Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
..... บทที่ 16 .....




บทที่ 16


“แป๊ด! แป๊ด!”

“แป๊ด! แป๊ด!”


“ลาย! วิ่งออกไปดูหน่อยซิใครมาบีบแตรเรียกอยู่หน้ารั้ว” ป้ายวนตะโกนเรียกลายที่กำลังพาหินลงเล่นน้ำในสระหลังบ้าน

“นั่นมันเสียงรถที่บ้านนี่ครับ สงสัยพี่เดือนมาหาผม...หินนั่งอยู่เฉยๆ ที่ขอบสระก่อนนะ เดี๋ยวผมมา” ลายวิ่งโทงๆ ตัวเปียกไปที่ประตูรั้ว

“กำลังสนุกอยู่ซีนะ! ระวังยายลิลลี่จะเขมือบไปอีกคนนะแก” เดือนเห็นลายอยู่ในกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วจึงอดหมั่นไส้ไม่ได้

“ฉันมาตามแกกลับบ้าน...แม่ถามฉันว่าแกหายไปไหน ฉันไม่รู้จะตอบยังไง”

“ฉันมาทำงานของฉัน และทำงานให้พี่เดือนด้วยจำไม่ได้หรือ พี่ก็ช่วยแก้ตัวให้หน่อยแล้วกัน”

“แกไม่ใช่เด็กแล้วนะ เป้าตุงขึ้นทุกวัน ฉันจะแก้ตัวอย่างไรแม่ก็ไม่เชื่อหรอก” เดือนหยิบก้อนกรวดปาไปที่เป้ากางเกงว่ายน้ำของลาย

“เจ็บนะพี่! งั้นวันนี้ฉันกลับไปบ้านก่อนให้แม่สบายใจสักวัน” ลายหันกลับเดินเข้าบ้าน

“พี่รอฉันแป๊ปนะ” ลายตะโกน

“หินจะอยู่ยังไง...เฮ้อ!” ลายพูดกับตัวเอง.....


“ยายครับ แม่ให้พี่เดือนมาตามผมกลับบ้าน ผมจะไปชี้แจงให้แม่เข้าใจแล้วผมจะรีบกลับมา ตอนผมไม่อยู่ฝากยายช่วยดูหินด้วยนะครับผม” ลายเดินไปหาหินที่ริมสระน้ำ

“เฮ้ย! หินมันหลานข้านะโว้ย เจ้าลายนี่มันพูดอะไรของมัน” ป้ายวนแกล้งโวยวายยิ้มๆ

“หินขึ้นบ้านกันก่อนนะ ผมจะกลับบ้านไปหาแม่สักหน่อย เดี๋ยวมา”ลายพาหินขึ้นบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเขาก็จัดการตัวเองลวกๆ รีบออกจากห้อง

“แล้วผมล่ะ!” หินตะโกนตามหลังทำให้ลายต้องกลับเข้ามาอีก

“หินอย่าพูดอย่างนั้นสิผมใจคอไม่ดี ถ้าหินไม่เข้าใจผมไปไม่ได้นะ...ผมสัญญา...ผมจะรีบกลับมาครับ” ลายบีบมือปลอบใจ



“ไม่ต้องตกใจนะหิน ลายเขาไปบอกฉันเมื่อสักครู่ วันนี้หินอยู่แต่ในห้องก่อนแล้วกัน ถ้าลายเขาไม่กลับมาฉันพอจะหาคนมาแทนได้ ไม่ต้องเป็นห่วง” ลิลลี่เข้ามาคุยเป็นเพื่อนหิน

“มีเรื่องอะไรจะคุยด้วยสักหน่อย เรื่องพ่อแม่และการเรียนของหิน” ลิลลี่นั่งบนเตียงข้างหิน

“ครับ ผมก็นึกอยู่เหมือนกัน ภาวนาให้ตาดีขึ้นไวๆ เปิดเทอมผมจะได้กลับไปเรียน” หินมองออกไปนอกหน้าต่าง

“หินรู้ได้อย่างไรว่าหน้าต่างอยู่ตรงนั้น” ลิลลี่แปลกใจ

“คุณลืมไปแล้วหรือครับว่าผมเคยอยู่ห้องนี้ก่อนที่จะตาไม่ดี” หินหัวเราะกลบเกลื่อนความจริง ความจริงที่เขาเริ่มมองเห็นแสงมัวๆ ตรงทิศที่มีหน้าต่างอยู่ เขายังไม่อยากให้ใครรู้จนกว่าจะแน่ใจ

