Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
7 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
.....บทที่ 1.....




“ หินสักลาย ”

ดาเรน


บทที่ 1

..... จุดหักเหของชีวิต .....



ทำไมหินจึงไว้หนวดเคราทั้งๆ ที่หน้าตาสะอาดน่ะหรือ ?...




วันนั้นพ่อของหินต้องไปรับเรือที่แสมสารกับต้นหนเรือและลูกเรืออีกสองคน พ่อหินมีเรือประมงเล็กให้เช่า บางรายเช่าไปแล้วไม่ทำตามข้อตกลงหรือไม่ชำระค่าเช่า ตามสัญญา ก็ต้องไปตามทวงกลับคืน..รายนี้เช่นกัน


“หินไปเที่ยวกันมั้ย ไปตามเรือที่แสมสาร” ศักดิ์เบรกรถมอเตอร์ไซด์พรืดตรงหน้าหินที่กำลังยืนรอรถรับกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก..ศักดิ์คือต้นหนเรือที่พ่อหินฝึกงานให้จนเก่ง ทำทุกอย่างแทนได้ เป็นที่ไว้วางใจในทุกเรื่อง คุ้นเคยกับหินและทุกคนในครอบครัวเหมือนญาติคนหนึ่ง

“แล้วพ่อล่ะ?” หินถามไปอย่างไม่แน่ใจเพราะพ่อเป็นคนตัดสินใจให้หินเสมอว่าจะไปไหน จะทำอะไร

“นายใหญ่ให้มาชวน นายอยากให้นายหินได้เรียนรู้งานไว้บ้าง” ถ้าเอ่ยถึงนายใหญ่ ศักดิ์จะเรียกหินว่านายหิน

“อือม..” ใจหนึ่งหินอยากไปเที่ยวเหมือนกันแต่ก็อยากอยู่บ้านกับแม่ ดูทีวี ทำการบ้านและเล่นคอมพ์

“อีกอย่างวันนี้วันศุกร์ พรุ่งนี้เสาร์อาทิตย์ หินไม่ต้องมาโรงเรียน” ศักดิ์ลงจากมอเตอร์ไซด์ เอาขาตั้งลง เดินมาที่หิน

“จะกลับบ้านก่อน ไป..” หินไม่สนิทใจจะคล้อยตามความเห็นของศักดิ์..อย่างไรก็คือลูกจ้างคนหนึ่ง

“ผมจัดเตรียมเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวมาให้แล้ว” ศักดิ์ประชิดตัวหิน

“อยากกลับบ้านก่อน ไปอาบน้ำกินข้าวกับแม่” หินเสียงแข็ง หงุดหงิดกับการเจ้ากี้เจ้าการของศักดิ์

“งั้นไปกับผม ขึ้นรถเลยครับ” ศักดิ์คว้ากระเป๋าหนังสือจากมือหินรุนหลังให้ขึ้นรถ



บ้านของหินเป็นบ้านโบราณใต้ถุนสูง มีชานเรือนไม้กระดานเป็นลานกว้างอเนกประสงค์ ถัดจากลาน พื้นกระดานถูกยกขึ้นเป็นส่วนของพื้นบ้านที่รายรอบด้วยห้องต่างๆ มีห้องนอนของพ่อแม่ ของหิน ห้องพระ ห้องนั่งเล่น ห้องหนังสือและห้องครัว ส่วนห้องน้ำลดพื้นลงต่ำกว่าอีกระดับหนึ่งต่างหาก แต่อยู่บนบ้านนั่นเอง

แม่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารรอหินกลับบ้านเหมือนทุกวัน หินไหว้ทำความเคารพแม่แล้วตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า


“แม่ครับ หินอาบน้ำมาใหม่ๆ หอมไหม” หินกอดแม่ที่กำลังตั้งสำรับข้าว

“โตแล้วยังไม่เลิกอ้อนแม่อีกหรือ” แม่จับมือหินไปหอมกลิ่นแป้งที่หินชอบทาหลังอาบน้ำ

“หินยังไม่โตสักหน่อย” หินจูบแก้มแม่ที่นวลด้วยแป้งเช่นกัน

“เย็นนี้กินข้าวกับแม่สองคนนะ พ่อเขาไม่อยู่ไปหาหมอบ่นว่าไม่ค่อยสบาย”

