ใครที่มีธุระข้องแวะกับธนาคารหรือสถาบันการเงินบ่อยๆคงจะรู้สึกใช่ไหมครับว่า การทำธุรกรรมทางการเงินในปัจจุบันนี้ นับวันก็จะยิ่งสะดวกรวดเร็วและเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการกันมากขึ้นทุกที

สมัยก่อนเราอาจจะเคยได้ยินสโลแกนของธนาคารในเชิงประชดประชันจากลูกค้าที่ไปธนาคารแล้วต้องรอนานๆที่ว่า “จะฝากจะถอน (ให้) เอาหมอนมาด้วย” กันอยู่บ่อยๆ แม้ทุกวันนี้ยังมีบางธนาคาร บางสาขา ที่มีลูกค้านิยมเข้าใช้บริการกันค่อนข้างมากเป็นพิเศษและยังคงให้บริการในทำนอง “จะฝากจะถอน (ให้) เอาหมอนมาด้วย” นี้อยู่บ้าง แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ครับว่า ถึงจะมีก็มีอยู่ไม่มากนักแล้ว และยิ่งหากจะเทียบกับเมื่อสมัยก่อน ก็ต้องถือว่าต่างกันอย่างลิบลับในระดับที่หนักหนาที่สุดก็คงแค่นั่งๆยืนๆพักสายตาไปพลางๆ แต่ไม่ต้องถึงขั้นต้องนอนรอกันชนิดเป็นกิจจะลักษณะเหมือนเดิม

ทุกวันนี้คนที่ชำนิชำนาญและมั่นใจกับการทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตหรือ Phone Banking ด้วยแล้ว ยิ่งได้ประโยชน์มากเป็นพิเศษกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะกับการใช้บริการในหลายๆธุรกรรมที่ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วที่จะต้องเดินทางไปทำกันถึงที่ธนาคาร เช่นการฝาก ถอน โอน สอบถามยอดบัญชี ชำระค่าสินค้า อายัดเช็ค อายัดบัญชี สารพัดสารพัน จนรวมความได้ว่าในปีหนึ่งๆ คนกลุ่มนี้อาจมีจำนวนครั้งในการเดินทางไปธนาคารต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับบุคคลทั่วๆไป

สำหรับการพัฒนาไปข้างหน้าของการให้บริการทางการเงินนั้น กุญแจสำคัญเกิดจากการวิจัยและพัฒนาควบคู่กันไปของผลิตภัณฑ์ทางการเงินหรือนวัตกรรมอย่างหนึ่ง และเทคโนโลยีที่จะมารองรับผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมนั้นอีกอย่างหนึ่ง เกิดเป็นบริการหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สดใหม่และง่ายกับชีวิตของผู้คนในสังคมที่ต้องเกี่ยวข้องผูกพันอยู่กับธุรกรรมทางการเงินขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา
ตัวอย่างของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าธนาคารอยู่ในปัจจุบันนี้ก็คือ บริการการเงินประเภทที่สามารถเชื่อมโยงและรวม 3 บัญชีเงินฝากทั้งที่เป็นออมทรัพย์ กระแสรายวัน และประจำเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมทั้งยังสามารถใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (O/D) เพิ่มเติมได้อีกประการหนึ่งด้วย

บริการชนิดนี้เริ่มมีการให้บริการกันมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้วก็จริง แต่ก็ยังคงมีการเสริมเพิ่มเติมความสะดวกและสิทธิประโยชน์ต่างๆมากขึ้นเป็นลำดับอยู่ตลอด และปัจจุบันก็มีธนาคารที่เปิดให้บริการบัญชีประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นโดยต่างธนาคารก็ต่างมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป เช่นบมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ใช้ชื่อว่า Krungsri Cash Connect หรือถ้าเป็นธนาคารยูโอบี จะใช้ชื่อว่า UOB Convenience เป็นต้น

ดังที่ทราบกันดีครับว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ก็เป็นเพียงบัญชีเงินฝากซึ่งผู้ฝากจะฝากจะถอนเมื่อใดก็ได้และปัจจุบันก็มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อยู่มากมายหลายประเภทสำหรับให้กลุ่มผู้ฝากเงินที่มีความต้องการที่แตกต่างหลากหลายในรายละเอียดได้เลือกสรร

