Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
.....บทที่ 5 .....



บทที่ 5

..... ลูกหลงพ่อ .....




ศักดิ์พาหินกลับหลังจากได้รับการรักษาพยาบาลจนอาการไข้และการอักเสบบาดแผลทุเลาขึ้น



หินเรียกศักดิ์ว่าพ่อตลอดคืนและอีกวันที่อยู่โพลีคลินิก แม้เมื่อกลับมาอยู่บังกะโลริมหาดหินก็ยังเรียกศักดิ์ว่าพ่อ..อะไรทำให้หินเป็นอย่างนี้ศักดิ์ไม่เข้าใจ

“พ่อครับ..ผมหิว” หินพูดเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง..เขาค่อยยันกายขึ้นนั่ง

“คะ ครับ..” ศักดิ์อดสะดุ้งไม่ได้กับตำแหน่งใหม่ของเขา

“ผมเป็นอะไรไปครับพ่อ” หินหน้าแหย

“หิน..ไม่สบาย..” ศักดิ์ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

“ผมปวดไปหมดทั้งตัวนะพ่อ” ไม่มีอาการเคอะเขินจากคำเรียกพ่อ ศักดิ์ยิ่งมึนตึ้บกับสถานการณ์

“ผมไปหาอะไรมาให้หินกินนะครับ”

“ผมไปหาอะไรมาให้หินกินนะครับ ?” หินพึมพำทวนคำพูดของศักดิ์


ศักดิ์อุ่นโจ๊กถุงที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ซื้อเตรียมไว้ให้หิน


“กินโจ๊กให้หมดนะครับจะได้กินยา” ศักดิ์วางถ้วยโจ๊กตรงหน้า รอดูว่าหินจะทำอย่างไร

“ผมเจ็บแขน” หินมองศักดิ์ตาละห้อย

“มา..ผมป้อนให้” ศักดิ์หยิบช้อนคนโจ๊กให้คลายร้อนแล้วตักป้อน หินอ้าปากรับอย่างเด็กว่าง่าย เพราะหิว ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน

บรรยากาศที่เกิดขึ้นอยู่ในความสงสัย งุนงง


“ขอถามหน่อยครับ” หินถามขึ้นหลังจากกินโจ๊กกินยาเรียบร้อยแล้ว

“อะไรครับ?” ศักดิ์รู้ดีว่าคงชี้แจงอะไรไม่ได้กับความสงสัยของหิน..มีหลายปัญหาที่เขาก็สงสัยและไม่รู้คำตอบ

“ทำไมพ่อจึงแทนตัวเองว่าผมและพูดกับหินเรียบร้อยจัง”

ศักดิ์อยากแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่หินก็คงพยายามถามอีกจนได้.. เขาควรตอบไปตามความจริง

“ไงล่ะครับ?” หินเร่งเมื่อเห็นศักดิ์นิ่งไป

“เอ่อ..” ศักดิ์นึกไม่ออกว่าจะอธิบายอย่างไร เขาเสียอีกอยากถามหินว่าทำไมเรียกเขาว่าพ่อเต็มปากเต็มคำอย่างนั้น

“พี่ศักดิ์..นายใหญ่โทรฯ มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่และนายหินเงียบไปมือถือก็ไม่เปิด” คนขับรถโผล่เข้ามาได้จังหวะ ศักดิ์ถือโอกาสตามออกไปนอกห้อง

“ยังไม่ตอบผมเลย..” หินพึมพำ เอนกายลงนอน...หลับไปเพราะฤทธิ์ยา


ศักดิ์รับมือถือจากคนขับรถ “ผมศักดิ์พูดครับ.......พอดีมือถือของผมแบตฯ หมด.......เกิดเรื่องขัดข้องนิดหน่อยครับ คนเช่าเรือหายตัวไปอยู่แต่เรือ พวกผมกำลังตามหาตัว.......พอรู้เบาะแสแล้วครับอีกสักสองวันคงเรียบร้อย.......นายหินสบายดีนายใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” ศักดิ์โกหกหน้าตาเฉย ลูกน้องทั้งสามมองตากันบ้องแบ๊ว ทุกคนรู้และเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดี


“พี่ครับ..พ่อเป็นอะไรถึงทำตัวห่างเหินกับผม ไม่คุยเล่นเหมือนเมื่อก่อน ผมถามก็ไม่ตอบ ผมงง ผมน้อยใจครับ” หินแอบถามพวกลูกเรือที่กำลังนั่งทำอาหารขณะศักดิ์ไม่อยู่

