ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
โฆสกะเศรษฐี (๑)

โฆสกเศรษฐี
โฆสกเศรษฐีเป็นมหาเศรษฐีแห่งกรุงโกสัมพี แคว้นวังสะ
มหาเศรษฐีผู้นี้มีชีวิตพลิกผันมาหลายชาติ
ชาติปัจจุบันก็เฉียดตายหลายครั้งตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพราะมีวิบากจากอกุศลกรรมเก่าตามมาส่งผล
แต่ในที่สุดเมื่อวิบากจากกุศลกรรมส่งผลบ้าง เขาก็ได้เป็นมหาเศรษฐี
และเป็นผู้สร้างโฆสิตารามถวายพระศาสดา


โกตุหลิกทิ้งลูก
โฆสกเศรษฐีมีชีวิตที่พลิกผันเพราะกรรมที่สร้างไว้ในอดีตชาติหนึ่ง สมัยที่เกิดเป็น โกตุหลิก
โกตุหลิกอยู่ในแคว้นอัลลกัปปะ มีภรรยาชื่อ กาลี เมื่อภรรยาคลอดลูกก็พอดีที่แคว้นอัลลกัปปะเกิดทุพภิกขภัย ข้าวปลาอาหารหายาก โกตุหลิกจึงตัดสินใจพาภรรยาและลูกน้อยเพิ่งคลอดเดินทางอพยพไปสู่กรุงโกสัมพี ระหว่างทางอาหารที่มีติดตัวมาเพียงน้อยนิดก็หมดลง โกตุหลิกบอกภรรยาว่าอาหารเราหมดแล้ว เราไม่อาจไปถึงโกสัมพีได้ เราจำเป็นต้องทิ้งลูก วันหน้าถึงโกสัมพีแล้วค่อยมีลูกกันใหม่ แต่นางกาลีไม่ยอม
สองสามีภรรยาเดินทางต่อไป ผลัดกันอุ้มลูกน้อย คราวหนึ่งโกตุหลิกอุ้มลูกเดินตามหลังปล่อยให้นางกาลีเดินล่วงหน้าไปไกล เมื่อได้โอกาสจึงแอบวางลูกทิ้งไว้ใต้พุ่มไม้แห่งหนึ่ง นางกาลีหันกลับมาไม่เห็นลูกก็ร้องไห้คร่ำครวญ ให้โกตุหลิกเดินย้อนกลับไปรับลูก โกตุหลิกจำใจย้อนไปรับลูกเดินทางกันต่อไป แต่ด้วยหนทางที่กันดาร อาหารก็ไม่มี ในที่สุดทารกน้อยก็ตายในระหว่างทาง

เกิดเป็นสุนัข
โกตุหลิกกับภรรยาเดินทางต่อไปจนถึงเรือนนายโคบาลคนหนึ่ง ทั้งสองแวะเข้าไปขออาหาร นายโคบาลเป็นคนใจบุญหุงข้าวปายาสไว้ถวายพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกวัน จึงแบ่งข้าวปายาสให้สองสามีภรรยากิน
นางกาลีแบ่งข้าวปายาสส่วนของตนให้สามี บอกว่าท่านอดข้าวมาหลายวันให้ท่านบริโภคให้เพียงพอก่อน โกตุหลิกจึงกินข้าวปายาสจำนวนมากให้สมกับที่อดอยากมาถึง ๗-๘ วัน กินไปก็มองดูนางสุนัขของนายโคบาลไป คิดว่าสุนัขตัวนี้มีบุญ ได้กินอาหารแบบนี้ทุกวันจนอ้วนพี ส่วนตนเองนานๆ จึงจะได้กินสักที
ด้วยการบริโภคมากเกินไป ข้าวปายาสจึงไม่ย่อย คืนนั้นโกตุหลิกจึงทำกาละ และด้วยอกุศลจิตก่อนตายที่อิจฉาความเป็นอยู่ของสุนัข โกตุหลิกจึงไปเกิดในท้องนางสุนัขตัวนั้น ส่วนนางกาลีเมื่อสามีตายหมดที่พึ่งแล้ว จึงอยู่ทำงานในเรือนของนายโคบาลนั้นเอง วันใดได้ค่าแรงเป็นข้าวสาร นางก็จัดการหุงแล้วใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่ถ้าวันไหนไม่มีข้าวนางก็ขวนขวายช่วยงานด้วยความเลื่อมใส