“อ้าว! ทำไมแม่ไม่พาพ่อไปล่ะครับ” หินตกใจนิดหน่อย พ่อเป็นคนแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่ายๆ

“พ่อไม่ได้เป็นอะไรมาก แม่อยู่คอยบอกหินให้ไปแสมสารกับศักดิ์ เขาบอกหินแล้วใช่ไหม เห็นกุลีกุจอให้แม่จัดเสื้อผ้าให้”

“อ๋อ..ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง นึกว่านายศักดิ์ตั้งใจไปรับเสียอีก” หินนึกถึงมาดผู้หวังดีรับเขากลับบ้านแล้วนึกรำคาญศักดิ์มากขึ้น


ถึงหินจะยังไม่เป็นผู้ใหญ่ แต่พอจะรู้เรื่องงานที่เห็นอยู่ทุกวัน เมื่อกินข้าวเสร็จเขาจึงเตรียมตัวไปแสมสารกับศักดิ์ตามความประสงค์ของพ่อที่อยากให้เป็นหูเป็นตาแทนเพราะหินคือลูกคนเดียวที่จะต้องรับช่วงกิจการ อีกอย่างพ่อคงอยากให้หินได้ไปเที่ยว แทนที่จะจมอยู่กับทีวีและจอคอมพ์ ส่วนเรื่องงานศักดิ์ทำเองได้ทุกอย่างอยู่แล้ว

หินกลับเข้าห้องหยิบเสื้อแจ็คเก็ตและของใช้ส่วนตัวบางอย่างที่แม่ไม่ได้จัดให้ ไหว้ลาแม่แล้วลงจากเรือน

“ให้รอนานจัง เวลายิ่งไม่ค่อยมี” ศักดิ์หน้ามุ่ย สตาร์ทรถ

“ต้องกินข้าวต้องอาบน้ำ ไม่ใช่ลูกเรือตัวเหม็นนี่” หินเถียง

“กอดเอวผมไว้ด้วยเดี๋ยวหล่นลงไปนายใหญ่เล่นงานแย่ ยิ่งรักนายหินจะตาย..ซิครับ” ไม่พูดเปล่า ศักดิ์เอื้อมคว้ามือหินเกาะที่เอวของตัวเอง

“อึ๊!” หินฝืนข้อมือ..

“ฮะฮะ..” ศักดิ์แกล้งโยกรถไปมาจนหินต้องเกาะอย่างจำใจ

“หัวเราะอะไร ?” หินถามห้วน

“เปล่าครับ ผมโล่งใจที่หินยอมเกาะเอว จะได้รีบซิ่งไปขึ้นรถ ไอ้ลูกน้องสามคนคอยอยู่”

“ทำไมไปกันเยอะจัง ?” หินตะโกนแข่งกับสายลม

“ไม่เยอะครับ ผมหนึ่งคนลูกเรือสองคน คนขับรถเปล่ากลับมาหนึ่งคนและเจ้านายตัวเล็กอีกหนึ่งคน” ตะโกนตอบดังพอกัน

“เจ้านายตัวเล็ก ?” หินทวนคำ

“ก็นายหินไงล่ะครับ” ศักดิ์ตะแคงหน้าตอบ..รถวูบจนหินต้องกอดเอวศักดิ์แน่น

คนหนึ่งยิ้มที่ได้ยั่ว อีกคนขมวดคิ้วเม้มปากแน่น



หลังจากศักดิ์และลูกน้องกินข้าวที่ตลาดเรียบร้อยจึงเริ่มออกเดินทาง ผ่านโพลิคลินิก หินขอให้ศักดิ์หยุดรถเพื่อลงไปหาพ่อ เผอิญพ่ออยู่ในห้องตรวจจึงไม่ได้พบกัน หินตัดสินใจไม่รอเพราะวันรุ่งขึ้นก็จะกลับไม่ได้ไปนาน ศักดิ์ก็เร่งยิกๆ

ศักดิ์ขับรถค่อนข้างเร็วเพราะต้องไปให้ถึงแสมสารภายในคืนนี้ และล่องเรือตัดข้ามอ่าวกลับถึงบ้านตอนเช้า..คนขับสำรองนั่งคู่กับศักดิ์ ที่นั่งถัดไปเป็นลูกเรือตัวดำสองคน หินขอนั่งท้ายคนเดียวจะได้เหยียดนอนเต็มที่

