|
.....บทที่ 11.....
บทที่ 11
สมุทรสงครามอีกเกือบยี่สิบปีผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน ลิลลี่จำสภาพบ้านเมืองและถนนหนทางแทบไม่ได้ เมื่อก่อนนี้ลิลลี่เคยมาทางรถไฟ จำได้ว่านั่งรถไฟจากกรุงเทพฯมาลงที่สมุทรสาคร ลงเรือข้ามฟากไปขึ้นรถไฟอีกทอดหนึ่งจึงมาถึงแม่กลอง เวลานั้นลิลลี่เป็นเด็กสาวลูกครึ่งแก่นแก้วที่ตื่นเต้นกับธรรมชาติของเมืองไทย ...เธอท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด
ด้วยจิตใจอ่อนโยนมองโลกในแง่ดีและขาดประสบการณ์ชีวิต ลิลลี่ถูกเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งล่อลวงพาไปเทียวทะเลจนเกือบเสียที โชคดีที่มีหนุ่มน้ำเค็มคนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือ...ขณะนั้นลิลลี่ไม่มีสติควบคุมตัวเองเพราะถูกกลุ่มวัยรุ่นมอมยา...เธอจำไม่ได้ว่าเธอเป็นฝ่ายรุกหนุ่มน้ำเค็มคนนั้นได้อย่างไร แต่เธอก็หลงรักเขาในที่สุด...
พ่อแม่ของลิลลี่อยู่ต่างประเทศไม่รู้เลยว่าลูกสาวนั่งขายปลาเค็มอยู่ในตลาดข้างสถานีรถไฟเกือบหนึ่งปีต่อมา จนเธอมีลูกชายคนหนึ่งพ่อแม่สั่งให้เธอกลับบ้าน เธอจึงทิ้งลูกไว้กับสามีเพื่อกลับไปบอกพ่อแม่และจะกลับมาอยู่อย่างถาวร
แต่เมื่อเธอกลับมาทั้งลูกทั้งสามีหายไปจากแม่กลอง เธอสืบหาก็ไม่พบร่องรอยรู้แต่ว่าสามีออกทะเลเพื่อไปหาปลาอย่างเคยและหายไป ลูกชายที่ฝากข้างบ้านเลี้ยงก็พลอยระหกระเหินสาบสูญ...
ลิลลี่เคยย้อนกลับมาตามหาครอบครัวอีกหลายครั้ง...จนแน่ใจว่าหมดหวังเธอจึงไม่ได้มาอีกเลย...
ติ๊ดตี่ติ๊ดตี้...ติ๊ดตี่ติ๊ดตี้
พ่อศักดิ์ครับ รับโทรศัพท์ด้วย หินตะโกนเรียกศักดิ์ที่กำลังขับรถตัดหญ้าอยู่ในสนาม
ติ๊ดตี่ติ๊ดตี้...ติ๊ดตี่ติ๊ดตี้
พ่อศักดิ์คร๊ า บ หินตะโกนเสียงดังแข่งกับเสียงรถตัดหญ้าแต่ศักดิ์ก็ไม่ได้ยินเพราะอยู่ไกลจากตัวบ้านหินจึงนำโทรศัพท์ไปให้ที่สนามหญ้า
พ่อครับ ไม่รู้ใครโทรมาหินเรียกพ่อตั้งนานแต่พ่อไม่ได้ยิน หินยื่นโทรศัพท์ให้ ศักดิ์รับไปกดดูข้อมูลการใช้
อ๋อ! คุณลิลลี่โทรมา แต่เอ๊ะ! อีกเบอร์ของใครดูคุ้นๆ
ติ๊ดตี่ติ๊ดตี้... ยังไม่ทันที่ศักดิ์จะคิดอะไรกับเบอร์ปริศนาเครื่องก็ดังอีกครั้ง
สวัสดีครับคุณลิลลี่
สบายกันดีหรือ หินเป็นอย่างไรบ้างดื้อกับศักดิ์อีกหรือเปล่า
หินสบายดีครับเป็นเด็กดีไม่ดื้อครับ หินเอื้อมมือไปปิดสวิชรถตัดหญ้าทันทีเมื่อแว่วได้ยินชื่อของตัวเองอยู่ในการสนทนา
ฉันมาทำธุระที่สมุทรสงคราม ศักดิ์บอกฉันว่าเคยทำงานอยู่ที่แม่กลองหลายปี บริษัทไหนที่ศักดิ์ทำงานฉันจะเข้าไปขอประวัติการทำงานของศักดิ์เพื่อเป็นหลักฐานการเข้างานที่บริษัท เราต้องทำอะไรให้ถูกระเบียบคงเข้าใจนะ
ผมยังไม่ได้ลาออกครับและยังไม่มีความคิดจะลาออก แต่ที่ไม่ทำงานเพราะเหตุผลส่วนตัวบางอย่างครับ ขอบพระคุณคุณลิลลี่มากครับที่หวังดี
ฉันไม่เข้าใจนะแต่พยายามจะเข้าใจ ไม่เป็นไรยังไงฝากดูแลหินให้ดีด้วยนะแล้วฉันจะติดต่อมาใหม่
ครับ ศักดิ์งงกับการสนทนาของคุณลิลลี่ เขาสงสัยเหตุบังเอิญที่คุณลิลลี่ไปสมุทรสงครามและสืบประวัติการทำงานของเขา อีกอย่างที่สะกิดใจศักดิ์คือความห่วงใยที่คุณลิลลี่มีต่อหิน...
