Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
6 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
..... บทที่ 18 .....


บทที่ 18


น้ำค้างหล่นเปาะแปะจากต้นประดู่ที่กำลังเริ่มออกดอก กลิ่นหอมอ่อนๆ คลุ้งไปทั่ว
ลายมุดเข้าไปเอาจักรยานที่ซ่อนอยู่ในพุ่มดอกสายหยุด กลิ่นมันหอมเชิญชวน เขาจึงเด็ดดอกสายหยุดพวงโตใส่ในตะกร้าหน้าแฮนด์ จูงจักรยานออกไปเงียบๆ เกือบเสียเรื่องเมื่อไอ้เด่นเข้ามาส่ายหางทำก้นดุ๊กดิ๊ก ร้องงิ๊ดงิ๊ดเหมือนถามว่าจะไปไหน ลายต้องเอามือปิดปากไอ้เด่นและยอมมันเลียหน้าสองสามแผล็บจึงออกมาได้อย่างปลอดภัย

ลายขับจักรยานไปเรื่อยๆ นานๆ จะสวนทางกับไอ้ต๊อกที่เพื่อนบ้านกำลังขับไปทำงาน ลายก็กำลังจะไปทำงานเหมือนกัน ไม่เชิงทำงาน ไปให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านคนหนึ่งอันเป็นนิสัยที่ลายชอบทำเสมอจนใครๆ ที่บ้านค่อนแคะว่าลาย ‘เสือก’ ลายกำลังจะไปหาหิน พี่ฝรั่งที่น่าสงสาร หินไม่เหมือนฝรั่งมากนักแต่ลายนึกถึงคนต่างชาติตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบหิน...ลายไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงเอาใจใส่หินเป็นพิเศษมากกว่าเพื่อนบ้านคนอื่นๆ อาจเป็นเพราะความเป็นคนใจอ่อนขี้สงสารของเขานั่นเอง...ก็วันนั้นหินน่าสงสารมากนี่นะ ลายแก้ตัวกับตัวเอง...

ไอ้ต๊อกคันหนึ่งติดหล่มอยูในทางลูกรังเล็กๆ ที่แยกจากถนนเข้าไปในนา ชายเจ้าของรถกำลังออกแรงยกอยู่ตามลำพัง

“วู้ว์!” ลายหยุดรถโบกมือส่งเสียงไปหาชายคนนั้นแล้วเลี้ยวรถเข้าไปในถนนดินแดง

“พี่ทิดครับ ผมมาช่วยแล้ว” ลายเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ

“ขอบใจมากไอ้หนู” พี่ทิดกับลายช่วยกันยกอีต๊อกออกจากหล่ม

“สองแรงนี่มันทำอะไรได้ง่ายจริงนะ” พี่ทิดปัดมือกับกางเกงขาดมอมแมมแล้วยื่นมือออกมาทำท่าจะเช็คแฮนด์กับลาย

“โอ้โฮ! ขนาดนี้เลยหรือพี่” ลายเช็คแฮนด์กับพี่ทิดแล้วทั้งสองคนก็หัวเราะออกมา ลายยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนบ้านอย่างที่เขาชอบทำ...ลายมองไปรอบๆ ตัว ภูมิใจในความดีที่เพิ่งทำไป

“ไปก่อนนะไอ้น้อง ขอบใจมากที่ได้ช่วยพี่ วันหน้ามีอะไรให้ช่วยละก้อ ได้เลยนะ” พี่ทิดโยกเยกรถจากไป

ลายยังยืนมองทิวทัศน์ยามเช้าของทุ่งนาอย่างชื่นชม แม้จะเคยเห็นอยู่ทุกวันแต่เขาก็ยังรักผืนนาและธรรมชาติรอบกายไม่มีเบื่อหน่าย...พลันสายตาของลายก็พบกับร่างๆ หนึ่งนอนฟุบอยู่บนคันนา ไม่ใช่ภาพแปลกตาสำหรับลาย พ่อและพรรคพวกเคยนอนให้แม่มาลากกลับบ้านอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าเขาเข้าไปปลุกพี่ทิดขี้เมาคนนี้ให้กลับบ้านก็คงจะดีกว่าให้ลูกเมียออกตามหา...ลายลุยซังข้าวเข้าไปในนา

“พี่ๆ พี่ๆ” ลายเขย่าตัวและจับร่างพี่ทิดหงายขึ้น แล้วลายก็ประหลาดใจ

“อ้าว! พี่ศักดิ์น่ะเอง...เอ...ใช่พี่ศักดิ์หรือเปล่าก็ไม่รู้” ลายออกแรงเขย่าอีกสักพัก

“อือ...” ศักดิ์ปรือตาขึ้น เขามองเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เขาพอจำได้ว่าคือน้องชายเดือนที่เคยเป็นพี่เลี้ยงของหิน

“ทำไมพี่มานอนอยู่ตรงนี้ ไม่มีกลิ่นเหล้าสักหน่อย ไม่สบายหรือครับ”

“ไม่..ครับ” ศักดิ์ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี

“พี่พักอยู่ที่ไหน ผมไปส่งให้เอาไหม?”

