|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ถวายพระพุทธรูป วัดป่าภูเขาน้อย
เมื่อวันที่ ๒๖-๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔ ไปถวายพระพุทธรูปที่วัดป่าภูเขาน้อย จ.กาฬสินธุ์ โดยไปร่วมกับอีกสองคณะ คือ คณะคุณสุกิจและคุณธานี สองคณะนั้นเขาไปกันคณะใหญ่ ส่วนผมไปกันแค่สองสหายพ่อลูกเหมือนเคย
พระพุทธรูปที่ถวายก็องค์นี้เลยครับ
รายละเอียดการไปถวายพระพุทธรูป ตามไปดูกันได้ที่ลานธรรมครับ ที่กระทู้นี้
>> ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างศาลาปฏิบัติธรรม วัดป่าภูเขาน้อย จ.กาฬสินธุ์ <<
หรือท่านใดต้องการร่วมทำบุญสร้างศาลาปฏิบัติธรรมกับทางวัด ก็ไปดูรายละเอียดได้ในกระทู้เดียวกัน
ไปทำบุญครั้งนี้มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันเล็กน้อย
เพราะหนทางไกลจึงต้องออกเดินทางเช้าหน่อย ออกจากบ้านเวลาแปดโมงครึ่ง แวะทานอาหารเช้าที่วังน้อย ชื่อร้านบ้านสวนมั้ง แต่เป็นสาขา ๒ คนเยอะเพราะทำเลดี (แต่ฝีมือยังไม่สมที่จะนำมาคุย) ทานอาหารเสร็จก็โทรเช็คกับอีกสองคณะ ปรากฏว่าเขานำหน้ากันไปไกล เลยโคราชไปกันแล้วทั้งนั้น
วันนี้ขนต้นโพธิใส่รถไปด้วย ๒ ต้น พระอาจารย์ท่านบอกมาล่วงหน้าแล้วว่าที่วัดเป็นดินภูเขา ถ้าอยากให้ต้นไม้โตเร็วก็ต้องหาดินดีไปปลูก ก็เลยแวะซื้อดินปลูกต้นไม้ที่ขอนแก่นไป ๕ กระสอบ ส่วนปุ๋ยหอบมาจากโรงงานแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
ไปถึงวัดบ่ายสี่โมงเย็นพอดี ช้าไปหน่อยเพราะตั้งใจจะไปให้ถึงตอนบ่ายสาม วัดยังเงียบๆ อยู่เลย อีกสองคณะยังมากันไม่ถึง คณะคุณธานีไปแวะรับพระอีกวัดหนึ่ง ส่วนคณะคุณสุกิจไปเฮฮาอยู่ที่เขื่อนอุบลรัตน์ ก็เลยเป็นโอกาสที่ได้สนทนาธรรมกับพระอาจารย์ท่านตามลำพัง เป็นการสร้างบุญด้วยการฟังธรรมตามกาล เกิดมาจะได้มีปัญญาดีทุกชาติไป
สิ่งที่สนทนากันวันนี้นอกจากเรื่องทางโลกแล้วก็เน้นไปที่เรื่องทางธรรม โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติ สำหรับใครที่เข้าวัดป่าอาจจะมีประสบการณ์ทำนองเดียวกัน คือ พระท่านมักไม่ค่อยบอกไม่ค่อยเน้นว่าต้องทำอย่างไร ท่านบอกง่ายๆ แค่ "ทำไป" แต่คนทำมันช่างสงสัย ถามท่านว่าทำไปน่ะทำอย่างไร ท่านก็บอกอีกล่ะ "ทำอย่างที่เคยทำ" เจอแบบนี้แหละประจำเลย
แต่สำหรับพระอาจารย์กมลท่านไม่ได้พูดสั้นแบบนั้น ท่านแจกแจงวิธีปฏิบัติโดยยกประสบการณ์ของท่านขึ้นเป็นองค์แสดงธรรม ท่านเล่าว่าท่านปฏิบัติอย่างไร เคยเจอสภาวะอย่างไรมาบ้าง แล้วท่านจัดการกับมันอย่างไร โดยสรุป ท่านบอกว่าเดินตามพระไตรปิฎกนั่นแหละ ถูกทุกอย่าง เพียงแต่บางเรื่องบางคำมันยังไม่ชัด สภาวะบางอย่างมันอธิบายให้ชัดไม่ได้เพราะไม่มีคำที่เป็นสมมุติบัญญัติที่ตรงกันร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นคำว่า "ผู้รู้" ท่านว่าคนอ่านพระไตรปิฎกจะเข้าใจว่าอะไรดีล่ะ ถ้าไม่ปฏิบัติจนพบสภาวะนั้นเองก็คงแค่เข้าใจแบบเคยอ่าน แต่พอปฏิบัติจนได้พบสภาวะนั้นแล้วจึงจะรู้ชัดว่านี่ไง "ผู้รู้" แล้วจะรู้ว่าคำนี้มันไม่ตรงเสียทีเดียว แต่ก็ถือว่าตรงที่สุด ไม่มีคำไหนดีกว่า