“ก้อ..ก้อ..หมู่นี้พี่ศักดิ์อารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะครับ” คนขับรถรีบชิงตอบก่อนที่ลูกน้องจะทำเรื่องแตก

“ผมข้องใจมาสองวันแล้ว” หินหน้ามุ่ย

“อีกอย่างอาจจะเป็นเพราะนายหินถูกคนร้ายรังแกตอนพี่เขาออกไปทำงาน ก็เลยเสียใจที่ปล่อยให้คุณถูกทำร้าย นอกนั้นคงไม่มีอะไร”

“จริงหรือ?” หินมองไปที่ทะเล

“พี่ศักดิ์รักคุณมากนะ อย่าเคืองไปเลยครับนายหิน พ่อศักดิ์รักลูกหินมากจริงๆ ครับ” การมีอายุมากทำให้คนขับรถหาคำชี้แจงได้ฉับพลันทำให้หินหายข้องใจ แต่เขายังเดาไม่ออกว่าเรื่องจะคลี่คลายไปในทางที่ถูกต้องได้อย่างไร


“พี่ศักดิ์รักคุณมากนะ อย่าเคืองไปเลยครับนายหิน พ่อศักดิ์รักลูกหินมากจริงๆ ครับ” ศักดิ์นั่งอยู่ข้างล่าง ได้ยินการสนทนาของหินและคนขับรถชัดเจน..เขาจะทำอย่างไรดีกับความสับสนของจิตใจหิน ถ้าปล่อยไว้จะกลายเป็นปัญหายุ่งยาก อะไรทำให้หินเป็นอย่างนี้...คงเพราะเหตุการณ์ในรังเหล่าร้าย หินพบความเจ็บปวดเสียจนใจกระเจิง...นายหินคนเดิมหายไปจากโลก เหลือเพียงเด็กชายหินหลงพ่อ

“อ้าว!..พ่ออยู่นี่เอง” หินค่อยๆ ลงบันไดมาหาศักดิ์ที่นั่งอยู่บนพื้นทราย

“หินครั..” ศักดิ์กลืนคำว่าครับลงคอ

“ครับอีกแล้วพ่อ” หินยิ้มขำ

“หินลงมาทำไม ยังไม่แข็งแรงเลยนะคร..” ศักดิ์พยายามปรับระดับความรู้สึกให้สอดคล้องกับความสัมพันธ์ที่หินกำลังเข้าใจ

“หินหายแล้ว” หินนั่งลงข้างศักดิ์ สวมกอดดื้อๆ ศักดิ์ไม่ทันตั้งตัวขนลุกชัน หน้าแดง

“หิน!” ศักดิ์อึกอัก จับมือหินที่อยู่กับเอว ตั้งใจจะง้างออกแต่กลับกุมเฉย

“หินรักพ่อ หินเข้าใจพ่อแล้วครับ”

“ครับ” ศักดิ์พลั้งปากอีกจนได้

“โอ๊ย!..พ่อ!” หินชักมือกลับ

“ล้อเล่น..” ศักดิ์แก้ตัว

“ไปเดินเล่นกันครับ” หินฉุดศักดิ์ที่ยังนั่งตัวแข็งให้ลุกขึ้นตาม

“จะไหวหรือ หินเพิ่งหาย” ศักดิ์ลังเล

“ไหวครับ ผมจะวิ่งหนี พ่อวิ่งตามให้ทันนะ” หินออกวิ่ง ลืมตัวว่าเพิ่งหายจากไข้และได้รับบาดเจ็บ..ไปได้สักหน่อยก็ล้มคว่ำ

“บอกแล้วว่ายังไม่แข็งแรงก็ไม่เชื่อ เห็นไหม เลือดออกที่แผลบนคิ้วอีกแล้ว” ศักดิ์ตามมาทัน

“พ่อ..” หินพลิกตัวคว่ำไม่ให้ศักดิ์เห็นแผลที่หน้า เขาไม่รู้หรอกว่ามีเลือดซึมเลอะเป้ากางเกงด้านหลัง..ศักดิ์เบือนหน้าหนีภาพนั้นพร้อมกับขบกรามแน่น

“โอยๆ หินเจ็บ หินไม่วิ่งอีกแล้ว เชื่อพ่อศักดิ์แล้วครับ” หินนอนหงายคลุกทราย มองขอความช่วยเหลือจากศักดิ์