จากสมุทรสงครามผ่านสมุทรสาครผ่านกรุงเทพฯ หินลุกขึ้นชะเง้อดูตึกรามบ้านช่องและแสงไฟยามราตรี..จนถึงชลบุรีหินเริ่มรู้สึกปั่นป่วนในท้องเพราะถูกรถเหวี่ยงฟัดไปมาหลายชั่วโมง

“ศักดิ์ ศักดิ์” หินตะโกนข้ามไปด้านหน้ารถแต่ศักดิ์ไม่ได้ยินเสียง

“ศ..า..ก” หินตะเบ็งเสียงเต็มที่

“ทำ..ไม..ครับ” ศักดิ์ตะโกนถามแต่ตายังมองตรงไปข้างหน้า

“เป็นอะไร ทำไมไม่พูด..เป็น..” ศักดิ์เหลือบมองหินทางกระจกมองหลัง

หินตัวงอลงบนเบาะ รู้สึกคลื่นไส้กระอักกระอ่วนเต็มที่...

“อ๊อก!..” หินระเบิดออกมา..เต็มเบาะรถ

“เฮ้ย! ลูกพี่” ลูกเรือทั้งสองร้องเกือบพร้อมกัน ถึงแม้ไม่มีใครบอกศักดิ์ก็ต้องหยุดรถเพราะระเบิดที่หินปล่อยออกมาส่งกลิ่นเหม็นอบอวล

“จะเอายังไงกันละนี่?” ศักดิ์ยืนเท้าสะเอวหัวเสียข้างรถ ทุกคนออกมายืนนอกรถหมดนอกจากหิน

“โอ้ก!..” หินถลันออกมาอีกรอบ

“เฮ้อ! กูนะกูริอ่านคบเด็กสร้างบ้าน” ศักดิ์บ่นพร้อมกับยกมือขยี้ผมจนยุ่ง เขาเหลือบเห็นป้ายปั้มน้ำมันอยู่ข้างหน้าไม่ไกลจึงให้ทุกคนช่วยเข็นรถไปล้าง..หน้านิ่วคิ้วขมวดกันทั่วไม่เว้นแม้แต่หินคนก่อเรื่อง


“คืนนี้ไปแสมสารไม่ทันแน่ พรุ่งนี้คงถูกนายใหญ่ด่า” ศักดิ์มองตาเขียวไปที่หินซึ่งทำไม่รู้ไม่ชี้เดินดูของในซุปเปอร์มาร์ท “นายหินนะนายหิน!” ถึงอย่างไรหินก็เป็นนายของเขา..เมื่อล้างรถเสร็จศักดิ์ค่อยหายขุ่นเคืองแต่ไม่วายมองหินตาคว่ำตลอดเวลา

“เสร็จซะที!” ลูกเรือคนหนึ่งอดบ่นไม่ได้

“ไหนๆ ก็ไม่เป็นอย่างที่วางแผนไว้ หาที่พักก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยลุยต่อ” ศักดิ์สรุปกับตัวเอง

“เย้ๆ ลูกพี่พาพวกผมเข้าไปเที่ยวพัทยากันนะ” ทุกคนมีสีหน้าลิงโลด

“รอให้รถแห้งสักหน่อยค่อยไป กลิ่นของนายหินยังตุ่ยๆ อยู่ เล้..ย...” ศักดิ์หันไปค้อนหินซึ่งเดินมาพอดี

“อ้าว! แฮะ..” หินอุทานไม่มีความหมาย หันกลับไปซุปเปอร์มาร์ท

“เดี๋ยวพวกผมสูบบุหรี่แล้วพ่นควันเข้าไปมากๆ กลิ่นก็หายไปเอง” คนหนึ่งเสนอความคิดประหลาดๆ แต่ได้ผลเพราะเมื่อรถแห้งกลิ่นเน่าของหินก็จางลง

หินแอบดูลาดเลาอยู่ในซุปเปอร์มาร์ท เมื่อเห็นทุกคนอารมณ์เป็นปกติแล้วจึงมาที่รถ

“นอนก่อนนะ เหนื่อย เหม็นตัวเองด้วย” หินขึ้นรถคนแรก นั่งที่เดิม กลิ่นเบาะยังอับๆ อยู่..รถเคลื่อนไปสักพักหินเอนตัวลงนอนและผล็อยหลับ



