<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 มิถุนายน 2553
 

10 สิ่งเกี่ยวกับหนังและข้าพเจ้า

คุณฟ้าดินส่งโน้ตนี้มาให้อ่านจากใน FB อ่านจบแล้วเกิดกำหนัดอยากเขียนอย่างรุนแรง อาจจะเป็นเพราะผมเพิ่งดูหนังจบไปก่อนที่จะมาอ่านโน้ตนี้พอดี กำลังรู้สึกมือไม้สั่นอยากเขียนอะไรซักอย่าง ถือว่าโน้ตนี้เป็นแรงกระตุ้นที่มาได้ถูกที่ถูกเวลายิ่งนัก (เหตุผลอีกอย่างคือกำลังโหลด AV เรื่องใหม่อยู่ อยากเห็นมันครบ 100% ก่อนนอน) จริงๆแล้วตั้งใจจะเขียนเป็นข้อสั้นๆเหมือนตอบแท่กทั่วไป แต่เขียนไปเขียนมาก็เตลิดเปิดเปิงยืดยาวอย่างที่เห็น และเรื่องก็ดูผิดเพี้ยนไปจากหัวข้อเดิมที่ตั้งไว้ ต้องขอโทษคนต้นคิดด้วยนะครับ

1. จุดเริ่มต้นในการดูหนังของผมเกิดจากการที่พ่อซึ่งเป็นตำรวจหาวิธีดูแลลูกชายในช่วงปิดเทอมด้วยการพาผมไปไว้ในโรงหนังประจำจังหวัด (แน่นอนว่าเข้าฟรี) อันที่จริงในวัยนั้นผมยังดูอะไรไม่รู้เรื่องนักหรอก แต่พ่อก็คิดเผื่อไว้แล้วด้วยการเลือกหนังที่น่าจะทำให้เด็กประถมสนุกได้ไม่ยากนักด้วยหนังอย่าง “หมาผี” “อีที” “ศุกร์ 13” “วิ่งสู้ฟัด” “ไซอิ๋ว” ฯลฯ แต่ถ้าเป็นหนังดังๆก็กระเตงกันไปทั้งครอบครัว อย่างเช่น เจมส์บอนด์ (จำไม่ได้จริงๆว่าภาคไหน) ซึ่งดันฉายควบกับหนังโป๊อย่าง “นาตาลีร้อนรัก” (ทีเรื่องนี้ล่ะจำแม่นเลย) แถมนาตาลีดันฉายก่อนอีกต่างหาก ทำให้ก่อนที่จะได้ดูสายลับปราบเหล่าร้ายผมก็เลยต้องนั่งตาเบิกโพลงดูนม ดูตูด ตามด้วยฉากบะ บะ โอบะ ชนิดที่ไม่มีวันได้เข้าฉายโรงในยุคนี้เด็ดขาดไปแบบเต็มๆตา ถึงแม้ในภายหลังแม่จะเอามือมาคอยบังตาไว้จนจบเรื่อง แต่ซาวนด์แห่งความรัญจวนนั้นยังคงติดหูอยู่จนถึงทุกวันนี้



2. ความชอบดูหนังมาถูกปลุกเร้าอีกครั้งจากการได้พบเพื่อนคนหนึ่งสมัยเรียน ม.ต้น เพื่อนคนนี้ถือเป็นเด็กเกเรคนหนึ่งของห้อง ในขณะที่ผมเป็นเด็กเรียน (ในตอนนั้น) ถึงแม้มันจะเกกมะเหรกเกเรขนาดไหน แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเจ๋งมากคือการที่มันชอบพก “เอ็นเตอร์เทน” มาอ่านในห้อง แล้วคุยให้ผมฟังถึงความสนุกสนานของหนังเรื่องต่างๆอยู่เสมอ ฟังมากๆเข้าก็เกิดความอยากดู และทำให้ผมชอบอ่านนิตยสารเกี่ยวกับหนังมาตั้งแต่นั้น (แน่นอนว่านอกจากเอ็นเตอร์เทนมันยังพกหนังสือโป๊มาด้วย แต่ความชอบในสิ่งเหล่านั้นผมมั่นใจว่ามันเกิดจากตัวผมเองมากกว่า)

3. หนังที่ผมชอบดูในสมัยนั้นจะเป็นหนังฮ่องกงซะเป็นส่วนใหญ่ อย่างหนังตระกูลโหดๆของจอนห์น วูหรือฉีเคอะ หนังฟัดๆของศิษย์ อ.หยูจินหยวน อย่างเฉินหลง หงจินเป่า หยวนเปียว นี่ผมดูทุกเรื่อง วิ่งสู้ฟัด เอไก๊หว่า ขาตั้งสู้ ใหญ่สั่งมาเกิด ฯลฯ ผมชอบมาก (นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเกลียด Rush Hour เข้าไส้ ทำไมระดับแจ๊คกี้ ชาน ต้องไปจับคู่กับคริส ทักเกอร์ บทบางตอนก็ทำหยั่งกะเฉินหลงเป็นลูกไล่) สมัยนั้นยังไม่ชอบดูหนังฝรั่งเท่าไหร่ ขนาดหนังดังๆอย่าง Terminator ภาคแรกผมยังได้ดูในงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน แถมฉากที่ทำให้หยุดดูยังเป็นฉากที่ซาร่า คอนเนอร์ขึ้นขย่มไคล รีส อีกต่างหาก (นี่กูเป็นเด็กแบบไหนกันเนี่ย) แต่ก็ถือเป็นหนังที่จุดประกายความสนใจในหนังฮอลลีวู้ดอย่างจริงจัง แต่ก็ยังดูในแบบเน้นความมันส์และเทคนิคพิเศษ หนังรัก หนังชีวิตนี่แทบไม่แลเลย



4. จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเริ่มหันมาดูหนังหลากหลายแนวมาจากบรรดานิตยสารหนังต่างๆที่ซื้อมาอ่าน เริ่มจากเอ็นเตอร์เทน ตอนนั้นชอบอ่านคอลัมน์ของคุณตีตั๋ว และหน้าตอบจดหมายของบก.ประไพพรรณมาก แม้ตอนหลังแกจะย้ายมาทำ Cinemag ก็ยังคงตามอุดหนุนกันตลอด เคยเขียนจดหมายไปหาแล้วได้ลงด้วย จากนั้นก็กำเริบเสิบสานลองเขียนวิจารณ์หนังไปก็ได้ลงอีก จำได้ว่าตอนนั้นเขียนเรื่อง “ฟงอวิ๋น” และได้รางวัลเป็นผ้าขนหนูผืนน้อยจากหนังเรื่อง Love Generation ที่ยังคงใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ (ส่วนตัวแล้วมั่นใจว่างานตอนนั้นไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ที่ได้รางวัลอาจจะเป็นเพราะมีคนร่วมสนุกน้อย และอัจฉริยะอย่าง Merveillesxx หรือนาโนกายก็ยังเด็กเกินไป) เหมือนชีวิตจะพอใจแค่ผ้าขนหนู เพราะหลังจากวันนั้น ผมก็ไม่เคยเขียนอะไรส่งไปที่ไหนอีกเลย