ศักดิ์ก้มลงปัดทรายออกจากตัวหิน ช้อนแขนอุ้มเดินกลับที่พัก



“พรุ่งนี้เรากลับบ้านกันนะหิน” ศักดิ์ตัดสินใจพูดขณะนั่งดูดาวริมหาดสองวันต่อมา

“ครับ” หินไม่รู้สึกรู้สากับความหนักใจของศักดิ์

“ตอนเช้าไปรับเรือที่แสมสารแล้วล่องกลับตอนกลางคืน” ศักดิ์พูด..ตามองดาว ใจนึกเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับนายหินของเขา

“พ่อครับ..ถ้าฟ้าไม่ดำมากดาวก็คงไม่สว่างอย่างนี้” หินรับรู้ผิวเผินกับคำพูดของศักดิ์ “คืนนี้มีดาวมากกว่าทุกคืน..ดูสิพ่อ!” หินชี้มือไปบนฟ้า

“ห้ามชี้ดาว” ศักดิ์มีอารมณ์ร่วมอย่างไม่รู้ตัว

“ทำไมพ่อ?” หินชักมือกลับ

“เดี๋ยวดาวก็ตกหรอก..เห็นไหมตกลงมาดวงหนึ่งแล้ว” ศักดิ์อมยิ้มกับท่าทางตกใจของหิน

“โอ๊ย!..หินทำดาวหล่น ทำไงดีพ่อ”

“ฮะ..ฮะ..” ศักดิ์อดหัวเราะขำไม่ได้

“พ่อหลอกหิน..นี่แน่ะ!” หินใช้ศอกกระทุ้งสีข้างศักดิ์

“เจ็บนะ!” ศักดิ์ยึดข้อศอกหินไว้แกล้งตัวงอลงบนทราย หินจึงเอนตามลงไปด้วย...ถ้าคือนายหินคนเดิมคงดึงแขนออกวิ่งหนี แต่เด็กน้อยหินกลับลงนอนเคียงอย่างว่าง่าย

“หินรู้นะว่าพ่อหลอกเล่น แต่นอนกอดพ่ออย่างนี้อุ่นดีครับ” หินแนบหน้ากับอกศักดิ์กอดร่างอุ่นๆ ของคนที่เขาเข้าใจว่าเป็นพ่อ

ศักดิ์วาบทั้งตัวด้วยความสุข..เพียงครู่กลับเกิดความเวทนาขึ้นแทนที่..หินกำลังกอดพ่อ แต่พ่อคนนี้กลับรู้สึกเป็นสุขกับหินอีกคน

ศักดิ์อดลูบหัวหินด้วยความสงสารไม่ได้ “เรื่องของนายหินจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ..” ศักดิ์รำพึงในใจ “มันจะมืดเหมือนท้องฟ้าหรือใสสว่างเหมือนดาว...ผมจะเป็นทั้งฟ้ามืดและดวงดาวสำหรับนายหินทุกสถานการณ์..ขอสัญญา”

ศักดิ์ให้คำมั่นในใจกับนายน้อยพร้อมกับกระชับวงแขนแน่น...อ้อมกอดนี้ไม่ใช่จากอารมณ์พิศวาส...คือความจริงใจ จงรักภักดีที่เขามีให้



เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนเตรียมตัวออกเดินทาง..ลูกน้องดีใจที่ได้กลับบ้านไปหาครอบครัว ศักดิ์วิตกกับการเผชิญหน้านายใหญ่และปัญหาที่ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรของหิน เจ้าของปัญหาเสียอีกไม่รู้เรื่องรู้ราว

“พ่อครับเราจะกลับบ้านกันแล้วหรือ?” หินถือถุงบะหมี่สำเร็จรูปเดินตามศักดิ์ที่กำลังขนของขึ้นรถ

“ใช่..” สองสามวันที่ผ่านมาศักดิ์หลอกล่อคำถามคำตอบกับหินจนไม่อยากต่อความอะไรมาก

“บ้านเราอยู่ที่ไหน..เราจะนั่งเรือไปในทะเลด้วยใช่ไหมครับ?” หินยิงคำถามแบบไม่รอคำตอบ ควักเส้นบะหมี่ขึ้นเคี้ยว

“บ้านหินอยู่แม่กลอง..” ศักดิ์ลำบากใจที่จะเล่นบทคุณพ่อจอมปลอมอีกต่อไป อย่างไรเสียพรุ่งนี้หินก็ต้องพบกับความจริงจนได้ ถ้าเขายังเออออกับหินไม่เลิก หินอาจฝังใจจนยากจะแก้ไข “เราจะกลับไปหาพ่อแม่ของหิน”

“พ่อพูดอะไรหินไม่ขำนะ” หินยิ้มกับคำตอบของศักดิ์ แต่นิ้วที่หยิบเส้นบะหมี่ค้างอยู่ด้วยความสงสัย

