Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
..... บทที่ 13 .....


บทที่ 13


แว่วเสียงกอไผ่ชายป่าดังเอี๊ยดอ๊าด นกกลางคืนร้องอุอุและเสียงจิ้งหรีดร้องอยู่ไกลๆ ลมโชยมาเบาๆ หอบเอากลิ่นดอกไม้ไทยเข้ามาคลุ้งห้อง...


ตั้งแต่เกิดมาหินไม่เคยรู้สึกว้าเหว่เท่านี้เลย...เมื่อวานนี้แท้ๆ ที่หินมีความสุข มีความหวังที่จะได้มาพบศักดิ์ แต่วันนี้ คืนนี้เวลาห่างกันแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมงอะไรอะไรมันต่างกันลิบลับ จู่ๆโลกของหินก็หายไปแบบไม่มีวี่แวว หัวใจของหินก็เหมือนจะหายไปด้วย หินเคยรู้ว่าไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต แต่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติดอย่างนี้...หินเข้าใจแล้วถึงความรู้สึกของศักดิ์เมื่อหินหายตัวไป มันเหมือนกับที่หินรู้สึกในเวลานี้ ผิดกันที่ความรู้สึกของศักดิ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าหินมากมายนัก...

“ศักดิ์ครับทำไมคุณจึงมอบหัวใจให้กับผมมากมายขนาดนั้น ช่างไม่เหลือไว้รักตัวเองบ้างเลยหรือ...คนโง่ของผม...เวลานี้คุณอยู่ที่ไหนนะ รู้บ้างไหมว่าคุณทำผิดที่ทิ้งผมไป ผมเข้าใจคุณทุกอย่างและพร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณ...” หินนั่งรำพึงอยู่ในความมืด “แล้วต่อจากนี้ผมจะอยู่กับใคร...จริงอยู่ผมรู้แล้วว่าใครคือพ่อแม่ที่แท้จริง ผมคงต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวและเรียนหนังสือต่อ แต่ใจของผมมันไม่มีที่อยู่...ถ้าไม่ใช่ศักดิ์หัวใจผมคงเร่ร่อนไปจนกว่า...”

“พลุ๊บ!” หินสะดุ้งสุดตัว ไม่ได้กลัวอะไรแต่ตกใจที่ไม้แขวนเสื้อหล่นจากราว หินก้มลงเก็บ เขาแปลกใจที่มันคือกางเกงเลและเสื้อกล้ามสีดำ หินจึงเปลี่ยนชุดนอนที่ใส่อยู่เป็นกางเกงเลและเสื้อดำนั้น...หินยิ้ม คิดถึงเมื่อครั้งที่ศักดิ์แกล้งปล้ำเขาเพื่อบังคับให้ใส่ชุดชาวเลที่ศักดิ์แอบซื้อให้...หินยังจำได้ดีถึงความรู้สึกแรกที่เริ่มมีใจกับศักดิ์...ทะเลที่พัทยาคงอยู่ในใจหินตลอดไป...


หินลงไปเดินเล่นในสวน เลยไปที่บ้านยายยวน ขึ้นบันไดไปดูที่ ๆศักดิ์และเขาเคยนอน...หมอนมุ้งยังวางอยู่ที่เดิม หินหยิบเสื้อยืดสีขาวขลิบกรมท่าตัวเก่งและกางเกงยีนที่ศักดิ์ชอบใส่ประจำติดมาด้วย กลิ่นตัวของศักดิ์ยังกรุ่นอยู่...หินจำได้ดี...

หินเดินไปทั่วที่เขาและศักดิ์เคยอยู่ด้วยกัน เมื่อยเข้าจึงนั่งพักบนเนินสนามหญ้า คืนนี้ไม่มียุง หินจึงเอนตัวลงนอนแหงนมองฟ้าที่เขาและศักดิ์เคยแข่งกันนับดาว เขากอดเสื้อผ้าของศักดิ์ไว้แนบอกน้ำตาซึม...ลมพัดมาวูบหนึ่งหอบกลิ่นกระดังงาและราตรีฟุ้งรอบตัวหิน เขาเคลิ้มเหมือนจะหลับและคงหลับไปจริงๆ มารู้สีกอีกทีเมื่อพลิกตัวซึ่งทำให้เขากลิ้งหล่นมาจากเนิน...จะตื่นหรือยังหลับอยู่หินไม่แน่ใจ...มันเหมือนภาพช้า หินกอดชุดของศักดิ์ไว้แน่นกลัวจะหลุดมือ กลิ้งได้สักสองรอบรู้สึกเสื้อนั้นหนักกว่าเก่า...มันไม่ใช่เพียงเสื้อแต่มีศักดิ์อยู่ด้วย เขากอดหินเช่นกัน ทั้งคู่ค่อยๆ กลิ้งลงมา หินกอดศักดิ์ไว้อย่างสงสัยงุนงงและด้วยใจที่มีความสุข ขณะนั้นเขารู้สึกเป็นอิสระจากทุกสิ่ง มีเพียงเขาและศักดิ์เท่านั้น...