รู้สึกตัวตื่นขึ้นกลางดึก หินแปลกใจว่านอนอยู่ที่ไหน..นั่งนึกลำดับเหตุการณ์สักครู่จึงจำได้ เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าวางอยู่ปลายเตียงจึงเปิดออกหยิบเสื้อผ้าตรงเข้าห้องน้ำ

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จท้องหินร้องจ๊อกๆ เพราะคายอาหารเย็นทิ้งไปหมดเมื่อตอนหัวค่ำ ทนหิวสักพักยังไม่เป็นศักดิ์และลูกสมุนหินจึงตัดสินใจออกจากห้องไปดูลาดเลาหาซื้ออะไรกิน

หินลงจากโรงแรมที่พักออกมาเดินเคว้งบนถนน นึกกลัวการอยู่ต่างถิ่นตามลำพังโดยเฉพาะบนถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลายประเภทมากหน้าหลายตา พยายามทำใจให้เหมือนกำลังเดินหาก๋วยเตี๋ยวกินที่ตลาดแถวบ้าน แต่ลึกๆ แล้วรู้สึกกลัวเพราะตั้งแต่เกิดมาหินยังไม่เคยจากบ้านไปไหนตามลำพังเลย

“สู้วุ้ย!” ...หินจะรู้ไหมว่าเขากำลังเดินเข้าหาจุดเริ่มต้นชะตาชีวิตที่พลิกผันอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน...



ศักดิ์พาลูกน้องกลับโรงแรมหลังจากเดินเที่ยวดูแสงสียามราตรีจนทั่วพัทยา เขาไม่รู้ว่าชีวิตของหินกำลังจะเปลี่ยนไป และเขาจะต้องรับผิดชอบด้วยชีวิตของเขาเอง

“พี่ศักดิ์ปล่อยไก่ไปจีบกะเทยเฉยเลย” ลูกน้องตัวดำแซวลูกพี่

“ใครจะรู้ล่ะ สวยเหมือนผู้หญิงอย่างนั้น หะหะ เหอเหอ เอิ๊ก” ศักดิ์และลูกน้องหัวเราะประสานเสียง เข้าไปในห้องพัก

“ตายห่ะ!..นายหินไม่อยู่” ศักดิ์ตกใจร้องดังคับห้อง เสียวสันหลังวูบ ลางสังหรณ์วิ่งวุ่นในหัวสมอง เขาวิ่งลงไปที่ถนนหน้าโรงแรม

ศักดิ์ออกเดินตามหาหินอย่างร้อนรน..ถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับนายหิน นายใหญ่คงเล่นงานเขาไม่ได้ผุดได้เกิด..ศักดิ์รู้สึกเป็นห่วงหินอย่างจริงจังเพราะเขาเป็นคนแนะให้นายใหญ่ชวนหินมาเอง ถ้าหินเป็นอะไรไปเขาคงมีความผิดมาก...



มีเสียงเอะอะอยู่ตรงทางเท้าข้างหน้า ศักดิ์ใจหายแวบ รีบสาวเท้าแหวกไทยมุงเข้าไปในวงล้อม

“หิน!” ศักดิ์ร้องลั่น เสียงสั่นด้วยความตกใจและโกรธกับภาพที่เห็น..ด้วยความรวดเร็วศักดิ์และลูกน้องกระโจนเข้าตะลุมบอนกับพวกที่กำลังรุมชกหินอยู่ แลกกำปั้นเหวี่ยงเท้ากันตึ้บตั้บ สักพักลูกเรือประมงก็ฝากรอยบอบช้ำไว้ให้เจ้าถิ่นที่จะต้องจดจำไปอีกนาน

“ไปโว้ย!..ฝากไว้ก่อนพวกมึง” ไอ้หัวหน้าทำปากดีวิ่งนำหน้าก่อนใคร

“เกิดอะไรขึ้น ?” ศักดิ์ทรุดลงบนพื้นถนนข้างหินที่เนื้อตัวมอมแมม ก๋วยเตี๋ยวหกราดทั่วตัว