จากสุนัขเป็นโฆสกเทพบุตร
โกตุหลิกเกิดเป็นสุนัข ได้รับก้อนข้าวจากพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นประจำจึงมีความเคารพรักในพระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อนายโคบาลไปสำนักพระปัจเจกพุทธเจ้าสุนัขนั้นก็ตามไปด้วย ได้เห็นนายโคบาลเอาไม้ตีพุ่มไม้ข้างทางเพื่อขับไล่สัตว์ร้ายให้หนีไป สุนัขก็จดจำไว้
วันหนึ่ง นายโคบาลทูลพระปัจเจกพุทธเจ้าว่าหากวันใดไม่สามารถมานิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าได้ด้วยตนเองก็จะส่งสุนัขตัวนี้มา ขอให้พระปัจเจกพุทธเจ้าพึงทราบด้วย หลังจากวันนั้น เมื่อนายโคบาลไม่ว่างก็จะใช้ให้สุนัขนั้นไปพาพระปัจเจกพุทธเจ้ามารับภัตที่เรือน สุนัขนั้นก็จะไปที่หน้าที่พำนักของพระปัจเจกพุทธเจ้า เห่า ๓ ครั้งให้รู้แล้วนอนหมอบรออยู่ เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าออกมาสุนัขก็จะเดินนำไปข้างหน้า ระหว่างทางสุนัขก็จะเที่ยวเห่าใส่สุมทุมพุ่มไม้และที่รกเพื่อขับไล่สัตว์ร้ายตามแบบที่จำมาจากนายโคบาล บางครั้งพระปัจเจกพุทธเจ้าแกล้งเดินผิดทาง สุนัขก็จะไปยืนขวางไว้ บางครั้งก็คาบชายผ้าดึงกลับมาให้ถูกทาง
กาลเวลาผ่านไป วันหนึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้ามาบอกนายโคบาลว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น สุนัขนั้นอาลัยรักพระปัจเจกพุทธเจ้ามาก ยืนเห่าส่งพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เหาะไป พอพระปัจเจกพุทธเจ้าลับไปจากสายตา สุนัขนั้นก็ดวงใจแตกดับ ไปเกิดเป็นเทพบุตรในเทวโลก มีนางอัปสรแวดล้อม ๑,๐๐๐ นาง เป็นเทพบุตรผู้มีเสียงดังมากเพราะอานิสงส์การเห่าไล่สัตว์ร้ายให้พระปัจเจกพุทธเจ้า นามว่า โฆสกเทพบุตร