“หิน...ผมรักหิน อยู่กับผมที่นี่นะ ผมจะดูแลปกป้องหินตลอดไป...” ศักดิ์กอดหินแน่น

“ครับ ผมจะอยู่ที่นี่กับศักดิ์ ไม่หนีศักดิ์ไปไหน” ทั้งคู่ยังคงกลิ้งลงมา ช้าๆ...หินเหมือนหลุดลอยออกจากร่าง เขามองเห็นร่างของตัวเองกลิ้งลงมา...จนในที่สุด.....

“โพล๊ะ!” หัวของหินกระแทกกับท้ายรถตัดหญ้าที่ยังคงจอดอยู่ใต้ต้นพิกุล หินไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร แค่เบลอๆ แล้วทุกอย่างก็หายไปรวมทั้งศักดิ์ที่กอดหินอยู่เมื่อสักครู่...




“อ้าว! หินมานอนอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” ป้ายวนอุทานด้วยความประหลาดใจ...

“หินตื่น หินตื่นเถอะเช้าแล้ว” ป้ายวนเขย่าร่างของหิน

“หือ...ยายน่ะเอง” หินลืมตาขึ้นมาอือออแล้วก็นอนต่อ...

“ลุกขึ้น เดี๋ยวเราจะไปวัดกันไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเร็ว!” ป้ายวนฉุดตัวหินจากพื้นหญ้า

“ไปวัดทำไมหรือครับยาย” หินยิ้มอารมณ์ดีลุกขึ้นยืนหันหน้าจะเดินไปบ้านท้ายสวน

“เอ้า!
จะเดินไปไหนกัน ขึ้นไปบนบ้านอาบน้ำซะหิน” ป้ายวนส่งเสียงดุ

“ผมจะไปอาบน้ำครับ ก็ไปบ้านยายไง ยายหลงแล้วหรือ?... เหอ เหอ” หินหัวเราะและเดินไปบ้านยายยวน ไม่ฟังเสียงโหวกเหวกของยายที่ดังอยู่ริมสระน้ำบ้านใหญ่...

“คุณลิลลี่คะ!คุณลิลลี่คะ!เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ...” ป้ายวนกระหืดกระหอบรายงาน...



หินเอาเสื้อผ้าของพ่อศักดิ์ที่เขาถือติดมืออยู่ไปเก็บที่ เปลี่ยนชุดชาวเลที่เขาไม่ชอบใส่ออกและลงไปอาบน้ำในบ่อหลังบ้าน...

ขณะนั่งรอยายยวนบนขอนไม้ตีนบันไดบ้านหินนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่บ้านยายพร...นายหยดใช้มีดขู่บังคับเอาทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดจากยาย ยายทั้งโกรธทั้งกลัวเพราะนอกจากจะทำร้ายยายแล้วนายหยดขู่จะฆ่าหินด้วยถ้ายายไม่ยอมทำตาม ยายจึงมอบทุกอย่างที่มีให้นายหยดแต่นายหยดกลับทำร้ายยายเพราะหาว่ายายยังซ่อนส่วนที่เหลือไว้อีก หินเข้าแย่งมีดจากมือนายหยดจึงถูกแทงที่ท้อง ยายใช้ท่อนไม้ตีนายหยดเพื่อช่วยหินจึงถูกนายหยดกระหน่ำแทง ตอนนั้นหินชักจำอะไรไม่ได้รู้แต่ว่าเข้าไปชุลมุนแย่งมีดจึงถูกแทงกลับมาอีก ก่อนหินจะล้มลงจำได้ว่าถูกตีที่หัวหลายครั้งจนหมดสติไป...