มีอะไรหรือครับพ่อศักดิ์หน้ายุ่งเชียว หินยืนจ้องหน้าศักดิ์เหมือนถาม
คุณลิลลี่โทรมาถามว่าพวกเราสบายดีไหมเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร เห็นหน้าหินศักดิ์จึงนึกออกว่าเบอร์ปริศนานั้นคือเบอร์ของนายใหญ่นั่นเอง แล้วนายใหญ่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณลิลลี่ด้วยจึงมีเบอร์อยู่ในเครื่อง ยิ่งคิดศักดิ์ยิ่งสับสน
ผมช่วยตัดหญ้านะครับพ่อ หินขับรถตัดหญ้าต่อจากที่ศักดิ์ตัดค้างไว้ขณะที่ศักดิ์เดินครุ่นคิดและกดข้อมูลดูในเครื่อง
อ้าว! เบอร์ของนายใหญ่นี่มันเบอร์โทรออกนี่นา โทรเมื่อกี้นี้เอง คงเป็นหินที่โทรออกไป ทำไมหินจึงรู้เบอร์ของนายใหญ่...ความทรงจำของหินกำลังกลับมา...หรือนายหินของเขากลับมาแล้ว?..
ศักดิ์ช่วยด้วยครับ! ศักดิ์สะดุ้งกับสำเนียงคุ้นหู หันไปทางที่มาของเสียง...รถตัดหญ้ากำลังพุ่งลงมาจากเนินเข้าหาตัวบ้าน ศักดิ์ยังไม่ทันจะทำอะไรรถก็พุ่งเข้าชนต้นพิกุลโครมใหญ่ ดอกพิกุลร่วงลงบนตัวหินที่ฟุบไม่ได้สติคาพวงมาลัย
เป็นหินอีกแล้ว! ศักดิ์วิ่งไปที่รถ ค่อยๆอุ้มหินออกมาแล้วจึงวิ่งไปบอกป้ายวนและวิ่งเลยออกไปขอยืมรถอีแต๋นของไอ้โลน...
ออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่วันก็ต้องกลับเข้ามาอีก หินนี่นะซนไม่เข้าเรื่อง ป้ายวนบ่นพึมพำ
หินหวังดีนะป้าแต่ยังไม่มีความชำนาญพอจึงเกิดเรื่องขึ้น ศักดิ์ช่วยแก้ตัว
เออ คอยแก้ตัวกับคุณลิลลี่แล้วกัน ไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้คงมาแน่
คุณหมอบอกว่าหินไม่เป็นอะไรมาก แผลที่หน้าท้องตรงรอยปานฉีกออกเพราะแรงกระแทก อยู่โรงพยาบาลสองสามวันให้แผลสมานกันก็กลับบ้านได้ ป้าไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอกครับ ศักดิ์ฝืนพูดแต่ใจกังวลกับอาการไข้ของหิน
ผมไปส่งป้ากลับบ้านก่อนดีกว่านะครับ ให้หินนอนอยู่ที่นี่กับหมอเดี๋ยวผมค่อยกลับมาอยู่เฝ้าเขา
จะดีหรือ เดี๋ยวคุณลิลลี่โผล่มาไม่พบใครคุณจะโกรธเอานะศักดิ์
ป้าครับหินเป็นลูกของผมนะ จริงอยู่คุณลิลลี่เป็นคนช่วยชีวิตหินไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีสิทธิ์ในตัวหิน ผมเป็นพ่อผมผจญภัยกับหินมามากเกินกว่าที่ป้าและคุณลิลลี่จะรู้ ชีวิตของผมทดแทนกันได้กับชีวิตหิน เชื่อสิครับป้าผมไม่มีวันให้หินเป็นอะไรไปมากกว่านี้แล้วครับ...เรากลับบ้านกันก่อน เดี๋ยวผมกลับมาใหม่
ตามใจเอ็งแล้วกัน ป้ายวนคล้อยตามคำอธิบายของศักดิ์ ทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาล แวะกินข้าวที่ตลาดกลางคืนหน้าอำเภอแล้วศักดิ์ก็รีบบึ่งรถกลับบ้าน
ตลอดทางศักดิ์คิดถึงแต่เรื่องของหิน...ไม่มีใครรู้ว่าวันนั้นที่นายใหญ่อยากให้หินไปแสมสาร ที่จริงศักดิ์เป็นคนเสนอแนะนายใหญ่เอง...ถ้าไม่ใช่เพราะเขา...หินคงไม่ต้องเป็นอย่างทุกวันนี้...เขานี่ชั่วจริงๆ ศักดิ์สบถตัวเอง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เขาต้องรับผิดชอบ และดูแลชีวิตของหินด้วยชีวิตของเขาที่พร้อมจะมอบให้หิน ให้กับนายหิน...มิใช่ด้วยความรัก...เพราะนั่นเป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวที่ไม่สามารถอ้างสิทธิ์กับใครได้เลย.....
ระยะทางจากอำเภอถึงบ้านนานกว่าทุกวัน ศักดิ์ส่งป้ายวนเข้าบ้านเรียบร้อยจึงวกรถกลับ
ไม่พักเหนื่อยสักหน่อยก่อนหรือเอ็ง ป้ายวนอดเป็นห่วง
ไม่เหนื่อยหรอกครับ หินรอผมอยู่ ศักดิ์ยิ้มแห้งๆด้วยความอ่อนล้า
ก็ดี ข้าก็ห่วงหินเหมือนกันรีบไปซะ
ศักดิ์บิดรถเต็มที่แต่มีสติเต็มที่เหมือนกันเพราะเขารู้ดีว่าถ้าเขาไปไม่ถึงโรงพยาบาล แม้ดวงวิญญาณก็คงไม่ให้อภัยตัวเองที่ไม่สามารถอยู่ปกป้องคุ้มครองหิน...
กว่าจะถึงโรงพยาบาลดึกมากแล้ว มีแต่ความวังเวง กลิ่นยาและความเงียบ ศักดิ์เดินผ่านเคาน์เตอร์พยาบาลเข้าไปในห้องคนไข้รวมที่หินนอนป่วยอยู่ วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ศักดิ์เหนื่อยทั้งกายและใจ เขาเบลอเสียจนจำเตียงของหินไม่ได้ เดินหาอยู่สองรอบจนเอะใจ หรือเขาเข้าห้องผิด คงไม่ใช่เพราะมีห้องคนไข้รวมเพียงห้องเดียว...ศักดิ์ขนลุกตั้งขึ้นทั้งตัว...อะไรกันนี่ เกิดอะไรขึ้น...หินหายไปไหน?...หินหายไปไหน??...สมองศักดิ์แทบระเบิดเพราะเสียงตะโกนในหัว
คุณพยาบาลครับ...คนไข้ชื่อหิน...ที่ผมเป็นเจ้าของไข้...หายไปไหนครับศักดิ์ถามตะกุกตะกักด้วยความสับสน
เดี๋ยวนะคะ...ฉันเพิ่งเข้าเวรเมื่อสักครู่ไม่เห็นมีคนไข้รายนี้ค่ะ คุณพยาบาลเงยหน้าจากสมุดรายงานพูดกับศักดิ์ด้วยเสียงเรียบเฉย
โธ่โว้ย! ทำไมจะไม่มี ศักดิ์คำรามในใจ
มีสิครับ ผมเป็นคนพาเขามาเองตอนบ่ายวันนี้ เมื่อหัวค่ำยังอยู่ ผมไปทำธุระกลับมาก็ไม่เห็นแล้วครับ ศักดิ์เริ่มหน้าแดง ช่วยเช็คให้หน่อยนะครับเขาเป็นลูกชายของผมเอง ลูกชายของผมครับ ศักดิ์ตัวสั่น ตาแดงก่ำ...