“อือ...” หินงง ชา

“โอ๊ะ! มีเลือดออกที่คิ้วด้วย ตาบวมเลย” ศักดิ์ประคองหินขึ้นนั่งบนเก้าอี้

“น้องคนนี้เข้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยวชามพิเศษ ไอ้พวกบ้ามันมาทีหลังหมั่นไส้กับคำว่าชามพิเศษจึงแกล้งแซงคิว น้องเค้าไม่ยอมมันเลยเอาก๋วยเตี๋ยวราด น้องสะดุ้งลุกขึ้นเพราะน้ำซุบลวก มันนึกว่าจะสู้เลยรุมกันอัด ดีนะที่พวกคุณมาทัน” เจ้าของร้านรายงาน

“โธ่หิน!..” ศักดิ์พูดอะไรไม่ออกกับสภาพของหินที่นั่งหลับตานิ่ง ใจนึกจะอุ้มกลับที่พัก

“ศักดิ์ไปเหอะผมอายเค้า” หินพูดเสียงแผ่วค่อยยันกายขึ้นยืน ศักดิ์กับลูกน้องเข้าหิ้วปีกคนละข้างพากลับโรงแรม



ศักดิ์ให้ลูกน้องคนหนึ่งไปซื้อยาหม่อง อีกสองคนคุมเชิงอยู่หน้าห้อง..ในสถานการณ์อย่างนี้ไม่น่าไว้วางใจ

พอเข้าห้องหินตรงไปที่เตียง ล้มตัวลงนอน

“หินไม่ล้างตัวก่อนหรือ น้ำก๋วยเตี๋ยวทั้งนั้นกลิ่นหึ่งเลย” ศักดิ์ก้มหน้าลงทำจมูกฟุดฟิดใกล้ตัวหินที่นอนหงายอย่างหมดเรี่ยวแรง

“ตกใจมากไหม ดูซิเขียวช้ำทั้งหน้า ที่ถูกน้ำซุบลวกเป็นไงบ้างให้ผมดูหน่อยจะได้ทายา” ศักดิ์แตะเบาๆ ที่แขนหิน แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบ

“อ้าว! หลับซะแล้ว ทีนี้ทำไงดีล่ะเรา” ศักดิ์เกาหัวอมยิ้ม ขำปนเวทนา “เด็กหนอเด็ก..”

“พี่ๆ ยาหม่องมาแล้ว” ลูกน้องส่งขวดยาให้ศักดิ์

“เออ ออกไปคอยข้างนอกก่อน จะเปลี่ยนเสื้อให้นายหิน”

ศักดิ์ไม่รู้วิธีปฐมพยาบาลว่าต้องทำอย่างไร เคยรู้ว่าถ้าถูกไปลวกอย่างเพิ่งโดนน้ำ เขาค่อยๆ ปลดกระดุม ถอดเสื้อของหินออก ทายาหม่องบนรอยจ้ำแดงที่ไหล่ซ้าย เรื่อยลงไปตามหน้าอก หน้าท้องขาวเนียนที่มีปานสีน้ำตาลอ่อนรูปวงกลมรีคล้ายไข่ไก่...ศักดิ์ชะงักมือ ลังเลใจในส่วนที่ต่ำกว่านั้น แต่ฉุกคิดว่าเขากำลังพยาบาลคนเจ็บ นายหินที่เขาเคยเห็นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยวิ่งตามหลังนายใหญ่

ศักดิ์ปลดกระดุมกางเกงยีนของหินออก ดึงลงด้านล่าง กางเกงในสีขาวหลุดติดมาด้วย ศักดิ์ทายาหม่องทุกส่วนที่เป็นรอยผื่นแดง ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำเช็ดคราบก๋วยเตี๋ยวและฝุ่นดินตามร่างกาย ซักผ้าอีกหนเช็ดทวนตั้งแต่ใบหน้า แขนขา ลำตัว แม้กระทั่งเท้า จนนายหินของเขาสะอาดหมดจด

ศักดิ์มองดูหินที่นอนเปลือยเปล่าหลับตานิ่ง..เขาสงสัยการกระทำและความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อหิน..ทำไมเขาจึงเอาใจใส่และทำอะไรให้ใครคนหนึ่งถึงขนาดนี้ เขาไม่เคยเป็นมาก่อน..อาจจะเป็นเพราะหินเป็นลูกของนายใหญ่ หรือเพราะเขารู้ผิดที่ละเลยไม่ดูแลหินเท่าที่ควรทำให้เกิดเรื่องขึ้น