“ไม่” ศักดิ์เค้นสียง

“ไม่อะไร ผมไม่รู้เรื่องครับ พี่เป็นอะไร เหมือนจะเจ็บคอหรืออย่างไร” ลายส่ายหัวทำหน้างงๆ

“ไม่” ศักดิ์พูดอีกหนพร้อมกับทำท่าทางบอกว่าพูดไม่ได้ลายจึงพอจะเข้าใจ

“เอางี้ ผมจะพูดกับพี่ พี่ใช้วิธีพยักหน้าหรือสั่นหัวถ้าไม่ใช่แล้วกันนะ”

“ก่อนอื่น ผมสงสัยอยากรู้มากว่าพี่คือพี่ศักดิ์ลูกยายพรใช่ไหมครับ?”ลายยิงคำถามแรกที่ทำให้ศักดิ์อึ้งไปชั่วขณะ ถ้าเขาปฏิเสธ ลายยิ่งจะสงสัยมากขึ้นไปอีก และเด็กช่างสังเกตอย่างลายคงไม่หยุดค้นหาความจริงจนได้

“ครับ” ศักดิ์พยักหน้า เล่นเอาลายขยับตัวถอยห่างออกมาทั้งๆ ที่เดาคำตอบไว้แล้วล่วงหน้า

“พี่อยู่ที่ไหน?”

“ไม่”

“พี่ไม่มีที่อยู่หรือครับ?” ศักดิ์อึ้งไป...เมื่อคืนเขาวิ่งเตลิดมาเพราะอยากจะไปให้พ้นๆ อดีต ถึงแม้จะมาได้ไม่ไกลนักก็ยังดีกว่ากลับไปที่เดิมซึ่งเขารู้ตัวว่าไม่มีวันตัดใจได้...ศักดิ์จึงพยักหน้า

“ทำไงดี?...พี่ไปพักที่ห้องผมชั่วคราวไหม แล้วค่อยคิดหาทางกันอีกที” ศักดิ์ไม่ตอบ ลายจึงพยุงศักดิ์ลุกขึ้นแล้วให้ซ้อนจักรยานกลับไปบ้าน




“พี่เดือน...พี่เดือน...” ลายกระซิบเรียกเดือนที่ยังงัวเงีย

“ทำไม?” เดือนหงุดหงิดที่ถูกปลุกแต่เช้า

“พี่ศักดิ์มาหา” ลายตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ

“หา!” ได้ผลเพราะเดือนสะดุ้งลุกออกจากที่นอนทันที

“ไอ้ลายบ้า! หลอกผีฉันแต่เช้าเชียว...รู้น่า...จะปลุกฉันให้ไปส่งที่บ้านยายฝรั่งน่ะซี” เดือนล้มตัวลงนอน

“ไม่ใช่นะ ฉันมีอะไรเกี่ยวกับพี่ศักดิ์จะเล่าให้ฟัง” ลายเขย่าตัวเดือน

“ไอ้ลาย ฉันง่วงนะแก”

“ถ้าไม่ตื่นฉันก็ไม่ไปบ้านหินอีกแล้วนะพี่” ลายหยอดไม้ตายซึ่งได้ผล เดือนลุกจากที่นอนแต่ไม่วายบ่น

“ไอ้บ้าลาย”

“พี่ไปล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อยก่อน เดี๋ยวพี่ศักดิ์เหม็นขี้ฟันแย่นะเออ” ลายทำเสียงทีเล่นทีจริง

“บ้าซิ ใครจะออกนอกบ้านทั้งๆ ขี้ฟัน” เดือนออกไปทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยแล้วกลับเข้ามาในห้อง

“ไม่ต้องแต่งตัวสวยหรอกพี่ รีบตามฉันมาเถอะ” ลายจูงมือเดือนที่ทำท่าจะหาเสื้อผ้าใส่เพราะแน่ใจว่าลายต้องการให้ขับรถไปส่งที่บ้านหิน

“เดี๋ยวนะ...ฉันขอเล่าอะไรให้พี่ฟังก่อนที่พี่จะตกใจร้องบ้านแตก” ลายกลับนั่งลงหน้าประตูห้องแล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ได้พบศักดิ์ในคืนที่หินเดินตกที่ จนถึงเมื่อเช้านี้ที่เพิ่งผ่านมา...


“ที่แกเล่ามาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงหรือ ฉันไม่อยากเชื่อเลย แล้วพี่ศักดิ์หายไปไหนมา คนที่พวกเราช่วยกันเผาล่ะ? ฉันงงไปหมดแล้ว” เดือนยกมือกุมหัว

“เรื่องนี้ฉันก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน ยังไม่ได้ถามอะไรพี่ศักดิ์เลย ท่าทางเขาไม่สบายมาก พูดอะไรไม่ได้...อีกอย่าง...” ลายจับมือเดือนปลอบใจ “...ถ้าพี่เห็นตาข้างหนึ่งของพี่ศักดิ์แล้วอย่าตกใจนะ เพราะมันถลนออกมาน่ากลัวอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าพี่เดือนยืนยันว่ารักเขาจริงก็ไม่น่ารังเกียจอะไร...ถึงอย่างไรฉันอยากให้พี่สงสารเขาหน่อยแล้วกัน และอย่าเพิ่งไปบอกเรื่องนี้กับใคร ให้พี่ศักดิ์หายดีแล้วเราค่อยปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป”

เดือนพูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งอึ้งเพราะนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น เดือนรักศักดิ์แน่อยู่แล้ว แต่การที่ศักดิ์ฟื้นขึ้นมาจากความตายด้วยใบหน้าที่น่ากลัวนั้นเดือนต้องขอเวลาทำใจสักหน่อย




เสียงฝนตกปรอยๆ ลงบนใบไม้ฟังไพเราะรื่นหู ตั้งแต่ตาไม่ดีหินรู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับทุกสิ่งที่ได้ยิน ยิ่งจมูกจะได้กลิ่นไวกว่าเดิม...หินได้กลิ่นอ่อนๆ ของดอกไม้โชยมา กลิ่นมันหอมหวาน ดอกอะไรนะ หินไม่ได้กลิ่นดอกไม้ชนิดนี้มานานแล้ว จำได้ว่าเคยได้กลิ่นเสมอๆ ที่บ้านแม่กลอง ดอกอะไรนะ...กลิ่นยิ่งหอมชัดเจนขึ้น...“ดอกสายหยุด!” หินนึกออกมาดังๆ

“เก่งจังครับ ผมเก็บดอกสายหยุดมาฝาก วางไว้ในครัวให้ยายช่อหนึ่ง”ลายยื่นพวงดอกสายหยุดไว้ตรงหน้าหิน

“น่าเสียดายที่พอสายๆ มันก็หยุดส่งกลิ่นหอมสมชื่อ...สบายดีหรือลาย หายไปไหนมาหลายวัน ไม่ห่วงผมเลย” หินแกล้งพูดต่อว่า

“หินคอยผมอยู่หรือ แย่จริงนายลาย แต่ผมไม่ได้เกเรนะ ผมถูกงูกัดครับ” ลายพูดเสียงอ่อน

“งูกัด! งูอะไร แล้วลายไม่เป็นอะไรหรือ” หินทำท่าตกใจ

“งูเห่าสิครับ ผมนอนเป็นไข้อยู่หลายวัน ขาบวมเหมือนขาช้างเลย อยากให้หินเห็นจังจะได้สงสารผม” ลายนั่งบนเตียงข้างๆ หิน

“ยังต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนอีกหรือเปล่า...”

“ไม่รู้จิ...อยู่ในบ้านก็พออยู่ได้นะถึงแม้บางทีจะมีหกล้มบ้าง...”

