาย ได้ เหรียญเงินไปแล้ว ตั้งแต่ตอนบ่ายต้นๆ ก็คาดหวังเหรียญทองสุดท้ายจากบอลชาย ม. ปลาย ตอนบ่ายแก่ๆ นี้มาก . . " วุ๊ย - . ฮาเกือบลืม ! ต้องให้เอียดมารองหมาน แฮ๋ม " . . นึกได้ ก็ไปลากดึงเอียดมาเลย . . อาจดูตลก แต่เจี๊ยบเชื่อว่าจริง เพราะเอียด ช่วยเชียร์ จนชนะมาแล้วสองรายการเด็ดๆ . . " โอ๊ย- " . . เอียดร้อง ขำซะใหญ่ . " อะไรกันนักหนา -อะ เจี๊ยบ ? " . . โยธากับพงษ์ก็หัวเราะ เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็พากันขำ คิกคัก . . " หน่า-- " . . เจี๊ยบวิงวอน . . " ปั๋นปอนแฮ๋มกำ-- . บอกให้ชนะๆ นะเอียด " . . เอียดก็สนองนี้ด-need ของเจี๊ยบไปอีกครั้ง . . พงษ์ก็ว่าสาธุอย่างเคย แถมยังบอกว่า . . " เดียวถ้าชนะ จะซื้อคำเปลว มาปิด . หื้อเน่อ " . . " บ้าสิ -- " . . เอียดว่าพงษ์ - ว่าเธอไม่ใช่เจ้าแม่ท่อนซุง ไม้ตะเคียน ที่จะได้เอาแผ่นทองคำเปลวมาติด ให้จนเหลืองเลื่อม . . แต่รีบหลบสายตาของโยธา ที่ทำเป็นเอียง คอ จ้องมองเธอ แล้วอมยิ้มล้อ . -อย่างคนเจ้าชู้ . * * * * * * * * . . สีม่วงนำไปก่อน 1-0 . . คนยิงไม่ใช่สงคราม เป็น ม.4 ที่โหม่ง เข้าประตู ตอนชุลมุนชุลเกกัน . . เรียกเสียงเฮ จากกองเชียร์สีม่วง และตีกลองจังหวะสามช่า รัวอย่างเมามัน . เสียงดังลั่นสนาม . . ดูกองเชียร์มา- ก็ว่ามากพอควร .ทั้งในสนามจริงที่เมืองไทย และจากคลิป การแข่งขันที่ต่างประเทศในยูทูบ-YouTube . ก็ไม่เห็นว่า จะมีกองเชียร์ชาติไหนใน โลกตีจังหวะได้มันส์ รัวเร็ว และเร้าใจเท่า กองเชียร์คนไทย --ที่เชียร์กันในจังหวะ ช่า ช่า ช่า อีกแล้ว . . มีอุปกรณ์ ทั้ง กลอง ฉิ่ง ฉาบ และฉ่าง คอยตี เคาะ ให้รับ และขัดจังหวะกัน . . ตุ่ง ตุ่ง---- ตุ๊ง ตุ๊ง แฉ่ ! . ตุ่ง ตุ่ง--- ตุ๊ง ตุ๊ง แฉ่ ! . ( รัว) ตะลุ้ง - ตะลุ้ง . ตะลุ้ง-- ตุ้ง แฉ่ ! . . . พงษ์ไม่รอช้า ยิงส่งยาว ไปทางหน้าประตูของแดนสีม่วง . ที่มีโยธา และเพื่อนอีกคนรออยู่ แถวๆ นั้น . โยธารับบอลจากเพื่อน และไม่ ล้ำหน้า ลากเกี่ยวหลบสงคราม ที่เข้ามา ชาร์จ หวังสะกัด . . โยธาพลิ้วขาหลบอีกที สงครามเสียหลัก เอง หัวซุนไป . กรรมการไม่เป่าฟาวล์-foul . . จังหวะนี้เอง โยธาได้ที บรรจง เตะบอลโด่ง โค้งยาว ตรงเข้าใส่โกล-goal . . นายทวารของพยับเมฆากระโดดขึ้น หวังปัดบอลให้เป๋ทาง แต่บอลสููงเกือบ เฉียดคาน . เลยมือพลาด วืดลมแทน . ลูกบอลผ่านเข้าประตู ไปตุงตาข่าย ! . . ตะวันเพลิงที่จ๋อยไปในตอนแรก ก็พลัน ส่งเสียงกรี๊ดกันลั่นอัฒจันทร์ . เมื่อบอลที่ถูกนำ 1 : 0 . กลายเป็นตีเสมอได้ 1 ต่อ 1 แล้ว ตอนนี้ . * * * * * * * . . ยังไงก็ตาม หมดเวลา ก็ไม่มีใครยิงประตูกันได้อีก . . จึงต้องตัดสินกัน ด้วยการยิง ลูกโทษ ซึ่งยิ่งมันส์- เร้าใจมากกว่าเดิม . . กองเชียร์ทุกสี พากันลงจากอัฒจันทร์ มานั่ง-ยืนเชียร์การยิงลูกโทษ ตรงขอบ สนามกันเลย . . เริ่มด้วยสีแดง -ที่ได้รับเสียงเชียร์ .และเสียงแช่ง ไปพร้อมๆ กัน . . " สีแดง สุดหล่อ . ชู้ตเข้า - ชู้ตเข้า " . . " สีแดง ตาเหล่ . ไม่เข้า ไม่เข้า " . . โยธายิงเป็นคนแรก . . นายประตูสีม่วงหลงทาง รับไม่ทัน บอลเข้าประตูไป อย่าง สวยงาม . . สีแดงนำทันที สกอร์ 2 : 1 . . เจี๊ยบกระโดดกอดคอพงษ์ แล้วเอามือมาเปี๊ยะกับเอียด . . สีม่วงส่งสงครามลงมาทันที . . " สีม่วง สุดหล่อ . ชู้ตเข้า - ชู้ตเข้า " . . " สีม่วง ตาเหล่ . ไม่เข้า ไม่เข้า " . . หนึ่งสูดลมหายใจ ...เรียกสมาธิ . แล้วประจงยิงเข้ามุมอย่างสุดแรง . . พระเจ้า ! --- . บอลไปกระทบกับเสาโกล เด้งกลับออกมา . นายประตูตามตะครุบได้ . . สงครามร้อง อ๊า-หน้าเหยเก เอามือกุมหัว ทรุดเข่าลงนั่งกับ สนามด้วยความผิดหวัง . . คณะสีแดงพากันดิ้นเร่าๆ ด้วยความดีใจสุดขีด เด็กๆ รู้สึกฟิน จัด กับสารเอ็นดอร์ฟิน-endorphine ที่ร่างกายหลั่งออกมา ราวกับท่อแตก . . โยธาถูกเพื่อนๆ กอดรัดคอด้วย ความดีใจ และหมั่นเขี้ยว . . ไชโย ! - . สีแดงได้ถ้วยบอลแล้วปีนี้ และก็จะได้ถ้วยรวมด้วย . อย่างแน่นอน . . " เอียด- . ดีใจไหม๊ ? " . . โยธาที่ยังถูกเพื่อนเหนี่ยวคอไว้ พยายามฝืนคอ หันมาถามบุษบัน . หน้าคนถาม-งี้บาน เป็นพัดบ่อสร้าง . . " ดีใจ " . . เอียดยิ้มให้เขา พยักหน้า . แล้วยกนิ้วโป้งให้ . . " เก่งจังเลยโย-- " . . โยธายิ้มหวาน เหมือนเด็ก หลงคำชม . . * * * * * * * . . เดย์หน้าจืดลง เมื่อโรงเรียน ประกาศผลว่าได้รองหลีด . แพ้สีฟ้าอีกปี . . ส่วนพงษ์ กับเจี๊ยบ หายเหนื่อย เป็นปลิดทิ้ง ที่กองเชียร์สีแดงได้ รางวัลกองเชียร์ชนะเลิศ . . และตะวันเพลิงก็ยังได้ครองถ้วย น้ำใจนักกีฬา หรือ spirit of sportsman ร่วมกับสีม่วง และสีเขียวด้วย . . เดย์วิ่งไปรับถ้วยสปิริตฯ พร้อมกับ ตัวแทนจากอีกสองสี . . เด็กสามคน ช่วยกันยกถ้วยที่หนัก มากๆ หันกลับมา . ชูให้แถวของกองเชียร์สีแดงดู เด็กๆ สีแดง ก็โห่- ฮิ้ว ต้อนรับถ้วย . . ยกหันไปชูให้สีม่วงเห็น ทางนั้นก็ โห่-ฮิ้ว- กันอีก . . จากนั้น ช่วยกันยกถ้วย พาไปส่ง ที่หน้าแถวของคณะมรกตมณี-สีเขียว . ที่ปีนี้ ยังไม่ได้ถ้วยรวมอะไรกะเขา เลย ซักกะใบ . ยกถ้วย ชูให้เด็กๆ สีเขียวดู ก็มีเสียงจากทุกคณะสี ช่วยกันโห่ฮิ้ว ร่วมให้กำลังใจสีเขียวดังสนั่นสนาม . แล้วตัวแทนสีม่วง และเดย์-สีแดง ก็วิ่งกลับไปที่สีตัวเอง . มอบถ้วยสปิริตฯ ให้สีเขียวถือครอง ไว้เลย . . เล่นเอาคุณครูหลายท่าน ที่นั่งดูในปะรำอาคารทรงไทย พากัน น้ำตาคลอ . ซาบซึ้ง และปลาบปลื้ม ที่ได้เห็น เด็กๆ แสดงน้ำใจเสียสละให้แก่กัน . * * * * * * * * * . . บุษบันยืนเข้าแถวรวมกับเพื่อนๆ ปรบมือแสดงความยินดีกับสีตัวเอง . และสีต่างๆ . . แต่เธอ ก็ยังคงครุ่นคิด ถึงเหตุการณ์ ที่เพิ่งผ่านมากับตัวเอง เมื่อกี้ ไม่หาย-- . . เอียดปลีกตัวจากกองเชียร์ เดินไปล้างหน้า ที่ตู้กดน้ำเย็นของ โรงเรียน . . กำลังก้มล้างหน้า แอ้มก็เดิน เข้ามาหา . . " อ้าว- แอ้ม " . . " เอียด -- . แอ้มขอคุยด้วยหน่อยนะ " . . บุษบันเดินตามเกวลินไปที่ โต๊ะม้าหิน ที่ลานพักผ่อนหน้า หอประชุม - ใกล้ๆ . . เกวลินนั่งเหม่ออยู่พักนึง ก็ตัดสินใจพูด แบบไม่ยอมมองหน้า บุษบัน . . " แอ้มฝากเอียดดูแลโยด้วย " . . " ฝากดูแลยังไงเหรอแอ้ม " . . เอียดถามย้อนเลย . . " ก็- โยเค้าชอบเอียดหนิ " . . " พูดอย่างนี้ แอ้มพูดผิดนะ " . . เอียดชักเสียงเข้ม จนแอ้ม ต้องหันมามอง . . " เอียดมาเรียน ไม่ได้คิดจะ มาหาแฟน . เอียดมีคนรอบตัว ที่ชอบเอียด เกลียดเอียด หรือเค้าเฉยๆ กับเอียด เอียดก็ต้องอยู่กับสังคมนี้ อยู่กับ ทุกคนรอบๆ ตัวเอียด ให้ได้ . ไม่งั้น - เอียดจะเรียนไม่จบ " . . เกวลินนิ่ง . เสไปมองเหม่ออีก . . " แม่ของเอียดสอนเอียดเสมอ การเรียนต้องมาก่อน ห้ามคิดเรื่องอื่น " . . " แต่โยเค้าชอบเอียดมากๆ นะ " . . " โยชอบ - เอียดคงต้องขอบคุณโย มันดีกว่า ถ้าโยจะเกลียดเอียด . เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะทำให้เรา มาโรงเรียนอย่างไม่มีความสุขกันพอดี . แอ้มก็ดูเองละกัน ว่าเอียดทำตัว ยังไง กับเรื่องนี้ " . . " แอ้มก็ว่า เอียดวางตัวดี " . . เกวลินพ้อ . เธอรู้สึกว่า โยธาเปลี่ยนไป เมื่อ เอียดมาเรียนที่นี่ . . " แต่โย - . - โยทำให้แอ้มเสียใจ " . . " คนเราทุกคนมีหัวใจ ก็ย่อมมี หวั่นไหวบ้าง กับอะไรที่มากระทบน่ะ " . . " ใช่ -- " . . เกวลินพยักหน้า . . " แอ้มคงอ่อนแอ ... . ไม่เข้มแข็งอย่างเอียด " . . " เอียดก็ไม่ใช่จะเป็นคนเข้มแข็ง หรอกแอ้ม แค่ว่า ใครคิดไงกับเอียด เอียดก็ไม่โวยวาย หรือต่อต้าน . ขอเป็นกลางๆ กับทุกคน และก็ ไม่ได้ผูกพันกับใคร เพราะเอียดเชื่อแม่ ไม่อยากให้แม่ผิดหวัง . เอียดจึงเป็น- อย่างเนียะ อย่างที่ แอ้มเห็นอยู่ทุกวัน " . . แอ้มหันมามองบุษบัน พลางฝืน ยิ้มเศร้าๆ . จะโทษใครได้ล่ะ -- เรื่องนี้ . . " เอียด - แอ้มขอโทษนะ . แอ้มรู้แระ - . ว่าโยแอบชอบเอียด สนใจเอียดเอง " . . บุษบันนิ่ง . . นี่เกวลินกำลังหมายถึงว่า ที่ผ่านๆ มา เธอคิดว่า บุษบันเป็นฝ่ายทอดสะพาน ใข้เสน่ห์ ดึงโยธาให้มาตกหลุมรัก . ---ใช่ไหม ? . . " แอ้มจะไม่คิดไรกับโยแล้ว ต่อไป นี้--- . ถ้าโยจะเดินหน้าชอบเอียด แอ้มก็จะ ไม่ขวาง . ไม่อยากให้โยไม่สบายใจ " . . เอียดกำลังอึ้ง ตอนเกวลินชิง ลุกขึ้น . . " มาพูดอะไรก็ไม่รู้-ให้เอียดฟัง . แต่ขอบคุณนะ ถ้าเอียดไม่โกรธ " . . " ไม่โกรธค่ะแอ้ม . ดีด้วยซ้ำ ที่แอ้มพูดออกมา . ไม่งั้น ก็คาใจ " . . เอียดตอบตรงๆ . . เกวลินอึ้งบ้าง . แล้วพลัน-กลายเป็นคนที่เข้าใจอะไร ทุกอย่างได้ . เธอเอื้อมมือมาแตะมือบุษบันเบาๆ . . " ขอบคุณเอียดค่ะ " . . พูดอีกว่า . . " อือ - . โยเค้าขี้อ้อน ขี้งอน . คงได้ป่วนเอียดต่อ - ไม่จบ " . . เอียดหัวเราะ นึกในใจว่า ใช่เลย- พุดถูกแล้ว . แต่ต้องใจไหว วูบวาบเมื่อเกวลิน พูดต่อว่า . . " ---- แต่แอ้มว่า . คงเพราะโยเค้ารักเอียด จริงๆ " . . * * * * * * *** จบตอนที่ 6 . *** ......................................................................................... . หมายเหตุ : นำนิยายมาลงในบล็อกใหม่อีกครั้ง . เขียนครั้งแรก 15 พฤศจิกายน 2559 .บันทึกสถิติการเข้าอ่าน 1242 ครั้ง ณ 17 พฤศจิกาบน 2561 .......................................................................................... |
Huean Piang Din
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?] Group Blog
All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |