ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
ชฎิลเศรษฐี

กรรมเกิดจากเหตุ

     ในอดีตกาลครั้งพุทธกาลของพระกัสสปะพุทธเจ้า เมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้ว มหาชนได้ร่วมกันสร้างพุทธเจดีย์แห่งหนึ่ง

     วันหนึ่ง มีพระขีณาสพเข้าไปในเมือง ชักชวนชาวเมืองร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ ท่านเดินไปถึงร้านทองร้านหนึ่ง บังเอิญว่าขณะนั้นนายช่างทองกำลังทะเลาะกับภรรยา เขาจึงพูดแดกดันภรรยาว่า

     "เธอจงโยนพระศาสดาของเธอลงน้ำไปเสีย"

     ภรรยานายช่างทองพูดเตือนสติสามีว่าทำไมท่านจึงเผลอทำกรรมล่วงเกินพระศาสดาเล่า นายช่างทองได้สติ รีบหมอบกราบขออดโทษที่แทบเท้าพระเถระ แต่พระเถระบอกว่า

     “โยมไม่ได้กล่าวล่วงเกินอาตมา แต่โยมล่วงเกินพระศาสดา โยมต้องให้พระศาสดาอดโทษให้”

     นายช่างทองถามว่า “พระคุณเจ้า พระศาสดาปรินิพพานแล้ว ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไรเล่า พระศาสดาจึงจะอดโทษได้”

     พระเถระบอกว่า “ท่านจงทำหม้อดอกไม้ทองคำ ๓ หม้อ บูชาในเจดีย์บรรจุพระธาตุ แล้วทูลขอพระศาสดาให้อดโทษเถิด”

     นายช่างทองมีบุตรชาย ๓ คน จึงเรียกบุตรชายให้มาช่วยทำหม้อดอกไม้ทองคำ

     บุตรคนโตไม่ช่วย บอกว่าพ่อทำกรรมนั้นเองก็ต้องแก้ไขเอง

     บุตรคนรองก็ปฏิเสธเหมือนกัน

     แต่บุตรคนเล็กไม่เกี่ยงงอน ช่วยบิดาทำดอกไม้ทองไปบูชา กราบทูลขอขมาพระบรมศาสดา

     พ้นจากชาตินั้นแล้ว นายช่างทอง ภรรยา และบุตร ก็โลดแล่นไปตามบุญกรรม


ถูกลอยน้ำ

     ครั้นถึงพุทธกาลปัจจุบัน

     ในนครพาราณสีมีเศรษฐีตระกูลหนึ่ง มีธิดาสาวสวย เมื่อเธอมีอายุ ๑๕-๑๖ ปี บิดาได้ให้นางอยู่แต่ในห้องบนปราสาทชั้น ๗ เพราะกลัวว่าธิดาจะไปรักชอบชายที่ไม่คู่ควร โดยเศรษฐีให้หญิงรับใช้คนหนึ่งคอยดูแล แต่ความสวยของธิดาเศรษฐีไม่พ้นสายตาชาย เธอจึงได้เชยชิดกับวิทยาธรตนหนึ่งจนตั้งครรภ์ โดยอดีตนายช่างทองได้มาปฏิสนธิในครรภ์ธิดาเศรษฐี


     ด้วยผลกรรมที่เคยพูดว่าให้จับพระศาสดาโยนลงน้ำ เมื่อคลอดแล้วธิดาเศรษฐีจึงได้จับทารกน้อยใส่ลงภาชนะ เอาดอกไม้ปิด แล้วสั่งให้หญิงรับใช้นำไปลอยแม่น้ำคงคา ทารกน้อยจึงถูกปล่อยลอยน้ำไปตามยถากรรม