“จริงสินะ คงเป็นเพราะฉันอยากให้หินหายไวๆ” ลิลลี่ยิ้มกับหินที่กำลังยิ้มอยู่เช่นกัน เธออยากเข้าไปกอดหินเหลือเกินแต่ก็ทำไม่ได้ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเข้าใจบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในใจของเธอ คงต้องรอให้ทุกสิ่งคลี่คลายออกมา และวันนั้นเธอคงจะได้กอดหินอย่างที่ต้องการ...




“หินหลับอยู่หรือเปล่า ยายเอาข้าวเย็นมาให้” ยายยวนวางชามข้าวบนโต๊ะเล็กข้างเตียง

“หินหลับอยู่ครับ กำลังฝันว่ายายป้อนข้าวให้” หินหัวเราะ

“ยายป้อนให้ก็ได้นะ”

“ผมกินเองได้ครับ ลายสอนไว้จนเก่งแล้ว ยายนั่งเป็นเพื่อนผมก่อนนะครับ” หินเอื้อมมือไปหยิบชามข้าวบนโต๊ะและเริ่มตักกิน “วันนี้ยายผัดข้าวกับไส้กรอก มีไข่ดาวชิ้นเล็กๆด้วย ถั่วก็มี นี่คงเป็นข้าวผัดอเมริกันแน่ๆ โอ้โฮยายเก่งจังครับ”

“ไม่ใช่ยายทำหรอก คุณลิลลี่ผัดให้หินเอง กินให้หมดชามนะเดี๋ยวคุณจะเสียใจ”

“ยังไงก็หมดแน่ครับเพราะอร่อยมาก ผมพูดจริงๆนะครับ” หินเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ทำเอาลิลลี่ซึ่งแอบดูอยู่หน้าห้องยิ้มอย่างมีความสุข...




“กา กา กา กา” เสียงหมู่นกการ้องบินกลับรังฟังวิเวกวังเวง นกบินมาเป็นฝูงแต่ทำไมยังร้องโหยหาความอบอุ่นอยู่อีกนะ

“นกกาคงไม่เหงา เราต่างหากที่ฟังแล้วรู้สึกไปเอง ก็ไม่เหงานะแต่มันว่างๆ ใจมันว่างเพราะไม่มีใครเข้ามาอยู่ ไม่เข้ามาทักทาย” หินพูดเบาๆ กับตัวเอง


“ก๊อกๆ ก๊อกๆ ฉันเข้าไปได้ไหม?”

“ได้ครับคุณ” หินลุกขึ้นนั่ง

“ยายก็มาด้วยหรือครับ มีเรื่องอะไรสำคัญเอ่ย” หินได้ยินเสียงสองฝีเท้าและกลิ่นแปลกๆ กลิ่นที่คุ้นเคย...

“นี่ก็ค่ำแล้วลายคงไม่มา...ฉันพาคนมาเป็นเพื่อน...เขายินดีจะเป็นตาเป็นแขนขาให้หิน เขาพูดไม่ได้แต่ได้ยินทุกอย่างที่หินพูด อาจจะอึดอัดใจนิดหน่อย ก็ยังดีกว่าอยู่คนเดียวนะหิน” ลิลลี่มองไปที่คนๆ นั้น

“อ้อ! หินอาจจะสะเทือนใจบ้างนิดหน่อยเพราะ...เพราะ เขาชื่อศักดิ์ ฉันขอร้องให้เปลี่ยนชื่อแต่เขาไม่ยอม”

“ศักดิ์!” หินทำหน้าแปลกๆ

“ศักดิ์ไว้ใจได้ หินไม่ต้องวิตก...ศักดิ์ฉันฝากหินด้วยนะ” ลิลลี่ออกจากห้องด้วยสีหน้าไม่แตกต่างไปจากหินนัก

“ศักดิ์...” หินนั่งนิ่งอยู่นาน พูดอะไรไม่ออก หลายๆ อย่างผุดขึ้นมาในใจ ทั้งที่ชัดเจนและคลุมเครือ “ผมเคยมีศักดิ์คนหนึ่ง เขาไม่อยู่ให้ผมเห็นแล้วแต่ผมยังนึกถึงเขาทุกวัน...ก็ดีเหมือนกันที่คุณชื่อศักดิ์ ผมคงมีความสุขที่ได้เรียกชื่อคุณครับ” หินยิ้ม

อีกคนหนึ่งที่นั่งฟังอยู่ยิ้มมากกว่าหินหลายเท่า!