5. สมัยนั้นรูปแบบของการดูหนังตามบ้านยังนิยมวีดีโอกันอยู่ (เด็กยุคนี้อาจจะบอก มันคืออะไรวะ?) ผมไม่เคยซื้อ เพราะไม่มีตังค์ เลยใช้วิธีเช่าเอา ซึ่งความเป็นลูกตำรวจก็ทำให้เช่าหนังได้ถูกกว่าชาวบ้าน (เขียนมาถึงตรงนี้อาจจะมีคนคิดว่า ดูมึงจะภูมิในการใช้อำนาจของพ่อมึงมากเลยนะ ขอตอบตรงนี้เลยว่าใช่) ซึ่งตอนเช่าแรกๆก็ยังไม่ค่อยประสีประสา ชอบไปเอาหนังซูมมาดู แล้วก็ต้องหงุดหงิดกับภาพมัวๆ เสียงอู้ๆอี้ๆ พาลทำให้รู้สึกไม่สนุกกับหนังเรื่องนั้นเอาซะเลย มาตอนหลังๆถึงรู้ว่าโลกนี้มันมี “ม้วนมาสเตอร์” ภาพคมชัด เสียงเสนาะหู ดูแล้วสบายตา ยอมดูช้าหน่อยแต่อรรถรสดีกว่ากันเยอะ เลยรู้สึกแปลกใจไม่หายที่เห็นคนยุคนี้ (เขียนเหมือนตัวเองย้อนเวลามาจากไหน) ยังยินดีกับการซื้อแผ่นผีแบบซูมมาดูกันอยู่อีก ทั้งๆที่เดี๋ยวแผ่นผีแบบภาพมาสเตอร์มันก็ออกมา ไม่รู้จะรีบร้อนซื้อของที่มันไม่ชัดกันไปทำไม



6. ผมไม่มีปัญหากับการดูหนังคนเดียว เอาเข้าจริงแล้วชอบมากกว่าการไปดูหลายๆคนด้วยซ้ำ (แต่การดูกับแฟนไม่นับนะครับ อันนั้นถือเป็นกรณีพิเศษ) สมัยเรียนมหาลัยผมเคยไปดูหนังคนเดียว 3 เรื่องในหนึ่งวัน การได้เดินออกจากโรงนู้น เข้าโรงนี้ หิวก็ออกมากินข้าว ซื้อตั๋วแล้วก็เข้าไปดูใหม่ ถือเป็นความเพลิดเพลินอย่างมหาศาล ผมจึงค่อนข้างจะแปลกใจที่เห็นเพื่อนผมบางคน (อันที่จริงแล้วหลายคนมากๆ) ไม่สามารถดูหนังคนเดียวได้ ส่วนใหญ่จะให้เหตุผลว่ามันดูตลกๆยังไงไม่รู้ที่ต้องไปนั่งหงอยอยู่คนเดียวในโรง ดูเหมือนเป็นพวกไม่มีใครคบ กูว่าความคิดพวกมึงนั่นแหละที่ตลก ดูหนังไม่ใช่อุปสมบทหมู่ ต้องแห่กันไปทำไมเยอะแยะ แถมตอนดูก็ไม่ได้คุยกัน แล้วมันต่างกับนั่งคนเดียวตรงไหนวะ?

7. ปัจจุบันผมดูหนังในโรงน้อยมาก สาเหตุมาจากความกันดารของโรงหนังที่ระยอง ที่ชอบสั่งมาแต่หนังตลาดและหนังตลก แถมไม่มีซาวน์แทร็คให้ได้ไปนั่งฝึกสายตาอ่านซับอีกต่างหาก เรื่องไหนอยากดูมากจริงๆต้องถอกตูดไปถึงพัทยา แถมบางครั้งยังแจ๊คพอตแตก เข้าไปเจอผีโรงหนังครบทุกตัว ทั้งผีเด็ก ผีโทรศัพท์ ผีผัวเมียปัญญาอ่อนนั่งถามตอบกันตลอดเรื่อง แต่ละตัวแข่งกันเฮี้ยนไม่มีใครยอมใคร กว่าหนังจะจบเสียสุขภาพจิตสุดๆ นี่ยังไม่นับเรื่องแอร์ที่ไม่ค่อยจะเย็น ดูยิปมันถึงฉากต่อยกับฝรั่งนี่เหงื่อท่วมเหมือนเข้าไปต่อยเอง ดูหนังทีลำบากเหมือนเข้าไปใช้กรรม หลังๆเลยยอมเสียอรรถรส นอนเปิดแอร์ดูอยู่บ้านดีกว่า



8. ถึงแม้จะดูหนังได้หลากหลายแนว และไม่รังเกียจหนังอาร์ตหรือหนังเซอร์เรียลต่างๆ แต่หนังที่ผมชอบจริงๆคือหนังแนวหวีดสยองเจสันสครีมมิ่งทั้งหลายแหล่ ประเภทจับมาฆ่า ล่ามาเชือด นี่จะดูด้วยความเพลิดเพลินมากๆ เรื่องที่ชอบก็เป็นหนังสยองยุคหลังๆนี่แหละ อย่าง Saw, Hostel, High Tension ฯลฯ หรือพวกที่เอาหนังเก่ามารีเมคใหม่ก็สนุกดี ไม่ว่าจะเป็น Texas Chainsaw Massacre, The Hills have Eyes หรือ Friday The 13th ถึงแม้เสียงส่วนใหญ่จะบอกว่าทำสู้ของเก่าไม่ได้ แต่ผมว่ามันก็ทำได้ดีตามยุคสมัยที่ควรจะเป็น (จริงๆแล้วก็ไม่ได้ดูเวอร์ชั่นเก่าเท่าไหร่) องค์ประกอบประเภทสาวๆนมโต วิ่งเซ่อซ่าจนผ้าผ่อนหลุดก่อนจะถูกฆ่าตายช่างเป็นภาพที่น่าตื่นเต้น ยิ่งเรื่องไหนดีไซน์ฉากการตายแปลกๆ ดูไปแขม่วท้องไปนี่จะโปรดปรานมาก

