<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 มีนาคม 2551
 

เรื่องของอ้อย

เมื่อวันเสาร์ใดเสาร์หนึ่งในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ผมเข้ากรุงเทพฯเพื่อไปร่วมงานศพคุณพ่อของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เป็นเพื่อนที่คบหารักใคร่กันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ปัจจุบันมันได้ดิบได้ดีมีตำแหน่งเป็นถึงผู้จัดการภาคของบริษัทแห่งหนึ่งในจ. เชียงใหม่ ขณะที่ผมยังคงเป็นแค่พนักงานบริษัทธรรมด๊า ธรรมดา (และน่ากลัวว่าคงจะต้องเป็นยังงี้ไปอีกนาน) แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่สาสมแล้วสำหรับทั้งมันและก็ผม เพราะถ้าเทียบกับความสามารถและความใฝ่ดีแล้ว การที่เพื่อนผมจะได้เป็นถึงผู้จัดการไม่ใช่เรื่องแปลก ในขณะที่ผมเองถ้านึกถึงความประพฤติเหลวไหลไม่เอาอ่าวตลอดชีวิตที่ผ่านมา การได้มีงานทำไม่ต้องเกาะแม่กินนี่ก็ต้องถือว่าเป็นบุญนักหนาแล้ว เรื่องของความเจริญที่ต่างกันจึงไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจมากมายนัก



ที่ในงานผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่พบเพื่อนสนิทคนอื่นๆเลย ทั้งๆที่สมัยเรียนกลุ่มผมมีกันอยู่เกือบ 10 คน แม้จะรู้อยู่แล้วว่ากาลเวลามันเปลี่ยนอะไรได้หลายๆอย่าง แต่พอได้มาเห็นจริงๆก็อดใจหายไม่ได้ ผมถามถึงเพื่อนสนิทคนอื่นๆกับเจ้าภาพ ก็ได้รับคำตอบว่าในคืนแรกๆมีเพื่อนสมัยเรียนมาอยู่ 2 -3 คน แต่คืนนี้ไม่รู้จะมีใครมารึเปล่า ผมถามไปถึงอ้อย เพื่อนสาวคนหนึ่งในกลุ่มที่สนิทกันสุดๆ คราวนี้เพื่อนผมยิ้มและตอบอย่างมั่นใจ “อ้อยมาไม่ได้หรอก อ้อยมันไม่ได้ไปไหนมาเป็น 10 ปีแล้ว” ขณะที่ผมกำลังทำความเข้าใจกับคำตอบแปลกๆที่ได้รับ พ่อของอ้อยก็เดินเข้ามาในงานพอดี



ผมมีโอกาสไหว้สวัสดีพ่ออ้อยและกล่าวทักทายกันเล็กน้อย ก่อนที่ต่างฝ่ายจะต้องแยกกันไปนั่งฟังพระสวด ผมนั่งฟังพระสวดได้ซักพัก ผู้หญิงที่มากับพ่ออ้อยก็ลุกมาหา เธอส่งโทรศัพท์ให้ผมและบอกว่า “โอ๊ต... อ้อยจะพูดด้วย”



“เฮ้ย ไอ้อ้อย…ทำไมแกไม่มาวะ” ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ด้วยความดีใจ ตั้งใจว่าต่อให้มันอ้างเหตุผลอะไรขึ้นมาผมก็จะด่า มันจะมีอะไรสำคัญนักหนาถึงมางานศพพ่อของเพื่อนรักไม่ได้ แต่คำตอบเรียบๆของอ้อยก็ทำให้ผมอึ้ง “ชั้นไปไม่ได้ว่ะ ที่บ้านนี้เค้าไม่ให้ชั้นไป ขนาดจะกลับบ้านไปหาพ่อชั้นยังไปได้แค่ปีละครั้งเอง” นั่นเป็นประโยคแรกของอ้อย ก่อนที่เรื่องราวต่างๆจะพรั่งพรูออกมาจากปากของเพื่อนที่เคยเป็นสาวห้าวสุดแสบหนึ่งเดียวของกลุ่ม เพื่อนสาวที่ไม่เคยกลัวใครหน้าไหน เรื่องเล่าของอ้อยทำให้ผมเกิดความรู้สึกผสมปนเปกันหลายอย่าง ตั้งแต่อึ้ง สลด เครียด เกลียด ไปจนถึงโกรธแค้น และลงท้ายด้วยความไม่เข้าใจ...



เรื่องเล่าของอ้อยอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเดิมๆ ซ้ำซากที่ทุกคนเคยได้ยินมาจนชินหู เรื่องของครอบครัวคนจีนหัวโบราณที่กดขี่ลูกสะใภ้ ที่พอแต่งเข้าบ้านผัวมาแล้วก็ถูกใช้งานเยี่ยงทาส ถูกใช้ให้ทำทุกอย่างตั้งแต่ทำกับข้าวยันล้างส้วม เรื่องของการไม่ลงรอยกับญาติคนอื่นๆ การตบตีกับพี่น้องของสามี การไม่ยกย่องเชิดชู ไม่ให้เกียรติ ถูกกดให้อยู่แต่ในบ้านและทำงานหนัก ไล่เรื่อยไปจนถึงความไม่ซื่อสัตย์ของผู้เป็นสามี การนอกใจที่ภรรยาทำได้เพียงแค่อดทน ฯลฯ เรื่องน้ำเน่างี่เง่าที่เราได้ยินได้เห็นมาจนชินชาจากละครหลังข่าว มาตอนนี้พอรู้ว่ามันกำลังเกิดขึ้นกับคนที่เป็นเพื่อนแล้วก็ให้นึกสงสารมันจับใจ อ้อยบอกผมว่าไม่เคยไปโรงหนังมา 8 – 9 ปีแล้ว ละครก็ไม่เคยได้ดูเพราะต้องรีบนอนรีบตื่น ทุกครั้งที่กลับไปบ้าน (ที่แม่ผัวอนุญาตให้กลับได้แค่ปีละครั้ง) แล้วเห็นกองหนังสือ Movie Time ที่แม่ยังเก็บไว้ให้แล้วน้ำตาจะไหล นี่ล่าสุดมันก็พึ่งตบกับน้องสาวของสามี เพราะทนไม่ได้ที่มาตีลูกมัน เรื่องลงเอยด้วยการที่มันถูกสามีด่า ดีว่าครั้งนี้แม่ผัวไม่ได้ผสมโรงมาร่วมด้วย อาจเป็นเพราะกลัวว่ามันจะน้อยใจ เดี๋ยวหนีกลับบ้านไปแล้วจะไม่มีใครให้จิกหัวใช้ (ตลอดเวลาที่เล่า อ้อยพูดไปหัวเราะไป มันอาจจะอยากทำให้ผมรู้สึกว่ามันสบายดี แต่ผมฟังแล้วหลอนๆยังไงไม่รู้) ผมถามมันว่าแล้วแกจะทนอยู่ทำไม อ้อยตอบว่าไม่รู้....



จริงๆแล้วผมเชื่อว่าอ้อยรู้ ผมและอีกหลายๆคนต่างหากที่ไม่รู้ ไม่รู้ว่าทำไมอ้อยถึงต้องทนอยู่แบบนี้ ไม่รู้ว่าทำไมผู้หญิงที่เคยเป็นทอมบอย ปากกล้าใจถึง มือไวตีนไว ถึงกลายมาเป็นนางเอกแสนดีที่ยอมอดทนได้ทุกอย่าง เป็นเพราะรักลูก เพราะรักผัว หรือเพราะอะไร? อ้อยเป็นคนเดียวที่ตอบได้ เป็นคนเดียวที่จะพาตัวเองออกจากนรกขุมนี้ แล้วทำไมอ้อยไม่ทำ ทำไมถึงเลือกที่จะอดทน เลือกที่จะอยู่กับคนที่ไม่ได้รักใคร่ใยดีอย่างจริงจัง (เพื่อนบางคนเคยพูดต่อหน้าอ้อยด้วยซ้ำว่า “ที่หลังๆแม่ผัวเข้าข้างแกไม่ใช่เป็นเพราะเค้าเริ่มจะรักแกหรอก แต่อึดเป็นควายอย่างแกมันหายาก ถ้าเสียแกไปแล้วเค้าเสียดาย ไม่รู้จะมีใครโง่มาอีกรึเปล่า...”) อ้อยบอกกับผมในตอนท้ายก่อนที่จะวางหูจากกันไปว่า “แต่ชั้นคงจะไม่อยู่อย่างนี้ไปตลอดชีวิตหรอกโอ๊ต วันนึงชั้นคงทำใจได้ และชั้นจะไปจากที่นี่”



ผมอยากจะถามกลับไปว่า “แล้วเมื่อไหร่ล่ะอ้อย...” แต่ก็ไม่กล้า รู้ดีว่ามันคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ อย่างน้อยก็ในตอนนี้



Create Date : 04 มีนาคม 2551
Last Update : 4 มีนาคม 2551 17:35:15 น. 0 comments
Counter : 1116 Pageviews.  
 

แฟนผมตัวดำ
 
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add แฟนผมตัวดำ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com