     หญิง ๒ คนกำลังอาบน้ำอยู่เห็นภาชนะลอยมา คนหนึ่งบอกว่าภาชนะนั้นเป็นของฉัน อีกคนหนึ่งบอกว่าสิ่งของในภาชนะเป็นของฉัน พอนำภาชนะขึ้นฝั่งแล้วเปิดออกดูก็เห็นทารกน้อย หญิงทั้งสองจึงแย่งกันเป็นเจ้าของทารก หญิงคนแรกบอกว่าเด็กเป็นของฉันเพราะฉันบอกก่อนว่าภาชนะเป็นของฉัน หญิงคนที่สองไม่ยอม บอกว่าเด็กเป็นของฉันเพราะเธอบอกว่าภาชนะเป็นของเธอ ส่วนฉันบอกว่าของในภาชนะเป็นของฉัน

     หญิงทั้งสองไปให้ศาลวินิจฉัย ศาลวินิจฉัยไม่ได้จึงต้องให้พระราชาวินิจฉัย พระราชาตัดสินให้ภาชนะเป็นของหญิงคนแรก เด็กเป็นของหญิงคนที่สอง หญิงคนที่สองจึงรับเด็กไปอุปการะ


     เด็กคนนี้พอโตขึ้นหน่อยก็มีผมรุงรัง เหมือนผมของชฎิล หญิงแม่เลี้ยงจึงตั้งชื่อว่า ชฎิละ


ย้ายไปตักกสิลา

     สมัยนั้นพระกัจจายนะจาริกมาใกล้เรือนของชฎิละ มารดาเลี้ยงอุปัฏฐากพระเถระอยู่ จนเมื่อพระเถระจะจาริกไปต่อ มารดาเลี้ยงจึงถวายชฎิละให้พระเถระ หวังจะให้บวชเณร

     พระกัจจายนะตรวจดูบุญกรรมของชฎิละ รู้ว่าเป็นคนมีวาสนาทั้งทางโลกและทางธรรม จึงรับตัวไว้ แล้วพาเดินทางไปถึงเมืองตักกสิลา


ชฎิละขายของ

     พระกัจจายนะเถระฝากให้พ่อค้าอุปัฏฐากคนหนึ่งในเมืองตักกสิลาช่วยเลี้ยงดูชฎิละให้ก่อน พ่อค้าคนนั้นรับไว้ แล้วให้ชฎิละช่วยค้าขายด้วยตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนย่างเข้าวัยหนุ่ม

     วันหนึ่ง พ่อค้านำสินค้าไปตลาด กำหนดราคาสินค้าแล้วไปทำธุระที่อื่น ปล่อยชฎิละช่วยเฝ้าสินค้าไว้ไม่คิดว่าจะขายได้ เพราะสินค้านี้พ่อค้าซื้อมา ๑๒ ปีแล้วยังขายไม่หมด แต่วันนั้น เทวดารักษานครได้ดลใจชาวบ้านที่ต้องการสินค้าให้มาซื้อกับชฎิละเท่านั้น ชฎิละจึงขายสินค้าที่ค้างไว้ถึง ๑๒ ปีจนหมดภายในวันเดียว พ่อค้ากลับมาเห็นสินค้าขายหมดก็ปลื้มใจว่าชฎิละเป็นคนมีบุญ จึงปลูกเรือนให้ และยกธิดาให้เป็นภรรยา


ภูเขาทองหลังเรือน

     ด้วยผลบุญที่ทำดอกไม้ทองบูชาพระศาสดา พอชฎิละก้าวเท้าเหยียบธรณีประตูเรือนหลังใหม่ ภูเขาทอง ๘๐ ศอก ก็ผุดขึ้นที่หลังเรือน เขาจึงกลายเป็นมหาเศรษฐี พระราชาพระราชทานฉัตรให้ แต่งตั้งเป็น ชฎิลเศรษฐี

