ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอันรุ่งเรืองนี้
ดาบสนี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า
ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จ ในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้

... บล็อคง่ายๆ ของนายอังคาร ...

Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
5 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

พระอินทร์ ๖ (อนิจจา วะตะ สังขารา..)

กลับจากส่งท้ายปีเก่ายังไม่ได้แวะทักทายใครเลย เอาเรื่องนี้มาฝากกันก่อนครับ

คนเราสนุกสนานรื่นเริงกัน อยู่ๆ ก็พลันพลัดพรากจากกันไป บางคนไปเที่ยวส่งท้ายปีเก่าแล้วไม่ได้กลับมาอีก เพราะสังขารทั้งหลายไม่เที่ยงเลย หลายคนที่เป็น สว. กันแล้ว คือพวกสูงวัย คงได้ไปร่วมงานสังคมเพื่อฟังพระสวดบทนี้กันบ่อยๆ

อนิจจา วะตะ สังขารา
อุปปาทะวะยะธัมมิโน
อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ
เตสัง วูปะสะโม สุโข ฯ

แปลว่า
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
มีความเกิดขึ้นแล้วเสื่อมไปเป็นธรรมดา
เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป
ความเข้าไปสงบสังขารเหล่านั้นเป็นสุข ฯ

เป็นบทสวดในงานศพครับ บางทีก็สวดกันตอนทำบังสุกุล บทสวดนี้มีที่มาจากพระอินทร์ครับ

เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานที่ใต้ต้นสาละคู่ ในเขตเมืองกุสินารา แคว้นมัลละ ค่ำคืนนั้นพระพุทธองค์ทรงแวดล้อมด้วยภิกษุประมาณ ๕๐๐ กับเหล่ามัลลกษัตริย์และราชวงศ์อีกจำนวนหนึ่ง แต่ที่มากคือเหล่าเทวดาและพระพรหมจากหมื่นจักรวาลที่มากันเต็มห้องนภากาศ ต่างมาเฝ้าเพื่อจะได้แลเห็นพระศาสดาเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งนั้นพระอุปวาณะได้ยืนถวายงานพัดอยู่เบื้องพระพักตร์ยังถูกพระศาสดารับสั่งให้หลีกไป ไม่ให้ยืนบังเพราะเหล่าเทวดามาเพราะอยากเห็นพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย
ในครั้งนั้น พระอินทร์ ก็ได้เสด็จมาด้วย

เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น พระอินทร์ผู้ซึ่งเป็นพระโสดาบันแล้วได้กล่าวคาถา ๔ บทดังกล่าวข้างต้น ซึ่งต่อมาได้มีการนำคาถาบทนี้มาใช้สวดในงานศพ



ทักทายกันต้นปีใหม่ด้วยความไม่ประมาทครับ




 

Create Date : 05 มกราคม 2553
5 comments
Last Update : 5 มกราคม 2553 20:23:14 น.
Counter : 12495 Pageviews.

 

สาธุ

 

โดย: adisai129 5 มกราคม 2553 22:06:28 น.  

 

ขอบคุณที่มาเตือนสติ ตั้งแต่ต้นปีค่ะ

เราก็ว่าเราไม่ประมาทแล้วนา บางทีก็เผลอไป หรือคนอื่นก็เผลอไปนะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 5 มกราคม 2553 23:15:50 น.  

 

ขอให้สุขสดใสในปีใหม่

คิดสิ่งใดสมประสงค์จำนงหมาย

สุขภาพดีทั้งใจกาย

อย่าได้คลายรักสามัคคี

 

โดย: Elbereth 6 มกราคม 2553 14:39:00 น.  

 

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะคุณอังคาร

สวัสดีปีใหม่ค่ะ อิอิ ไปเที่ยวไหนมาบ้างค่ะ ปีนี้อากาศแปลกประหลาดมากค่ะ ตอนนี้ ฝนตก ยังกะหน้าฝน ตกลงตอนนี้มันหน้าอะไรกันแล้วนี้

เรื่องการจากลา ตอนที่หลินซึ้งมากฟังแล้วน้ำตาจะไหลคือ การ ละสังขาร ของพระสารีบุตร เมื่อ ท่านรู้ตัวว่าจะต้องตายแล้วจึงได้ไปลาพุทธองค์ ทรงพูดไว้ว่า

" ข้าแต่พุทธองค์ การเวียนว่ายตายเกิดในวัฎฎะสงสารของข้าพเจ้าได้ถึงที่สิ้นสุดแล้ว... ข้าพเจ้าขอกราบแทบเท้าพุทธองค์.... ข้าพเจ้าได้ตั้งปณิธานที่จะได้พบกับพุทธองค์ ผู้เป็นอาจารย์ที่ประเสริฐสุด ก็ได้พบแล้ว...ได้พบโมกขธรรมตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็นพระองค์.... การได้เห็นพุทธองค์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย!!... นับจากนี้ไปจะไม่มีโอกาสได้เห็นพุทธองค์อีกแล้ว ...." ( นึกภาพตามแล้ว น้ำตาไหล..เศร้ามาก.. )

พระสารีบุตรได้ก้มลงกราบพุทธองค์ครั้งสุดท้าย และออกเดินทางพร้อม พระติดตามอีก500 ไปยังบ้านเกิด
ที่ที่ ท่านได้ละสังขาร ค่ะ

อิอิ หลินลงเรื่องไว้ในบล๊อก อิอิ อ่านที่ไร น้ำตาจะไหล

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ฝันดีค่ะ
"

 

โดย: ย่าชอบเล่า 6 มกราคม 2553 22:13:38 น.  