“เสียดายที่คุยกับผมไม่ได้ แล้วผมจะรู้อย่างไรว่าคุณอยู่ตรงไหน”

“ครับ” ศักดิ์เอื้อมมือไปแตะมือหิน เล่นเอาหินสะดุ้งสุดตัว

“อ้าว! คุณพูดได้หรือนี่ แต่เสียงคุณต่ำมากเลยครับ”

“ครับ..หิน”

“ผมเคยได้ยินเสียงคุณที่ไหนนะ...ไม่ใช่หรอก คล้ายๆ น่ะ” หินหันไปทางศักดิ์ ทำจมูกฟุดฟิด

“อื้อ...ไม่มีอะไรหรอก ผมคิดไปเองนะครับ...วันนี้คงไม่มีอะไรรบกวนคุณ ถึงเวลานอนแล้ว คุณนอนอีกด้านนะครับเตียงนี้ใหญ่พอ” หินล้มตัวลงนอน “ทำไมศักดิ์นอนข้างล่างล่ะครับ ขึ้นมาเถอะไม่ต้องเกรงใจผม ผมสิต้องเกรงใจศักดิ์ที่ต้องมาอยู่กับใครก็ไม่รู้ ซ้ำยังเป็นภาระกับคุณอีกต่างหาก”

“ไม่..ครับ..หิน” เสียงเค้นออกมาจากร่างที่เอนตัวลงนอนอีกด้านหนึ่ง




แม้จะเป็นเวลาเช้าที่เงียบสงบ แต่บ้านของลายกลับอึกทึกด้วยเสียงเพลง ความจริงเสียงน่ารำคาญมันมีมาตั้งแต่เมื่อคืนต่อเนื่องจนถึงเช้า ไม่ใช่อะไรหรอก พ่อลายถูกหวยใต้ดินหนึ่งร้อยบาทจึงต้องเลี้ยงฉลองกันหน่อย

“มีเมียเด็ก...ต้องหมั่นเช็คร่ายกาย...”

“ชอบจริงนะเพลงนี้ แม่ง!เปิดได้ทั้งคืน กูอ้วกจนหมดไส้หมดพุงแล้วมึงยังไม่หยุดเปิดอีก แม่ลายตะโกนออกมาจากครัวหลังบ้าน

“กูจาเปิดโชดเชยชีวีตจีงว้อยย! หรือจาห้ายกูปายหาโขงจีงจะด้ายม่ายฟางเพงนี้หืออ อี แก่!” เสียงอ้อแอ้ฟังไม่ค่อยได้ใจความตอบโต้มาจากลานบ้าน...

ลายฉวยโอกาสที่พ่อแม่กำลังเริ่มจะทะเลาะกันเลี่ยงออกทางหลังบ้าน เขาเข็นจักรยานออกมาเงียบๆ เมื่อพ้นสายตาก็รีบขึ้นโยกสุดแรง กำลังจะออกถนนดำ ลายได้ยินเสียงมอเตอร์ไซด์ที่บ้านไล่ตามหลังมา คิดว่าคงปั่นรถหนีไม่ทันแน่เขาจึงพาจักรยานเลี้ยวเข้าพงหญ้าข้างทางก้มลงแนบกับพื้นทั้งรถทั้งคนซ่อนตัวในกอหญ้ารกทึบ

“ไอ้ลายมันไปทางไหนกันวะ ถนนข้างหน้าก็ไม่เห็นมีรถสักคัน” แม่ของลายตะโกนพูดกับเดือนที่เป็นคนขับรถ

“โอ๊ย! ตะโกนข้างหูฉันงี้เดี๋ยวก็หูบอดอย่างไอ้หินมันหรอก”

“ลายมันจะปั่นรถได้เร็วอะไรอย่างนั้น ข้าเพิ่งเห็นมันจูงรถออกมานี่นา”