     ชฎิลเศรษฐีมีบุตรชาย ๓ คน เมื่อบุตรเจริญวัยแล้วเขาจึงคิดจะออกบวช แต่ติดว่าตนเองเป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์มากมายจนนับไม่ถ้วน เป็นเศรษฐีเหนือเศรษฐี มีศักดิ์มีศรีมียศใหญ่ไม่ต่างจากพระราชา บุตรทั้งสามคงไม่ยอมให้บวชแน่ แต่ถ้าบุตรรู้ว่าชมพูทวีปมีเศรษฐีอื่นที่มีทรัพย์มากมายนับไม่ถ้วนเป็นมหาเศรษฐีเหมือนตน การเป็นมหาเศรษฐีเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีความพิเศษเหนือใคร บุตรคงยอมให้บวช

     คิดแล้วชฎิลเศรษฐีจึงคิดจะค้นหามหาเศรษฐีในชมพูทวีป


ค้นหาเศรษฐี

     ชฎิลเศรษฐีให้ช่างทำอิฐด้วยทองคำ ด้ามปฏักทองคำ และรองเท้าทองคำ แล้วให้คนของตนไปหาของแบบนี้ว่ามีอยู่ที่ใดบ้าง หมายใจว่าผู้ที่มีสิ่งของเหล่านี้จะต้องเป็นมหาเศรษฐีเหมือนกัน

     บุรุษเหล่านั้นเที่ยวค้นหาไปทั่วทิศ เดินทางไปแคว้นโกศล พาราณสี มคธ ไปจนถึงภัททิยนครแห่งแคว้นอังคะ เที่ยวถามหาว่ามีเศรษฐีที่ไหนมีของแบบนี้บ้าง

     เมณฑกเศรษฐีแห่งภัททิยนครเห็นบุรุษเหล่านั้นจึงถามว่าพวกท่านมาหาอะไร บุรุษพวกนั้นนำอิฐ ปฏัก และรองเท้าทองคำให้ดู บอกว่าพวกตนหาสิ่งของแบบนี้ เมณฑกเศรษฐีเห็นก็รู้ว่าของนี่เป็นสมบัติของมหาเศรษฐี เขาให้คนมาค้นหาเศรษฐีที่มีทรัพย์เสมอกัน คิดแล้วจึงบอกว่าพวกท่านลองไปดูที่หลังเรือนของเราว่ามีไหม

     บุรุษพวกนั้นไปดูหลังเรือนเมณฑกเศรษฐี เห็นหลังเรือนเมณฑกเศรษฐีมีแพะทองคำขนาดเท่าช้าง ม้า และโคอุสุภะ ผุดขึ้นจากแผ่นดินจนเต็มพื้นที่ ๘ กรีส จึงรีบกลับไปบอกชฎิลเศรษฐีว่าพบเศรษฐีที่มีทรัพย์เสมอกันแล้วอยู่ที่ภัททิยนคร

     ชฎิลเศรษฐีฟังแล้วก็มีใจแช่มชื่นว่าเศรษฐีตระกูลอื่นมีทรัพย์เหมือนเรา แต่จะมีเศรษฐีตระกูลอื่นอีกไหมหนอ


ค้นหาเศรษฐีคนอื่น

     ชฎิลเศรษฐีให้บุรุษพวกนั้นไปหาเศรษฐีตระกูลอื่นอีก ครั้งนี้ออกอุบายให้นำผ้ากัมพลเนื้อดีของของตักกสิลามูลค่าแสนหนึ่งไปด้วย ให้นำผ้าไปทำทีจะเผาเพื่อจะค้นหาเศรษฐี

     บุรุษพวกนั้นเดินทางหาเศรษฐีกันอีกครั้งจนมาถึงกรุงราชคฤห์ เขาไปก่อกองไฟที่ข้างเรือนโชติกเศรษฐี เมื่อมีคนถามว่าจุดไฟจะทำอะไร บุรุษพวกนั้นตอบว่าพวกเรานำผ้ากัมพลเนื้อดีจากตักกสิลามาขาย แต่ผ้ามีมูลค่ามากจึงขายไม่ได้ พวกเราจะเดินทางกลับก็กลัวโจรปล้น เพราะเหตุนี้พวกเราจึงจะเผาผ้านี้เสียก่อนจึงค่อยเดินทางกลับ