“อื้อ...งั้นคงไม่ต้องการผมแล้ว...ผมไปก็...” ลายลุกจากเตียง

“เดี๋ยวดิ...” หินคว้าเงาอะไรไวๆ ตรงหน้า “งอนเป็นด้วยหรือเด็กยักษ์” หินคว้าแขนลายได้แม่นยำ

“อ้าว! ผมโดนสองข้อหาเลย...เด็กยักษ์...งอน” ลายหงายลงบนเตียงตามแรงฉุดของหิน

“ไม่ฟังผมพูดให้จบเสียก่อน คือผมไม่อยากหกล้มน่ะ และอีกอย่างผมก็อยากออกไปนอกบ้านด้วยครับคุณลาย” หินทุบลงไปบนท้องลาย

“เจ็บนะหิน...นี่แน่ะ!” ลายดึงตัวหินลงนอนข้างๆ

“ลายครับ ผมมีข่าวดีจะบอกลายเป็นคนแรก...ผมเริ่มมองเห็นอะไรได้ลางๆ แล้ว เมื่อกี้ผมมองเห็นแขนลายแวบๆ” หินนอนเพ่งดูเพดานห้อง

“ข่าวดีของหิน...แต่ไม่ค่อยดีของผม...คิดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ว่ามะ?” ลายนอนมองเพดานเช่นกัน

“ผมคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดหินอย่างนี้อีกแล้ว ใช่ไหม?” ลายหันมามองจมูกโด่งรั้นของหิน “คงแปลกพิลึกถ้าผมจะจ้องหน้าหินอย่างเดี๋ยวนี้ถ้าหินหายดีแล้ว ใครๆ เขาคงว่าผมสติไม่ดีแน่” ลายจับมือหินดื้อๆ

“งั้นลายก็ดูซะให้พอใจ เพราะถึงวันนั้นผมคงไม่อยู่เฉยๆ ให้ลายนั่งจ้องแน่” หินยิ้มดีใจกับคานไม้ท่อนโตที่พาดอยู่ใต้ฝ้าสีขาวซึ่งเขากำลังเริ่มมองเห็นอย่างมัวๆ จนไม่ทันรู้สึกว่าลายเอามือของเขาเข้าไปกอด

“ลายทำอะไรน่ะ!” สักครู่หินรู้ตัวจึงดึงมือออก

“ป่าวครับ...ผมรักหินครับ” ลายตัดสินใจปุ๊บปั๊บพูดออกมา

“ลาย!...” หินพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าสมควรจะพูดอะไรกับลาย...ลายเป็นเด็กน่ารัก เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เป็นคนจิตใจดี หินชอบลายทั้งในแง่ของความเป็นเพื่อน เป็นน้อง เป็นใครคนหนึ่งที่อบอุ่นและสนุกสนานเมื่ออยู่ใกล้ แล้วหินจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์นี้...

“พาผมออกไปเที่ยวดีกว่าครับ”หินแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ฉุดลายให้ลุกขึ้นนั่ง

“หินนะ ขี้โกงผม” ลายกอดเอวหินที่ยืนอยู่ข้างเตียง

“ไม่เอา ลุกขึ้นพาผมไปเดินเที่ยวกันเถอะ...ครับผม” หินล้อเลียนลายพร้อมกับฉุดลากให้ลายลงจากเตียง

“ไปก็ไป หินขี้โกง”....



“อย่าไปไหนไกลนะ เดี๋ยวกลับมากินข้าวด้วย” ป้ายวนตะโกนมาจากบ้าน ทั้งลิลลี่และป้ายวนแอบสังเกตท่าทางที่คล่องแคล่วของหินด้วยความสบายใจ

“คร๊าบ...” ลายตะโกนตอบ เขาพาหินเดินไปด้านข้างของถนนที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ในใจลายยังอยากรู้ความรู้สึกของหินที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้...เขารู้ว่าตัวเองคิดมากไป แต่เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และเขาก็ได้พูดออกไปแล้ว...เขาต้องการคำตอบ...

“ลาย! ลาย!” เสียงเดือนเรียกอยู่ริมรั้วบ้าน

“อ้าว! พี่เดือนมาทำไมหรือ มีอะไรกับฉัน”

“หินยืนเกาะต้นมะม่วงนี้ไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมา แป๊บเดียวนะ” ลายจับมือหินยึดต้นมะม่วงแล้ววิ่งออกไปที่รั้ว

“พี่รินก็มาด้วยหรือ จะไปไหนกันซิ่งมอเตอร์ไซด์คนละคันเชียว” ลายถามประสาซื่อ

“ไง หินหายดีแล้วหรือถึงได้ออกมาเดินเที่ยว” เดือนตะโกนทักหินด้วยเสียงเป็นมิตร ซึ่งทั้งลายและหินอดประหลาดใจไม่ได้ แต่ที่ทำให้หินประหลาดใจมากกว่านั้นคือเมื่อเขาเพ่งสายตาไปทางเสียงของเดือน เขาเห็นภาพของเดือน และเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ...หินเดินตรงไปที่เดือน