“แม่ตาฝาดหรือเปล่า มัวแต่ทะเลาะอยู่กับพ่อทั้งคืน เอ๋อไปแล้วมั้ง”เดือนตั้งลำกลับรถเตรียมจะเข้าบ้าน

“หรือข้าระแวงพ่อมึงจนนึกไปว่าไอ้ลายจะแอบไปหาอีเมียแก่เศรษฐีฝรั่ง” แม่ลายพูดคาดคะเนไปในทางที่ไม่ดีทำเอาลายถึงกับสะดุ้ง

“โห! แม่กับพี่เดือนยำคุณลิลลี่และหินจนเละเลยนะนี่ น่าสงสารคุณ”ลายนึกตำหนิแม่และพี่สาวของเขา อีกใจหนึ่งดีใจที่รอดพ้นจากสายตาของทั้งสองคนได้

“มันคงยังนอนไม่ตื่นละมั้ง ไอ้ลายขี้เกียจ ไป้! กลับบ้าน” แม่ลายออกคำสั่ง

“ปรื๊ด ปรื้น ปรื๊ด ปรื้น” เดือนสตาร์ทรถ


“โอ๊ย! โอ๊ย ช่วยด้วย!” เสียงลายร้องลั่นจากพงหญ้า

“แม่! นั่นมันเสียงลายนี่ เอ๊ะ!”

“ช่วยด้วย ไอ้เห่ามันฉกผม” ลายเดินเขยกออกมา

“แม่ขอผ้าพันคอหน่อย” เดือนดึงผ้าจากคอแม่ที่เงอะงะเพราะความตกใจ

“โดนกัดที่ไหน” เดือนช่วยพยุงลายออกมานั่งที่ถนน

“โอ๊ย...ที่เท้า” เดือนมัดผ้าที่โคนขาของลาย ใช้กิ่งไม้ขันชะเนาะทะมัดทะแมง

“นี่ไงรอยเขี้ยวของไอ้เห่า” เดือนก้มหน้าลงดูดที่รอยเขี้ยวนั้น เลือดสดๆ ของลายถูกบ้วนออกมาจากปากเดือน สักห้าหกหนคะเนว่าพิษปนออกมากับเลือดหมดแล้วเดือนจึงเงยหน้าที่แดงก่ำขึ้นมา

“ฉันช่วยแกขั้นแรกแล้ว แต่เราต้องไปหาหมอที่อนามัยเพื่อความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์...แม่ช่วยฉันหน่อย”

“ไอ้ลายนี่นะหาเรื่องจริงมึง” ลายขึ้นนั่งเกาะหลังเดือนมีแม่นั่งปะกบหลังขับออกถนนมุ่งหน้าไปอนามัย...




“หิน หินตื่นหรือยัง วันนี้ยายมาแต่เช้าจะมาอยู่เป็นเพื่อน”
ป้ายวนเดินเข้าไปในห้องนอนของหิน

“ที่จริงยังเช้ามืดอยู่เลย หินไม่ต้องตื่นหรอก ยายแค่มาบอกให้รู้” กำลังจะออกจากห้องป้ายวนเหลือบไปเห็นศักดิ์ที่นอนอยู่อีกด้านหนึ่ง แกเบิกตาโตเพราะความตกใจ จะร้องก็ร้องไม่ออกเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ จนถอยหลังออกจากห้องได้แกจึงเปล่งเสียงออกมา

“ผะ...ผะ...ผี...ผีหลอก ผีหลอก ช่วยด้วย คุณลิลลี่ขา ช่วยด้วยผีหลอก”ป้ายวนร้องตะโกนวิ่งไปหน้าห้องลิลลี่

“นึกแล้ว!” ลิลลี่เปิดประตูออกมารับป้ายวนเข้าไปในห้องเหมือนเดาเหตุการณ์ไว้ล่วงหน้า...