9. ผมไม่มีปัญหากับหนังไทย ไม่ได้เกลียดแต่ก็ไม่ถึงกับรัก ความรู้สึกโดยรวมก็เหมือนกับที่มีต่อหนังทั้งโลก คือถ้ามันสนุกดูแล้วถูกใจก็ชอบ แต่ถ้าทำออกมาเหมือนคนสร้างเอาหัวแม่ตีนคิดก็ต้องขอสาปแช่งด่าทอกันบ้าง แต่ที่รับไม่ได้และรู้สึกหดหู่ใจทุกครั้งก็คือวัฒนธรรมการดูหนังของคนประเทศนี้ ประโยคที่เกลียดแต่ก็มักจะได้ยินจากคนรอบตัวอยู่เสมอ (และคนไทยส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้) ก็คือ “ชีวิตจริงก็เครียดพออยู่แล้ว อยากดูอะไรตลกๆ ผ่อนคลาย ไม่อยากซีเรียส” ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่พูดแบบนี้ชีวิตก็ไม่ได้ลำเค็ญอะไรนักหนาหรอก ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกชนชั้นกลางมีงานทำได้เงินเดือนละสองสามหมื่น บ้านก็มีอยู่ รถก็มีขับ ไม่รู้เครียดเหี้ยอะไรนักหนา มึงชอบดูหนังตลก หนังเสื่อมๆแบบนี้ก็บอกมาเถอะ



10. ผมชอบหนังที่มีตัวละครเป็นอัจฉริยะ หนังอะไรก็แล้วแต่ถ้าใส่บทในเรื่องให้มีอัจฉริยะแล้วผมจะชอบมาก หรือถ้าไม่ใช่อัจฉริยะก็ต้องเป็นตัวละครที่เชี่ยวชาญและเก๋าเกมในงานของตัวเอง นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชอบแอล ชอบจอห์น ฟอร์บส์ แนช ชอบหนัง Good will Hunting ชอบโทนี่ สตารค์ ชอบเจสัน บอร์น ชอบเชอร์ล็อค โฮมส์ (ใครอีกวะ ทำไมนึกไม่ค่อยออก) และหลงไหลจอร์จ คลูนี่ย์ ใน Up in the air (แต่เกลียดสตาโลนใน The Specialist มาก) อาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ เลยตื่นเต้นเสมอเวลาเห็นคนฉลาดๆทำอะไรๆที่ชาตินี้เราไม่มีวันทำได้ แม้มันจะเป็นแค่ในหนังก็ตาม





หมายเหตุ: ไม่ได้เขียนอะไรยาวๆซะนาน รู้สึกเลยว่าตัวเองเขียนฝืดขึ้นมาก อารมณ์เหมือนเดินลุย
โคลนไปจับหอยหลอด ต่อไปจะพยายามไม่หยุดนานอย่างนี้อีกแล้ว กลัวเขียนไม่ออกถาวร


Create Date : 02 มิถุนายน 2553
Last Update : 3 มิถุนายน 2553 8:58:04 น. 35 comments
Counter : 923 Pageviews.  
 
 
 
 
กรี๊ดดดด ลุยโคลนจับหอยหลอด 5555555555 แต่คนอ่านไม่รู้สึกอย่างนั้นนะฮะ



ปล ไม่มีผ้าขนหนูแจก
 
 

โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 69.22.184.54 วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:23:46:58 น.  

 
 
 
โอ้ว ปูชนียบุคคลตัวจริง รุ่นน้องขอคารวะ 55

อ่านของคุณแฟนผมแล้วทำให้อยากทำของตัวเองแล้วสิ เห็นคุณเซียม tag ผมมานานนม คงถึงเวลาซะที

นาตาลีร้อนรัก นี่มันเรื่องอะไรครับ คุณแฟนผมจำชื่ออังกฤษได้หรือเปล่า ถ้าคิดไม่ออกนี่นอนไม่หลับเลยนะเนี่ย 55

ผมก็เลยลองเขียนบทวิจารณ์ส่งไปนะ (จำเรื่องไม่ได้แล้ว) แต่มันคงอนาถมากจนเค้าคงเอาไปทำเป็นกระดาษรีไซเคิล ตั้งแต่บัดนั้นผมก็ไม่เคยเขียนบทวิจารณ์อะไรส่งไปที่ไหนอีกเลย (ตอนนี้ก็มีแต่ข้อมูลที่ผมทำในบริษัท ซึ่งพอลงมันก็เป็นชื่อของคนคุมคอลัมน์อีก เอ่อ ชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสเกิดเลยใช่มั้ยย)

พูดถึงร้านวิดีโอ เมื่อก่อนหน้าปากซอยบ้านผมมีร้านลุงหนวด ก็เป็นขาประจำเลย เมื่อก่อนชอบเช่ามวยปล้ำมาดูมาก ค่ายวิดีโอสแควร์ แต่ในมวลหมู่มวยปล้ำก็จะมีหนังอะหืยๆอยู่ด้วยหนึ่งเรื่อง ประมาณว่าอายก็เลยต้องเช่ารวมๆกับเรื่องอื่น 55

การไปดูคนเดียวถือเป็นเรื่องสามัญในชีวิตแล้วครับ แต่ก็อย่างที่บอกในเฟชบุ้ค ได้เปลี่ยนไปดูแบบคู่บ้างอะไรบ้างก็คงดี 55

ข้อ 9 A++++

ข้อ 10 ผมก็ชอบนะ และผมก็ยังชอบหนัง underdog ด้วย แบบตัวเอกไม่เก่งแล้วมีความพยายาม จนสุดท้ายได้รับชัยชนะในตอนจบอะไรประมาณนี้ มันดูเป็นหนังสูตรสุดๆแต่ก็เสริมสร้างกำลังใจดี (คงคิดแนวๆเดียวกับคุณแฟนผมนะ เพราะผมรู้สึกว่าเป็น underdog ต้องพยายามอย่างเดียวถึงจะประสบความสำเร็จ)

โอ้ย นั่งทำ tag นี้ดีกว่า...
 
 

โดย: BdMd IP: 124.122.165.131 วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:0:12:45 น.  

 
 
 
เข้ามากรี๊ดดดด
หอยหลอด.....
 
 

โดย: Evil is Live วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:11:25:21 น.  

 
 
 
พี่เคยเดินลุยโคลนไปจับหอยหลอด ด้วยเหรอ

อืม.. ทั้งหมดทั้งมวล ถ้าพ่อพี่ได้เป็น อบต. เอ๊ย! รมต. เราคงจะไม่ได้คุยกัน
 
 

โดย: butbbj วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:12:06:50 น.  

