"การคลอด" มีผลต่อภูมิคุ้มกันเด็ก
"การคลอด" มีผลต่อภูมิคุ้มกันเด็ก
กุมารแพทย์ชั้นนำจากยุโรปชี้ คลอดธรรมชาติช่วยให้ทารกได้รับ จุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัส จากแม่ในระหว่างการคลอด ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และทำให้ทารกมีสุขภาพดี แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องผ่าตัดคลอด ทารกควรได้รับนมแม่ซึ่งมีจุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัส หรือหากไม่สามารถให้นมแม่ได้ ควรเลือกนมผงสูตรเสริมจุลินทรีย์ชนิดดังกล่าวแทนได้ ศ.พญ.ฮาเนีย ชาแยฟสก้า หัวหน้าแผนกกุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์วอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ กล่าวในงานสัมมนา สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย จัดโดยสถาบันโภชนาการเนสท์เล่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทารกมีสุขภาพดีคือ การมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ซึ่งจะส่งผลให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านพัฒนาการทางสมอง หรือด้านพัฒนาการทางร่างกาย โดยภูมิคุ้มกันที่ดีมาจากการได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากแม่ "จุลินทรีย์สุขภาพ คือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อร่างกายได้รับในปริมาณที่เพียงพอ จะส่งผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 มีผลดีต่อลำไส้ ป้องกันไม่ให้เชื้อก่อโรคเข้าไปสัมผัสกับเซลล์เยื่อบุ พร้อมทั้งยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรค ระดับที่ 2 ผลดีต่อเยื่อบุผิว กันไม่ให้เชื้อโรครุกล้ำผ่านเข้าไป รวมไปถึงทำลายตัวรับสารพิษ และระดับที่ 3 มีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด และควบคุมการทำงานของเดนดริติกเซลล์ (Dendritic Cell) และเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น" หัวหน้าแผนกกุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์วอร์ซอว์กล่าวเสริม อย่างไรก็ดี มีการศึกษาพบต่อไปว่า การคลอดมีผลต่อภูมิคุ้มกันของเด็ก โดยการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติและน้ำนมแม่จะช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพให้กับระบบทางเดินอาหารของทารก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ แต่สำหรับทารกที่จำเป็นต้องผ่าตัดคลอด เด็กอาจไม่ได้รับชนิดของจุลินทรีย์เลย ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อการก่อให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ และการติดเชื้อในลำไส้ในระยะยาวได้
ขอบคุณภาพจาก checkdisease.com "ภูมิคุ้มกันที่สำคัญนั้นมาจากแหล่งธรรมชาติ คือการได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากแม่ในระหว่างการคลอดโดยวิธีธรรมชาติ (ผ่านทางช่องคลอด) และจากน้ำนมแม่ โดยจะช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพในระบบทางเดินอาหารของทารก เช่น บิฟิดัส ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของทารกให้แข็งแรง" หัวหน้าแผนกกุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์วอร์ซอว์เผย ด้าน รศ.นพ. สรายุทธ สุภาพรรณชาติ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวเสริมในประเด็นเดียวกันว่า นอกเหนือจากโรคภูมิแพ้แล้ว ทารกผ่าคลอดยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน โรคลำไส้อักเสบ-เรื้อรัง เบาหวานชนิดที่หนึ่ง มะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคสมาธิสั้นในอนาคตเนื่องจากการผ่าคลอดมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างจุลินทรีย์ดี และไม่ดีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคดังกล่าว และอาจมีผลในระยะยาว ดังนั้น ทางสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐอเมริกา (พ.ศ.2553) ได้สนับสนุนการใช้โปรไบโอติกส์ (จุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัส) ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคในช่วงคุณแม่ตั้งครรภ์ และช่วงให้นมบุตร โดยเฉพาะทารกที่ไม่ได้คลอดโดยวิธีธรรมชาติ หรือไม่สามารถได้รับน้ำนมจากแม่ ควรเลือกนมสูตรเสริมจุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัส หรือ บิฟิดัส บีแอล ซึ่งมีผลวิจัยทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของทารก และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินหายใจในทารกและเด็กเล็ก
ที่มา //www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000092211
Create Date : 27 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 27 กรกฎาคม 2554 9:16:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 693 Pageviews. |
|
|
|
|
|