“ศักดิ์จะพาผมไปไหนแต่เช้า” หินเอามือระน้ำค้างบนใบไม้ข้างทางเล่น กลิ่นดอกไม้ป่าและกลิ่นเกสรดอกชมพู่หอมชื่นใจ วันนี้ไม่มีลายอยู่ด้วยแต่หินก็รู้สึกมีความสุขดี

“กำลังลงจากถนน...ผมจำได้นะนี่คือทางเข้าสวนไปบ้านยายใช่ไหม ?” มือหนึ่งจับข้อศอก อีกมือหนึ่งจับขอบกางเกงของศักดิ์เพราะทางเข้าสวนไม่เรียบเหมือนถนน บางแห่งมีก้อนดิน บางแห่งมีรากไม้โผล่ออกมา ถ้าไม่จับศักดิ์ไว้ให้มั่นอาจล้มได้

“อุ๊ป!” หินไม่วายสะดุดรากไม้จนได้ เขาผวาเข้าไปชนหลังศักดิ์

“หิน!” เสียงต่ำๆ ของศักดิ์มีสำเนียงของความห่วงใย “หิน..ครับ..หิน..ครับ” ศักดิ์พยายามเค้นเสียง

“อ้าว! หยุดเดินทำไมหรือครับ...จะทำอะไรหรือศักดิ์” หินแปลกใจระคนตกใจเมื่อรู้สึกว่าศักดิ์กำลังกลับตัวหันประจันหน้ากับเขา และอย่างไม่คาดคิดหินตัวลอยขึ้นจากพื้นเพราะสองแขนของศักดิ์

“จะทำอะไรครับนี่” หินถามซ้ำ “จะพาผมไปไหนหรือ...จะทำร้ายผมหรือ...ผมจะร้องให้ยายช่วยนะ...”หินอ้าปากเตรียมจะร้อง...

“หิน..ไม่” ศักดิ์เหนี่ยวแขนข้างที่ประคองหัวของหินกดเข้าแนบอก ทำให้หินร้องไม่ออก เขารีบเดินเข้าไปในสวนทะลุออกไปถึงบ้านเล็ก อุ้มหินขึ้นไปบนบ้านแล้วจึงวางลงที่ระเบียง

“ที่นี่บ้านยายใช่ไหม? ศักดิ์รู้จักบ้านยายด้วยหรือ แปลกจัง” หินทำหน้างง “อื้อ! น้ำอะไรหล่นมาเปียกผม เจ้ากระรอกสองตัวนั้นแน่ๆ” หินแหงนหน้าขึ้นมอง

“ตรืด ตรืด ตรืด ตรืด”

“นั่นไง! อยู่บนนั้นใช่ไหม? สบายกันดีหรือคุณ คิดถึงผมไหม ตรืด ตรืด” น้ำค้างบนใบไทรร่วงลงมาอีกเพราะเจ้าตัวเล็กสองตัวช่วยกันขย่มกิ่ง หินหัวเราะชอบใจ แต่แล้วก็รีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว “โอ๊ะ! น้ำเข้าตาผมครับศักดิ์” หินขยี้ตา เขารู้สึกแสบและมีแสงวิบๆในดวงตาทั้งสองข้าง

“หิน..ไม่” ศักดิ์ดึงมือหินไว้ไม่ให้ขยี้ตาอีก เขานั่งมองหินครู่หนึ่ง เมื่อเห็นหินเป็นปกติเขาจึงเอื้อมมือไปหยิบหมอนและรั้งตัวหินลงนอน

“ผมคิดถึงวันเก่าๆ ที่บ้านยาย ผมจำไม่ได้ชัดเจนนัก คล้ายๆ ว่าเคยนอนตรงนี้กับศักดิ์ เคยใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านนี้สามคนพ่อลูกและยาย เคยนอนในมุ้งผ้าด้วยครับ”

“ครับ” ศักดิ์มองหินด้วยแววตาเศร้า น้ำใสเอ่ออยู่ในดวงตาที่ถลนออกมาข้างหนึ่ง เขาอยากจะพูดอะไรออกมา แต่เขาพูดไม่ออก ไม่ใช่เพียงเพราะอัดอั้นใจแต่เพราะตั้งแต่เขาช็อคหมดสติเมื่อไม่นานมานี้เขาก็กลายเป็นคนพิการ ที่เขาพยายามหัดพูดได้ในสองสามเดือนนี้มีเพียงไม่กี่คำ คำแรกที่พูดได้คือ ‘หิน’ คำๆเดียวที่ฝังลึกอยู่ในใจของเขา

“ผมอยากให้คุณพูดได้มากกว่านี้ผมจะได้คุยกับคุณ รู้ไหมว่ามีหลายๆ อย่างของคุณที่คล้ายกับศักดิ์ของผม...ศักดิ์ที่สาบสูญไปจากโลกนี้แล้ว แต่คงอยู่ในใจผมตลอดไป” หินนอนยิ้มทั้งๆ ที่มีน้ำตาปริ่มอยู่สองขอบตา “ผมจะอยู่คิดอะไรที่บ้านยายนี้ก่อนนะครับ ถ้าศักดิ์เบื่ออยากจะไปทำอะไรก็ได้” หินควานมือหาศักดิ์

“ไม่..ครับ” ศักดิ์จับมือหินวางบนแขนของเขา

“หิน..ครับ” ศักดิ์อยากจะพูด อยากจะทำอะไรมากกว่านี้นัก...