ส่วนบัญชีเงินฝากประจำก็เป็นบัญชีเงินฝากที่มีกำหนดเวลาชัดเจนโดยมีอัตราผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งมากกว่าในอัตราที่มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ผู้ฝากตัดสินใจเลือกฝากประจำนั้นเช่น เช่น 12 เดือน หรือ 24 เดือน เป็นต้น และสุดท้ายบัญชีเงินฝากกระแสรายวันซึ่งเป็นบัญชีที่สามารถฝากหรือใช้เช็คถอนเงินได้ทั้งในนามบริษัทและส่วนบุคคล

เดิมทีทั้ง 3 บัญชีนี้แยกต่างหากจากกันแม้ว่าจะมีชื่อเจ้าของบัญชีคนเดียวกัน แต่ในปัจจุบันธนาคารบางแห่งก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยการรวมบัญชีทั้ง 3 เชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจของตลอดจนเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์และมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าอีกทางหนึ่ง สำหรับธนาคารเองแน่นอนที่ไม่พ้นจะต้องมีความพร้อมทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง แต่ก็น่าจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าสำหรับความพึงพอใจ และจำนวน Transaction ตลอดจนค่าธรรมเนียม และ Loyalty ที่ได้รับจากลูกค้าเป็นการตอบแทน

จุดเด่นของบริการเงินฝากแบบ Connect หรือ Convenience นี้โดยรวมก็คือ การจัดการแก้ไขข้อติดขัดและความไม่สะดวกที่ผู้ใช้บริการธนาคารมักจะพบเจอกันอยู่เสมอในการทำธุรกรรมทางการเงิน และเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปของโอกาสในการรับดอกผลที่เพิ่มขึ้นแก่ผู้ใช้บริการ

ที่ว่าจัดการแก้ไขข้อติดขัดและความไม่สะดวกคือ โดยทั่วไปในการใช้บัญชีเดี่ยวที่ไม่เชื่อมโยงกันนั้น บ่อยครั้งที่ผู้ใช้บริการมีความประสงค์จะสั่งจ่ายเช็คแต่ยอดเงินสดในบัญชีกระแสรายวันไม่เพียงพอกับยอดสั่งจ่าย หรือจดจำไม่ได้ว่ามีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชีกระแสรายวันเป็นจำนวนเท่าไหร่ ทำให้ต้องเสียเวลาเดินทางวิ่งเข้าวิ่งออกธนาคารกันวุ่นวาย ซึ่งเป็นข้อติดขัดที่หากเป็นบัญชีแบบ Connect หรือ Convenience ระบบจะอำนวยความสะดวกด้วยการโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์มาเข้าบัญชีกระแสรายวันให้อัตโนมัติ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการโอนบัญชีแต่ละรายการ และในแต่ละวันเงินที่คงเหลือในบัญชีกระแสรายวัน ก็จะถูกโอนกลับคืนมายังบัญชีออมทรัพย์ทุกสิ้นวัน เพื่อให้ผู้ฝากได้รับดอกเบี้ยเต็มเม็ดเต็มหน่อยอันเป็นประโยชน์ส่วนเพิ่มที่พึงได้

นอกจากนี้หากลูกค้าหรือผู้ใช้บริการที่ประสงค์จะใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (O/D) เพิ่มเติมก็สามารถกระทำได้โดยเพียงแค่เปิดบัญชีเงินฝากประจำในจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่แต่ละธนาคารกำหนด จากนั้นก็จะสามารถใช้วงเงินเบิกเกินบัญชีได้อีกบริการหนึ่ง และเท่าที่ทราบการฝากประจำกับบัญชีประเภทนี้ โดยส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการจะสามารถใช้วงเงินเบิกเกินบัญชีได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินฝากประจำอีกด้วย

ที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนผู้ใช้บริการบัญชีในลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ใช้บริการที่เป็น SME ซึ่งมีความจำเป็นในการทำธุรกรรมทางการเงินมากในระดับหนึ่งภายใต้วงเงินที่ไม่สูงนัก รวมไปถึงกลุ่มบุคคลธรรมดาที่ต้องการความคล่องตัวทางธุรกรรมการเงินกับธนาคารก็เริ่มหันมาทดรองใช้บริการประเภทนี้กับมากขึ้นเช่นเดียวกัน ผู้ใดที่สนใจก็สามารถสอบถามไปยังธนาคารที่ให้บริการบัญชีประเภทนี้กันได้ เชื่อว่าคุณจะได้รับความสะดวกมากขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอนครับ.

Create Date : 06 มิถุนายน 2549
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 20:31:34 น.		0 comments
Counter : 421 Pageviews.
Share Tweet