เอาเถอะ ฉันจะดูให้ค่ะ พยาบาลรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเพราะท่าทีของศักดิ์ไม่น่าไว้วางใจ
ศักดิ์ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นอย่างหมดแรง ตัวสั่นหัวผงกงึกๆ ตาแดงโปนเหมือนจะหลุดจากเบ้า...เขาพยายามหาสาเหตุที่หินหายไปแต่คิดไม่ออก...มีอยู่เรื่องหนึ่ง หินอาจจะหายไปเพราะถูกคนที่เคยทำร้ายหินและยายตามมาฆ่าปิดปาก...โอ๊ย!อย่าเป็นอย่างนั้นเลย...มันคล้ายกับเหตุการณ์ที่พัทยาแต่น่ากลัวและเป็นจริงเป็นจังมากกว่า หินครับทำไมหินโชคร้ายอย่างนี้...ผมไม่ดีเอง...ผมไม่ดีเอง...ศักดิ์เก็บความคิดไว้ในใจไม่ไหวมันกำลังจะระเบิดออกมา... หินไปไหน...หินหายไปไหน...จะทำอย่างไรดี...จะทำอย่างไรดี...แม่จ๋าช่วยผมด้วย...ผมไม่มีใคร ไม่รู้จะให้ใครช่วย ช่วยผมด้วย ช่วยหินด้วย...แม่จ๋า...หินจ๋า...หินครับ...ใครช่วยที... ศักดิ์พูดพร่ำซ้ำซาก นั่งกอดอกหัวงุ้มลงพื้นสั่นเหมือนจ้าวเข้า น้ำลายไหลจากมุมปาก...
แม่ครับ หินครับ กลับมาหาผมเถอะ...หินอย่าหนีไปไหนเลยนะ...นะ... ศักดิ์ล้มตัวลงนอนดิ้นเร่าๆกับพื้นห้อง...
หมอคะ ผู้ชายคนนี้แหละค่ะ...อ้าวเป็นอะไรไปแล้ว พยาบาลรีบเรียกผู้ช่วยมายกศักดิ์ไปวางบนเตียงให้หมอตรวจเช็คอาการ
สักครู่หลังจากได้รับยาฉีดสองเข็มศักดิ์ก็สงบลง เขาหลับบนเตียงที่หินนอนเมื่อหัวค่ำนั่นเอง...
อากาศยามเช้าในชนบทสดชื่นเหมือนอย่างที่เคยเป็นทุกวัน ในโรงพยาบาลยังคงอวลด้วยกลิ่นยาและกลิ่นคาวของความเจ็บไข้ ป้ายวนมาโรงพยาบาลแต่เช้าด้วยสองเหตุผล แกรู้สึกสังหรณ์ใจและมีเสียงดังหลายครั้งจากโทรศัพท์ที่คุณลิลลี่ทิ้งไว้ให้ แกจึงรีบมาเยี่ยมหินและเอาโทรศัพท์มาให้ศักดิ์ด้วย...
ป้ายวนเดินเลี้ยวเข้าห้องคนไข้รวมอย่างเคยชิน เพราะเกือบสองเดือนที่แกเทียวไปเทียวมาเฝ้าไข้หินครั้งที่แล้ว ป้ายวนเดินอย่างมั่นใจไปยังเตียงที่หินนอน นึกแปลกใจที่หินตัวยาวกว่าที่เคย แล้วแกก็ต้องอุทานด้วยความตกใจที่เห็นศักดิ์นอนอยู่
อ้าว! เกิดอะไรขึ้นละนี่... ศักดิ์ตื่น! เอ็งขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้ได้ยังไง ป้ายวนเขย่าตัวปลุกศักดิ์ แกคิดว่าพยาบาลพาหินไปตรวจอย่างที่เคยทำ
หือ! ป้าน่ะเอง... ศักดิ์ทำหน้างงยกมือขยี้ตาและนวดบี้ตรงขมับทั้งสองข้าง
ลุกขึ้นมาเลย หินไปไหนล่ะ ป้ายวนวางบิ่นโตข้าวและขวดน้ำที่เตรียมมา
หินหายไปไหนผมยังไม่รู้เลยครับป้า ศักดิ์อยู่ในชุดคนไข้งัวเงียลุกขึ้นนั่ง
นั่น! ขนาดใส่ชุดของโรงพยาบาลเลยนะ เอ็งนี่ ถ้าจะเป็นเอามาก...