 
 
 
กะแล้วว่าพี่แฟนฯ ต้องชอบ มาเชียร์ค่ะ เผื่ออยากไป อิอิ
 
 

โดย: butbbj วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:12:12:26 น.  

 
 
 
เพิ่งเม้าท์คุณแฟนผมฯ ไปเมื่อวาน อายุยืนจริงๆ (วงเม้าท์มีเรา แอปเปิ้ลอบเชย ทินา และบุ๊คกะฮอลิค) แต่เป็นเม้าท์แบบชื่นชมนะคะ ว่าคุณเขียนบล็อกแบบมี "ของ" อิอิ

เอิ่ม..ดูหนังคนละแนวกับเราโดยสิ้นเชิง เพราะหนังแนวเลือดสาด สยอง ฆ่า หั่น ฯลฯ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ เราขอหลีกเลี่ยง เพราะเราเป็นคนอินง่าย กลัวว่าดูจบแล้วจะเอามาทำ เย้ยยย ไม่ช่าย แบบว่า..จะติดตา กลัว และมองโลกแบบหวาดระแวงไปอีกเป็นสัปดาห์ๆ เหอๆ

สำหรับเรา ชอบดูหนังคนเดียวเช่นกัน และไม่ได้รู้สึกแย่อะไรอย่างที่ใครบางคนอาจจะรู้สึกๆ กันอยู่เช่นกัน เวลาดูหนังคนเดียว มันได้เทอารมณ์อย่างเต็มที่น่ะ จะเศร้า จะซึ้ง ไม่ต้องกังวลว่า ตรูจะร้องไห้ ตาแดง บวมปูด ขี้เหร่ให้คนที่ไปดุด้วยเห็นหรือเปล่าฟระ ฯลฯ แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปดูหนังคนเดียวเท่าไหร่ (ยกเว้นวันไหนแฟนไม่อยู่ วะฮ่าฮ่า)



มาเก๊า เรารีวิวไปหลายตอนแล้วค่ะ มีทั้งส่วนของโรงแรมกับส่วนของที่เที่ยว หายไปนานเลยไม่ได้อ่านเนาะ ไปอ่านย้อนหลังเอาแล้วกันค่ะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:12:20:02 น.  

 
 
 
สวัสดีอีกรอบ

ตอนนี้แอปเปิ้ลอบเชย อยู่ในภาวะไร้อินเตอร์เนตจ้ะ เลยไม่สามารถอัพบล็อกหรือเฟซบุ๊คหรืออะไรทั้งสิ้น แหะๆ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:13:49:25 น.  

 
 
 
โห อ่านเอนเตอร์เทนตั้งแต่สมัยตีตั๋วกับบ.ก.ประไพพรรณนี่บ่งบอกอายุมากเลยนะ ผมมาทันทั้งสองท่านก็ตอนที่ย้ายมา Cinemag แล้ว

พี่ชอบหนังฮ่องกงกับหนังสยองขวัญเลือดสาดเหมือนผมเป๊ะเลย แต่หนังฮ่องกงสมัยที่พี่เอ่ยชื่อมานั่นน่ะผมยังไม่ค่อยได้ดูสักเท่าไหร่ เพราะสมัยนั้นผมไม่ค่อยชอบหนังบู๊ฮ่องกง ส่วนหนังสยองขวัญนี่ เหมือนพี่เลยคือยิ่งโหดยิ่งชอบ สงสัยเราจะโรคจิตพอกัน 555 อย่างไรก็ดี ผมชอบหนังผีมากกว่าหนังฆาตกรรมนะ

ตอนนี้ผมมีวีดีโอเต็มไปหมดเลยพี่ ส่วนใหญ่เป็นหนังอินดี้ซื้อจากร้านแว่นตั้งแต่สมัยยังมีวีดีโอ แต่เครื่องเล่นนี่สิ เปิดแล้วบางทีก็เล่นได้ บางทีก็เล่นไม่ได้ น่าสงสารม้วนวีดีโอเหล่านั้นเสียจริง

ผมว่าพี่เขียนสนุกออก อ่านแล้วเหมือนพี่กำลังวิ่งเริงร่าอยู่ในทุ่งดอกไม้บนเนินเขามากกว่าลุยโคลนจับหอยหลอดนะ
 
 

โดย: เอกเช้า IP: 198.155.101.241 วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:15:47:55 น.  

 
 
 
มามะ มาคุยกัน

น้องหมีชุน
ไม่มีผ้าขนหนูแจกก็ไม่เป็นไรจ้ะ ขอเป็นผ้าเช็ดตัวรูปประธานเหมาได้ป่าว? 555

คุณบลัดดี้
ผมจำชื่อภาษาอังกฤษของนาตาลีร้อนรักไม่ได้จริงๆครับ ตอนนั้นยังเด็กอยู่อ่ะ ภาษาอังกฤษนี่ไม่อยู่ในหัวเลย (ทุกวันนี้ก็ยังไม่มี 555) แต่ยืนยันว่าหนังเค้าแรงจริงๆ แบบว่าเห็นน้องสาว น้องชายกันจะๆ ไม่เห็นแค่สอดใส่เท่านั้นเอง

พูดถึงค่ายวีดีโอสแควร์แล้วนึกถึงความหลังแฮะ รู้สึกว่าก่อนหน้า TIGA จะครองโลกอะนิเมะก็มีวีดีโอสแควร์นี่แหละที่เป็นใหญ่ แต่ผมเป็นคนไม่ชอบดูมวยปล้ำน่ะ เลยไม่คุ้นกับค่ายนี้เท่าไหร่ ต้อง CVD สิ ที่ผูกพันกันมาก ทั้งหนังจีนชุด ทั้งหนังฝรั่ง ดูจนท่องคำเตือนได้น่ะ

คุณนุ้ย
ท่าทางจะชอบหอยหลอดนะครับ 555

น้องบุษบา
ทำไมเป็นรมต. แล้วจะไม่ได้คุยกันล่ะ พี่ไม่ถือตัวหรอกนะ 555

คุณสาวไกด์
ผมก็ไม่ค่อยเจอเพื่อนผู้หญิงที่ชอบดูหนังหวีดซักเท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่จะคิดเหมือนคุณสาวไกด์แหละ แต่ที่น้อยกว่าคือเพื่อนผู้หญิงที่ชอบดูหนังคนเดียว เพราะฉะนั้นอย่างคุณสาวไกด์นี่ถือว่าแปลกใช้ได้ 555++

เอกเช้า
ร้านแว่นพี่เคยแต่ได้ยินนะ ยังไม่เคยไปเยือนเลย ว่าแต่เอกยังมีเครื่องเล่นวีดีโอเก็บไว้อีกเหรอ ของพี่ดันขายให้รถรับซื้อของเก่าไปแล้ว ยังเสียดายอยู่จนถึงทุกวันนี้ T_T
 
 

โดย: แฟนผมฯ IP: 142.103.23.32, 122.248.16.2 วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:16:51:55 น.  

