ท่องแดนหมีขั้วโลกแห่งนอร์เวย์ โดย : เรื่อง : ลิเวอร์ เบิร์ด ภาพ : วิกิพีเดีย

และความหนาวเหน็บให้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่มุ่งหน้ามาชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น

แผนการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวของนอร์เวย์ล่าสุดมีการโฟกัสไปที่หมู่เกาะสฟาลบาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศและตั้งอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือ 1,200 กิโลเมตร ตั้งแต่ละติจูด 74 ถึง 81 องศาเหนือ

แผนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขับเคลื่อนเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวและการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมมาที่เกาะ โดยมีเหตุผลหลักคือต้องการใช้การท่องเที่ยวและการวิจัยมาช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวหลังจากที่มีการพึ่งพาการทำเหมืองแร่ถ่านหินมานานนับศตวรรษ

“เรากำลังโฆษณาความแปลกใหม่ของความมืดมิด” อะไรล์ด โอลเซ่น นายกเทศมนตรีของลองเยียร์เบียนกล่าว

ลองเยียร์เบียน ซึ่งเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของสฟาลบาร์ ตั้งอยู่ในหุบเขาลองเยียร์ดาเลน มีประชากรราว 2000 คน ฤดูหนาวอุณหภูมิอยู่ที่ -10 องศาเซลเซียส

หมู่เกาะสฟาลบาร์มีหมีขาวกว่า 3,000 ตัว มันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะและกลายเป็นหนึ่งในจุดสนใจของนักท่องเที่ยว

กิจกรรมในการท่องเที่ยวฤดูหนาวที่นี่มีตั้งแต่การนั่งรถหมาลากเลื่อนหิมะในเวลากลางคืน ชมถ้ำน้ำแข็งหรือเล่นสกีพื้นราบ โดยการทำกิจกรรมทุกอย่างจะต้องพกปืนไว้ป้องกันหมีขั้วโลกเหนือด้วย นอกจากนั้นยังรวมถึงการชมแสงเหนือที่สามารถมองเห็นได้เฉพาะในที่มืดเท่านั้น

นอร์เวย์ต้องปิดเหมืองถ่านหินหลักในสฟาลบาร์เมื่อปีที่แล้วหลังจากประสบภาวะขาดทุนทั้งๆ ที่ตามแผนเดิมจะสามารถผลิตถ่านหินได้ปีละ 1,900,000 ตันไปจนถึงปี 2019 รัฐบาลฝ่ายขวาจัดกำลังจะเสนอแผนเกี่ยวกับอนาคตของเกาะในระยะยาวต่อรัฐสภาในฤดูใบไม้ผลินี้

"แน่นอนว่าการวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของวิธีแก้ปัญหาของสฟาลบาร์” อูนนิ สไตน์สโม หัวหน้าคณะกรรมการบริหารของ Kings Bay AS ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมและเป็นเจ้าของชุมชนนีโอเซิ่น เมืองแห่งการวิจัยของนอร์เวย์ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของโลกกล่าว

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือการเกิดภาวะโลกร้อนจนทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของบรรยากาศและพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว

ในนีโอเซิ่นมีสถานีวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จาก 11 ประเทศ ซึ่งรวมถึง จีน อินเดีย เกาหลีใต้ นอร์เวย์ เยอรมัน ฝรั่งเศส อังกฤษและนอร์เวย์

อูนนิบอกว่า ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นมีการทำวิจัยเกี่ยวกับฤดูหนาวมากขึ้น เช่น พืชและปลามีการปรับตัวให้เข้ากับความมืดของขั้วโลกอย่างไร และสาเหตุที่มีการทำวิจัยได้มากขึ้นก็เพราะฟยอร์ด (Fjord) หรืออ่าวแคบๆ ที่อยู่ระหว่างหน้าผาสูงชันซึ่งเกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งเข้าไปในหุบเขาสูงชันและคดเคี้ยวไปมาตามชายฝั่งในนีโอเซิ่นไม่มีน้ำแข็งเกาะในหน้าหนาวมาหลายปีแล้ว จึงทำให้การวิจัยทางทะเลทำได้ง่ายขึ้น

แรกเริ่มเดิมที เมืองนีโอเซิ่นถูกสร้างขึ้นรอบๆ เหมืองถ่านหินซึ่งถูกปิดหลังจากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในปี 1962 จนทำให้มีคนเสียชีวิต 21 คน อาคารไม้เก่ายังคงหลงเหลืออยู่ รถไฟที่ถูกใช้ในการขนส่งถ่านหินซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะก็ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางเมือง

อะไรล์ดเชื่อมั่นว่า ทางเมืองลองเยียร์เบียนน่าจะรับมือกับปัญหาได้หลังจากที่ต้องปิดเหมืองถ่านหินหลักเนื่องจากขาดทุน เพราะธุรกิจประมงรวมถึงการจับปูและปลาค๊อดน่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจของเมืองได้ ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยว 60,000 คนซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2008 ที่มีเพียง 41,000 คน

นอร์เวย์ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ต้องการรักษาชุมชนต่างๆ บนเกาะไว้ เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นฐานที่มั่นเชิงยุทธ์ศาสตร์ในมหาสมุทรอาร์กติกหลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างรัสเซียมีการผนวกรวมสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียหลังจากที่อยู่ภายใต้การปกครองของยูเครนมา 60 ปีเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียในปี 2014 ภายหลังการลงประชามติที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไครเมียร้อยละ 97 สนับสนุนการผนวกรวมครั้งนี้/จบ

ที่มาข้อมูล: รอยเตอร์

...............................................................................................................................