ไม่มากหรอกค่ะ คุณศักดิ์เครียดเพราะไม่พบลูกชายที่พามาเมื่อวานนี้จึงเกิดการช็อค คุณหมอฉีดยาให้แล้วเมื่อคืน แกคงรักลูกมากนะคะ พยาบาลพูดยิ้มๆ
ฮือ ฮือ ป้าครับ หินหายไปไหนไม่รู้ครับเมื่อคืนผมกลับมาไม่พบหิน ผมตกใจเสียใจปวดหัวมาก และหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้สึกตัวเลย ฮือ ฮือ เราจะทำยังไงดี ศักดิ์เริ่มคร่ำครวญ...
ป้ายวนงงกับคำบอกเล่าของพยาบาลและท่าทีของศักดิ์ แต่ยังไม่ทันที่แกจะคิดอะไรได้เสียงโทรศัพท์ของคุณลิลลี่ก็ดังขึ้น ป้ายวนหยิบโทรศัพท์ส่งให้ศักดิ์ซึ่งรับไปอย่างไม่รู้จะอธิบายเรื่องที่เกิดกับหินว่าอย่างไร อย่าว่าแต่จะบอกกับคุณลิลลี่เลยแม้แต่กับตัวเองเขาก็ยังไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร รู้แต่ว่าหินหายไปและโลกกำลังบีบเขาให้หายไปเช่นกัน...
ศักดิ์หรือนี่ฉันเองนะอยากจะคุยเรื่องหิน...ศักดิ์! เสียงอะไรนั่น...พูดว่าอะไรนะฉันไม่ได้ยิน...ศักดิ์เป็นอะไรไป... ลิลลี่ได้ยินเสียงอึกอักของศักดิ์...เสียงกระทบของบางอย่าง...สิ้นสุดด้วยเสียงโพละและสัญญาณขาดหายไป...
จู่ๆ ศักดิ์หายใจไม่ออกตาเหลือกโพลง...วินาทีนั้นศักดิ์เห็นภาพหินนอนจมกองเลือด เห็นหินเดินโซซัดโซเซลงทะเล กำลังร้องไห้เสียใจตัดพ้อเขาและภาพหินต่อสู้กับคนร้ายในป่ามืดทึบ เขาจะช่วยหินได้อย่างไร ทุกเรื่องเกิดขึ้นเพราะเขาเป็นคนพาหินมาพบกับสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย...เขาไม่ดีเอง...หินอยู่ไหน...หินอยู่ไหน...ร่างของศักดิ์เกร็งกระตุกจนโทรศัพท์ที่อยู่ในมือหล่นแตกกระจาย...
ทั้งๆที่อยู่ในสภาพเกือบไร้สติด้วยอาการเกร็งและกระตุกสลับกันอย่างรุนแรง ศักดิ์แว่วได้ยินเสียงหินร้อง ศักดิ์ช่วยผมด้วยครับ ศักดิ์ช่วยหินด้วย...ศักดิ์หงายตึงลงบนเตียงปวดจี๊ดในหัว ลามมาที่ตาทั้งสองข้างและเลยลงไปที่หัวใจ...หัวใจที่มีหินถูกเบียดบี้อยู่ข้างใน...ศักดิ์รู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังถูกกดถูกขมวดจนเป็นปมแน่น ปมที่เขาและหินติดอยู่ มันอึดอัดจนหายใจไม่ออก...เขาอยู่ในนั้นกับหินด้วยความเจ็บปวดทรมานสุดจะทานทน...แล้วร่างของศักดิ์ก็กระตุก และกระตุกเป็นครั้งสุดท้าย...แขนขาทั้งคู่เหยียดเกร็ง.....
ภายในเขตรั้วบ้านบริเวณประมาณ5ไร่...จากประตูรั้วบานกว้างมีถนนคอนกรีตสีเทาเข้มทอดโค้งเข้าตัวบ้าน บางแห่งมีทางแยกเหมือนถนนในเมือง ถัดจากฟุตปาทเป็นสนามหญ้าและสวนหย่อมที่จัดไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ต้นไม้ข้างทางและในสวนใหญ่โตร่มรื่นจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นไม้ที่ชะลอมาปลูก มองเผินๆเหมือนอยู่ในสวนสาธารณะสักแห่ง...