 
 
 
กลัวทำแล้วมันจะไม่ครบ 10 ข้อนะครับ เพราะไม่มีอะไรให้เล่า 55+
 
 

โดย: McMurphy IP: 118.173.95.218 วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:21:30:09 น.  

 
 
 
ถึงแม้ครั้งนี้ที่อ่านบล๊อกเราจะหัวเราะเสียงดังน้อยกว่าทุกวัน
แค่ก็สุขใจทุกทีที่เข้ามา..

เมื่อเด็กๆเราก็ซื้อ เอนเตอร์เทนค่ะ
ยิ่ง starpics นี่ ไม่เคยพลาดเลยซักเล่ม
ชอบอ่านสตอรี่บอร์ด
เคยได้รางวัลจากนิตยสารด้วยนะ (ขออวดมั่ง)
เป็นเทปเพลงฝรั่ง จำไม่ได้แล้วว่านักร้องชื่ออะไร
เมื่อก่อนมีนิตยสารดาราฮ่องกงด้วย
เหลียงเฉาเหว่ย ดาราคนโปรดเลย

ส่วนหนัง ไม่ค่อยได้ดู
ชอบอ่านรีวิวของคนอื่นมากกว่า

คุณแฟนฯมาอัพบล๊อกบ่อยๆนะคะ
 
 

โดย: VELEZ วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:21:34:15 น.  

 
 
 
โห คุณพี่ ถึงกะยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะก็เกินไปนิดฮะ รู้สึกว่ายังขาดอะไรอีกเยอะแยะกว่าจะเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ (ตอนนี้ยังโดนคนบ่นเรื่องภาษาแข็งเกินตั้งหลายคน สงสัยภาษาเขียนผมมันกินไวอะกร้าเยอะเกิน)

ชอบข้อห้า ข้อหก กับข้อเก้ามากมาย ไม่เข้าใจเหมือนกัน พวกดูหนังคนเดียวไม่ได้ (พอๆกับพวกกินข้าวคนเดียวไม่ได้) แล้วก็พวกชอบซื้อแผ่นซูมเละๆ
 
 

โดย: nanoguy IP: 117.47.234.41 วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:22:01:17 น.  

 
 
 
ดูรูปผ่านๆแล้วเห็นว่ามีแต่หนังหยองๆทั้งนั้นเลย บรี๊ออออ

1. ผมพอรู้แล้วว่าเหตุใดพี่ถึงเป็นกูรูแห่งหนัง AV

4. เอนเตอร์เทนยุคตีตั๋ว โอ้วววว นานมากครับ แต่ถ้ายุคของซีเนแม็กน่าจะคือๆกันครับ อิอิ

5. หนังวีดีโอซูมนั้นยังต้องมีคนเดินผ่านด้วยครับ ไม่ก็เห็นหัวคนอยู่ด้าล่างของจอ แต่ที่เด็ดสุดคือม้วนวีดีโอที่อัดทับครับเพราะเราอาจได้ดูหนังสตาร์เทรคที่ต้องการดู แต่อาจมีแถมหนังอาร์มาด้วยท้ายม้วน อันเป็นการลุ้นและสร้างความสุขให้ผมอีกแบบหนึ่ง 555 ส่วนเรื่องหนังซูมนี่ผมก็เป็นเหมือนกันครับ รับไม่ได้จริงๆ

6. เห็นด้วยอย่างที่สุดครับ

7. เข้าใจแล้วครับว่าเป็นคำตอบของบรรทัดแรกในเม้นต์นี้ =='

9. เห็นด้วยกับพี่ครับ อาจเพราะคนส่วนใหญ่เห็นหนังเป็นเรื่องบันเทิงเริงรมณ์เพียงอย่างเดียว ก็คงมีแต่พวกเราที่แหละครับที่เห็นมันสำคัญมากกว่านั้น


คุยด้วยในหมายเหตุ: ไม่จริงซะหน่อยเพราะผมยังอ่านสนุกเหมือนเคย ^^

คุยด้วยกับคุณอาร์ต BdMd: ทำด่วนเลยครับ อยากอ่านๆ แล้วก็เรื่องเช่าวีดีโอรวมๆกับหนังอาร์นี่ เหมือนกันเยยยย 555
 
 

โดย: Seam - C IP: 58.9.196.232 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:10:27:24 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะคุณแฟนผม ...

อ่านแล้วก็พลอยทำให้คิดถึงเหตุที่ชอบหนัง
ของตัวเองมาเหมือนกันสิค่ะหนิ อ่านแล้วเหมือนเป็น
การกระตุ้นตัวเองยังไงก็ไม่รู้ว่าอยากเขียน
แต่ว่ามานั่งคิด ให้เขียนอัพบล็อกคงอ่านได้ไม่เพลินเลยแวะ
มาส่งเม้นท์แบบพอประมาณไม่ยาวดีกว่า ...

คือ จะบอกว่า ... ส่วนที่ทำให้ชอบดูหนัง ก็อาจจะคล้ายๆ
ของคุณแฟนผมเหมือนกันนะค่ะ เพราะเริ่มจากการอ่านหนังสือ
และก็ชื่นชมพี่สาวที่เป็นญาติห่างๆ แบบว่าพี่เค้าอยุ่กรุงเทพ
เราอยู่ลำปาง เวลากลับมาบ้านทีช่วงสงกรานต์พี่เค้าก็
จะมาแบบสาวเมืองกรุง มาถึงก็จะถามๆ เค้าเรื่องต่างๆ นานารวมถึง
เรื่องของหนังที่กรุงเทพด้วย พี่เค้าก็ชอบเล่า ที่สำคัญคือ เวลา
ที่เค้าพูดถึงชื่อหนังเป็นภาษาอังกฤษ อ่ะโหย มันทำไมช่างเท่ห์จริง
เพราะตอนนั้นเราเองดูหนังไทยไม่เคยดูหนังฝรั่งมาก หรือว่าดู
ก็จะเป็นแบบพากษ์แล้ว และชื่อหนังก็แปลมาซะหมดอารมณ์อยาก
เพราะที่รู้ๆ กันชื่อหนังฝรั่งบ้านเรามักจะแปลออกมได้เน่าเฟะ
ชนิดที่ว่าแทบอยากจะแหวะออกมากับการครีเอทชื่อหนัง
แทนที่จะทำให้คนดูอยากไปดู กลับต้องมาเดาเล่นๆ จากชื่อเรื่อง
ที่ตั้งกันออกมา เป็นที่ขำฮายามคิดถึงตรงนี้ล่ะค่ะ ...
 
