BlogGang.com : : scimovie : อยากให้ลูกเป็น "ดารา-นักร้อง" ควรฟังทางนี้

อยากให้ลูกเป็น "ดารา-นักร้อง" ควรฟังทางนี้

อยากให้ลูกเป็น "ดารา-นักร้อง" ควรฟังทางนี้

ณ วันนี้ไม่ว่าจะหันซ้ายมองขวาก็เจอแต่การประกวดแข่งขัน โดยเฉพาะเวทีของเด็กๆ ที่นับวันจะมีให้เห็นกันจนเกร่อ กลายเป็นวัฒนธรรมของพ่อแม่ที่ต้องพาลูกตะลอนแข่งขันตามเวทีต่าง ๆ เพื่อก้าวสู่วงการบันเทิง จนบางครั้งไม่แน่ใจว่าเป็นความฝันของลูก หรือเป็นความต้องการของคุณพ่อคุณแม่กันแน่

กับเรื่องนี้ "พี่แหม่ม-พัชริดา วัฒนา" กูรูด้านเพลงของเมืองไทย อดีตนักร้องวง สาว สาว สาว ซึ่งปัจจุบันเป็นครูสอนร้องเพลง และ Senior Executive Officer ฝ่ายพัฒนาศิลปิน ของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ขอเปิดประเด็นในงานเปิดตัวหนังสือการ์ตูนเรื่อง Audition ฉันจะเป็นดาว "นักร้อง" ด้วยการสะท้อนมุมมองว่า ปัจจุบัน มีคุณพ่อคุณแม่ที่แสดงตัวเป็นเจ๊ดันจำนวนไม่น้อย อย่างที่ทราบกันดีว่า บางครั้งไม่รู้ว่าเป็นความฝันจริงๆ ของลูกหรือเป็นการยัดเยียดจากผู้ใหญ่ที่ทำให้ความฝันของเด็กๆ พองโต จนกลายเป็นความใฝ่ฝันของชีวิตที่ตั้งเป้าหมายไว้กับโอกาสในการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

"การเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ซึ่งมันต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างทั้งความสามารถที่โดดเด่น ความพร้อมของร่างกาย และที่สำคัญคือการรับโอกาสในช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงไม่แปลกที่เด็ก และผู้ปกครองสมัยนี้จะขวนขวายหาโอกาสและหนทางเพื่อก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง เพราะยังมีหลายคนคิดว่าดารา นักร้อง และนักแสดงเป็นอาชีพที่ไม่ลำบาก เนื่องจากทุกคนเห็นแต่ภาพที่สวยหรูของวงการมายา โดยไม่ได้มองถึงมุมมืดหรือข้อเสียที่จะเกิดขึ้นภายหลังที่เด็กๆ เข้าสู่วงการ เขาจะสูญเสียช่วงเวลาของการเป็นเด็กไปเลย เนื่องจากต้องเริ่มทำงานเท่ากับผู้ใหญ่ และอยู่ในภาวะที่มีแต่ความกดดัน ยิ่งไปกว่านั้นเด็กถูกจับแต่งตัวและแสดงออกเกินวัย ซึ่งบางครั้งไม่เหมาะสม จนเด็กเข้าใจผิดๆ ว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งที่ถูกที่ควรแล้ว"

อย่างไรก็ดี คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าบีบบังคับลูกเกินไป ถ้าลูกอยากเป็นนักร้องนักแสดงจริงๆ ก็ค่อยสอนและให้โอกาสเพื่อให้เขาเข้าใจอย่างถูกต้อง หรือถ้าลูกอยากเรียนดนตรี อยากเรียนร้องเพลง ในส่วนของพ่อแม่ต้องเป็นฝ่ายสนับสนุน และพร้อมที่จะส่งเสริมลูก ขณะเดียวกันครูสอนร้องเพลงท่านนี้แนะนำว่า สำหรับครอบครัวที่ต้องการผลักดันให้ลูกเข้าสู่เส้นทางวงการเพลงนั้น ก่อนอื่นขอเน้นย้ำว่าอย่าคาดหวังให้ลูกเป็นนักร้องให้ได้ หรือบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ ทางที่ดีควรผลักดันลูกในแง่ของการเรียนรู้ ปูพื้นฐานด้านดนตรี การร้องเพลง ค่อยๆ ทำให้เด็กรับรู้ความถูกต้องอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยดีกว่า

"เท่านั้นยังไม่พอครอบครัวควรจะสอนให้เด็กๆ เตรียมใจรับความผิดหวังและความสมหวังในเวลาเดียวกัน รวมไปถึงการสอนเรื่องพฤติกรรมการอยู่ในสังคมให้ได้ เพราะเด็กจะดีหรือไม่อยู่ที่พื้นฐานการเลี้ยงดูของครอบครัวส่งผลให้เด็กเติบโตอย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพใดย่อมไม่ถูกโน้มนำไปในทางที่ไม่ดีได้ง่าย" พี่แหม่มอธิบาย