 

สมัยเด้กอยู่พ่อแม่พาทำบุญทำทาน ตักบาตรก้ทำไปตามผู้ใหญ่บอก เข้าโรงเรียน เรียนวิชาหน้าที่พลเมืองสีลธรรมเร่มรู้หลักธรรมะบ้างคือ สีล5 แม่ให้ไปส่งปิ่นโตหลวงปู่คำ วัดป่าพังโคน ท่านให้นั่งสมาธิ หลับตา เม้มปาก ห้ามกระดุกกระดิก รอเก็บปิ่นโตกลับ หลวงปู่คำ หลังจากมรณะภาพ กระดุกท่านกลายเป็นแก้ว พระธาตู เราก็ยังตามหาอรหันต์ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราพบเวทนา พลัดพากจากสิ่งที่รักเป็นทุกขื เงินหาย ควายหาย วัวหายก้ไม่ทุกขืเท่าทุกขืจากความพรดพรากสิ่งที่รักเป็นทุกขืคือ บิดา มารา ลูกหาน ญาติมิตร จึงค่อยๆเข้าใจธรรมะ ดวงตาเห็นธรรมมาบ้าง เพราะธรรมะนั้น คือ การฟอกจิตใจที่ขุ่นมัว ให้ใสกลับมาเป็นแก้วเหมือนตอนเราเป็นเด็ก และบริสุทธิ์ปราศจากจากการแก่งแย่งชิงดี พยาบาท อาฆาต อิจฉาริษยากัน จนกลายเป้นตัวโกงของชีวิตจริงแทนที่จะเป็นพระเอก นางเอกที่เต็มไปด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทตา อุเบกขา จนตามพระอรหนันต์อยู่ที่ไหนต้องตามไปกราบทำบุญด้วย

แท้ที่จริงแล้ว หลวงตามหาบัว ยอดอริยสงฆ์ยุดไอที ท่านสอนไว้ก่อนละสังขารบรรลุสู่แดนสุขาวดีว่า ทุกคนในกาย วาจา ใจนั้น มีอนิจจัง ทุกขัีง อนัตตา มีไตรลักษณ์ ครบให้ศึกษาอยู่แล้ว เมื่อเจริญสติอยู่กับกาย วาจา ใจ อย่าให้ออกไปไหน ก็จะเห็นความจริงและปัญญาเกิดขึ้น แล้วพุทธะจิตจะผุดขึ้นมาแล้วหลุกพันไปได้ในที่สุด ไม่ต้องตามไปหาอื่นหากไกล มองขันธ์ 5 ออกแจกแจงให้เข้าใจและปล่อยวางเสีย อย่างปรุงแต่ง สังขารก็สงบรำงับ จิตก้สงบรำงับ ไม่ฟุ้งซ่านออกนอกลมหายใจเข้าออกเท่านั้น เพราะก่อนจะไปนิพพานได้ต้องให้วิปัสสนาให้เห็นไตรลักษรือย่างซาบซึ่ง จนเบื่อหน่ายจริงๆก็จะเห็นอย่างหลวงตาสอน พบสัจจธรรมอย่างหลวงตาพบ ที่พระพุทธเจ้าประกาศสอนสั่งเวไนยสัตว์ไว้ สุดท้ายไตรลักษญ์ก็ทิ้งไว้กับโลกไม่เอาไปด้วยกับท่าน เพราะเมื่อดวงจิตหลุดพันเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นนิพพานธาตุแล้ว ก้เหนือโลก ไตรลักษณ์ไม่อาจตามไปได้ เพราะเป็นอิสระไม่ผูกกันกันแล้ว จิตผ่องใสเป้นประภัสสร คือ จิตเดิมแท้ของนิพพานนั้นเอง

การพัฒนาจิตจึงต้องหมั่นเพียรพยายาม ยกระดับให้สูงขึ้นชาติแล้วชาติเล่า พระพุทธองค์ทรงสอนพุทธบตรไว้ว่า หากแม้นยังไม่อาจเข้าถึงนิพพานได้ในปัจจุบัน ก้ให้ใฝ่บุญกุศลไว้ก่อน เพราะเป็นสายธรรมที่อยูใกล้กับประตูเข้าสู่มรรคผล วิมุตติธรรม ตรงสู่ นิพาน ในชาติที่สุดแล..........

 

โดย: egkarat@gmail.com IP: 223.205.128.182 20 กันยายน 2554 18:30:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Siri_waT_bkk
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บางครั้ง เธอเข้าใจไหม
ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน
ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน
สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ

   ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย
   หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง
   ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ
   เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ

ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ
ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร
ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้
เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน

   ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน
   ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ
   ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
   เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...

   
    [เพลงจาก http://www.fileden.com]


[ stat since Sep24, 2009 ]
Friends' blogs
[Add Siri_waT_bkk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.