เกิดใหม่ในโกสัมพี
โฆสกเทพบุตรเสวยสมบัติอยู่ในเทวโลกไม่นาน มัวแต่เพลินบริโภคกามคุณจนลืมเสพอาหารทิพย์ จึงจุติไปเกิดเป็นบุตรหญิงงามเมืองในกรุงโกสัมพี แต่การเป็นหญิงงามเมืองหากมีบุตรจะเลี้ยงไว้เฉพาะบุตรสาวเพื่อสืบทอดอาชีพ เมื่อคลอดบุตรเป็นชายนางจึงนำทารกน้อยใส่กระด้งไปทิ้งในกองหยากเยื่อ ด้วยอานิสงส์เคยดูแลไล่สัตว์ร้ายให้พระปัจเจกพุทธเจ้ามาก่อน ทารกน้อยในกองหยากเยื่อจึงรอดพ้นอันตรายจากสัตว์ร้ายจนมีหญิงคนหนึ่งมาพบเข้าและนำทารกกลับไปเรือน
วันนั้น เศรษฐีชาวเมืองโกสัมพีคนหนึ่งเข้าไปในราชสำนัก ได้ยินปุโรหิตบอกว่าเด็กที่เกิดวันนี้เป็นผู้มีบุญมาก อนาคตจะได้เป็นมหาเศรษฐีของเมือง เศรษฐีจึงให้คนใช้กลับไปดูที่เรือนว่าภรรยาของตนซึ่งมีครรภ์แก่คลอดบุตรหรือยัง ปรากฏว่าภรรยายังไม่คลอด เศรษฐีจึงให้หญิงคนใช้อีกคนชื่อ กาลี ไปตามหาทารกชายที่เกิดวันนี้ให้พบ พบแล้วให้ใช้ทรัพย์พันหนึ่งแลกทารกนั้นกลับมา ซึ่งนางกาลีก็สามารถหาทารกน้อยนั้นจบพบและพากลับมาให้เศรษฐี
เศรษฐีเลี้ยงดูทารกนั้นไว้ คิดว่าถ้าลูกของตนเป็นลูกสาว ก็จะให้แต่งงานกับเด็กคนนี้ที่จะได้เป็นมหาเศรษฐี แต่ถ้าเป็นชาย เศรษฐีก็จะฆ่าเด็กนี้ทิ้งเสียเพื่อให้ลูกชายตนเองครองตำแหน่งมหาเศรษฐีแทน

ถูกทิ้งถูกฆ่าซ้ำแล้วซ้ำอีก
ต่อมาภรรยาเศรษฐีคลอดบุตรเป็นชาย เศรษฐีจึงคิดจะฆ่าทารกที่เลี้ยงไว้
เศรษฐีสั่งให้นางกาลีนำทารกไปวางขวางกลางประตูคอกโค หวังจะให้แม่โคเหยียบให้ตายตอนนายโคบาลปล่อยโคออกจากคอก แต่โคนายฝูงออกมายืนคร่อมทารกไว้ไม่ให้ทารกถูกแม่โคตัวอื่นเหยียบ นายโคบาลสังเกตเห็นผิดปกติที่โคนายฝูงปกติจะออกจากคอกหลังสุด แต่วันนี้กลับออกจากคอกก่อน แถมยังยืนนิ่งขวางทางอยู่จึงเดินไปดู เมื่อเห็นทารกนอนอยู่ก็เกิดความรักนำกลับไปเลี้ยงดู เศรษฐีรู้ว่านายโคบาลนำทารกไปเลี้ยงจึงให้นางกาลีไปไถ่ตัวกลับมาด้วยทรัพย์พันหนึ่ง
เศรษฐีสั่งให้นางกาลีนำทารกไปวางขวางทางขบวนเกวียน ๕๐๐ เล่มที่พ่อค้าขับไปค้าขายแต่เช้ามืด แต่โคนำขบวนกลับหยุดขวางทางไว้ไม่ยอมลากเกวียนไปต่อ หัวหน้าขบวนเกวียนรอจนฟ้าสว่างจึงเห็นว่ามีทารกนอนอยู่ เขาจึงนำทารกกลับไปเลี้ยง แต่เศรษฐีก็ให้นางกาลีไปขอไถ่ตัวกลับมาอีกด้วยทรัพย์พันหนึ่ง
เศรษฐีสั่งให้นางกาลีนำทารกไปทิ้งที่ป่าช้าผีดิบ หวังจะให้ทารกถูกสุนัขป่าหรืออมนุษย์ฆ่าให้ตาย ครั้งนั้นนายอชบาลต้อนฝูงแพะหลายแสนตัวผ่านมา แม่แพะตัวหนึ่งหยุดให้นมทารก นายอชบาลเห็นจึงนำทารกกลับไปเลี้ยง เศรษฐีรู้จึงให้นางกาลีไปขอไถ่ตัวกลับมาอีกด้วยทรัพย์พันหนึ่ง
เศรษฐีสั่งให้นางกาลีนำทารกไปทิ้งที่เหวทิ้งโจร แต่ทารกก็ปลอดภัยเพราะตกลงบนพุ่มไม้ไผ่ หัวหน้าช่างจักสานมาตัดไม้ไผ่พบเข้าจึงพากลับไปเลี้ยง เศรษฐีรู้จึงให้นางกาลีไปขอไถ่ตัวกลับมาอีกด้วยทรัพย์พันหนึ่ง
เศรษฐีพยายามฆ่าเด็กหลายครั้งแต่ไม่ตาย จึงจำต้องเลี้ยงไว้จนเติบใหญ่ มีชื่อว่า โฆสกะ

ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว
เศรษฐีจำใจเลี้ยงโฆสกะไว้เป็นหนามยอกอก ในใจไม่เคยล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าโฆสกะเลย วันหนึ่งเศรษฐีแอบไปว่าจ้างช่างหม้อคนหนึ่งบอกว่าจะส่งบุตรชาติชั่วมาให้ฆ่า ให้ช่างหม้อจัดการหั่นให้เป็นท่อน แล้วใส่เตาเผาให้หมดอย่าให้เหลือซาก ช่างหม้อเห็นแก่เงินจึงรับจะจัดการให้
วันรุ่งขึ้น เศรษฐีสั่งให้โฆสกะไปเรือนช่างหม้อ บอกช่างหม้อว่าให้เร่งทำงานที่เศรษฐีสั่งไว้ให้เสร็จเร็วๆ โฆสกะก็ไปเพราะไม่รู้ ระหว่างทางพบลูกชายเศรษฐีกำลังเล่นพนันอยู่กับเพื่อนๆ แต่ลูกชายเศรษฐีแพ้พนันไปแล้วหลายครั้งจึงขอร้องให้โฆสกะช่วยเล่นแทน ส่วนตัวเขาอาสาไปหาช่างหม้อแทน วันนั้นโฆสกะจึงได้อยู่เล่นสนุกตลอดทั้งวัน
ตกเย็นโฆสกะเลิกเล่นกลับเข้าเรือน เศรษฐีพอเห็นโฆสกะก็ตกใจ สอบถามรู้ว่าบุตรชายของตนไปแทนโฆสกะจึงรีบวิ่งไปเรือนช่างหม้อ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เพราะบุตรชายของตนถูกฆ่าและเผาแล้วไม่มีเหลือ