“เฮ้ย! หินเดินมาทำไมเดี๋ยวล้ม” ลายรีบวิ่งเข้าไปจูง

“ผมพอมองเห็นแล้ว...สวัสดีครับ...พี่เดือน” หินเดินไปเกาะรั้ว

“ฉันคือน้าเดือนนะจ๊ะ ไม่ใช่พี่เดือน...และนี่ไง ริน หินจำได้ไหม?” เดือนแนะนำริน

“สวัสดีครับพี่ริน จะไปไหนกันหรือครับ พี่รินคือพี่สาวของลายอีกคนหนึ่งใช่ไหมครับ” หินยิ้มกว้างเพราะดีใจที่มองเห็นทุกอย่างได้

“รินไง หินจำไม่ได้หรือ” เดือนถามหินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“เอ๊ะ! พี่เดือนนี่ก็แปลกจังคนเขาไม่รู้จักยังบังคับให้เขารู้จักอีก” ลายห้วเราะ

“งั้นเราไปกันเถอะเดือน” รินได้พิสูจน์แล้วว่าหินจำอะไรที่เกิดขึ้นในวันนั้นไม่ได้แน่ เธอจะรีบกลับไปรายงานนายหยดที่ใช้ให้มาสืบเรื่องนี้ ถ้าหินจำรินได้นายหยดคิดจะกำจัดหินเสีย โชคดีที่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะรินก็ไม่อยากทำอะไรที่ชั่วร้ายอย่างนั้นอีกแล้ว ครั้งเดียวที่ทำไปก็ตามหลอกหลอนอยู่ทุกวัน

“ว่าแต่พี่เดือน ฉันขอยืมรถหน่อยดิจะพาหินนั่งรถเล่น...นะ” ลายอ้อน

“...ได้...เห็นกับหินนะนี่...” เดือนปิดบังพิรุธร้ายที่ยังค้างคาอยู่ในใจถึงแม้ขณะนี้หินไม่ได้เป็นเสี้ยนหนามอะไรกับเดือน อีกทั้งศักดิ์ก็ยอมมอบทั้งกายใจให้เดือนแล้วก็ตาม

“พี่เดือนของฉันใจดีจัง...พี่ซ้อนพี่รินไปแล้วกันนะ ขอบใจมากจ๊ะ...บาย” ทั้งลายและหินโบกมือให้เดือน

“ตาหินมองเห็นแล้วหรือผมดีใจจัง...เราไปเที่ยวกันนะ ผมขับรถเก่งครับหินไม่ต้องกลัวอันตราย”

“ไม่เข้าไปบอกยายก่อนหรือ?” หินเดินตามลายออกมานอกรั้ว

“ขืนบอกเราก็อดไปแน่ๆ เชื่อผมเหอะ เราไปกันเดี๋ยวเดียวเอง นะครับ”ลายขึ้นคร่อมสตาร์รถ

“ขึ้นมาสิหิน...” ลายเอี้ยวตัวไปตบเบาะหลังและพยักหน้า

“จะดีหรือ?...” หินลังเล รู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมา...มันเหมือนภาพเหตุการณ์ที่ศักดิ์ชวนเขาขึ้นรถในวันนั้นเหลือเกิน...ซึ่งจนป่านนี้หินก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย

“มาสิคร า บ...” ลายลงจากรถมาจูงหินให้ขึ้นซ้อนแล้วจึงขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับตามเดิม

“กอดเอวผมไว้แน่นๆ นะ นายลายจะซิ่งแล้วครับผม” หัวใจลายลิ่วไปพร้อมกับมอเตอร์ไซด์ วันนี้เป็นวันที่ลายมีความสุขที่สุด เขาพาหินโลดไปอย่างคึกคะนอง สักพักเขาจึงลดความเร็วลงเพราะสังเกตเห็นหินเงียบไป

“หินกลัวหรือ? ผมลืมไปว่าหินเพิ่งมองเห็น ไม่ต้องกลัวนะครับ” ลายเอื้อมจับมือของหินไปวางบนหน้าขาของเขาแล้ววางมือทับไว้เบาๆ