“เอ้า!..ทุกคนขึ้นรถได้แล้ว” ศักดิ์ตะโกนเรียกลูกน้อง

“ล้อผมเล่นใช่ไหม?”หินกลายเป็นผมเพราะความกังวล

“ไม่!” ศักดิ์ไม่อยากต่อความอะไรอีก

“พ่อศักดิ์..” หินเดินนัวเนียอยู่ข้างๆ ศักดิ์แกล้งเปิดฝากระโปรงรถตรวจเช็คเครื่องยนต์จับโน่นดึงนี่ให้ดูยุ่งเข้าไว้หินจะได้เลิกถามเซ้าซี้

“พ่อ..” หินไม่วาย

“ขึ้นรถ!” ศักดิ์ออกคำสั่งห้วน..ได้ผล หินไม่กล้าถามอะไรอีกก้าวขึ้นรถ..ศักดิ์เหยียบคันเร่งออกรถอย่างรวดเร็ว



ที่แสมสาร...กว่าศักดิ์จะจัดการรับเรือเสร็จก็ใกล้ค่ำ เตรียมล่องกลับบ้านเมื่อเวลากลางคืนเริ่มคืบคลานเข้ามา..ท้องฟ้าคล้ำหม่นทำให้ศักดิ์หดหู่ใจ คิดไม่ออกว่าหินจะรู้สึกอย่างไร เขาไม่อยากทำใจร้ายกับหิน..เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ในฐานะพ่อ เขาจะให้ความทรงจำเลวร้ายฝังใจลูกหินตลอดไปหรือ...ศักดิ์ลังเล

“หินกินข้าวกัน พ่อซื้อมาหลายอย่างที่หินชอบทั้งนั้น” ศักดิ์รู้สึกผิด สงสารทิ่เขาทำหมางเมินกับหินตลอดทั้งวัน

“คะ..ครับ” หินไม่แน่ใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของศักดิ์

“มากินข้าวกับพ่อ วันนี้ยุ่งมากไม่ได้เล่นกับหินเลย” ไหนๆ ก็ไหนๆ ศักดิ์อยากให้หินมีความสุขในอีกสิบสองชั่วโมงที่เหลือ พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ชั่ง...ไม่ใช่หินคนเดียวที่ไม่สบายใจ เขาเสียอีกทุกข์ทรมานใจมากกว่าหลายเท่า

“พ่อไม่โกรธหินแล้วใช่ไหม?” หินถามซื่อทั้งๆ ไม่รู้ว่าศักดิ์โกรธเขาเรื่องอะไร

“หินไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยพ่อจะโกรธได้ไง” ศักดิ์วางมือบนผมนุ่ม ปัดจนยุ่ง

“พ่อศักดิ์นะ..” หินจับมือศักดิ์ออก ยิ้มสบายใจ


หลังจากกินข้าว สองพ่อลูกชวนกันนั่งดูทะเลท้องฟ้าท้ายเรือ ปล่อยให้ลูกน้องสองคนบังคับเรือ คนขับรถนำรถกลับแม่กลองแล้วแต่วัน..ศักดิ์กำชับ ซักซ้อมแต่งเรื่องชี้แจงให้นายใหญ่ฟัง

ทะเลสีมืดพอๆ กับท้องฟ้า หมู่ดาวยังคงเหมือนคืนที่ริมหาด...ศักดิ์ใจหายเมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้..หลายวันที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะกับนายหินที่กลายเป็นลูกหินของเขา..แรกๆ ศักดิ์รู้สึกแปลก ต่อมากลับผูกพันไม่น้อยไปกว่าที่หินรู้สึก

ศักดิ์เอื้อมมือกอดหิน...เขาไม่แน่ใจว่ากำลังรู้สึกอย่างไร..ความรู้สึกดีๆ ทั้งหมดรวมอยู่ในอ้อมแขน...พรุ่งนี้สินะที่หินต้องพบกับความจริงและการพลัดพราก..ใจเล็กๆ ของหินจะทนได้หรือ


แสงเย็นของหมู่ดาว น้ำตาที่เอ่อออกมาทำให้ตาพร่ามัว..ศักดิ์เห็นภาพหินในเหตุการณ์ร้ายที่ผ่านมา และที่กำลังจะได้รับ...น้ำตาของลูกผู้ชายก็หลั่งริน






Create Date : 09 มกราคม 2551
Last Update : 7 มิถุนายน 2552 11:44:07 น. 0 comments
Counter : 423 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.