โฆสกะแต่งงาน
เศรษฐีแค้นโฆสกะมากยิ่งขึ้นครุ่นคิดหาวิธีจะฆ่าโฆสกะให้ได้ จึงออกอุบายให้โฆสกะไปส่งจดหมายให้คนเก็บส่วยในชนบท โฆสกะบอกว่าตนยังไม่ได้กินข้าวเลย เศรษฐีบอกว่าระหว่างทางในชนบทมีเรือนของคามิกเศรษฐีซึ่งเป็นเพื่อนกัน ให้โฆสกะแวะกินข้าวที่เรือนนั้น โฆสกะไม่รู้หนังสือจึงเอาจดหมายผูกชายผ้าเดินทางไป
เมื่อเดินทางถึงเรือนคามิกเศรษฐี โฆสกะจึงแวะเข้าไปหาภรรยาคามิกเศรษฐีแนะนำตัวเองว่าชื่อโฆสกะเป็นบุตรของเศรษฐีในเมืองชื่อโฆสกะ ภรรยาเศรษฐีรู้สึกเมตตาจึงจัดข้าวปลาอาหารให้กิน และให้นางทาสีพาโฆสกะไปนอนพักผ่อน
นางทาสีคนนั้นเป็นทาสีของธิดาเศรษฐี เมื่อนางจัดเตรียมที่นอนให้โฆสกะเรียบร้อยแล้วจึงไปรับใช้ธิดาเศรษฐีตามปกติ ธิดาเศรษฐีถามว่าทำไมวันนี้นางทาสีจึงมาช้านัก นางทาสีบอกว่านายหญิงให้ไปจัดที่นอนให้แขกคนหนึ่งเป็นชายหนุ่มรูปหล่อชื่อ โฆสกะ
พอธิดาเศรษฐีได้ยินชื่อ โฆสกะ นางก็บังเกิดความรักเฉือนเข้าไปถึงกระดูก เพราะธิดาเศรษฐีนี้คือนางกาลีอดีตภรรยาโฆสกะเมื่อครั้งที่เป็นนายโกตุหลิกนั่นเอง ความรักของนางเกิดขึ้นแล้วเพราะเหตุเคยอยู่ร่วมกันในกาลก่อน
ธิดาเศรษฐีแอบไปดูโฆสกะที่นอนหลับอยู่ และหยิบหนังสือที่ชายผ้าเปิดอ่าน ในหนังสือนั้นบอกให้นายส่วยฆ่าโฆสกะทันทีที่ไปถึง ธิดาคามิกเศรษฐีพอรู้ว่าโฆสกะถูกหลอกไปฆ่าจึงคิดวิธีช่วยเหลือ จัดการแปลงสารด้วยข้อความใหม่
“ลูกชายของเราคนนี้ชื่อ โฆสกะ ท่านจงทำธุระให้เขาทำการมงคลกับธิดาคามิกเศรษฐีด้วยบรรณาการจากบ้านส่วย ๑๐๐ บ้าน ปลูกเรือน ๒ ชั้นให้เป็นที่อยู่ สร้างรั้วให้แข็งแรงและจัดเวรยามดูแลให้ดี แล้วส่งข่าวกลับไปบอกด้วยว่าท่านทำการเสร็จแล้ว เราจักสมนาคุณท่านในภายหลัง”
เมื่อแปลงสารเสร็จแล้ว ธิดาเศรษฐีก็พับจดหมายคืนที่เดิม
วันรุ่งขึ้น โฆสกะเดินทางต่อจนถึงเรือนของนายส่วย เมื่อได้อ่านจดหมายแล้ว นายส่วยจึงจัดงานอาวาหมงคลให้โฆสกะกับธิดาคามิกเศรษฐี แล้วส่งข่าวให้เศรษฐีโกสัมพีทราบว่างานที่สั่งให้ทำสำเร็จแล้ว

เศรษฐีล้มป่วยเพราะความแค้น
เศรษฐีอ่านจดหมายนายส่วยจบก็เสียใจและแค้นใจ บุตรชายตัวเองหวังจะให้เป็นมหาเศรษฐีก็มาตาย ส่วนโฆสกะพยายามฆ่ามาหลายครั้งไม่เคยสำเร็จ ด้วยความแค้นและความเสียใจสุมเต็มอกเศรษฐีจึงล้มป่วยลงด้วยโรคลงแดง
เศรษฐีตั้งใจว่าจะไม่ยอมยกสมบัติของตัวเองให้โฆสกะอย่างเด็ดขาด จึงส่งคนรับใช้ให้ไปตามโฆสกะมาหา แต่ภรรยาโฆสกะคอยดักไว้ไม่ให้พบ นางถามถึงอาการเศรษฐีว่าเป็นอย่างไรบ้าง คนรับใช้บอกว่ายังมีกำลังดีอยู่ นางจึงจัดที่พักให้บอกว่าให้อยู่ที่นี่ก่อนอย่าเพิ่งกลับ
เศรษฐีส่งคนรับใช้ไปอีก ภรรยาโฆสกะก็จัดที่พักให้เหมือนคนก่อน
จนถึงคนรับใช้คนที่สามมาบอกว่าเศรษฐีอาการเพียบหนักใกล้ตายแล้ว ภรรยาโฆสกะจึงบอกให้สามีเตรียมบรรณาการจากบ้านส่วย ๑๐๐ บ้าน ใส่เกวียนไปเยี่ยมเศรษฐี
เมื่อไปถึงเรือนเศรษฐี ภรรยาบอกให้โฆสกะไปยืนทางปลายเท้า ส่วนนางยืนทางด้านศีรษะ เศรษฐีเห็นโฆสกะมาแล้วจึงเรียกเสมียนมาถามว่า ในเรือนของฉันมีทรัพย์อยู่เท่าไร นายเสมียนตอบว่ามีทรัพย์อยู่ ๔๐ โกฏิ และเครื่องอุปโภคบริโภคบ้าน นา สัตว์ ๒ เท้า ๔ เท้า ยานพาหนะ มีอีกจำนวนหนึ่ง
เศรษฐีจะประกาศว่า
“ฉันไม่ให้ทรัพย์แก่โฆสกะ”
แต่ด้วยอาการไข้หนักเศรษฐีกลับพูดผิดว่า
“ฉันให้..”
ภรรยาโฆสกะที่รอท่าอยู่พอได้ยินเศรษฐีพูดเพียงเท่านี้ นางเกรงว่าเศรษฐีจะพูดคำอื่นอีกจึงแสร้งทำเป็นเศร้าโศก โถมศีรษะลงกลิ้งเกลือกบนอกเศรษฐี แสดงอาการร้องไห้คร่ำครวญจนเศรษฐีไม่อาจพูดได้อีก แล้วเศรษฐีก็ขาดใจตาย