หินเอามือคลำที่ท้อง พบแต่รอยแผลเป็นและรู้สึกเสียวๆ เมื่อเอามือไปลูบ แผลหนึ่งอยู่กลางรอยปานของหินพอดี รอยปานที่พ่อศักดิ์เคยล้อเล่นบ่อยๆ ว่าเป็นไข่ใบที่สามของหิน...เอ๊ะ!พ่อศักดิ์ไปไหนนะจนป่านนี้ยังไม่เห็นพ่อเลย...

“อ้าว! หินมานั่งอยู่นี่เอง ยายกับคุณลิลลี่คอยเราอยู่ทำไมไม่ไปที่บ้านใหญ่ แล้วดูแต่งตัวเข้าสิ” ยายยวนยืนท้าวเอวต่อว่าหินอย่างหัวเสียเมื่อเห็นหินใส่เสื้อสีแดงที่ศักดิ์ซื้อให้จากตลาดพร้อมกับกางเกงว่ายน้ำสีเดียวกัน

“ไป ไปเปลี่ยนเสื้อที่บ้านใหญ่เร็วเข้านายหิน” ยายยวนรุนหลังหินให้เดินไปที่บ้านขาวหลังคาสีช็อกโกแลตน่ากินหลังนั้น...หินเดินไปอย่างงงๆ

“จะไปเก็บกระดูกพ่อแต่ใส่เสื้อสีแดง เด็กคนนี้” ป้ายวนเดินบ่นพึมพำ

“กระดูกใครหรือยาย กระดูกยายพรใช่ไหม ยายพรถูกนายหยดแทงตายแล้วใช่ไหมครับ?” หินหยุดเดินหันไปถามยายยวนเอาจริงเอาจัง “ทำไมผมไม่รู้เรื่องไม่มีใครบอกผมเลย...แล้วพ่อศักดิ์หายไปไหนนี่ครับ?” หินทำหน้าสงสัยพอๆ กับยายยวนแต่เป็นคนละเหตุผล

“ไปเปลี่ยนเสื้อก่อนแล้วยายจะเล่าให้หินฟัง” ยายยวนจูงมือหินเข้าบ้าน หินอิดออดที่จะเข้าไปยิ่งเห็นลิลลี่เดินตรงเข้ามาหาหินถึงกับถอยหลังกรูด

“เป็นอะไรไปล่ะหิน ไม่รู้จักฉันหรือ” ลิลลี่พอรู้เค้าความสับสนของจิตใจหินจากป้ายวนจึงพยายามเกลี้ยกล่อม “ฉันชื่อลิลลี่ เป็นเจ้าของบ้านนี้ เป็นเพื่อนของพ่อศักดิ์และเป็นมิตรที่ดีของเธอด้วย”

“ผมไม่รู้จักคุณครับ แต่ผมเคยมาว่ายน้ำที่สระหลังบ้านกับพ่อศักดิ์ผมชอบน้ำสีฟ้าครับ” หินเดินอ้าวไปสระสีฟ้าที่เอ่ยถึง ลิลลี่หันไปสบตากับป้ายวนอย่างมีความหวังที่หินเริ่มแสดงท่าทีเป็นมิตร

“ผมกับพ่อศักดิ์แอบมาเล่นน้ำกันตอนกลางคืนเพราะเราต้องไปทำงานในไร่เวลากลางวัน...พ่อรักผมมากครับ...” หินนั่งรำพึงถึงศักดิ์ข้างสระน้ำ

“น้าเดือนบอกว่าพ่อศักดิ์ทิ้งผมไปหางานที่ดีๆ ทำแล้วจะกลับมารับไปอยู่ด้วย นี่ละมั้งที่ผมไม่เห็นพ่อศักดิ์เลย” หินมองเรื่อยเข้าไปในท้องนาเวิ้งว้าง...ขาแกว่งน้ำเล่นช้าๆ...คำพูดประสาซื่อของหินทำเอาลิลลี่น้ำตาซึม ขณะที่ป้ายวนทนไม่ไหวเข้าไปร้องไห้ในครัว.....

“ถ้าอย่างนั้นหินอยู่กับฉันและยายยวนที่บ้านหลังนี้ดีไหม?”