“ให้ผมเกาะเอวลายดีกว่าเดี๋ยวหล่น” หินชักมือกลับไปเกาะเอวลายตามเดิม

“ก็ได้ ก็ได้...หินนะ!” ลายแกล้งงอน

“อย่างนี้ดีไหม...” หินกระเถิบเข้ากอดเอวลายแน่นขึ้นกว่าเดิม

“อื้อ...ค่อยมีกำลังใจพาไปเที่ยวหน่อยครับ” ลายยิ้มอย่างมีความสุข


ลายพาหินไปดูทัศนียภาพของหมู่บ้านและทิวป่า ดูความสงบเยือกเย็นของน้ำในบึงหล่มที่ใสสะอาดปริ่มบึง มีเรือหาปลาลำเล็กลอยอยู่ลิบๆ เห็นหมู่ปลาว่ายไปมาใต้กอบัวและแพผักตบชวาที่ออกดอกสีม่วงเย็นตา ลายพาหินไปจนทั่วจึงพากลับมาที่ถนน ตั้งใจจะพาหินไปอีกหมู่บ้านหนึ่งที่มีการทอผ้าเป็นสินค้าการโอท็อป

“ลายจะไปไหนอีกหรือ เดี๋ยวยายกับคุณลิลลี่เป็นห่วงนะ เราออกมาก็ไม่ได้บอกแก”

“งั้นแวะกินน้ำที่บ้านผมก่อนนะครับ...นั่นไงถึงพอดี...” ลายเลี้ยวรถเข้าถนนซอย สักพักก็เห็นหลังคาบ้านโผล่มาจากยอดไม้

“บ้านลายใหญ่เหมือนกันนะ”

“ได้ไง ไม่รู้หรือว่านี่คือบ้านนักเลงเก่านะครับ” ลายจอดรถใต้ต้นมะม่วง

“อ๋อเหรอ พ่อลายเป็นนักเลงหรือ” หินกระซิบ

“โธ่! ผมล้อเล่นนะครับหิน กลัวผมจะพามาหมกหรือไง หึ หึ” ลายหัวเราะขำท่าทางหวาดๆ ของหิน

“ลายหรือ นั่นพาลูกฝรั่งที่ไหนมา” แม่ของลายตะโกนถามจากในครัว

“ไม่ใช่ลูกฝรั่งครับ นี่ไงหินที่พี่เดือนพูดถึงบ่อยๆ” ลายตะโกนตอบ

“ใครนะ?”

“หินครับ ชื่อหินครับ” ลายตะโกนดังกว่าเดิม


“หินครับ ชื่อหินครับ” เสียงลายทำให้ศักดิ์ซึ่งกำลังมองหาจักรยานอยู่หลังบ้านสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย มันยิ่งกว่าฝันร้ายเพราะมันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้เอง...

...รินและเดือนขับรถกลับเข้ามาในบ้าน...

“ว่าไงนังริน ได้เรื่องอะไรมาบ้าง ไอ้หินมันจำแกและเหตุการณ์วันนั้นได้ไหม?” นายหยดโผล่จากพุ่มไม้ริมป่าข้างบ้าน

“เดี๋ยวให้ฉันจอดรถก่อนซิแก...หินจำอะไรไม่ได้เลย เราปลอดภัยแล้ว”

“แล้วมันจำเดือนได้หรือเปล่า”

“เอ...ก็เห็นเขาทักทายดีนี่นะ” รินพูดตามที่เห็นมา

“แสดงว่ามันจำได้ทุกอย่างแต่แกล้งทำเป็นลืม รอจังหวะที่จะเล่นงานเรา ได้ข่าวว่ามันตาบอดใช่ไหม?”

“หายแล้วนี่เมื่อกี้คุยกับฉันเป็นปกติดี” เดือนเข้าร่วมวง

“เราต้องเร่งมือแล้ว ตามันหายมันก็คงกลับกรุงเทพฯ เราจะไม่มีโอกาสกำจัดมัน...ฉันจะไปนัดแนะกับพวก คิดว่าวันนี้หรืออย่างช้าคืนนี้คงต้องจัดการ”...


...นั่นคือเรื่องที่ศักดิ์แอบได้ยิน เขารีบหากระดาษดินสอเขียนข้อความสั้นๆ บอกข่าวให้คุณลิลลี่รู้ตัว ขณะกำลังมองหาจักรยานเพื่อจะขับไปหาคุณลิลลี่ ลายก็พาหินเข้ามาพอดี...






Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 11:45:55 น. 1 comments
Counter : 707 Pageviews.

 
ยังไม่มีเวลามาตามอ่านเลยแฮะ ดองไว้ก่อนนะ แต่อยากอ่านเป็นเล่มอ่ะคับ


โดย: dinkun (กริชครับผม ) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:31:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.