ทั้งนี้ หากพ่อแม่คาดหวังกับลูกมากเกินไป การผลักดันลูกในบางครั้งอาจจะประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเกิดความล้มเหลวขึ้นก็อาจทำให้เกิดความผิดหวังติดค้างอยู่ในใจของเด็กๆ ได้ "พ่อแม่ควรส่งเสริมลูกในสิ่งที่ดี แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของความพอดี อย่าตามใจลูกจนเกินไป อย่าตั้งเป้าหมายให้กับลูกสูงเกินไป โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อยากเป็นนักร้องก็อย่าตั้งความหวังว่าจะได้เข้าค่ายเพลงที่ดังๆ ตรงข้ามควรให้ความสำคัญกับการมุ่งมั่นในการเป็นนักร้องที่ดีมากกว่า"

หากการเป็นดารา-นักร้องก็ยังเป็นความฝันของเด็กๆ อีกหลายคน หากมีความตั้งใจที่จะเป็น "นักร้องนักแสดง" จะต้องเริ่มจากการมีใจรักในสิ่งที่อยากเป็นก่อน แล้วมันจะส่งผลให้เราทำสิ่งนั้นออกมาได้ดี อีกทั้งยังต้องมีการหาความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนต่างๆ ว่ากว่าจะได้เป็นศิลปินนักร้องจะต้องมีการทำอย่างไรบ้าง พี่แหม่มให้ความรู้เพิ่มเติมอีกว่า การจะเข้าถึงค่ายเพลงหรือสังกัดที่จัดหานักร้องนักแสดงได้นั้นจะต้องผ่านการออดิชั่น หรือการทดสอบความสามารถเพื่อคัดบุคคลที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ จากนั้นก็ต้องเรียนรู้สู่กระบวนการผลิตที่ทำให้เกิดเป็นผลงานเพลงของนักร้องแต่ละคน

นอกจากนั้น จะต้องมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทต้นสังกัดหรือค่ายเพลงที่เหมาะสมกับตัวเอง เพราะสมัยนี้มีการหลอกลวงเด็กๆ เข้าสู่วงการบันเทิงในทางที่ผิด "พ่อแม่ผู้ปกครองควรสังเกตค่ายเพลงแต่ละแห่งจะไม่มีการเก็บเงินหรืองต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในตอนเข้ามาเป็นศิลปินหรือในขั้นตอนของการทดสอบความสามารถ หลังจากนั้นพอเด็กผ่านการคัดเลือกให้เป็นศิลปินในสังกัดของค่ายใดค่ายหนึ่ง ก็จะมีการอบรมเพื่อพัฒนาคุณภาพของเด็กๆ โดยให้เรียนการร้อง การเต้น และพัฒนาบุคลิกภาพต่างๆ เพราะเราต้องปั้นศิลปินให้ออกมาแสดงผลงานที่มีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องผลประโยชน์อื่นๆ หลังจากมีผลงานออกมาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างค่ายเพลงและศิลปินตามสัญญาที่ลงไว้" พี่แหม่มแนะเทคนิค

อย่างไรก็ตาม เมื่อเด็กๆ ก้าวเข้ามาสู่วงการมายาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องเรียนรู้คือ ทักษะการใช้ชีวิต เพราะการทำงานในวงการบันเทิงจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย โดยไม่รู้ว่าเหตุการณ์ไหนบ้างที่จะสร้างความกดดันให้กับเด็ก ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิต ต้องมีวินัย อดทน รู้จักปรับตัวเพื่อเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ และต้องยอมรับกับความจริงที่เกิดขึ้น อีกประการหนึ่งต้องสอนให้เขารู้จัก และเรียนรู้เกี่ยวกับความผิดหวัง ให้มีน้ำใจนักกีฬา การเตรียมตัวก่อนเข้าวงการบันเทิงว่าไม่ได้สวยหรูอย่างที่เขาคิด เพราะเป็นอาชีพที่ต้องทำงานหนัก เนื่องจากคนที่เข้ามาเป็นนักร้องอาจไม่ประสบความสำเร็จไปเสียทุกคน

ถึงตอนนี้ พี่แหม่มฝากเตือนคุณพ่อคุณแม่ทิ้งท้ายว่า อย่าคาดหวังกับลูกมากเกินไป โดยเฉพาะความคาดหวังที่ไม่สามารถจับต้องได้ ควรสอนให้เขารู้จักความพอดี ถ้าลูกทำไม่ได้ก็บอกว่า "ไม่เป็นไร" ลูกยังมีหน้าที่อย่างอื่นที่ต้องรับผิดชอบ เช่น การเป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่ ให้เขาคิดว่าการร้องเพลงเป็นงานอดิเรก อย่าเอามันมาผูกมัดกับการใช้ชีวิต เพราะมันจะทำให้เราไม่มีความสุขและทะเยอทะยานอย่างไม่รู้จบ

ที่มา
//www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000158070

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2553

Last Update : 10 พฤศจิกายน 2553 16:20:58 น.

1 comments

Counter : 2223 Pageviews.

เป็นแง่ดีมากๆสำหรับเด็กหนูจะพยามยามแล้วกันนะคะ 😊 ขอบคุณที่ชี้แนะคะ

โดย: มุกจร้า IP: 27.55.21.16 วันที่: 9 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:15:48 น.