“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวพ่อศักดิ์กลับมาแล้วไม่เห็นผมพ่อจะเสียใจและออกตามหาผม ผมต้องคอยพ่ออยู่ที่บ้านท้ายสวนของยายครับ” หินก้มหน้าลงมองน้ำในสระและนิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนจนปัญญาไม่รู้จะทำอะไรกับชีวิตของตัวเองที่ถูกปล่อยให้เดียวดายไม่มีพ่อศักดิ์คอยนำทาง...ลิลลี่เห็นภาพของหินที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นรู้สึกสงสารและเวทนาเด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าพ่อที่เขารำพึงถึงนั้นได้จากไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ...ลิลลี่ร้องไห้ออกมา...

“คุณร้องไห้ทำไมหรือครับ?” หินหันมาเพราะเสียงสะอื้นของลิลลี่

“สงสารยายพรหรือครับ...อ้าว!เราจะไปงานศพยายไม่ใช่หรือ” หินเพิ่งนึกได้

“ยายเอาเสื้อขาวมาให้หินเปลี่ยนแล้ว นี่ไง” ป้ายวนยื่นเสื้อยืดสีขาวที่ขึ้นไปหยิบมาจากห้องของหิน เวลานี้ทั้งป้ายวนและลิลลี่ต้องเล่นไปตามบทที่หินเป็นคนเขียนเพื่อตะล่อมให้เขายอมเล่นในเรื่องที่ทุกคนกำลังร่วมแสดงอยู่..

“งั้นเราไปเก็บกระดูกยายพรที่วัดกันนะหิน” ลิลลี่เดินนำทุกคนไปขึ้นรถ

“โอ้โฮ!รถคันใหญ่จัง หินขึ้นไปนั่งได้ไหมครับ?” ทั้งลิลลี่และป้ายวนยิ้มเอ็นดูในความไม่รู้เรื่องรู้ราวของหิน...




ลายและเพื่อนบ้านอีกสองคนยืนรออยู่ที่กองเถ้าถ่านของศักดิ์ วัดนี้เป็นวัดเล็กๆ จึงไม่สัปเหร่อ เวลามีใครตายจะมีเพื่อนบ้านช่วยกันเป็นธุระให้จนเสร็จงาน

“สวัสดีครับยายยวน สวัสดีครับคุณลิลลี่” ลายไหว้อย่างนอบน้อม

“ดีครับผม หิน” ลายยิ้มอย่างเป็นมิตรให้หินซึ่งทำหน้างงๆ

“ใครครับยายนายคนนี้” หินกระซิบถามยายยวน

“อ้าว!จำผมไม่ได้แล้วหรือ เมื่อวานเรารู้จักกันแล้วไงครับผม” ลาย
เป็นฝ่ายทำหน้างงบ้าง

“เอาละๆ เราเก็บกระดูกกันดีกว่า” ยายยวนตัดบทเพราะกลัวเรื่องเปลี่ยนเจ้าของกระดูกจะแผนแตกเพราะเด็กสองคนถกเถียงกัน...

ใครคนหนึ่งที่ชำนาญในการพิธีเผาศพได้เรียงกระดูกไว้เป็นรูปร่างตามตำแหน่งที่คาดว่าจะเป็น ยายยวนเลือกหยิบจากตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยใส่ลงในผอบทองเหลืองเล็กๆ ที่เตรียมมา

“ยายยวนครับ ผมหยิบกระดูกยายพรบ้างได้ไหม” ไม่รู้เพราะความอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรหินจึงคิดอยากทำ

“เอาสิ หินควรทำอยู่แล้ว” ยายยวนชะงักเมื่อเห็นหินเอื้อมมือไปหยิบชิ้นส่วนของฟันซึ่งยังดูสมบูรณ์ดีอยู่

“ยายยวนดูสิครับ ฟันนี่ยังอยู่ติดกันเป็นแผงสี่ซีกแน่ะ ฟันยายพรช่างเหมือนฟันของพ่อศักดิ์จริง หินจำได้เวลาพ่อศักดิ์ยิ้มจะเห็นฟันสี่ซีกนี้แหละครับ” หินค่อยๆ วางแผงฟันลงบนกระดูกที่เก็บมาแล้วปิดฝาผอบ เขาคว้าผอบจากมือยายยวนไปถือไว้เอง

“ไม่กลัวหรือ” ยายยวนถามหินที่ยืนถือผอบนิ่งอยู่

“หินไม่กลัวครับ สงสารแต่พ่อศักดิ์ที่ไม่รู้ว่ายายพรตายแล้ว ไม่ได้มาเก็บกระดูก...หินตั้งใจจะเก็บกระดูกนี้ไว้กับหินเองเพื่อมอบให้กับพ่อศักดิ์...เผื่อว่าวันหนึ่งพ่อศักดิ์จะกลับมาหาหิน”

“โธ่เอ๋ยหิน” ป้ายวนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมา...




จนแล้วจนรอดหินก็ไม่ยอมอยู่ที่บ้านใหญ่ เขายืนกระต่ายขาเดียวว่าจะคอยศักดิ์ที่บ้านเล็กท้ายสวน มิใยที่ลิลลี่และยายยวนจะชักชวน อย่างหนึ่งที่ทำให้หินไม่ตกลงเพราะเขาคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คุณลิลลี่จะเอ็นดูเขามากขนาดนั้น...ถึงจะเป็นเด็กเขาก็รู้ว่าเขาเป็นหลานยายเป็นลูกพ่อศักดิ์เขาจึงควรอยู่กับยาย ถึงแม้ใจจริงลึกๆ แล้วหินรู้สึกชอบบ้านหลังคาสีช็อกโกแลตและสระน้ำสีฟ้านั้นมากเหมือนกัน


หินวางผอบทองเหลืองไว้บนหัวนอนบนกระเป๋าเสื้อผ้าเหนือกองหมอนมุ้ง เขานั่งมองอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง...ไม่มีใครรู้ว่าในใจเด็กน้อยคิดอะไรอยู่...ป้า ยวนและลิลลี่ตกลงกันว่าจะปล่อยให้หินอยู่ในโลกส่วนตัวของเขาจนกว่าวันหนึ่งหินจะกลับออกมาเอง...

คืนนี้หินกางมุ้งเองเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกเมื่อคราวหินน้อยใจพ่อศักดิ์ที่กอดน้าเดือนในซุ้มกระดังงา...เดี๋ยวนี้หินเลิกน้อยใจและเข้าใจพ่อศักดิ์ดีแล้ว เป็นธรรมชาติของคนที่จะต้องมีคู่ ชายคู่กับหญิงและหญิงคู่กับชาย เวลานั้นหินแค่รู้สึกหวงพ่อ กลัวน้าเดือนจะแย่งความรักของพ่อศักดิ์ไป วันหนึ่งข้างหน้าหินก็คงจะมีคู่เช่นเดียวกัน...แต่ตอนนี้พ่อศักดิ์นอนอยู่ที่ไหนกับใครนะ...หินคิดถึงพ่อ...อยากนอนกอดพ่อศักดิ์เหมือนคืนก่อนๆโน้น... “พ่อศักดิ์ครับคิดถึงหินบ้างไหม?” ...

หินเลิกชายมุ้งและเอื้อมมือไปหยิบผอบกระดูกเข้าไปในมุ้ง “ยายจ๋านอนเป็นเพื่อนหินนะหินคิดถึงพ่อศักดิ์...ยายช่วยบอกพ่อให้กลับมาหาหินเร็วๆหน่อย หินเหงาหินว้าเหว่หินไม่มีใครไม่รู้หินจะมีชีวิตอยู่อย่างไร...พ่อจ๋าหินคิดถึงพ่อ...” หินพูดปนสะอื้น...เขานอนร้องไห้กอดผอบจนหลับไป...




“ตรื๊ด ตรื๊ด” เสียงกระรอกวิ่งไล่กันอยู่บนราวระเบียง มันวิ่งขึ้นไปบนต้นไทรทำให้น้ำค้างบนใบไทรร่วงพราว

“หินนอนตื่นสาย กระรอกมาปลุกแล้วหน้าไม่อาย” ป้ายวนแกล้งกระเซ้าหิน

“ยายหุงข้าวทำกับข้าวไว้ให้แล้วนะ หินดูแลตัวเองได้ไหมยายต้องไปทำงานที่บ้านใหญ่ ถ้าเหงาก็ไปหายายไปคุยกับคุณลิลลี่ คุณแกอยากจะคุยกับหินนะ” ป้ายวนลงจากบ้านเดินทะลุสวนไป

หินเก็บมุ้งหมอนเข้าที่อาบน้ำแปรงฟันเสร็จลงจากเรือนเดินไปหายายยวนที่บ้านใหญ่ หินเดินอ้อมไปทางหน้าบ้านเพื่อมองถนนและผู้คนคลายเหงา