     โชติกเศรษฐีได้ยินว่าบุรุษพวกนี้จะเผาผ้าจึงช่วยรับซื้อไว้ แล้วสั่งให้คนเอาไปให้ทาสีคนกวาดพื้นที่ซุ้มประตูปราสาทของตน นางทาสีพอรับผ้ากัมพลผืนนั้นแล้วก็เสียใจร้องไห้ เข้าไปหาโชติกเศรษฐีถามว่าเธอมีความผิดอะไรท่านเศรษฐีจึงลงโทษให้ผ้ากัมพลเนื้อหยาบนี้ แล้วเธอจะนุ่งหรือห่มผ้ากัมพลผืนนี้ได้อย่างไร

     โชติกเศรษฐีบอกว่า ฉันไม่ได้ให้เธอเอาไปทำผ้านุ่งผ้าห่ม แต่ให้เธอเอาไปทำเป็นผ้าเช็ดเท้า เมื่อเธอล้างเท้าด้วยน้ำหอมก่อนเข้านอนก็จงใช้ผ้าผืนนี้เช็ดเท้า นางทาสีได้ฟังจึงหยุดร้องไห้รับผ้ากัมพลกลับไป

     พวกบุรุษเหล่านั้นเห็นเหตุการณ์แล้ว จึงกลับไปเล่าให้ชฎิลเศรษฐีฟัง


ชฎิลเศรษฐีออกบวช

     ชฎิลเศรษฐีดีใจที่ชมพูทวีปมีมหาเศรษฐีมีทรัพย์มากเหมือนตน จึงไปเข้าเฝ้าพระราชากราบทูลว่าจะบวช เมื่อพระราชาอนุญาตแล้วเขาจึงเรียกบุตรทั้งสามมาเพื่อจะยกทรัพย์ให้ แต่ต้องทดลองดูก่อนว่าทรัพย์นี้เกิดมาเพื่อบุตรคนไหน จึงสั่งให้บุตรชายเอาจอบไปขุดทอง

     บุตรชายคนโตขุดทองไม่ออก เพราะทองแข็งดังศิลา

     บุตรชายคนรองก็ขุดทองไม่ออกเหมือนกัน

     แต่บุตรคนเล็กกลับขุดทองได้ง่ายดายเหมือนขุดดิน เพราะบุตรคนนี้ในอดีตชาติคือคนที่ช่วยช่างทองทำดอกไม้ทองคำ


     เศรษฐีบอกบุตรทั้งสามว่า ทรัพย์ทั้งหลายเหล่านี้เกิดมาเพื่อบิดาและน้องเล็กเท่านั้น บิดาจึงยกทรัพย์ให้น้องเล็กทั้งหมด แต่พวกเจ้าก็จงอยู่ร่วมกันและใช้สอยทรัพย์กับน้องเล็กเถิด


     เมื่อยกทรัพย์ให้บุตรแล้ว ชฎิลเศรษฐีจึงไปบวช

     หลังจากบวชเพียง ๒-๓ วัน ชฎิลภิกษุก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์



ที่มา :

- อรรถกถาขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พราหมณวรรค เรื่องพระโชติกเถระ

- อรรถกถาขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ปัญญาวรรค อิทธิกถา









Create Date : 01 ธันวาคม 2553
Last Update : 1 ธันวาคม 2553 12:43:07 น. 4 comments
Counter : 1422 Pageviews.

 
ขอบคุณที่เขียนให้อ่านค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:14:30:51 น.  

 
มาอีกรอบค่ะ

ตอนนี้ที่สะพานมอญก็ยังมี้ร้านอยู่หนึ่ง ... อยู่ฝั่งไทยนะคะ
ติดสะพานมอญเลย
แต่ฝั่งมอญไม่ได้แวะลงดูค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:15:20:44 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
มาเรียนเชิญคุณอังคาร ร่วมลงนามถวายพระพรค่ะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:22:16:35 น.  

 
_/|\\_ สาธุค่ะ


โดย: อันตามาตี วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:10:12:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.