ปกติผมมักจะมีข้ออ้างอยู่เสมอในเรื่องการนั่งสมาธิ เมื่อยบ้าง ปวดบ้าง เหน็บชากินบ้าง หลับบ้าง โดนพระอาจารย์ว่ามานักแล้วว่าเหตุผลไม่ใช่ตรงนั้นหรอก เหตุผลจริงๆ คือ ขี้เกียจนั่นแหละ เคยฟังหลายหนจากหลวงปู่ท่อนบ้าง หลวงปู่บุญมาบ้าง หลวงปู่อุทัยบ้าง หลวงปู่เจริญบ้าง หลวงปู่สาครบ้าง รวมทั้งฟังจาก CD หลวงปู่หลายรูปที่มรณภาพไปแล้ว ท่านว่าปวดขามันไม่ตายหรอก ท่านให้นั่งไป ยังไม่เคยมีใครนั่งสมาธิแล้วตาย แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้เจ้าเวทนานี่ทุกที แต่พระอาจารย์กมลท่านแจกแจงตรงนี้ลงไปว่าให้อดทน ไอ้ที่มันปวดเพราะเราเอารูปเอานามไปรวมกัน มันยังแยกไม่ออกว่าไอ้ที่ปวดอยู่น่ะรูปมันปวด จิตไม่ได้ไปปวดด้วยสักหน่อย ตำราว่าไว้ว่าให้แยกรูปนาม แต่ของจริงมันยังแยกไม่ได้ก็ต้องเจอแบบนี้ ท่านว่าอดทนอีกนิด ไม่ช้ารูปนามมันก็แยกจากกันได้ แล้วจะได้พบอีกสภาวะหนึ่ง
ท่านยังพูดต่อถึงเรื่องจริต ท่านว่าคนเรากว่าจะมาถึงวันนี้ เราจำกันไม่ได้หรอกว่าชาติก่อนๆ เราทำอะไรกันไว้ เราชินกับอะไร เราชอบอะไร แม้แต่เรื่องการปฏิบัติธรรม ยกตัวอย่างเวลานั่งสมาธิผมภาวนาพุทโธ แต่เวลาเดินจงกรมผมกลับภาวนาพุทโธไม่ได้ เพราะมันหล่นหายตั้งแต่ไม่พ้นสิบก้าว ต้องหันไปนับเลขแทน ท่านว่า เพราะฝึกมาอย่างนั้น จริตมาแบบนั้น ทำไปก็ต้องสังเกตไป ถ้าพบจริตตัวเองได้ก็จะไม่เสียเวลามาก
ยังมีเรื่องราวอีกมากที่ท่านสอนผม แต่เป็นเรื่องปัจจัตตัง เป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน เล่าได้เท่าที่ควรจะเล่าครับ ท่านทิ้งท้ายว่า ทำบุญอย่าทิ้งบริวารนะ ชวนเขามาทำดี ทำด้วยกันไปด้วยกัน พอท่านบอกอย่างนี้ก็สะท้อนใจ งวดนี้ผมไม่ค่อยได้บอกใครเลย บอกผ่านทาง group mail เท่านั้นเอง กลับมาจึงต้องไปบอกในลานธรรมด้วย ใครอยากร่วมทำบุญสร้างศาลาปฏิบัติธรรมก็เชิญ แต่ถ้าอยากร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปก็รอนิด อาจจะเป็นปลายปีนี้ที่มีคิวไปถวายพระพุทธรูปกันอีก
กุศลใดที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว ขอกุศลนั้นจงมีผลแก่ทุกท่านที่ได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง เสมอกัน ธรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยได้ยิน ได้ฟัง ได้ปฏิบัติแล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายได้มีโอกาสได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของสติปัญญายิ่งๆ ขึ้นไป
จบแล้วก็ถือโอกาสทิ้ง blog อีกแล้วครับ พรุ่งนี้จะไปหนองบัวลำภู ไปไหว้พระพุทธรูปที่ถวายไว้เมื่อปี ๔๗ เสร็จแล้วก็จะวนไปสัมมนาลูกค้าที่อุบลราชธานี ก่อนจะตีรถด่วนกลับมารดน้ำดำหัวพ่อแม่ช่วงวันสงกรานต์ ความสุขของผู้ใหญ่คือการได้เห็นลูกหลานกลับมาหาพร้อมหน้าพร้อมตากัน ยิ่งได้มีพิธีอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ผู้ใหญ่ยิ่งมีความสุข ใครไม่คิดกลับบ้านก็ควรคิดได้แล้วครับ
Create Date : 09 เมษายน 2554 |
|
47 comments |
Last Update : 9 เมษายน 2554 17:13:35 น. |
Counter : 2521 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 10 เมษายน 2554 10:47:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 23 กรกฎาคม 2554 19:21:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: qq IP: 203.144.144.164 22 ตุลาคม 2554 22:59:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธานี IP: 202.91.23.5 26 ธันวาคม 2555 10:59:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
บางครั้ง เธอเข้าใจไหม ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้ เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...
[เพลงจาก http://www.fileden.com]
[ stat since Sep24, 2009 ]
|
|
|
|
|
|
|