มีชาวบ้านขับรถอีต๊อกผ่านไปอย่างช้าๆ เดี๋ยวก็มีรถอีแต๋นวิ่งสวนมา นานๆ จึงจะมีรถใหญ่สักคัน แต่ที่หินชอบมากคือรถขายกับข้าว เขาเปิดเพลงเสียงดังมาแต่ไกล นอกจากกับข้าวสดพวกผัก หมู ปลาแล้ว ยังมีขนมและของกินเล่นมากมาย หินอยากได้บางอย่างแต่ไม่มีเงินซื้อ วันนี้หินจะขอเงินยายเตรียมไว้ซื้อวันพรุ่งนี้...วันนี้ได้แต่มอง... “พ่อศักดิ์ครับหินอยากกินขนมจัง!”...

“หิน...หิน...” มีเสียงเรียกดังมาจากถนน

“หือ...” หินขานรับทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเสียงมาจากไหน หินมองไปในถนน เห็นเด็กนักเรียนสองสามคนขี่จักรยานไปโรงเรียน

“หิน...หินครับผม” จักรยานคันหนึ่งหยุดที่หน้ารั้วบ้าน

“อ๋อ! นายเองหรือ นายครับผมนี่เอง ทำไมไม่ขับมอเตอร์ไซด์ล่ะวันนี้” หินจำลายได้เพราะ ‘ครับผม’ ที่ลายชอบพูดติดปาก

“เวลาไปโรงเรียนต้องขี่จักรยานครับ ผมยังเป็นเด็กอยู่ครับผม หินล่ะไม่เรียนหนังสือหรือ” ลายกลับขึ้นไปบนถนน

“ตกลงนายชื่ออะไรกันแน่” หินตะโกนถาม

“คุณหินถ้าจะบ๊อง ผมชื่อลาย เราเคยรู้จักกันดีแล้วเมื่อวานนี้ที่วัดไงครับผม” ลายตะโกนตอบ

“ผมไปโรงเรียนก่อนนะแล้วผมจะมาคุยเป็นเพื่อนนะครับผม” ลายโยกจักรยานตัวโก่งเพื่อเร่งให้ทันเพื่อน...

หินเพิ่งนึกได้ว่าเขาก็เคยเรียนหนังสือ แต่ที่ไหนเมื่อไหร่เขาไม่แน่ใจ “นายลายนี่ตัวโตเหมือนผู้ใหญ่ ที่แท้ยังเป็นเด็กอยู่เลย คงแก่แดดอยากเป็นผู้ใหญ่ หึ หึ นายลายครับผม” หินนึกขำในใจ



“ยายครับนายลายคือใครเขาชอบทักผม เมื่อกี้ก็แวะคุยกับผมก่อนไปโรงเรียน” หินเดินเข้าไปหายายยวนในครัว

“หินไม่อยากรู้หรอกว่าลายคือใครเชื่อยายสิ มานี่มาช่วยยายล้างชามดีกว่า” ยายยวนเปลี่ยนเรื่องพูด

“หินอยากรู้จึงถามยายไง...เอ่อ...หินไม่เคยล้างชามเดี๋ยวชามสวยๆ ของคุณลิลลี่แตกหมดครับ” หินเอามือลงแกว่งน้ำเล่นในอ่างล้างชาม

“แน่ใจนะเรื่องลาย” ยายยวนพูดกับหินแต่ใจกลับนึกถึงภาพของหินและศักดิ์ที่ช่วยกันล้างชามจนเลอะเทอะไปทั้งครัวในวันนั้น...

“แน่ใจครับบอกมาเถอะยายหินไม่เป็นไรหรอก”

“ลายเขาเป็นน้องชายของน้าเดือนไง” ยายยวนตัดสินใจบอก

“ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยครับ น้าเดือนก็น้าเดือนลายก็ลาย และเดี๋ยวนี้หินไม่โกรธไม่รำคาญน้าเดือนแล้วครับ...เพื่อแลกกับการที่พ่อศักดิ์จะกลับมา สิ่งใดที่เป็นความสุขของพ่อศักดิ์หินยินดีเสมอครับ...หินพูดจากใจจริงนะครับไม่ใช่พูดเพื่อเอาใจใครทั้งนั้นยายไม่ต้องทำหน้าสงสัยเลยครับ”

ยายยวนกำลังเวทนาหินต่างหาก...ในใจของหินยังเต็มไปด้วยพ่อศักดิ์ของเขาคนเดียว ทั้งคุณลิลลี่และตัวยายยวนเองยังอยู่ห่างจากใจของหินนัก เขาแค่เคารพและนับถือ...ดีเหมือนกันที่หินจะมีใครสักคนเป็นเพื่อน คนที่บางทีอาจจะเข้าไปแทรกระหว่างเขากับพ่อศักดิ์ซึ่งไม่มีตัวตน...