 

โดย: JewNid วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:11:33:35 น.  

 
 
 
มามะ มาคุยกัน 2

น้อง McMurphy
ไม่จริงมั้งงงงงง ท่าทางจะดูหนังเยอะออก น่าจะมีเรื่องเล่าเยอะอยู่นะ

คุณ VELEZ
ใช่ๆ นิตยสารดาราฮ่องกงผมก็ชอบอ่านครับ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว น่าเสียดายเนอะ พอกระแสหนังฮ่องกงซบเซานิตยสารก็ปิดตัวไปด้วย

แหะๆ รู้สึก fail เล็กน้อยที่ทำให้คุณ VELEZ หัวเราะดังน้อยกว่าทุกครั้ง นี่ต่อไปว่าจะเขียนเรื่องเศร้าแล้วนะครับ อาจจะถึงกับร้องไห้ตาบวมได้

นาโนกาย
5555 ภาษากินยาไวอะกร้า เขียนซะเห็นภาพเลยว่า "แข็ง" ขนาดไหน พี่มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เป็นครบเลย ดูหนังคนเดียวไม่ได้ กินข้าวคนเดียวไม่ได้ (ดีนะยังขี้เยี่ยวคนเดียวได้) นี่หลานวัยรุ่นก็เริ่มจะเป็นและ มันบอกขี่มอเตอร์ไซด์คนเดียวไม่ได้ แม่เจ้า จะขี้เหงามากไปแล้วมึง

น้องเซียม
เออ หนังอัดทับกันก็เคยเจอนะ เจอครั้งแรกงงมาก อะไรวะ? หลังๆถ้ามันน่าสนใจก็ดูต่อไปเลย บางเรื่องสนุกกว่าหนังจริงอีก 555++

เอ่อ... ขออนญาตทักนิดนึง พี่ว่า "เริงรมย์" มันน่าจะเขียนแบบนี้นะครับ

คุณ JewNId
ชื่อหนังภาษาไทยนี่บางเรื่องตั้งได้ชวนปวดตับจริงๆครับ แต่ต้องยอมรับว่าหลายๆคำกลายเป็นเอกลักษณ์ของดาราคนนั้นๆไปแล้ว อย่าง "บานฉ่ำ" ของจูเลีย โรเบิร์ต นี่ล่าสุดกับหนังเรื่อง Killer ตั้งชื่อไทยว่า "เทพบุตรหรือนักฆ่า บอกมาซะดีๆ" ชื่อไทยหรือเรื่องย่อวะเนี่ย?
 
 

โดย: จขบ. ผู้อยากมีซิกซ์แพ็ค IP: 142.103.23.32, 122.248.16.2 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:16:18:08 น.  

 
 
 
^
^
โดนอีกแล้ว 555 ไม่ต้องห่วงครับ ชื่อไทยค่ายนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว อย่างล่าสุดเรื่อง StreetDance 3D ก็ได้ตกลงกันแล้วให้ใช้ว่า "เต้น ๆ โยก ๆ ให้โลกทะลุ" (คือจะคิดชื่อหนังหรือเล่นคำพ้องเนี่ย -*-)
 
 

โดย: BdMd IP: 58.137.81.98 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:18:32:53 น.  

 
 
 
เขียนตลกดีค่ะ

เราก็ชอบดูหนังคนเดียวเหมือนกัน (ยกเว้นเจอคนที่อยากดูเรื่องนั้นด้วยตัวเอง ไม่ต้องมาไปเป็นเพื่อน ไม่เอา เดี๋ยวจะดูหนังไม่สนุกด้วยความเกรงใจ)

มีเพื่อนผู้หญิงคนนึงชอบดูหนังคนเดียวเหมือนกัน แล้วก็ชอบหนังสยองขวัญมากๆด้วยค่ะ
 
 

โดย: โปรดทำให้ฉันหยุดหัวเราะ IP: 202.91.19.194 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:19:10:10 น.  

 
 
 
ฮ่า ๆ ๆ คราวก่อนมาเม๊าท์เรื่องล้างรถไม่ทันอ่ะค่ะ
เหมือนกันเปี๊ยบเลย..วันไหนล้างรถ ฝนตก...
อาทิตย์ที่แล้วก็เหมือนกัน เด็กมันเชียร์นู่น เชียร์นี่
จาก 80 กลายเป็น 250 เฉย ขับออกมายังไม่ทันจะถึงบ้านเลย
เจอฝนซะแล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ ..อาทิตย์นี้ก็กำลังชั่งใจอยู่
ว่าตรูจะออกไปล้างรถดีไม๊เนี่ย...
เพราะพวกคำรามฮึ่ม ๆ มาอีกแล้วอ่ะจิคะ ฮ่า ๆ ๆ

เรื่องหนังอ่ะ มินเคยชินกับการดูคนเดียวมากกว่าค่ะ
สมัยเรียนก็โดดเรียน ออกจากสยามปุ๊บ เข้าสกาล่าต่อ
ดูทีนึง 2 เรื่องติด ออกมาจากโรงหนัง บางทีมึนเลยอ่ะ
ชักจะหาทางขึ้นรถกลับบ้านไม่ถูก เพราะมันเลยเวลา
จากโรงหนังไปถึงบ้าน ต้องนั่งคิดว่าจะบอกที่บ้านว่าไปไหนดี

เคยมีทีนึง ไปถึงบ้านก็บอกว่า ไปบ้านเพื่อนคนนึงมา
แต่..ซวยสุด ๆ เพราะไอ้เพื่อนคนนั้น มันเพิ่งเอาหนังสือมาให้ที่บ้าน
ก่อนหน้าเรากลับถึงบ้านไม่ถึงชั่วโมง
chip หายเลยคราวนั้น...ตั้งแต่นั้น ถ้ากลับผิดเวลา
อ้างไปบ้านเพื่อนไม่ได้แล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
สมัยนั้น มันไม่มีโทรมือถือเกร่อแบบทุกวันนี้หรอกค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ปล. มีจิคะ..สิ่งที่อยู่ในใจอ่ะมันมีกันทู๊กคนแหละน่า มินว่า...ฮ่า ๆ ๆ
มีความสุขมาก ๆ นะจ๊ะ คุณแฟนทั้ง 2 คนอ่ะนะ อิอิ...
 