เป็นโฆสกะเศรษฐี
เมื่อพระเจ้าอุเทนแห่งกรุงโกสัมพีทรงทราบว่าเศรษฐีถึงแก่อนิจกรรมแล้ว จึงรับสั่งให้โฆสกะไปเข้าเฝ้า พระราชทานตำแหน่งเศรษฐีให้สืบต่อจากบิดา โฆสกะรับตำแหน่งเศรษฐีแล้วจึงขึ้นรถแห่ประทักษิณพระนครแล้วกลับมาเรือน
ภรรยาโฆสกเศรษฐีเล่าให้นางกาลีฟังว่า เพราะนางแอบแปลงจดหมาย วันนี้โฆสกะจึงได้ตำแหน่งเศรษฐี นางกาลีก็เล่าให้นางฟังบ้างว่าเศรษฐีพยายามฆ่าโฆสกะมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ยังเป็นทารก ใช้ทรัพย์ไปมากมายแต่ก็ไม่สามารถฆ่าโฆสกะได้ พอรู้ดังนั้นแล้วภรรยาโฆสกะจึงหัวเราะ
โฆสกเศรษฐีเข้าเรือนมาเห็นภรรยาหัวเราะจึงถามว่าหัวเราะอะไร ภรรยาไม่ยอมบอก โฆสกเศรษฐีชักดาบขู่ว่าถ้าไม่บอกเราจะฟันให้ขาดเป็น ๒ ท่อน ภรรยาจึงบอกว่า สมบัติทั้งหลายนี้ท่านได้มาเพราะดิฉัน
แล้วภรรยาก็เล่าเรื่องราวให้สามีฟัง โฆสกเศรษฐีไม่เชื่อ ภรรยาจึงให้นางกาลีมายืนยันอีกคน ฟังแล้วโฆสกเศรษฐีจึงคิดว่า เราทำกรรมหนักไว้หนอจึงได้ผลเช่นนี้ ต่อไปเราจะไม่เป็นผู้ประมาทอีก
คิดดังนั้นแล้ว เศรษฐีจึงให้ตั้งโรงทาน สละทรัพย์วันละพันเพื่อสงเคราะห์คนเดินทางไกลและคนกำพร้า มอบหมายให้ นายมิตตะ เป็นผู้ดูแลโรงทาน อีกทั้งยังถวายภัตแด่พระดาบส ๕๐๐ รูป ในป่าหิมพานต์ใกล้กรุงโกสัมพีเป็นประจำ



ชักจะยาวเกินไป จบแค่นี้ก่อนครับ ยังไม่ทันได้สร้างโฆสิตารามเลย วันหลังค่อยมาต่อภาค ๒



Create Date : 06 มกราคม 2554
Last Update : 6 มกราคม 2554 8:59:55 น. 13 comments
Counter : 1150 Pageviews.

 
_/|\\_ สาธุ ค่ะ


โดย: อันตามาตี วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:10:02:17 น.  

 
ขอบคุณค่ะ

อ่านซะเพลินเลยค่ะ


โดย: ยัยขี้อำ IP: 202.44.8.100 วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:12:36:36 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:14:47:27 น.  