“อ้าว! ยายยืนค้างเลยน้ำล้นอ่างแล้วครับยาย” หินเข้าไปปิดก๊อกน้ำ

“ยายนี่แย่จริงคิดอะไรเพลินไปหน่อย หินช่วยยายเช็ดพื้นด้วย”

“ครับ” สองยายหลานช่วยกันทำความสะอาดพื้นครัว


“ขยันจริงนะหิน” ลิลลี่เดินผ่านมาพอดี

“สวัสดีครับคุณลิลลี่ ผมมาหายายครับ” หินรายงาน

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกหินเรากันเอง หินคิดว่าฉันเป็นญาติคนหนึ่งของหินก็แล้วกัน” ลิลลี่หัวเราะเดินเข้ามาลูบหัวของหิน

“บ้านนี้ก็เหมือนกันหินนึกจะไปจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ จำไม่ได้หรือว่าฉันเคยยกบ้านหลังนี้ให้หิน หินยังเถียงกับพ่อศักดิ์เลยเรื่องที่หินจะอยู่บ้านนี้แต่พ่อศักดิ์ไม่ยอมอยู่...จำได้ไหม?”

“ก้อ...อ๋อ!...ครับ...” หินรับคำอย่างงงๆ

“และอย่าลืมล่ะที่หินชอบเล่นน้ำ จะลงเล่นเมื่อไหร่ก็ได้มันเป็นสระของหิน จะดูทีวีก็เปิดดูได้ตามใจ...บ้านของหินนี่นะ” คุณลิลลี่หัวเราะอย่างใจดี

“ขอบคุณคุณลิลลี่เสียสิหิน” ยายยวนเตือนหินที่มัวยืนตะลึงกับสิทธิต่างๆ ที่ได้รับจากคุณลิลลี่

“ขอบคุณครับ...แต่...” หินก้มหัวลงไหว้

“ไม่ต้องแต่...เป็นเด็กอย่าสงสัยมากนักเลยนะจ๊ะหิน”


“แต่...ทำไม...” หินหันมาตั้งข้อสงสัยกับยายยวนเมื่อคุณลิลลี่ออกไปจากครัวแล้ว

“อาจจะเป็นเพราะคุณลิลลี่มีลูกชายคนหนึ่งอายุเท่ากับหินนี่แหละ พลัดหายกันไปตั้งแต่ยังเด็กๆ คุณก็เลยเอ็นดูหินมากมายอย่างนี้” ในใจป้ายวนนึกต่อไปว่า ‘แต่ก็ไม่น่าเอ็นดูมากถึงกับยกบ้านใหญ่หลังนี้ให้ ถึงแม้จะเป็นการพูดลอยๆ อย่างนั้นก็ตาม’

“น่าสงสารคุณลิลลี่นะครับยาย” หินเดินออกไปยืนดูลิลลี่ที่กำลังนั่งครุ่นคิดอยู่ริมสระน้ำ

“งั้นหินจะทำตัวเป็นเด็กดีของคุณลิลลี่ดีไหมครับยาย แต่หินก็ยังรักยายรักพ่อศักดิ์เหมือนเดิมนะครับ” หินเข้าไปกอดยายยวนที่ยืนน้ำตาซึม.....






Create Date : 22 มกราคม 2551
Last Update : 21 เมษายน 2551 9:47:53 น. 2 comments
Counter : 434 Pageviews.

 
ขอไปอ่านตอน 1 ก่อนนะ


โดย: แสง สีรุ้ง IP: 161.200.255.162 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:16:58:04 น.  

 
หินเพิ่งมีแฟนใหม่ตอน 13 นี้เอง...

คุณ แสง สีรุ้งไงครับ.....



โดย: ดาเรน (ดาเรน ) วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:17:48:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาเรน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดาเรน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.