 

โดย: มินทิวา วันที่: 6 มิถุนายน 2553 เวลา:15:28:04 น.  

 
 
 
เรื่องในหัวบล็อคผมคือ คนเล็กสะท้านยุทธจักร ครับ (แต่ผมเองก็จำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้เท่าไร แบบว่าคิดถึง เหมยเยี่ยนฟาง เฉยๆ T-T)

เจาะเวลาหาอดีตภาค 2 เลอะเทอะจริงๆแหละครับ แต่ตอนเด็กชอบเพราะมันเดินทางไปอนาคต แบบว่าช่วงนั้นได้อะไรที่เป็นแฟนตาซีๆหน่อยก็หลงแล้ว ;)

ความจริงทำตรงนี้ผมก็พอกินนะ เพียงแต่เห็นเพื่อนๆเก่าที่ได้ดิบได้ดีกันไปแล้วก็รู้สึกน้อยใจ แบบว่าถ้าเราเลือกเดินสายอื่นมันจะเวิร์คกว่านี้ไหม (แต่หยั่งกับจะมีให้เลือกมาก 55) เอาหน่ะ เราเดินมาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุดล่ะนะ

ปล. ไอ้หนุ่มซินตึ๊งภาค ดอนนี่ เยน ไม่รู้เป็นยังไง แต่รู้ว่าพี่ดอนนี่จะมาโปรโมตที่ไทย (เยส!) เดี๋ยวถ้าเจอผมจะให้แกต่อยรัวใส่ผมสักหน่อย 55

ปลล. ปล่อยให้คาใจมานานแล้ว ผมว่านาตาลีร้อนรักคือเรื่องนี้ ชัวร์!! ที่เป็นลูกสาวนักธุรกิจ เดินทางไปกรีซ และมีความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนของพ่อ (รูปส่อแบบนี้ จะโดนอะไรไหมนี่)


 
 

โดย: BloodyMonday วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:0:12:08 น.  

 
 
 
เอ่อ ขอโทษครับ ช่วยลบอันข้างบนหน่อย กด submit ไปสองครั้ง
 
 

โดย: BloodyMonday วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:0:14:33 น.  

 
 
 
นึกชื่อนิตยสารดาราฮ่องกงออกแล้ว
ชื่อ. ทีวี วีดีโอ ไทม์ ค่ะ

เอ่อ.. จะเขียนเรื่องเศร้าจริงๆเหรอ ?
แค่ช่วงนี้เราก็เศร้าจะแย่แล้วนะ
 
 

โดย: VELEZ วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:20:57:03 น.  

 
 
 
แหมๆน้าแฟนผม ไม่เอาไปแปะ เฟสบุค เราก็ร๊อรออ่านอยู่

เข้าใจละที่นาเอกบอกว่าน้าเป็นฆาตกรโรคจิต เพราะหนังที่น้าชอบดูนะเอง

น้าควรจะดู Dexer และfringe นะฮับ
เลือกกระฉูดใช้ได้เลย
 
 

โดย: ยุ้ย IP: unknown, 123.242.178.81 วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:12:27:02 น.  

 
 
 
สวัสดีอีกรอบเด้อ

เรื่องหินเต่านั่นไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ถ้าเป็นเมืองไทยน่ะมีแน่ๆ คนไทยเราชอบสร้างตำนาน 555+

ส่วนเรื่องที่เฟซบุ๊คของอป.

ทายได้ปะคะว่าคนไหนคือเรา
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:15:45:12 น.  

 
 
 
แห่ะ แห่ะ อ่านแล้วเหมือนได้เจอเพื่อนร่วมรุ่น
เป็นแฟนเอนเตอร์เทนรุ่นโน้นนนนน เหมือนกัน

พอเค้าเปลี่ยนมาเป็น cinemag พี่ยายกะอามงก็ทริปจัดดูหนังที่เชียงใหม่กับเอนเตอร์เทนด้วยเนียนติดรถตู้เค้าไปด้วยซะงั้น

เคยเขียนเรื่องส่งไปครั้งนึงเหมือนกันอีก ครั้งเดียวนั่นแหล่ะ
ได้เสื้อสปีดมาใส่ สวยดี แต่ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว
ย้ายบ้านบ่อยไปหน่อย นี่ถ้าไม่ได้อ่านบล็อคนี้ก็คงไม่ได้นึกถึงเสื้อตัวนั้น

การดูหนังคนเดียว เป็นเรื่องปกติเลยนะ ไม่ต้องรอเพื่อน ไม่ต้องรอใคร อยากดูอะไรก็ดู

ดูเสร็จออกมาก็เจอเพื่อนเอง แถวๆหน้าโรงหนัง EGV ซีคอนน่ะแหล่ะ มีตั้ง 14 โรง
สมัยก่อนยังไม่มีมือถือ อยากเจอ เดี๋ยวก็เจอกันเอง
อยู่กรุงเทพสมาชิกคลับเยอะแยะ ดูหนังเช้า นั่งคุยกันถึงค่ำประจำเลย

จะบอกว่าจริงๆเคยแม้กระทั่งดูคนเดียวทั้งโรงก็เคยนะ
เรื่อง Thumbelina การ์ตูนไม่ทำเงินสำหรับบ้านเราเลย ดูจนไม่มีอะไรให้ดูแล้ว เลยไปดูซะหน่อย รอบ 10 โมง
นั่งคนเดียวกลางโรงโด่เด่จนจบเรื่องเลย

จบชีวิตนักศึกษาก็ต้องมานั่งดูหนังร่วมโรงกับชาวบ้านเยอะ
เริ่มเครียด กับสามัญสำนึกและมารยาทในการคุยโทรศัพท์และการถีบเบาะ

หลังๆเลยไม่ดูมันแล่ะ หาทางออกกับร้านพี่แว่นจตุจักรมั่ง
หนังอาร์ต หนังอินดี้ ยุโรป ญี่ปุ่น มีให้เปิดโลกกว้างเยอะแยะเชียว
แต่ตอนนี้พี่แกไม่ทำแล้ว ด้วยหลายๆปัจจัย(ทางกฎหมายมั้ง)
เลยเช่าหนังแผ่นตามร้านมาดูที่บ้านเอา
ทนๆ รอๆ มันหน่อย อึดใจเดียว เดี๋ยวก็มา

(นี่เพิ่งเช่า avatar+ Hurt Locker + Julie and Julia มา)

เราไม่รังเกียจหนังไทยนะ หลายๆเรื่องทำดีจนน่าภูมิใจ
แต่เกลียดอีกหลายๆเรื่องที่ให้ตลกมาพูดจาหยาบคายตลอดทั้งเรื่อง ดูแล้วก็ปวดหู

คุณแฟนผมฯดูหนังเยอะดีนะ แม้จะอยู่ระยอง
หลายๆเรื่องที่คุณแฟนพูดถึง เราไม่เคยดูเลย

ปอลอ เห็นภาพประกอบจากคุณ BdMd แล้วอยากดู นาตาลี




 
 

โดย: Shallow Grave วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:9:24:22 น.  