“เฮ้ย! ไม่เอาน่า..” ศักดิ์สลัดหน้าปฏิเสธความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้น เขาเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่เปลี่ยนให้หิน ทั้งชั้นนอกชั้นใน ห่มผ้าให้แล้วออกไปสมทบกับลูกน้องที่ระเบียงโรงแรม



หินตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดร้าวทั่วร่างกาย ค่อยๆ ยันกายขึ้นนั่ง มองเห็นศักดิ์และลูกน้องทั้งสามคนนอนอยู่บนพื้นห้อง..ขณะกำลังจะลงจากเตียงศักดิ์พลิกตัวหันมาพอดี

“จะไปไหนหรือ?” ศักดิ์งัวเงียถาม

หินไม่ตอบ เดินเข้าห้องน้ำ..หลังจากทำธุระเสร็จหินคิดจะทำความสะอาดและสำรวจความบอบช้ำของร่างกายจึงถอดเสื้อออก ยกไหล่ยกแขนขึ้นดมแต่ไม่ได้กลิ่นคาวอะไร กลับได้กลิ่นจางๆ ของยาหม่อง นึกเอะใจเอามือลูบตามรอยสีชมพูบนผิวเนื้อ รู้สึกได้ถึงความลื่นเหมือนถูกทายาไว้..หินขนลุกซู่เมื่อนึกเดาเรื่องได้ รีบปลดกางเกงออกดู “เออแน่ะ! ช่างทาไปหมดทุกที่ทั้งแข้งขากระเป๋ากระโป..” หินนึกฉุนตงิดๆ “คงไม่ใช่ฝีมือใคร นอกจากนายศักดิ์!”

“นานจังทำอะไรอยู่! มีคนรอคิวอีกสี่คนนะครับคุณ” น้ำเสียงคนถามเหมือนจะขำๆ ดังอยู่นอกห้องน้ำ

ศักดิ์ยืนบิดขี้เกียจอยู่หน้าห้อง หินเปิดประตูออกมาเดินเลี่ยงไม่กล้ามองไปทางศักดิ์ “อะไรวะ! เห็นของเค้าหมดแล้วยังไม่อายอีก..เอ..ใครต้องอายกันแน่” หินพูดในใจกับตัวเอง


“ตกลงเราจะทำอย่างไรกันต่อไปดี” ศักดิ์พูดเปรยขึ้นเมื่อทุกคนหมดทุกข์และสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว

“แล้วแต่ลูกพี่ ว่าไงว่าตามกันอยู่แล้ว” คนขับรถซึ่งอาวุโสกว่าอีกสองคนออกความเห็น

“ถ้าไปรับเรือและกลับบ้านตอนนี้ ไม่แน่ใจว่านายใหญ่จะเล่นงานพวกเราขนาดไหน ถูกเตะน่ะเรื่องเล็กผมไม่กลัวหรอก” ศักดิ์พยักหน้าไปทางหิน

“พ่อผิดเองที่สั่งให้ผมมา ไม่อยากมาสักหน่อย” หินพูดออกตัว

“เอางี้..เราเถลไถลอยู่แถวนี้สักสองสามวันรอให้รอยฟกช้ำของหินจางลงแล้วค่อยกลับบ้าน” ศักดิ์สบตาหินเป็นเชิงปรึกษา

“ใครจะเป็นคนบอกนายใหญ่ล่ะลูกพี่” คนขับรถเสียงหวาดหวั่น

“นั่นสิ!” สายตาศักดิ์รอคำตอบจากหิน

“คงเป็นผมที่ต้องโทรฯ ไปบอกพ่อว่าอยากอยู่เที่ยวต่ออีกสักพัก” แม้จะไม่อยากทำแต่เหตุการณ์บังคับให้หินพูดออกมา “ใช่ไหมที่นายศักดิ์ต้องการ” เสียงไม่พอใจ

“___” ไม่มีคำตอบจากศักดิ์นอกจากสายตานิ่งที่ยากเดาความรู้สึก

“ก็ได้ๆ ผมจะโทรฯ โกหกพ่อเอง!” หินพูดเองเออเอง เสียงแปร่งๆ

“อ้าว! ทำไมพูดอย่างนั้น ผมไม่ได้สอนให้โกหกนะแต่มันจำเป็น..หรือหินจะกลับเลยก็ตามใจ ผมรับมือได้อยู่แล้วกับอารมณ์ของนายใหญ่” ศักดิ์เสียงเขียวลุกขึ้นเดินไปฮึดฮัดฟึดฟัดอยู่มุมห้อง ลูกน้องสามคนเห็นท่าไม่ดีพากันเลี่ยงออกไป