ลายนอนซมเพราะพิษไข้ ขาบวมเป่งแดงคล้ำขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้...พ่อหายเมาเป็นปลิดทิ้ง แม่ก็เลิกค่อนแคะพ่อ สองคนช่วยกันเก็บกวาดบ้านจนสะอาด เดือนวนเวียนไม่ห่างจากลาย...ลายตระหนักเดี๋ยวนี้เองว่าครอบครัวคือแหล่งความรักและความห่วงใยที่แท้จริง...


“ถ้าไม่ได้พี่เดือนและข้าแล้วละก็ เอ็งเป็นผีแน่ๆไอ้ลายเอ้ย” แม่เริ่มบ่น

“ครับ ถ้าแม่ไม่ตามออกไปพบ ผมคงตายอย่างแม่ว่า” ... ‘แต่ถ้าแม่ไม่ตามออกไปผมก็คงไม่เข้าไปให้ไอ้เห่ามันกัดเล่นอย่างนั้น’ ลายถียงในใจ...

“ฉันก็ผิดเหมือนกันที่เสี้ยมแกให้เข้าไปยุ่งกับบ้านนั้น” เดือนพูดเสียงเบาเพราะไม่อยากให้แม่รู้เรื่อง

“อีกหลายวันกว่าแกจะหาย ที่บ้านนั้นคงหอบกันกลับกรุงเทพฯ หมดแล้วแน่ๆ ช่างเถอะถึงอย่างไรพี่ศักดิ์ก็ไม่มีตัวตนอยู่แล้วนี่นะ” เดือนพับเสื้อผ้าสีดำชุดไว้ทุกข์ที่เก็บมาจากราวตากผ้า...ถึงอย่างไรเดือนก็รักศักดิ์อย่างแท้จริง

ลายคันปากอยากจะเล่าอะไรบางอย่างที่เขาได้เห็นในคืนที่หินเดินตกที่ลายไม่แน่ใจว่าถ้าพูดไปจะมีใครเชื่อ...แต่คิดในอีกแง่หนึ่ง พี่เดือนปลงได้อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะลายไม่อยากเข้าไปทำตัวเป็นสายลับ เขาไม่ต้องการทำร้ายจิตใจหิน ยิ่งเวลานี้พี่เดือนมีบุญคุณกับเขามาก ถ้าใช้ให้ทำอะไรเขาก็คงยากที่จะปฏิเสธ...เมื่อไหร่ที่เขาเดินได้เป็นปกติลายจะไปพบหินด้วยใจบริสุทธิ์อย่างแท้จริง...ไม่ใช่ไปทำงานให้พี่เดือน


ภายใต้แสงขมุกขมัวของเวลาใกล้ค่ำ ลายกำลังจะเคลิ้มหลับเพราะกินยาแก้ปวดไข้ ลายเห็นใครคนหนึ่งเดินขึ้นบ้านมา เมื่อเข้ามาใกล้เขาจึงร้องเรียกเดือน

“พี่เดือน! พี่รินมาหา” ‘ริน’แตะนิ้วชี้ที่ริมฝีปากเป็นเชิงห้ามไม่ให้ลายส่งเสียงดัง

“อ้าว! ริน” เดือนตกใจที่เห็นริน

“น้าหยดล่ะ ?” เดือนชะโงกมองซ้ายขวาอย่างมีพิรุธแล้วรีบดึงรินเข้าไปในห้อง


ลายนึกไม่ออกว่ามีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับรินเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา...มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา...ยาแก้ปวดเริ่มออกฤทธิ์...ลายตาหรี่ลง...และม่อยหลับไป.....






Create Date : 29 มกราคม 2551
Last Update : 6 พฤษภาคม 2551 14:49:17 น. 0 comments
Counter : 567 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.