 
 
 
^
เขียนผิด

พอมาเป็น cinemag ก็จัดทริปไปดูหนังสัญจรที่เชียงใหม่ ก็ติดรถตู้ไปกับเค้าด้วย (ตรงนี้ไม่เกี่ยวไรกับเอนเตอร์เทนแล้วจ้ะ)
 
 

โดย: Shallow Grave วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:9:26:24 น.  

 
 
 
^
เว้นครึ่งแรก(เพราะว่าหนูเกิดไม่ทัน) เห็นด้วยกะพี่แม่ปุ๊กปุ๋ยหมดเลย

เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคอะไรกันก็ไม่รู้ หรือว่าเดี๋ยวนี้คนตัวมันสูง ขาเลยยาวก็ไม่รู้ แล้วยังผีโทสับอีก แล้วยังผีช่างสงสัย ผีช่างรู้อีก
ล่าสุดมีผีน้ำหอมด้วยนะ นั่งปิดจมูกทั้งเรื่องเลย

จริงๆ แล้วชอบนอนดูอยู่บ้านมากกว่าค่ะ จะได้ไม่เสียอารมณ์กะหลายๆ เรื่อง ตั๋วก็แพ้งแพง รอแผ่นปั๊มฉบับสมบูรณ์ราคาถูกโคตรดีกว่า
 
 

โดย: butbbj วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:12:31:47 น.  

 
 
 
สวัสดีอีกรอบ

มาเก๊าก็น่าเที่ยวอยู่ค่ะ แต่เราเองน่ะชอบฮ่องกงมากกว่า (ทว่าเพื่อนเราชอบมาเก๊ามากกว่านะคะ)

ถ้าจะไปก็ยินดีถ้าจะมีอะไรให้ช่วยเหลือนะคะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:21:28:52 น.  

 
 
 
ไปดูเจ้าชายสุดหล่อของหนูมายังอ่า

หนุกนะ
 
 

โดย: butbbj วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:15:00:54 น.  

 
 
 


จ๊ะเอ๋...ฮ่า ๆ ๆ
สดชื่นกับวันศุกร์
และมีความสุขมาก ๆ กับวันเสาร์ อาทิตย์ นะคะ อิอิ
 
 

โดย: มินทิวา วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:7:43:19 น.  

 
 
 
อ่านแล้วเห็นด้วยกับคุณ สาวไกด์ใจซื่อ ว่า คุณเป็นคนมีของและเอามาเขียนได้อีกด้วย
อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าเหมือนไปลุยโคลนอะไร แต่แอบเป็นกังวลว่าเด็กในเอนทรี่โตขึ้นมาเป็นคนยังไง 555+

ถ้ามาอ่านบล็อกที่นี่บ่อยๆ คงจะได้ทราบแน่เลยว่า
ตอนนี้เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว
(เช่น...โหลดหนัง AV ไปเขียนบล็อกไป...) 555+
 
 

โดย: ขอรบกวนทั้งชุดนอน วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:22:48:01 น.  

 
 
 
จะเปลี่ยนเป็นเรื่องเศร้าก้ได้ค่ะ..
ผ้าเช็ดน้ำตาพร้อมแล้ว..
อัพบล๊อกเหอะ..
 
 

โดย: VELEZ วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:14:00:49 น.  

 
 
 
ดู 14 ดาบอาบเลือดอ๊ะยัง?
เรื่องนี้พระเอกของพี่ไม่ค่อยหล่เลย เรื่องยิปมันดูดีกว่าอ่ะ
 
 

โดย: butbbj วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:12:36:37 น.  

 
 
 


ฮ่า ๆ ๆ แหม..คิดได้ไงเนี่ย แต่..ก้อ อ่ะนะ..ฮ่า ๆ ๆ
ตอนแรก ไม่เคยได้คิดถึงว่าจะเหมือนแบบนั้นเลยเหมือนกัน
แต่ พอตั้งแต่ทักขึ้นมา มันก้อ..ฮ่า ๆ ๆ
ชักเขิน ๆ เหมียนกัลล์...ฮ่า ๆ ๆ
ก็เปิดหน้าบล๊อคมาก็เจอไอ้นี่ทักก่อนแลย
คนที่ยังไม่ทันได้อ่านบล๊อค ก็คงจะ..เฮ๊ย..อาไรฟระ ฮ่า ๆ ๆ
ปล. มีความสุขมาก ๆ นะคร๊าบทั้ง 2 ท่านนั่นแหละจ้า
 
 

โดย: มินทิวา วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:8:34:31 น.  

 
 
 
ขนาดเขียนฝืดนะเนี่ย ยังอ่านไป ฮาไปซะ

TBH เป็นสปีชีส์เดียวกะพี่โอ๊ตนะ คือ ชอบดูหนังคนเดียวเหมือนกัน ไม่รู้เป็นยังไง แต่ที่บ้านสอนสั่งมาว่า เกิดเป็นผู้หญิง ห้ามเข้าโรงหนังคนเดียว เลยแอบแหกกฎไปดู while you were sleeping ในโรงมา 2 รอบซะ ออกมาก็ไม่เห็นมีอะไร แถมยังกลับไปคุยโวข่มที่บ้านอีกว่า "ไม่เห็นมีอะไรเลย พิสูจน์มาแล้ว เลิกสอนอะไรแบบเชยๆ เอากะลามาครอบหัวลูกได้แล้ว ลูกเป็นคน ไม่ใช่กบ ทุกวันนี้โลกเค้าไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว วู้ว"
 
 

โดย: ThE BooK@HoLiC วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:5:17:38 น.  

 
 
 
ภาพหนัง น่าดูมั๊กมาก
 
 

โดย: ko IP: 117.47.25.7 วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:23:27 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

แฟนผมตัวดำ
 
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add แฟนผมตัวดำ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com