“ฮัลโหลๆ พ่อครับๆ ฮัลโหล..” หินหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรฯ

“ดีมากนายหิน..” ศักดิ์พึมพำพอใจที่เรื่องเป็นไปด้วยดี

“ฮัลโหล..อื้อ! สัญญาณไม่ดีเลย” หินเดินหาคลื่นจนออกไปนอกระเบียง

“ฮัลโหลๆ ฮัลโหล พ่อใช่ไหมครับ?..” หินชำเลืองดูศักดิ์ที่เดินตามมาด้วยทีท่าเหมือนไม่สนใจ

“อ่ะ ได้ยินแล้วหรือครับ..พ่อนี่หินเองนะ....ครับ ศักดิ์พาไปเที่ยวพัทยา.....อ๋อ ไม่มีอะไรครับเกิดเรื่องนิดหน่อย ผมหัวแตก เย็นนี้จะไปรับเรือคงกลับพรุ่งนี้.....ไม่ต้องเป็นห่วงครับพ่อ.....ครับ.....ศักดิ์พาไปครับ.....เดี๋ยวคุยกับศักดิ์นะครับ” หินยื่นโทรศัพท์ให้ศักดิ์ที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตก

“ไหงหักหลังกันงี้ล่ะ!” ศักดิ์กัดฟันคำรามข้างหูหิน เอื้อมมือรับโทรศัพท์จากเด็กแสบ

“ครับ ผมเองครับนายใหญ่..!..!..!”

“______” เงียบ! โทรศัพท์ไม่ต่างอะไรกับเหล็กท่อนหนึ่ง

“หิน!” ศักดิ์คำรามดังกว่าเก่า หันคว้ามือหินกระแทกโทรศัพท์ใส่ลงไป

“ผมคุยกับพ่อแล้วตอนศักดิ์อยู่ในห้องน้ำ” หินอมยิ้ม เสมองลงไปในสระน้ำเบื้องล่าง

“สนุกมากใช่มั้ย!” ศักดิ์อ้อมไปด้านหลังจับต้นแขนขวาหินบีบค่อนข้างแรง ก้มลงพูดชิดแก้มด้วยประโยคเดิม “สนุกมากใช่มั้ยที่ได้แกล้งผม” จมูกศักดิ์เฉียดแก้มหินไปนิดเดียว

“โอ๊ย! เจ็บนะ” หินร้อง


“วันหลังจะโดนมากกว่านี้คนมีไข่สามใบ!” ศักดิ์หัวเราะลั่นเดินข้าห้อง ปล่อยให้หินยืนโกรธหน้าเขียวอยู่คนเดียว






Create Date : 07 มกราคม 2551
Last Update : 1 มิถุนายน 2552 10:11:05 น. 3 comments
Counter : 345 Pageviews.

 
แวะมา


โดย: naydin วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:3:51:57 น.  

 
สวัสดีครับคุณ naydin...

เม้นท์เมื่อ 29 กันยายน 51

ตอบเมื่อ 7 ธันวาคม 51

เชื่อเลยนะครับ

ขอบคุณครับที่แวะมา

นี้ผมก็แวะมาแก้ไขสำนวนให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น

"หินสักลาย" นี้คือเรื่องแรกในการเขียนนวนิยายของผม

สำนวนจึงดูเว่อร์ๆ เนื้อหาก็ไม่ละเอียด ไม่มีบรรยากาศรอบข้าง

นี้แก้ใหม่แล้วครับ

จะค่อยแก้ไปเรื่อยทีละบทครับ

อาจไม่มีใครเข้ามาแล้ว

แต่อย่างน้อยไว้อ่านคนเดียวก็ได้ครับ...

ดีน ดาเรน ครับ.....



โดย: ดาเรน (ดาเรน ) วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:9:46:26 น.  

 
กำลังอ่านอยู่นะครับ


โดย: จินตนาการ IP: 221.128.100.58 วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:23:09:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.