คุณเกล็น เดวีส์ แวะมาเยี่ยมเยือนคณะบรรณาธิการเครือเนชั่น ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นกันหลายประเด็น ที่เกี่ยวโยงกับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และเรื่องอื่น ๆ ที่มีผลต่ออนาคตของภูมิภาคนี้ ท่านทูตเน้นถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และยืนยันว่าวอชิงตันเห็นประเทศไทยเป็น keystone หรือ แกนหลัก ของเอเซียอาคเนย์
ในภาษาสถาปัตยกรรม คำว่า keystone คือแกนกลางของโครงสร้างส่วนโค้ง เป็นแกนที่ยึดให้ส่วนอื่น ๆ อยู่ด้วยกันอย่างมั่นคงได้
ท่านบอกว่าสถานทูตสหรัฐ ในกรุงเทพฯ ถือเป็นหน่วยงานการทูตของอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และกิจกรรมที่ทำร่วมกันกับประเทศไทยผ่านสถานทูตแห่งนี้มีถึงกว่า 80 กิจกรรมหลัก
จะเป็นการ หยอดคำหวาน หรือเป็นการตอกย้ำถึงแนวทางของสหรัฐต่อไทยอย่างไรต้องดูที่การกระทำ แต่ท่านทูตก็ยอมรับว่าในความสัมพันธ์เช่นนี้ย่อมมีอุปสรรค จึงเฝ้าติดตามความคืบหน้าทางการเมืองและ Road Map ของ คสช. ที่จะกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยของไทยอย่างใกล้ชิดและให้กำลังใจมาตลอด
ท่านทูตพูดถึงการฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold ของปีนี้ซึ่งจะเริ่มต้นวันที่ 9 ถึง 19 กุมภาพันธ์ที่จะมีขึ้นในประเทศไทยโดยมีประเทศมาร่วมถึง 27 ประเทศ เท่ากับเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของประเทศไทย ในความสัมพันธ์กับสหรัฐฯและชาติอื่น ๆ ในแถบนี้
เพราะการฝึกร่วมพหุภาคีมีทั้งการยกพลขึ้นบกทางเรือ, อากาศและบก รวมไปถึงการช่วยเหลือภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเมื่อสภาวะการเมืองโลกปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายสากลก็ย่อมจะหนีไม่พ้นว่าจะต้องอยู่ในวาระของการฝึกร่วมทางทหารของประเทศในภูมิภาค
ผมถามถึงการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯ-อาเซียนที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาจะพบผู้นำอาเซียนทั้ง 10 คนรวมทั้งนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชาของไทยที่ Sunnylands รัฐแคลิฟอร์เนียระหว่าง 15-16 กุมภาพันธ์
ท่านทูตเดวีส์บอกว่าประธานาธิบดีโอบามาก่อนจะลงจากตำแหน่งในหนึ่งปีข้างหน้าต้องการจะตอกย้ำการให้ความสำคัญกับอาเซียนต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้นำคนต่อไปที่วอชิงตันก็ตาม
การประชุมสุดยอดที่ Sunnylands ครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวทางการทูตครั้งสำคัญ ของสหรัฐที่ประกาศนโยบาย ปักหมุดเอเซีย (Pivot to Asia) เพราะเห็นแล้วว่ากิจกรรมสำคัญทางการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคงของโลกจากนี้ไปจะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะเมื่อจีนเริ่มขยายอิทธิพลกว้างขวางขึ้นในไทย
ท่านทูตเดวีส์เชื่อว่าไทยมีบทบาท ในการช่วยลดความตึงเครียดในความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ แม้ว่าไทยจะไม่ใช่เป็นคู่กรณีในข้อพิพาท ระหว่างจีนกับอาเซียนบางประเทศเช่นเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย
เขาบอกว่ากรณีทะเลจีนใต้ไม่ใช่การเผชิญหน้า ระหว่างสหรัฐฯกับจีนในการแก่งแย่งอิทธิพล หากแต่สหรัฐฯต้องการจะยืนยันเสรีภาพในการเดินทะเลในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีความสำคัญต่อการขนส่งทางน้ำสำหรับทุกประเทศในโลก
ท่านทูตกับผมถามไถ่กันเรื่องการทำงานของทั้งการทูตและสื่อมวลชน คุณเดวีส์สนใจเรื่องสื่อเพราะเคยทำหน้าที่ เป็นรองโฆษกของกระทรวงต่างประเทศสมัยที่ Warren Christopher เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
ทำไมผมรู้สึกว่านักข่าวไทยไม่ค่อยถาม? ท่านทูตถาม
ผมอธิบายว่าอยู่ที่รูปแบบและจังหวะ
ใครบอกว่านักข่าวไทยไม่กล้าถาม? ผมย้อนถาม ดูตัวอย่างนักข่าวทำเนียบรัฐบาลกับนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชาซิ
เอาไว้จัดเต็ม ๆ ให้ท่านทูตสักครั้งไหม?
ดูเหมือนท่านทูตจะไม่ปฏิเสธนะครับ/จบ
...................................................................................................................................