เด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ริมบ่อบัวหลากสี เขาวักน้ำหยอกล้อหมู่ปลาที่แหวกว่ายไปมาใต้ใบบัว เขาวักน้ำซ้ำอยู่ที่เดียวตามองไปที่จุดเดียวในน้ำ...ไม่มีอะไรให้เขามองตรงนั้นเลย เขาเหมือนคนสิ้นหวังเบื่อหน่ายชีวิตหรือคนไร้สติ เขาเท่านั้นที่รู้ว่ากำลังทำอะไรและคิดอะไรอยู่...
สักครู่เขาจึงลุกขึ้นค่อยๆเดินลัดสนามไปตามถนน มีใบไม้ร่วงอยู่ประปราย เขาเดินไปถึงสวนหน้าบ้านที่มีพุ่มไม้ดัดทรงกลมพุ่มโตสลับกับไม้ดอกและไม้ใบ เขาเลี่ยงไม่เข้าบ้านแต่เดินไปตามเทอร์เรสด้านข้างจนถึงสระน้ำขนาดใหญ่ มีเก้าอี้นอนสีขาวเรียงรายอยู่บนเทอร์เรสข้างสระที่เชื่อมติดกับตัวบ้าน เขาลงนอนหงายบนพื้นหินเอามือสองข้างประสานรองศีรษะด้านหลัง แหงนหน้ามองดูท้องฟ้าด้วยสายตาที่ไร้จุดหมาย...
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขากำลังคิดถึงสถานที่แห่งหนึ่งคล้ายๆกับที่เขาอยู่ทุกวันนี้ แม้จะไม่ใหญ่โตสวยงามเท่าแต่อบอวลด้วยความสุขและความอบอุ่น...จากผู้คนรอบข้าง...โดยเฉพาะคนใกล้ตัว...ที่เขาจะไม่มีวันลืม แม้ว่าเขาจะจำอะไรไม่ได้ทั้งหมด แต่เท่าทีจำได้ก็มากเกินกว่าที่ใจจะจืดจาง...ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ ใครคนนั้นที่คอยตามห่วงใยช่วยเหลือและให้ความอบอุ่นตลอดมา เขาเสียอีกที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจทั้งๆที่คนๆนั้นมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาจนแทบไม่เหลืออะไรในชีวิต...เขารู้ดี...รู้ดีเสมอ...เขาเหลือบตาลงต่ำ...หยาดน้ำตาที่เอ่ออยู่นานค่อยๆไหลรินออกมา...
ลมกรรโชกมาวูบหนึ่งพัดกิ่งไม้แห้งตกลงในสระน้ำ...หินสะดุ้งจากภวังค์ที่คลุ้งด้วยกลิ่นป่าและเกสรดอกไม้ไพร...
หิน ฉันขอถามความสมัครใจนะว่าหินจะไปสมุทรสงครามหรือนครสวรรค์ ลิลลี่นั่งคุยกับหินที่เก้าอี้ริมสระน้ำ
ผม...ผมไม่ทราบครับ ใจหินอยากไปหาศักดิ์ก่อนกลับบ้านที่แม่กลอง
หินไปหาศักดิ์กับยายยวนก่อนแล้วกันนะ ทั้งสองคนคงเป็นห่วงหินเพราะโทรศัพท์ติดต่อกันไม่ได้เกือบเดือนแล้ว ลิลลี่อดคิดสงสารศักดิ์ไม่ได้...แต่เรื่องของหินได้คลี่คลายแล้วศักดิ์คงเข้าใจและยอมรับได้
ครับ ผมจะไปหาศักดิ์และยายยวน...ผมคิดถึงพวกเขาครับ หินรู้สึกดีที่ได้พูดความรู้สึกในใจออกมา...
ฉันก็คิดถึงเหมือนกัน ลิลลี่พอจะคาดเดาความสัมพันธ์ของศักดิ์และหินออก แต่เธอยังไม่ปักใจเพราะเท่าที่เห็นมีเพียงมิตรภาพที่ดีต่อกันของทั้งสองคนเท่านั้น
หินคงแข็งแรงพอแล้ว พรุ่งนี้เราไปนครสวรรค์กันนะ
Create Date : 18 มกราคม 2551 |
Last Update : 13 เมษายน 2551 19:51:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 421 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|