 
สวัสดีครับ อ่านแล้วเพลิน แล้วก็คิดถึง โฆษก คนหนี่ง
ที่มีเสียงดัง แล้วจะอ่านรายละเอียดอีกครั้งครับ

ได้เวลาเตรียมตัวไปทำงานแต่เช้าเลยครับ รถติดมาก

อ้อ...ขอรบกวนอีกนิด ไม่แน่ใจว่ามีผู้เรียนให้ทราบหรือ
ยังว่า เข้าห้องนี้ ใช้เวลานานมากครับ ทั้งที่มีรูปภาพ
น้อย ผมพยายามหาสาเหตหรือ เปรียบเทียบ ข้อความ
กับห้องอื่นที่ยาวเท่า ๆ กัน.

ที่ผมเรียนถามเพราะ ห้องนี้มีสาระความรู้มาก น่าจะให้
คนเข้าถึงได้ไวนะครับ ขอบคุณล่วงหน้า


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 7 มกราคม 2554 เวลา:5:35:46 น.  

 

สวัสดีค่ะ..

วันเด็กที่ผ่านมา พาเด็กไปเที่ยวที่ไหนค่ะ?

ฮิๆ..อ้อมแอ้มไม่มีเด็ก แต่ผู้ใหญ่อยากเที่ยวค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 9 มกราคม 2554 เวลา:23:44:53 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดีค่ะห่างหายไปเสียหลายวันตั้งแต่เย็นวันศุกร์ประมาณนั้น ด้วยความที่งานยุ่งๆๆๆๆๆจึงผลัดวันประกันพรุ่งเรื่องจ่ายค่าโทรศัพท์จนแล้วจนรอดก้ไม่ได้ไปจ่ายจนสองเดือนโดนระงับสัณญาณ55555วันศุกร์ตอนเย็นพอดี ทำไงดีหนอ.....รอ รอ รอ วันจันทร์ แต่ช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์งานก็ยุ่งตลอดตรงกับวันเด็กด้วย เด็กมาแต่งหน้าแต่งตัวแสดงกิจกรรมของโรงเรียนและอบต.เต็มไปหมด คิดถึงจริงๆค่ะ คุณอังคาร สบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 10 มกราคม 2554 เวลา:22:42:57 น.  

 
สวัสดีค่ะ...

ขนาดธรรมะธรรโมยังเหน็บเหนมนิ๊ดๆนะค่ะ..ฮิๆ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:6:48:41 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะคุณอังคาร


โดย: เกศสุริยง วันที่: 11 มกราคม 2554 เวลา:7:58:36 น.  

 
happy belated new year to you and ur family naka และก็ขอแอดด้วยนะคะ thanks ka


โดย: Baby I love you วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:1:26:15 น.  

 
รูปสวย glitter emoticon comment glitter.mthai.com

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอังคาร


โดย: เกศสุริยง วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:8:39:24 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าๆที่นี่ค่ะ ขอบคุณค่ะที่แวะทักทาย เรื่องการเปิดร้าน แค่คิดเอาไว้ค่ะ เพราะจะเริ่มต้นที่นี่ค่อนข้างยากสำหรับต่างชาติอย่างเราๆ

แต่จะพยายามค่ะ ขอเรียกตามพี่ๆเพื่อนๆละกันนะคะ คุณอังคารต้องเป็นคนใจเย็นมากๆเลย อ่านเพลินเชียว

ได้ความรู้เยอะเลยเหมือนได้กลับไปนั่งเรียนวิชาศาสนาเลยค่ะ

มีความสุขทุกๆวันนะคะ


โดย: มะฮอกกานีใบใหญ่ วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:15:16:24 น.  

 
สนุกอ่านเพลินมากๆเลยตอนนี้...เสียดายไม่น่าจบขัดใจ อิๆ แซวเล่นนะค๊ะอัพบล๊อกใหม่เมื่อไหร่จะมาติดตามตอนต่อไปค่ะ

มีความสุขมากๆค่ะ


โดย: Why England วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:19:31:52 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณอังคาร
แวะมาชวนไปลุยหิมะค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:5:04:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.